Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๒ ศึกล้างแค้น

ทหารกล้าแผ่นดินฮั่น

ตอนที่ ๑๒ ศึกล้างแค้น

“ เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อพระเจ้าฮั่นบู๊ฮ่องเต้ได้รับใบบอก จากเจ้าเมืองกุยเต๊กเรื่องคุดตงเสงคิดขบถแล้ว ก็ปรึกษาขุนนางว่าคุดตงเสงคิดกำเริบตั้งตัวขึ้นเป็นอ๋อง จะยกมาทำร้ายแก่บ้านเมืองเราดังนี้ ก็เห็นอยู่แต่ยวดซิมอ๋องควรจะยกไปปราบปรามได้ ท่านทั้งหลายจะเห็นอย่างไร

อ้วยแซซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ จึงกราบทูลขึ้นว่า

“……..การเล็กน้อยเท่านี้ ไม่ควรจะให้ยวดซิมอ๋องได้ความลำบาก ข้าพเจ้าจะขออาสาคุมทหารสักสามหมื่น ยกไปจับคุดตงเสงมาถวายให้จงได้……..”

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า

“…..ตัวท่านแก่ชรามีอายุมาก กำลังน้อยไม่เหมือนแต่ก่อน หากว่าพลาดพลั้งลงอย่างไรจะเสียราชการ……..”

อ้วยแซได้ฟังก็นึกโกรธ จึงทูลว่า

“…….ถ้าโปรดให้ข้าพเจ้าไปครั้งนี้ แม้นมิได้คุดตงเสงมาถวาย ไม่ขอกลับมาให้ผู้ใดเห็นหน้าเลย……”

ฮ่องเต้เห็นว่าอ้วยแซพูดจาแข็งแรงดังนั้น จึงไม่ขัดข้องแต่ให้หาผู้ใดไปด้วยสักคนหนึ่ง จะได้ปรึกษาหารือกัน คักฮุนเหลงเฝ้าอยู่ที่นั้นด้วย จึงทูลว่าจะให้คักหลินบุตรของตนไปด้วย เพราะได้ฝึกหัดเพลงอาวุธมาช้านาน พอจะทำราชการสนองพระเดชพระคุณได้ ฮ่องเต้ก็มีพระทัยยินดีรับสั่งให้หาคักหลินมาเฝ้า แล้วตั้งให้เป็นแม่ทัพหน้า อ้วยแซเป็นแม่ทัพหลวง ทั้งสองก็กราบถวายบังคมลา ออกมาเกณฑ์ทหารสามหมื่น พร้อมสรรพด้วยเครื่องสาตราวุธและเสบียงอาหาร พอถึงวันฤกษ์ดีก็ยกกองทัพออกจากเมืองหลวงตรงไปทางเขาตังเพาซัว

ฝ่ายลิวบ๋ายออกจากที่เฝ้ากลับมาถึงบ้าน จึงสั่งให้ลิวอันผู้บุตรน้องของลิวซู รีบไปบอกกับยวดซิมอ๋อง เรื่องที่คุดตงเสงตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เขาตังเพาซัว และคิดการขบถขึ้น ฮ่องเต้ได้รับสั่งให้อ้วยแซกับคักหลิน คุมทหารสามหมื่นไปปราบปราม แต่อ้วยแซก็แก่ชรากำลังน้อย คักหลินก็อ่อนสติปัญญายังไม่เคยทำศึกสงคราม ขอให้ยวดซิมอ๋องเห็นแก่ราชการแผ่นดิน ยกทหารไปช่วยอ้วยแซกับคักหลินจับคุดตงเสงฆ่าเสียให้จงได้ ลิวอันก็ขึ้นม้าออกจากเมืองเซียงอานเดินทางตรงไปเขาปวยง่อเหนีย

ขณะนั้นยวดซิมอ๋องตั้งลุยไถได้สิบห้าวันแล้ว ยังไม่มีผู้ใดสู้ฝีมือนางแบ๊ลวนเองได้ พอดีลิวอันถือหนังสือของลิวบ๋ายมาถึง ยวดซิมอ๋องแจ้งความแล้วก็ให้ลิวซูอยู่ดูแลการลุยไถ ส่วนตนเองกับเพื่อนอีกห้าคน ยกทหารสามหมื่นไปช่วยอ้วยแซ ที่เขาตังเพาซัวโดยเร็ว
เมื่อกองทัพของคักหลินกับอ้วยแซเดินทางไปถึงเขาตังเพาซัว ก็หยุดตั้งค่ายลงไว้มั่นคงแล้ว ก็ให้นายทหารขี่ม้าออกไปท้าให้คุดตงเสงออกมารบ คุดตงเสงจึงให้คุดตงลิบผู้น้องกับพกเตาอัน คุมทหารลงจากเขามาประจันหน้ากับทหารหลวง อ้วยแซก็ขับม้าเข้าไปใกล้ ร้องว่า

“…….คุดตงเสงและตัวเจ้านั้น พระเจ้าแผ่นดินชุบเลี้ยงตั้งแต่งให้มีอำนาจวาสนามาก ก็คิดทำลายล้างยศศักดิ์ของตัวเสียเอง จนทำราชการอยู่ไม่ได้ บัดนี้มาตั้งเกลี้ยกล่อมซ่องสุมผู้คนไว้ จะคิดขบถแย่งชิงเอาสมบัติบ้านเมืองหรือ ถ้ารู้สึกตัวกลัวผิด และยังคิดถึงบุตรภรรยาอยู่ ก็ให้ลงจากหลังม้าเข้าอ่อนน้อมคำนับเสียโดยดี จึงจะรอดจากความตาย……..”

คุดตงลิบก็ร้องตอบมาว่า

“……..พระเจ้าฮั่นบู๊ฮ่องเต้ไม่ตั้งอยู่ในยุติธรรม พระพฤติการผิดอย่างธรรมเนียมไปต่าง ๆ เราพี่น้องจึงได้หลีกเลี่ยงมา หมายจะคิดกำจัดผู้ซึ่งเป็นอสัตย์นั้นเสีย ราษฎรจะได้ทำมาหากินเป็นสุขสบาย…….”

แล้วคักหลินก็ถือกระบองทองแดงสองมือ เข้ารบกับคุดตงลิบได้สามสิบเพลง ก็ตีคุดตงลิบตกม้าตาย พกเตาอันก็เข้ารบกับอ้วยแซเป็นสามารถ อ้วนแซอ่อนกำลังลงทำท่าจะเสียที คักหลินขับม้าเข้าช่วยแต่ไม่ทัน จึงถูกพกเตาอันฟันตัวขาดตาย ต้องเลิกทัพกลับเข้าค่าย แล้วคักหลินก็ทำหนังสือบอกข้อราชการให้ม้าเร็วรีบถือไปเมืองเซียงอาน ขอให้จัดกองทัพเพิ่มเติมมาช่วย

วันต่อมายวดซิมอ๋องก็ยกมาถึง คักหลินก็เล่าความตามที่ได้สู้รบกับคุดตงลิบ และพกเตาอันฆ่าอ้วยแซตาย ยวดซิมอ๋องจึงคุมทหารออกไปท้าคุดตงเสงกับพกเตาอันออกมารบ พกเตาอันกับมกหยงก็คุมทหารลงมาจากเขา ยวดซิมอ๋องก็ขับม้าเข้ารบกับมกหยงได้ไม่กี่เพลง ยวด ซิมอ๋องก็เอาง้าวฟันมกหยงตัวขาดตาย พกเตาอันจึงเข้ามาสู้กับยวดซิมอ๋องแทน ยวดซิมอ๋องสู้กำลังของพกเตาอันไม่ได้ ต้องถอยทัพกลับเข้าค่าย บอกกับคักหลินว่าพกเตาอันมีฝีมือเข้มแข็งนัก จะต้องให้นางแบ๊ลวนเองมาช่วยจึงจะเอาชนะได้ แล้วก็เขียนหนังสือมอบให้ม้าใช้นำไปส่งแก่ลิวซู

ฝ่ายนางแบ๊ลวนเองขึ้นลองฝีมืออยู่บนลุยไถได้เจ็ดสิบสองวัน ไม่มีผู้จะสู้ฝีมือได้ จนนายโจรชื่อเฮงหยงอยู่ที่เขาเชียชองหลิม มาขึ้นลุยไถแต่สู้นางแบ๊ลวนเองไม่ได้ ต้องกลับไปที่อยู่ด้วยความแค้นใจยิ่งนัก

แต่ในวันเดียวกันก็มีชายหนุ่มอีกผู้หนึ่งชื่อคิมทิโฮ เป็นนายทหารอยู่ที่เมืองเซงโต่ขึ้นกับเมืองเสฉวน มาลองฝีมือกับนางแบ๊ลวนเอง ต่อสู้กันประมาณเจ็ดเพลง นางมีความชอบใจจึง ทำเป็นเสียทีถอยหนี คิมทิโฮก็รุกกระชั้นเข้าไป ลิวซูรู้ใจนางแบ๊ลวนเองจึงเข้าไปห้ามไว้ และว่าฝีมือท่านเข้มแข็งนัก นางแบ๊ลวนเองเห็นจะสู้ไม่ได้ คงเป็นสิทธิ์แก่ท่านแน่แล้ว จงหยุดพักเสียให้สบายเถิด แล้วลิวซูก็จะยกนางแบ๊ลวนเองให้แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากัน แต่คิมทิโฮขอร้องว่า

“……..ซึ่งท่านเมตตาจะให้ข้าพเจ้าแต่งการอยู่กินกับนางแบ๊ลวนเองนั้น พระคุณหาที่เปรียบมิได้ แต่ข้าพเจ้ายังมีธุระเดือดร้อนอยู่ข้อหนึ่ง ด้วยคุดตงเสงกราบทูลยุยงให้บิดาข้าพเจ้าไปราชการทัพ แต่ครั้งแผ่นดินพระเจ้าฮั่นบุนเต้ คุดตงเสงเป็นกองลำเลียงแกล้งกักขังเสบียงไว้มิให้ส่งกองทัพ จนทหารได้ความอดอยากแตกกระจัดพลัดพรากไป บิดาข้าพเจ้าก็ถึงแก่ชีวิตเป็นอันตรายในกลางศึก แต่ครั้งนั้นอายุข้าพเจ้าได้เก้าขวบ ครั้นภายหลังมารดาเล่าให้ฟัง ข้าพเจ้าจึงได้ไปเที่ยวหาอาจารย์ฝึกหัดเพลงอาวุธ ปรารถนาจะแก้แค้นแทนบิดาให้จงได้ ขอท่านจงงดการมงคลไว้ก่อน ถ้ากำจัดคุดตงเสงได้แล้ว ข้าพเจ้าจึงจะกลับมาแต่งการอยู่กินด้วยนางแบ๊ลวนเอง……..”

ขณะนั้นม้าใช้ของยวดซิมอ๋องมาถึงก็เอาหนังสือเข้าไปส่งให้ ลิวซุเปิดผนึกออกอ่านทราบความทั้งหมดแล้ว จึงให้นางแบ๊ลวนเองดู นางแบ๊ลวนเองก็ว่าการแต่เพียงนี้อย่ามีความวิตก ตนจะไปจับพกเตาอันกับคุดตงเสงฆ่าเสียให้จงได้ ลิวซูได้ฟังก็ยินดีจัดเตรียมไพร่พล และเสบียงอาหารไว้พร้อม ครั้นเวลาดึกประมาณสองยามเดือนหงายแจ่มสว่าง นางแบ๊ลวนเองก็ยกโต๊ะไปตั้งที่กลางแจ้ง เอาธูปมาจุดบูชาหลวงชีอาจารย์ของตน จนเวลารุ่งเช้าลิวซูก็ยกทหารออกจากค่ายเขาปวยง่อเหนียแบ่งเป็นสามกองทัพ ให้คิมทิโฮเป็นนายทัพหน้า ตัวลิวซูกับนางแบ๊ลวนเองเป็นทัพที่สอง ให้แบ๊หยงและเตียวเหากับนางลิวเอ๋ง คุมสิ่งของเสบียงอาหารตามไปภายหลัง เดินทางตรงไปยังเขาตังเพาซัว

เมื่อกองทัพทั้งสามมาถึงที่หมายยวดซิมอ๋องก็ออกมารับ พาตัวนายเข้าไปในค่ายคำนับกันตามธรรมเนียมแล้ว ลิวซูก็เล่าความที่ได้ตั้งลุยไถ จนได้คิมทิโอมาเป็นพวกด้วย ยวดซิม อ๋องก็ให้คิมทิโฮคำนับญาติพี่น้องเพื่อนพ้องทั้งปวง ให้รู้จักกันไว้ แล้วยวดซิมอ๋องก็มอบตราแม่ทัพให้นางแบ๊ลวนเองบังคับบัญชากองทัพทั้งหมด

นางแบ๊ลวนเองจึงสั่งให้นายทัพทั้งหลาย ยกพลไปล้อมภูเขาของข้าศึกไว้ทั้งสี่ด้าน เมื่อรบกันยกแรกนางแบ๊ลวนเองก็ฆ่าพกเตาอันตาย คุดตงเสงจึงต้องตั้งมั่นอยู่บนเขา ไม่ยกลงมารบอีกเลย

ฝ่ายเฮงหยงอยู่ที่เขาเชียงชองหลิม คิดจะแก้แค้นนางแบ๊ลวนเอง จึงให้โห้เซียงน้องชายร่วมสาบาน ลอบเข้ามาติดต่อกับคุดตงเสง จะยกทัพเข้ามากระหนาบกองทัพยวดซิมอ๋อง คุดตงเสงก็ดีใจ ให้โห้เซียงลอบกลับไปแจ้งเฮงหยงให้รีบทำการ

เฮงหยงก็ยกกองทัพมาตั้งค่าย ห่างค่ายของยวดซิมอ๋องประมาณสิบลี้ แล้วก็ยกเข้าโจมตีค่ายของยวดซิมอ๋องในเวลาประมาณสองยามเศษ คุดตงเสงก็ยกทหารลงจากเขาเข้าตีกระหนาบ สู้รบกันอยู่จนรุ่งสว่าง แต่คุดตงเสงกับเฮงหยงเสียทีจึงพากันหนี กลับไปอยู่ที่เขาเชียชองหลิม ทิ้งครอบครัวบุตรภรรยาและลิ่วล้อจำนวนมาก ไว้ข้างหลังจึงถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น

ยวดซิมอ๋องกับพวกก็ติดตามไปตั้งอยู่ห่าง ประมาณยี่สิบลี้ แต่เขาเชียชองหลิมมีชัยภูมิดี มีเขาใหญ่อยู่สองข้าง และมีห้วยลึกกว้างใหญ่โดยรอบ จึงยังไม่เข้าตี และให้ม้าใช้ไปบอกนางแบ๊ลวนเองและลิวซูให้รักษาค่ายของตนไว้ให้มั่นคง อย่าให้เป็นอันตรายได้

ฝ่ายเฮงหยงกับคุดตงเสงปรึกษากันว่า ยังมีลิ่วล้อเหลืออยู่ประมาณสองพันคน ข้าวที่เป็นเสบียงก็พอจะเลี้ยงกันได้สักสองปี จึงตั้งมั่นอยู่ไม่ออกไปรบ แต่ให้ลูกน้องเขียนหนังสือประกาศหาผู้มีฝีมือและสติปัญญา ที่มาซุ่มซ่อนอยู่ตามป่าเขา ให้มาช่วยกันทำศึกกับพวก ยวดซิมอ๋อง ปิดไว้ตามทางเชิงเขาหลายแห่ง

ทหารกองตระเวนของยวดซิมอ๋องเห็นประกาศนั้น ก็เอาความมาแจ้งแก่ ยวดซิมอ๋องให้ทราบ ยวดซิมอ๋องก็หัวเราะแล้วว่า คุดตงเสงกับเฮงหยงสิ้นความคิดแล้ว ถึงจะมีปีกบินได้ก็คงไม่พ้นมือเราเป็นแน่ แต่ต้องงดรออยู่อีกสี่ห้าวันก่อน จึงจะคิดการได้ คิมทิโฮก็ว่า

“……..ซึ่งท่านจะงดรอให้ช้าวันไป ก็จะเปลืองเสบียงอาหารเสียเปล่า ข้าพเจ้าเห็นว่าบัดนี้คุดตงเสงเฮงหยงเข้าที่อับจน สิ้นปัญญาอยู่แล้ว จงเร่งยกเข้าตีหักหาญเอา ก็คงจะได้ชัยชนะโดยง่าย……..”

ยวดซิมอ๋องก็บอกว่า

“……..ซึ่งจะทำใจเร็วด่วนได้นั้นไม่ควร ด้วยเขานี้เป็นที่ชัยภูมิดี ทางเข้าออกก็เป็นช่องแคบคับขันมั่นคงนัก เราตั้งรักษามั่นไว้ไม่ช้าพวกคุดตงเสงเฮงหยงขัดเสบียงอาหารเข้า ก็จะแตกระส่ำระสายไปเอง เราก็คงจับตัวคุดตงเสงเฮงหยงได้โดยง่าย ไม่ต้องลำบากแก่ไพร่พลทหาร…”

คิมทิโฮได้ฟังก็นิ่งอยู่ มิได้โต้แย้งแต่ประการใด

ฝ่ายเนียบฮวบเสงศิษย์ร่วมสำนักกับพกเตาอัน ซึ่งตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เขาจงน่ำซัว เป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดเรียนรู้วิชาการต่าง ๆ ชำนิชำนาญการศึกสงครามมาก วันหนึ่งมีความคิดถึงพกเตาอัน จึงพิเคราะห์ดูฤกษ์ยามตามตำรา ก็รู้ว่านางแบ๊ลวนเองฆ่าพกเตาอันเสียแล้ว ให้คิดโทมนัสน้อยใจเสียดายพกเตาอันยิ่งนัก จึงไปหาหลวงจีนฮุนฮงเหลาผู้เป็นอาจารย์ แล้วบอกว่า นางแบ๊ลวนเองฆ่าพกเตาอันศิษย์ท่านตายแล้ว จะคิดอ่านประการใด หลวงจีนฮุนเฮงเหลาก็ว่า

“……..เราได้ว่ากล่าวห้ามปรามพกเตาอันแต่เดิม เขาไม่เชื่อดื้อดึงไปจนถึงชีวิตดับสูญ เป็นเวรกรรมของเขา เคยล้างผลาญกันเองเจ้าอย่าเป็นธุระเลย ด้วยพกเตาอันเป็นคนไม่ตั้ง้ อยู่ในสัตย์สุจริต เจ้าจงกลับไปรักษาศีลสวดมนต์ไหว้พระอยู่ตามเดิมเถิด จะได้มีความสุขต่อไป……”

เนียบฮวบเสงได้ฟังก็คำนับลากลับมาที่อยู่ คิดเสียใจว่าเพื่อนรักร่วมชีวิตของเรา ไม่ควรจะตายด้วยฝีมือผู้หญิง ครั้นรู้แล้วจะนิ่งเสียก็ไม่ควร จึงนึกขึ้นได้ว่าคุดตงเสงกับเฮงหยงกำลังทำศึก รบพุ่งอยู่กับยวดซิมอ๋องผู้พี่นางแบ๊ลวนเอง จึงจัดแจงแต่งตัวออกจากเขาจงน่ำซัว ตรงไปเขาเชียชองหลิม เพื่อช่วยกำจัดยวดซิมอ๋อง แก้แค้นแทนพกเตาอันให้จงได้.

##########

ฟ้าหม่น วารสารของทหารม้า
กรกฎาคม ๒๕๕๑



Create Date : 13 กรกฎาคม 2551
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 18:56:42 น. 3 comments
Counter : 404 Pageviews.

 
มาสงสัยอีกรอบ พวกฮั่นนี่คือพวกที่โกนหัวไปครึ่งนึงและไว้ผมยาวผูกเปียใช่มั้ยค้าบ จำได้ว่าเคยดูหนังจีนตอนเด็กๆ


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:38:49 น.  

 
อันนั้นพวกแมนจูมิใช่รึ


โดย: kira7 IP: 203.144.144.164 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:24:47 น.  

 
ขอบคุณคุณ kira7 ที่กรุณามาตอบให้
หลังจากที่ถามมาเกือบสองปีครับ


ขออภัยคุณข้าวโพดด้วยครับ ไม่ทราบลอดตาไปได้ไง.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:30:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.