ทำของกินอร่อยง่าย ๆ กันค่ะ
เห็นใคร ๆ ทำส้มตำต่าง ๆ นานากันให้กระหน่ำ ตำปู ตำปลาร้า ตำหอยดอง ฯลฯ รวมไปถึงเทรนด์ใหม่มาแรง แบบส้มตำถาด ที่เรายังไม่เคยแม้แต่จะเห็นของจริง
เชยแรงจริง ๆ
อาหารต่าง ๆ ที่อยากทำ ไม่ว่ามันจะดูยุ่งยากขนาดไหน เราก็ต้องหาโอกาสลองทำสักครั้งอยู่เสมอ ผลจะออกมาเป็นตายร้ายดี ก็จะทำ เพราะมันมีโอกาสที่จะออกมากินได้สูง..มั่นใจ๊ มั่นใจ
ทั้งนี้ ไม่นับรวมส้มตำ เป็นอาหารอย่างเดียว ที่ไม่เคยคิดจะทำกินเอง ไม่ว่าจะมีพี่น้องคนไหนที่โม้ว่าตนเองนั้นมีฝีมือเด็ดดวงขนาดไหน เราก็ว่ามันไม่อาจเทียบได้กับส้มตำรถเข็น หรือส้มตำในร้านแบบอิสานขนานแท้แน่นอน
คิดว่า สาเหตุหนึ่ง ที่ทำได้ไม่อร่อยสะใจเท่าไปซื้อเขากิน คงจะเนื่องมาจากความใจไม่ถึงพอ ในการประเคนผงชูรสลงไปในครกส้มตำ กับมันขาดบรรยากาศของการยืนรอส้มตำในครก จากรถเข็นมอม ๆ ผัก พริก มะนาว ที่แม่ค้าจกจากในตู้กระจก แล้วหั่น หรือโยนใส่ ๆ ลงไปโดยอย่างเก่งก็ผ่านน้ำหนึ่งแว้บนั่นเอง
เรียกว่า มันขาดความรู้สึกอันน่าตื่นเต้นของการใช้ชีวิตเสี่ยงๆ บ้าง บางครั้ง เป็นรสชาดของชีวิตอีกแบบหนึ่ง
คิดแบบนั้นมาตลอด จนวันหนึ่ง เกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาอย่างฉับพลัน หลังจากได้เห็นน้องเค็ง เจ้าของล็อคอิน ลงสะพานเลี้ยวซ้ายบ้าง ขวาบ้าง แล้วแต่เธอจะย้ายบ้านไปข้างไหน ทำส้มตำผลไม้หน้าตาง่าย ๆ แต่เห็นแล้วน้ำลายสอขึ้นมาทันที
นึกออกว่า ถ้าอยากกินอาหารแบบนั้น ทำกินเองก็ได้นี่หว่า
ไม่ถึงกับต้องเป็นส้มตำรสเด็ด แนว ๆ อิสานที่เราชื่นชอบ แต่ก็ได้กินส้มตำรสชาดคนกรุงที่เป็นสามรสทำเองได้
หน้าตามั่ว ๆ หน่อย แต่ใครทำก็อร่อยนะ ขอรับรอง
ส่วนผสมทุกอย่างมันช่วยอยู่แล้ว ด้วยตัวของมันเอง
ส่วนผสม
เท่าที่จะหาได้ในบ้านค่ะ ปรับได้ตามชอบ
แอ๊ปเปิ้ลเขียว ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
แครอท ขูดเป็นเส้น
องุ่น ถ้าลูกใหญ่และเป็นองุ่นมีเมล็ด ผ่าครึ่งแคะเมล็ดออก
มะเขือเทศ ถ้าใช้ลูกใหญ่ก็หั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ
ข้าวโพดต้มสุก ฝานเอาแต่เมล็ด
พริกขี้หนูสวน ปริมาณตามดีกรีความแก่กล้าของคนกิน
มะนาว
มะขามเปียก
กระเทียมไทย
น้ำปลา
น้ำตาลโตนด
กุ้งแห้ง
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือถั่วลิสง อัลมอนด์อบ ได้ทุกอย่าง
วิธีการทำ
- เตรียมผลไม้และผักที่จะใช้ให้พร้อมใส่ภาชนะที่จะใช้คลุก
- ละลายมะขามเปียกด้วยน้ำร้อนเดือดๆ พักไว้พออุ่นคั้นเอาแต่น้ำข้น ๆ
- ตามด้วยกุ้งแห้ง โขลกพอให้กุ้งเนื้อฟู แต่ยังเป็นตัวกุ้ง
- ใส่มะเขือเทศลงไปบุบ ๆ เบา ๆ มือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลโตนด และน้ำมะขามเปียก มะนาว ชิมรสแบบที่ชอบ
- ตักราดบนผลไม้ที่เตรียมเอาไว้ เคล้าเบา ๆ ให้ทั่ว
- โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบก่อนเสิร์ฟ
เสร็จแล้ว ง่ายที่สุด
ค้นของในบ้านออกมาเตรียมได้เลยค่ะ
พริกขี้หนู ควรจะเป็นพริกสวน จะหอมกว่านะคะ ถ้าเป็นพริกขี้หนูแบบนี้ เราไม่เด็ดก้านทิ้งด้วยนะเออ แสดงความเป็นนักเลงหน่อย
กระเทียมที่จะใช้ทำส้มตำ เป็นกระเทียมไทย กลีบเล็กหรือกลีบใหญ่ไม่สำคัญค่ะ ล้างสะอาด ปอกเปลือกแข็ง ๆ ข้างนอกออกให้หมด เหลือแต่เยื่อชั้นในบาง ๆ ก็ได้ค่ะ หอมดี
มะขามเปียก ล้างน้ำทิ้งทีนึงก่อน แล้วใช้น้ำเดือดๆ ใส่ลงไปให้ท่วม ทิ้งไว้สักพัก พอให้อุ่นแล้วคั้นเอาแต่น้ำ
ค้นตู้เสบียงมาเลยค่ะ ได้ถั่วอะไรเอาแบบนั้น
ผลไม้ที่จะใช้ เตรียมรวมไว้ในชามที่จะคลุก
บ้านเรา มีแต่ครกหินใบเล็ก และครกดินเผา เราใช้ครกหิน เลยต้องควักกระเทียม พริกขี้หนูและกุ้งแห้งที่ตำแล้ว ออกมาผสมในชามอื่นค่ะ
ใส่เครื่องปรุงต่าง ๆ น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ผสมให้เข้ากันดี ใส่มะเขือเทศตอนนี้ก็ได้ ถ้าครกมีพื้นที่ไม่พอแบบเรานะคะ
เราทำเยอะ เพราะทำหลายจานน
จับทุกอย่างรวมกัน โปะด้วยเม็ดมะม่วง ดูหน้าตามั่วซั่วมาก
ควรจะให้ชื่อว่า ตำมั่วซั่วผลไม้นะนี่
ถ้ายังไม่เสิร์ฟทันที นำไปแช่เย็นสักพัก จะยิ่งอร่อยนะคะ
เหมือนสลัดรสจัด กินแล้วสดชื่นมากค่ะ
พูดถึงแล้วน้ำลายหก
ในที่สุด เราก็ทำตำผลไม้ หนึ่งในตระกูลส้มตำได้สำเร็จ
ถึงจะยังไม่วิวัฒน์ถึงการตำส้มปูปลาร้า หรืออะไร ๆ แต่ก็ดีใจแล้ว
ขอบคุณคุณเค็ง สำหรับแรงบันดาลใจให้เรารีบค้นตู้เย็นหาของมาทำตามนะคะ
เป็นเมนูอร่อยที่ทำง่าย ใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ
ใครอยากทำไว้รับแขก เตรียมส่วนผสมรอไว้ แล้วค่อยมาราดน้ำยำก่อนเสิร์ฟยังได้เลย
สวยด้วย ทำง่ายด้วยค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการทำอะไรง่าย ๆ ในบ้าน การเห็นอะไรเพียงแว่บเดียว บางทีก็ทำให้เกิดพลังในการลุกขึ้นทำของที่ไม่เคยทำอย่างไม่น่าเชื่อนะคะ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้เสมอมาค่ะ
ถ้าไม่กินปลาน้ำจืดก็น่าจะไม่กินปลาน้ำเค็มด้วยเนอะ เค้าก็สิ่งมีชีวิตเหมือนกัน อิอิ