Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๖ ตามหาญาติ

ทหารกล้าแผ่นดินฮั่น

ตอนที่ ๖ ตามหาญาติ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ย้อนกลับไปกล่าวถึงยวดซิมอ๋องหรือแบ๊จุ้น กับเตียวเตียน และลีหง ซึ่งฮ่องเต้มีรับสั่งให้ไปตามหาลิวซูนั้น เมื่อเดินทางไปถึงเขาเฮาเภาซัวแขวงเมืองลงเอี๋ยง ก็มีลิ่วล้อโจรพวกหนึ่งมาสกัดห้ามไว้ จะเอาเงินค่าผ่านทาง ยวดซิมอ๋องก็ถามว่านายเจ้าชื่อแซ่ไร ลิ่วล้อก็บอกว่าชื่อ เปากัง ยวดซิมอ๋องก็ดีใจคุกเข่าลงคำนับเทพยดาฟ้าดิน เตียวเตียนและลีหงก็ถามว่าท่านเห็นพวกโจรมาแล้วยินดีด้วยเหตุใด ยวดซิมอ๋องก็บอกว่า เปากังที่เป็นนายโจรที่เขานี้เป็นน้องที่สี่ของเรา เผอิญให้มาพบกันจึงดีใจ แล้วก็สั่งพวกลิ่วล้อว่าจงไปบอกแก่นายเจ้าเถิดว่า เราชื่อแบ๊จุ้นจะมาหาด้วยเป็นการร้อน

เมื่อลิ่วล้อกลับไปแจ้งความ เปากังก็ยินดียิ่งนักรีบลงมารับขึ้นไปบนเขา ให้นั่งในที่สมควรและให้ยกน้ำชามาเลี้ยง แล้วเปากังจึงถามยวดซิมอ๋องว่าสองนี้คือผู้ใด ยวดซิมอ๋องก็บอกชื่อแซ่ให้ และว่าสองคนนี้มีคุณแก่ลิวซูมาก และถามเปากังว่าเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่

เปากังก็เล่าว่า

“…….ตั้งแต่ท่านจากไปแล้ว บิดามารดาข้าพเจ้าถึงแก่กรรมทั้งสองคน ข้าพเจ้าจึงได้เที่ยวเตร่มาพบนายโจรที่เขานี้ นายโจรนั้นเที่ยวข่มเหงราษฎรชาวบ้านให้ได้ความเดือดร้อน ข้าพเจ้าห้ามปรามก็ไม่ฟัง กลับว่ากล่าวด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่าง ๆ ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูไม่เห็นมีคุณแก่แผ่นดิน จึงได้ฆ่าเสีย พวกลิ่วล้อเห็นว่ามีฝีมือก็ยอมสามิภักดิ์ ยกข้าพเจ้าขึ้นเป็นตัวนายอยู่ที่เขานี้………”

พูดแล้วเปากังก็ให้คนใช้ยกโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงกันเป็นที่สบาย เปากังจึงถามยวดซิมอ๋องบ้างว่าจะไปข้างไหนมีธุระสิ่งใดจึงมาทางนี้ ยวดซิมอ๋องก็เล่าความตั้งแต่ตนไปอยู่ที่เขาตังหงซัว จนได้ไปทำราชการที่เมืองเชียงอาน และฮ่องเต้รับสั่งให้มาตามหาลิวซูนั้น ทุกประการ

เปากังก็มีความยินดีและจะตามไปเป็นเพื่อนด้วย ยวดซิมอ๋องก็ว่าจะไปแต่สามคนก่อน เมื่อมีธุระสิ่งใดเป็นข้อสำคัญ จึงจะมาบอกให้ไปช่วยกัน ครั้นกินเลี้ยงเสร็จแล้ว ทั้งสามก็ลาเปากังเดินทางต่อไป

เมื่อเดินทางไปได้สองวัน ใกล้จะถึงบ้านเอียเองผู้เป็นน้า ยวดซิมอ๋องก็อยากจะไปเยี่ยมนางแบ๊ลวนเองน้องสาว ที่ฝากให้น้าเลี้ยงดูไว้ แต่เกรงว่าจะเป็นการแชเชือนเสียราชการตามที่มีรับสั่ง เตียวเตียนก็ว่าถึงจะเป็นรับสั่งก็จริงแต่ไม่ได้กำหนดวัน น้องท่านเป็นสาวเรามาใกล้แล้ว ต้องแวะไปเยี่ยมให้รู้เหตุร้ายดีจึงจะควร ยวดซิมอ๋องจึงพาเพื่อนทั้งสองไปที่บ้านเอียเอง คนใช้บอกว่าเอียเองป่วยอยู่ จึงพาขึ้นไปบนเรือน เห็นมีชาวบ้านอยู่บนหอนั่งเป็นอันมาก ยวดซิมอ๋องก็เข้าไปหาเอียเองข้างในห้อง เอียเองก็ถามข่าวคราวที่จากไปเกือบสองปี ยวดซิมอ๋องก็เล่าเรื่องของตนให้ฟังโดยละเอียด เอียเองก็ดีใจบอกว่า เราไม่ได้เจ็บไข้สิ่งใดดอก แต่วิตกทุกข์ตรอมด้วยน้องสาวเจ้าจึงไม่สบาย

ยวดซิมอ๋องได้ฟังก็ตกใจว่าน้องสาวของตนทำความชั่วสิ่งใดหรือ เอียเองก็เล่าว่า

“…….เมื่อเดือนสามขึ้นเก้าค่ำ ไปคำนับที่ฝังศพบิดามารดา พอฬ่อเซงนายโจรที่เขาเสียวเนียวซัวมาเที่ยวเล่น แลเห็นเข้าก็ชอบใจมาขอเป็นภรรยา เราไม่ยอมให้ ฬ่อเซงโกรธกำหนดอีกสามวันจะคุมพวกบริวาร มาตีปล้นบ้านเรา การดังนี้จึงได้วานพวกพ้องมาช่วยระวังรักษา…….”

ยวดซิมอ๋องก็ว่าการเพียงนี้จะวิตกทุกข์ร้อนไปทำไม ไว้ธุระตนจะจัดการเอง เอียเองก็มีความยินดีพากันออกมานั่งที่หน้าหอ ยวดซิมอ๋องจึงให้คนใช้ไปเรียกนางแบ๊ลวนเอง ผู้น้องออกมาพบ นางก็ออกมาคำนับพี่ชาย ยวดซิมอ๋องก็ให้คำนับเตียวเตียนและลีหงให้รู้จักไว้ นางก็ถามว่าพี่ท่านไปอยู่ที่ไหนเป็นช้านาน ไม่ได้ข่าวคราวเลย ยวดซิมอ๋องก็เล่าความตามเรื่องที่ผ่านมาให้ฟัง นางก็ยินดีที่พี่ชายมียศใหญ่อยู่ในเมืองหลวง คืนนั้นยวดซิมอ๋องกับเพื่อนก็พักอยู่ที่บ้านของเอียเอง

รุ่งเช้ายวดซิมอ๋องจึงเขียนหนังสือ ให้ลีหงถือไปหาฬ่อเซงที่เขาเสียวเนียวซัว ต้องเดินทางไปประมาณสิบลี้ เมื่อถึงก็บอกลิ่วล้อว่า จงไปบอกฬ่อเซงให้มาคำนับรับหนังสือยวดซิมอ๋องโดยเร็ว ฬ่อเซงก็ลงจากเขามาพบลีหง ถามว่าท่านชื่อแซ่ใดมีกิจธุระอันใด ลีหงก็บอกว่าตนเป็นทหารของยวดซิมอ๋อง ถือหนังสือมาให้ ฬ่อเซงถามว่ายวดซิมอ๋องคือผู้ใด ลีหงก็บอกว่า ชื่อแบ๊จุ้นเดิมเป็นนายโจรอยู่เขาตังหงซัว

ฬ่อเซงรับหนังสือมาเปิดผนึกออกอ่าน มีใจความว่า เราชื่อแบ๊จุ้นแจ้งความมายังท่านฬ่อเซง ซึ่งเป็นนายใหญ่อยู่ที่เขาเสียวเนียวซัว ด้วยบัดนี้ท่านตั้งตัวเป็นใหญ่แล้ว ไม่ควรกระทำข่มเหงราษฎรให้ได้ความเดือดร้อน ถ้าหาผลประโยชน์โดยการเป็นธรรม ชื่อเสียงจะหอมปรากฎ เป็นที่สรรเสริญแก่คนทั้งหลาย เหมือนตัวข้าพเจ้าเดิมตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เขาตังหงซัว แต่อุตส่าห์ประพฤติความดี พระเจ้าฮั่นบู๊ฮ่องเต้ทรงทราบ จึงได้เกลี้ยกล่อมเอาข้าพเจ้าไปตั้งเป็นที่ยวดซิมอ๋อง บัดนี้มีรับสั่งให้เที่ยวสืบเสาะติดตามลิวซูฮู่ม้า ครั้นมาถึงบ้านเอียเองผู้น้าบอกข้าพเจ้าว่า ท่านมาขอนางแบ๊ลวนเองน้องข้าพเจ้าจะเอาไปเป็นภรรยา เอียเองไม่ยอมให้ ท่านโกรธกำหนดวันจะยกพวกมาตีปล้นบ้านเรือนนั้น ผิดธรรมเนียมนัก ทำให้ราษฎรตกใจวุ่นวายมาก ข้าพเจ้าจึงมีหนังสือให้ลีหงผู้เป็นไต้เจียงกุนถือมาให้ทราบ ถ้าท่านยังรักชื่อเสียงและจะนับถือว่าข้าพเจ้าเป็นพวกพ้องแล้ว จงอดใจรักความสัตย์สุจริตไว้ให้มั่นคง ถ้าข้าพเจ้ากลับไปถึงเมืองเซียงอานเมื่อไร จะยกความดีของท่านขึ้นกราบทูลพระเจ้าฮั่นบู๊ฮ่องเต้ก็คงจะโปรดตั้งแต่งให้ท่านเป็นที่มียศใหญ่ขึ้น ชื่อเสียงก็จะปรากฎอยู่ในแผ่นดิน ถ้าท่านไม่เชื่อขืนจะถืออำนาจว่ามีพวกมาก ข้าพเจ้าก็จะต้องขออยู่ให้ถึงวันกำหนด จะได้ลองฝีมือกับท่านให้ถึงแพ้ชนะ

ฬ่อเซงอ่านหนังสือสิ้นข้อความแล้ว จึงพูดกับลีหงว่า

“…….ท่านได้เมตตาข้าพเจ้า ช่วยอ้อนวอนขอโทษยวดซิมอ๋องให้ดีด้วย แต่เดิมข้าพเจ้าไม่ทราบเลยว่า นางแบ๊ลวนเองเป็นน้องยวดซิมอ๋อง จึงได้บังอาจจะไปแย่งชิงเอา ซึ่งข้าพเจ้าได้ทำล่วงเกินผิดไปแต่เดิมนั้น ขอจงอดโทษเอาไว้ใช้สอยต่อไปภายหน้าเถิด……”

ลีหงก็รับคำกลับมาบอกยวดซิมอ๋อง ตามคำของฬ่อเซงทุกประการ ยวดซิมอ๋องก็ยินดีสรรเสริญว่าฬ่อเซงนี้มีสติปัญญา ควรจะเอาไว้เป็นพวกพ้องได้ พวกชาวบ้านที่นั่งอยู่นั้นก็พากันสรรเสริญยวดซิมอ๋องว่า

“…ท่านประพฤติการดีมีชื่อเสียงปรากฎจริง นี่หากว่าท่านมาทัน ถ้าหาไม่พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย ที่ไหนจะสู้รบต้านทานพวกโจรได้ คงเป็นอันตรายยับเยินไปด้วยกันทั้งตำบล…”

ยวดซิมอ๋องก็ว่า

“……การเป็นทั้งนี้ก็เพราะเราถือความสัตย์สุจริต มิได้คิดเบียดเบียนท่านผู้ใดให้ได้ความเดือดร้อน เทพยดาฟ้าและดินจึงบันดาลให้คนทั้งปวงนิยมนับถือ……”

พวกพ้องชาวบ้านทั้งหลายได้ฟัง ก็มีความยินดีต่างคนคำนับลากลับไปบ้าน ยวดซิมอ๋องพักอยู่ที่บ้านเอียเองได้สามวันก็จะลาไป เอียเองก็ว่า

“……..ทุกวันนี้ตัวเราก็แก่ชราลงมากแล้ว คนที่ประพฤติตัวเป็นพาลก็ชุกชุมนัก ที่จะบำรุงเลี้ยงรักษานางแบ๊ลวนเองน้องสาวเจ้าต่อไปนั้น เห็นเหลือกำลัง บัดนี้เจ้ามีความสุขเจริญขึ้นแล้ว จงพาไปเสียด้วยเถิด…….”

ยวดซิมอ๋องก็ว่า

“……….ข้าพเจ้ามาด้วยราชการ จะต้องเที่ยวสืบเสาะหาลิวซูฮู่ม้าต่อไปอีก ใช่ว่าจะกลับไปบ้านเดิม หรือไปเมืองหลวงเมื่อไร แต่น้าไม่รับไว้แล้ว ข้าพเจ้าก็ต้องพาไปด้วย…….”

พูดแล้วก็เรียกนางแบ๊ลวนเองออกมาสั่งว่า

“………เจ้าจงแต่งตัวปลอมเป็นผู้ชายไปกับพี่เถิด ด้วยเอียเองผู้น้าเขาไม่ยอมให้เจ้าอยู่แล้ว……..”

นางแบ๊ลวนเองก็เอาเสื้อกางเกงแต่งตัวเป็นผู้ชาย เก็บรวบรวมเงินทองสิ่งของที่ดีมีราคาพอสมควร แล้วคำนับลาเอียเองไปกับยวดซิมอ๋อง

ครั้นเดินทางไปได้ครึ่งวัน นางแบ๊ลวนเองก็อ่อนกำลังลง ยวดซิมอ๋องก็เอาม้าของตนให้น้องสาวขี่ แต่นางก็ขี่ไม่สันทัดไปได้ประมาณลี้หนึ่ง ก็พลัดตกลงมา เตียวเตียนกับลีหงก็ผลัดกันประคองให้เดินต่อไป จนเย็นจึงถึงเมืองเตงฮงกุ้ย ก็แวะเข้าไปที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง

ยวดซิมอ๋องเห็นหน้าเจ้าของโรงเตี๊ยมเหมือนคนรู้จัก จึงถามว่าท่านชื่อแบ๊ยี่ใช่หรือไม่ ชายผู้นั้นก็รับว่า ตนนี้แหละชื่อแบ๊ยี่ เป็นคนใช้ของบิดาท่าน เมื่อบิดาท่านป่วยหนักลงนั้น ได้ปล่อยให้ไปเที่ยวทำมาหากิน ได้เงินมาทำทุนเล็กน้อย ครั้นบิดาท่านตายแล้วก็มาตั้งโรงเตี๊ยมขายของอยู่ที่นี่ เมื่อท่านมาถึงจะทักทายหรือก็ยังคิดสงสัย จำไม่ได้ถนัด

ยวดซิมอ๋องก็ว่าตนคิดแคลงอยู่เหมือนกัน ไม่เป็นไรดอก จงบอกภรรยาท่านออกมาหาสักหน่อย แบ๊ยี่ก็พาภรรยาออกมาคำนับยวดซิมอ๋อง แล้วยวดซิมอ๋องก็เล่าความตามที่มี รับสั่งให้มาตามหาลิวซูฮู่ม้า จนมาพบนางแบ๊ลวนเองผู้น้อง ให้ฟังทุกประการ แล้วขอฝากน้องสาวไว้ด้วย ตนเองจะไปติดตามหาฮู่ม้าต่อไป แบ๊ยี่กับภรรยาก็รับว่าจะดูแลทำนุบำรุงน้องสาวของ ยวดซิมอ๋อง ตามกำลังสติปัญญา ยวดซิมอ๋องก็ให้เงินไว้สองร้อยตำลึง และให้ปิดร้านเลิกขายของเสีย สองสามีภรรยาก็รับคำแล้วจัดโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงกันเป็นที่สำราญ

ยวดซิมอ๋องพักอยู่ที่บ้านแบ๊ยี่สองสามวันพอหายเหนื่อย ก็เดินทางต่อไปกับ เตียวเตียนและลีหง เดินทางไปสามวันก็ถึงเมืองเซียงเอียงฮู จึงแวะพักที่โรงเตี๊ยมในเมือง เห็นผู้คนเดินพลุกพล่านนัก ก็ถามเจ้าของโรงเตี๊ยมว่าวันนี้มีงานอะไรที่ไหนหรือ ผู้คนจึงเดินไปมามากมายผิดประหลาด

เจ้าของโรงเตี๊ยมก็บอกว่า วันนี้เขาจะเอาตัวผู้ร้ายไปประหารชีวิตที่ท้องสนาม ผู้ร้ายคนนี้เป็นชาวเมืองเซียงอาน แต่งตัวปลอมเป็นผู้หญิงมาเที่ยวหลอกลวงขายตัว เอาเงินเขาหลายแห่ง แล้วไปอยู่กับลูกสาวเขาด้วย บู๊ไต้หยงจับตัวเอามาส่งแปะเตงเจ้าเมือง ชำระไต่ถามก็อ้างว่าเป็นฮู่ม้า เจ้าเมืองไม่เชื่อจึงขังคุกไว้ แล้วทำหนังสือบอกไปยังเมืองเชียงอาน บัดนี้มีหนังสือตอบมาว่าให้ประหารเสีย จึงจะประหารในวันนี้ ยวดซิมอ๋องก็ตกใจชวนเตียวเตียนกับลีหง รีบออกจากโรงเตี๊ยมไปยังท้องสนามโดยเร็ว

ขณะนั้นนางกิมเหนียวญาติของลิวซู ซึ่งมาขายตัวอยู่ที่เรือเท้งของนางอาจับเจ๋ และเคยหาทางจะช่วยลิวซูให้หนีไปนั้น เมื่อได้ทราบข่าวว่าเจ้าเมืองเซียงเอียงฮู สั่งให้เอาตัวลิวซูไปประหารเสียในวันนั้น ก็เสียใจเป็นยิ่งนัก แต่ไม่รู้ที่จะทำประการใด จึงจัดแจงข้าวของเครื่องเซ่น จะมาเซ่นศพลิวซู ครั้นมาถึงริมสนามเห็นลิวซูต้องมัดอยู่กับหลักประหาร ก็เวทนาเป็นกำลัง ไม่อาจกลั้นความเศร้าโศกไว้ได้ จึงร้องไห้คร่ำครวญกลิ้งเกลือกอยู่ในที่นั้น

ฝ่ายลิวซูก็นั่งรอชตากรรมของตนอยู่ ด้วยไม่มีความหวังว่าผู้ใดจะมาช่วยชีวิตไว้ได้ เพราะไม่รู้ว่ายวดซิมอ๋องหรือแบ๊จุ้นผู้พี่ร่วมสาบาน ได้มาถึงเมืองเซียงเอียงฮูแล้ว.

###########

ฟ้าหม่น วารสารของทหารม้า
กรกฎาคม ๒๕๕๐



Create Date : 07 กรกฎาคม 2551
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 18:45:37 น. 2 comments
Counter : 812 Pageviews.

 
มาอ่านต่อค้าบ ทำไมลิวชูโชคร้ายไม่หยุดไม่หย่อน


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:42:30 น.  

 
เมื่อไรจะเจอกันนี่ ตามกันไปตามกันมา เหนื่อยแทน


โดย: kira7 IP: 203.144.144.164 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:58:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.