Chocolate Brownies

อีกสูตรหนึ่งที่คนรักช้อคโกแลตไม่ควรพลาด ส่วนที่จำเป็นของการทำบราวนี่ตัวนี้คือช้อคโกแลตและโกโก้ผงคุณภาพดี เพราะสูตรนี้ใช้แป้งค่อนข้างน้อย โกโก้และช้อคโกแลตเป็นส่วนผสมหลักที่จะทำให้ขนมอร่อย รวมทั้งเวลาที่ใช้อบด้วย

เราเอาสูตรมาจากคุณปอนด์และเพจ Sweet Me! ในเฟซบุ๊คค่ะ ขอบคุณสำหรับสูตรอร่อยๆค่ะ ใครอยากตามไปดูขนมและอาหารพร้อมวิธีทำไปติดตามกันได้ค่ะ
Cup Brownies



เราทำใส่ถ้วยแบบนี้ ง่ายดีค่ะ ใช้เวลาน้อยมากในการอบ

Chocolate Brownies
ได้ 22-24 ถ้วยกระดาษรูปวงรียาว 2 นิ้ว

แป้งอเนกประสงค์  150 กรัม
ผงโกโก้  120 กรัม

เนยจืด 320 กรัม
น้ำตาลทราย 400 กรัม*
ไข่ไก่ 260-270 กรัม (ราวๆ ไข่เบอร์ศูนย์ 4 ฟอง)

ช้อคโกแลตแบบ couverture70%  80 กรัม**
Dark chocolate chips  60  กรัม
เกลือทะเล 1 1/2 ช้อนชา
Vanilla extract 2 ช้อน
optional : chocolate chips สำหรับโรยหน้า หรือถั่วชนิดอื่นตามชอบ


1. เนยกับน้ำตาลทรายละลายในชามทนความร้อนบนหม้อน้ำร้อนให้ละลาย เราละลายในชามผสมที่จะใช้กับ stand mixer เลย
2. ละลายช้อคโกแลตทั้งสองชนิดรวมกันบนไอน้ำร้อน พักไว้
3. ตีเนยกับน้ำตาลด้วยเครื่องผสมใช้หัวใบไม้ ความเร็วปานกลางจนเนยลดความร้อนลงเป็นอุ่นน้อยๆ จะได้ส่วนผสมข้นๆ
4. ใส่ไข่ลงทีละฟอง ตีจนมองไม่เห็นเนื้อไข่แล้วค่อยใส่ฟองต่อไป หรือจะใช้วิธีตีไข่ทั้งหมดให้เข้ากันแล้วใช้วิธีเทลงเป็นสายก็ได้
5. คนแป้งกับผงโกโก้ให้เข้ากัน
6. ใส่ส่วนของช้อคโกแลตลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยแป้งที่ผสมไว้ โฟลด์ให้เข้ากันจนได้ส่วนผสมเงางาม หยอดใส่พิมพ์หรือเทลงถาดที่ปูกระดาษรองอบ(ถ้าอบด้วยถาด)
7. ส่งเข้าอบในเตาที่อุณหภูมิ 170 องศาซี เราใช้เวลา 15-16 นาที จะได้บราวนี่เนื้อฉ่ำๆ ถ้าชอบแห้งกว่านี้ก็เพิ่มเวลา***

Baking Note:
* ปรับเพิ่มลดน้ำตาลได้แล้วแต่เปอร์เซ็นต์ของช้อคโกแลตที่ใช้ ถ้าใช้ช้อคโกแลตชิพส์อย่างเดียวลดน้ำตาลลงได้
** ตามสูตรคุณปอนด์ใช้ช้อคโกแลตชิพส์อย่างเดียว
*** หยอดแบทเทอร์ใส่พิมพ์ให้เสร็จแล้วค่อยเปิดไฟเตาอบ พออุณหภูมิได้ที่จึงส่งเข้าอบ



ทำง่ายนะคะ ไม่มีขั้นตอนอะไรยุ่งยากเลย
เราชอบตรงที่ไม่ต้องร่อนแป้งกับโกโก้นี่แหละ ไม่ค่อยเลอะเทอะ
คนๆ ผสมกัน ถ้าชอบเนื้อขนมออกเป็นเค้กนิดนึง เพิ่มผงฟูหรือเบคกิ้งโซดาได้ 1/4





การละลายช้อคโกแลต จะทำในเตาไมโครเวฟก็ได้ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะช้อคโกแลตcouverture มีจุดหลอมเหลวค่อนข้างต่ำ(ระหว่าง 30-32 องศาซี) ถ้าใช้ความร้อนมากไป ช้อคโกแลตจะเสียรสชาดและอาจแตกตัว
เราถนัดละลายบนหม้อน้ำร้อนมากกว่า ให้น้ำเดือดแค่พอเป็นไอความร้อนให้กับชามใส่ช้อคฯ อย่าให้ถึงกับเดือดปุดๆ และระวังก้นชามผสมสัมผัสกับน้ำร้อน





ผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี สูตรของคุณปอนด์จะแตกต่างจากหลายๆ สูตรตรงที่ให้โฟลด์ส่วนผสมจนเงางาม ขณะที่โดยมากจะบอกให้ผสมแค่เข้ากัน ไม่ให้คนนานๆ
สูตรนี้ให้พักแบทเทอร์ที่หยอดแล้วในพิมพ์ โดยการหยอดให้เสร็จแล้วค่อยเริ่มเปิดเตา






เราโรยหน้าด้วยช้อคโกแลตชิพส์แบบไวท์-ดาร์ค เป็นลายๆ เพราะตอนที่ทำรอบนี้ลดน้ำตาลลงจากสูตรไป 20 กรัม เลยเกรงว่าจะขมไปสำหรับผู้กิน
กับพอดีมีเหลือช้อคโกแลตกานาซในตู้เย็น เลยจับมาตักเป็นลูกเล็กๆ หยอดทำเป็นไส้ระหว่างแบทเทอร์บราวนี่ซะด้วย ได้แก่พวกที่เห็นนูนๆ ตรงกลางนั่นแหละ




รอบแรกที่ทำ ตักแบทเทอร์ใส่เต็มพิมพ์ไปนิด หัวโตกันออกมาเชียว แต่เด็กโย่งที่บ้านชอบรูปทรงนี้
เวลาในการอบ มีตั้งแต่ 14 นาทีไปจนถึง 17 นาที จะให้ผลต่างกันกับเนื้อขนม
ผู้ทดสอบบอกว่าชอบที่อบแค่ 14 นาทีมากที่สุด และชอบแบบที่มีไส้ช้อคกานาซตรงกลางด้วย กัดลงไปแล้วมีช้อคโกแลตเยิ้มๆตรงกลาง ฟินมาก กินกับนมจืดเย็นๆ อร่อยที่สุด




โดยส่วนตัว ขนมที่ทำด้วยช้อคโกแลตหรือโกโก้ เป็นขนมที่ทำแล้วควรจะพักไว้อย่างน้อย 1 คืน รสชาดที่ดีของมันจึงจะออกมา ถ้าทำเสร็จแล้วกินเลยจะไม่ค่อยอร่อย
บราวนี่ก็เช่นกัน ทำเสร็จแล้วแช่เย็นไว้สักคืนแล้วค่อยเอามากินจะได้ความอร่อยมากขึ้น


ทำอะไรก็ได้ ขอให้คนกินชอบก็แล้วกัน
บราวนี่สูตรนี้ ได้รับการรับรองจากแผนกทดลองว่าเป็นสูตรที่อร่อยที่สุดสูตรนึง ขอขอบคุณคุณปอนด์ไว้อีกรอบนะค้า

ยกเว้นแต่ถ้าจะทำให้หน้ากรอบๆ คงจะยิ่งดี ซึ่งยังทำไม่สำเร็จซักที
ไว้จะลองทำแบบที่เชื่อกันว่าจะได้บราวนี่หน้ากรอบแล้วมาเล่าสู่กันฟังนะคะ


ขอให้มีความสุขกับการทำขนมสูตรใหม่ๆ หลายๆ สูตรนะคะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ​ ที่นี้เสมอมาค่ะ