Group Blog
 
All Blogs
 
ทหารเสือแผ่นดินถัง ตอนที่ ๑๔ ทหารเสือสิ้นบุญ

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๑๔ ทหารเสือสิ้นบุญ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อ หลีจีนอ๋อง แต่งตั้งให้ หลีซุนเฮ้า บุตรเลี้ยงคนที่สิบสาม ซึ่งเป็นทหารเสือ มีบำเหน็จความชอบในการศึกหลายครั้ง ได้เป็นเจ้าเมืองซินจิวนั้น หลีคังกุน บุตรเลี้ยงคนที่เจ็ด กับ หลีซองซิน บุตรเลี้ยงคนที่สี่ ของหลีจีนอ๋อง ก็คิดอิจฉาน้อยใจว่าบิดารักบุตรไม่เสมอกัน ได้ปรึกษากันว่าตัวเราทั้งสองก็ได้ทำศึก มีบำเหน็จความชอบอยู่บ้าง แต่บิดาทำลืมเสียสิ้น จึงคบคิดกันจะหาอุบายใส่โทษหลีซุนเฮ้าอยู่มิได้ขาด อยู่มาทั้งสองก็เข้าไปหาหลีจีนอ๋องแล้วพูดว่า

“……..ทุกวันนี้ราชการก็เบาบางว่างลงมากแล้ว ข้าพเจ้าทั้งสองจะขอลาไปเที่ยวป่า ไล่เนื้อและหัดซ้อมยิงเกาทัณฑ์ สักเดือนหนึ่งจึงจะกลับมา……..”

หลีจีนอ๋องก็อนุญาตให้ไป ทั้งสองจึงจัดบ่าวไพร่พอสมควร ออกจากเมืองเปงจิว เดินตรงไปเมืองซินจิว เข้าไปหาหลีซุนเฮ้าเมื่อคำนับกันตามธรรมเนียมแล้ว หลีซุนเฮ้าก็ถามว่ามาด้วยกิจธุระสิ่งอันใด ทั้งสองก็บอกว่า

“……..ท่านออกจากเมืองมาเสียแล้ว หลีจีนอ๋องผู้บิดาเราเอาแต่เสพสุรา มัวเมาไปด้วยการเล่นต่าง ๆ แล้วสั่งให้ข้าพเจ้ามาแจ้งแก่ท่านว่า แต่บรรดาบุตรเลี้ยงซึ่งเปลี่ยนเป็นแซ่หลีนั้น ให้กลับไปใช้ตามแซ่เดิมเสียให้สิ้น………”

หลีซุนเฮ้าได้ฟังก็ตกใจจึงว่า เหตุใดหลีจีนอ๋องจึงไม่ให้เรานับตามแซ่หลีเล่า เราหายอมไม่ หลีซินซองจึงว่าซึ่งท่านจะขืนขัดคำสั่งในเวลานี้เห็นจะไม่ได้ จงผ่อนผันตามไปก่อน ภายหลังจึงค่อยคิดอ่านต่อไป หลีซุนเฮ้าก็คิดตริตรองว่า หนังสือหลีจีนอ๋องก็ไม่มีมา เป็นแต่คำ หลีกังคุนหลีซองซินก็เป็นบุตรเลี้ยงเหมือนกัน ตัวเขาก็ต้องเปลี่ยนแซ่ตามเดิม จะไม่ทำตามก็จะเป็นขัดบัญชา จึงให้ทหารเอาธงยี่ห้อหลีจีนอ๋องลงเสีย ให้ยกธงยี่ห้อของตัวชักขึ้น

หลีคังกุนและหลีซองซินก็คำนับลากลับมาเมืองเปงจิว เข้าไปคำนับหลีจีนอ๋องบิดาก็ถามว่า เจ้าลาไปเที่ยวป่าเดือนหนึ่งจึงจะกลับมา ที่ทำไมจึงกลับมาเสียโดยเร็วดังนี้ ทั้งสองพี่น้องก็บอกว่า เมื่อไปถึงเมืองซินจิวเห็นธงยี่ห้อสำหรับเมือง เป็นยี่ห้อของหลีซุนเฮ้า หาใช้ยี่ห้อของบิดาไม่ ได้สืบถามชาวบ้านชาวเมืองได้ความว่า หลีซุนเฮ้าคิดเอาใจออกห่างจากบิดา

หลีจีนอ๋องได้ฟังดังนั้นจึงว่า

“……หลีซุนเฮ้านี้เราก็รักใคร่เลี้ยงดูถึงขนาด ควรหรือจะมาคิดทรยศเราได้ ครั้นจะละไว้ก็จะกำเริบมีกำลังมากขึ้น จำจะต้องให้เอาตัวมาฆ่าเสีย จึงจะสิ้นเสี้ยนหนาม…….”

ขณะนั้น นางเล่าฮุย ภรรยาใหญ่ของหลีจีนอ๋องได้ยิน จึงลุกออกมาพูดกับสามีว่าหลีซุนเฮ้านี้เป็นคนมีกตัญญูซื่อตรงต่อยิ่งนัก ความซึ่งหลีคังกุน หลีซองซินมากล่าวนี้เห็นจะไม่จริง ด้วยทั้งสองนั้นเป็นคนอิจฉาไม่ชอบกัน ก็ย่อมรู้อยู่แล้ว การครั้งนี้ถ้ายังสงสัย ตนก็จะอาสาไปสืบเอาความจริงมาให้จงได้ หลีจีนอ๋องจึงว่าเจ้าจะไปเองก็ดีแล้ว จงเอา หลีซือหงวน ไปด้วย

นางเล่าฮุยกับหลีซือหงวนก็เดินทางไปเมืองซินจิว ก็เห็นธงสำหรับเมืองเป็นยี่ห้อของหลีซุนเฮ้าจริง สมดังคำของหลีคังกุนและหลีซองซินกล่าว ทั้งสองจึงหยุดยั้งอยู่นอกเมืองหาได้เข้าไปในเมืองไม่ หลีซุนเฮ้าได้ทราบก็ออกไปคำนับแล้วจึงถามว่า ท่านผู้มารดามาถึงเมืองซินจิว แล้ว เหตุใดจึงมาหยุดอยู่ไม่เข้าไปในเมืองเล่า นางเล่าฮุยว่าเราคิดถึงเจ้าจึงอุตส่าห์มาเยี่ยมเยือน ครั้นมาถึงเห็นธงยี่ห้อสำหรับเมืองผิดประหลาดไป ก็คิดฉงนสงสัยอยู่จึงไม่อาจเข้าไปในเมือง

หลีซุนเฮ้าได้ฟังก็ตกใจนัก จึงเล่าความตามที่หลีคังกุนและหลีซองซิน มาบอกให้เปลี่ยนธงยี่ห้อนั้น ให้นางเล่ากุยฟังทุกประการ นางเล่ากุยจึงว่าเจ้านี้เป็นคนใจเบา เสียกลเขาแล้วจงรีบไปเมืองเปงจิวด้วยกันเถิด จะได้ชี้แจงข้อความให้หลีจีนอ๋องสิ้นสงสัย แล้วทั้งสามคนก็รีบพากันกลับมาเมืองเปงจิว

ฝ่ายหลีคังกุนกับหลีซองซินให้คนสนิทติดตามนางเล่าฮุยไปฟังความ เมื่อรู้ว่านางเล่าฮุยพาตัวหลีซุนเฮ้ามาเกือบจะถึงเมืองเปงจิวแล้ว ก็ตกใจรีบออกไปบอกกับนางเล่าฮุยและหลีซือหงวนว่า หลีจีนอ๋องให้ทั้งสองไปสืบสวนว่า ที่ตำบลแม่น้ำอึ้งหอเกิดโจรผู้ร้ายซ่องสุมกันขึ้นมากนั้น เป็นความจริงหรือไม่ แล้วจึงให้กลับมาบอกหลีจีนอ๋อง นางเล่าฮุยนั้นก็คลางแคลงใจอยู่ ด้วยแจ้งว่าบุตรเลี้ยงทั้งสองคนนี้ มักพูดจาแอบอ้างคำสั่งหลีจีนอ๋องอยู่เนือง ๆ แต่ก็เกรงว่าจะมีความผิดที่ทำให้เสียราชการ จึงให้หลีซุนเฮ้ารีบเข้าไปหาหลีจีนอ๋องก่อน ตนเองกับบุตรคนโตจะไปสืบความที่แม่น้ำอึ้งหอ แล้วจะรีบกลับมา

ฝ่ายหลีจีนอ๋องแจ้งว่าหลีซุนเฮ้ามาหา แต่นางเล่าฮุยกับหลีซือหงวนยังไม่มา ไม่รู้ว่าได้ความจริงเท็จประการใด จึงสั่งให้คนใช้ไปบอกหลีซุนเฮ้าว่า เวลานี้ยังไม่สู้สบายต่อเวลาอื่นจึงจะให้เข้ามาหา หลีคังกุนกับหลีซองซินแจ้งว่าหลีจีนอ๋องกำลังเสพสุราเมา ห้ามไม่ให้หลีซุนเฮ้าเข้าไปหา ก็มีความยินดี จึงรีบมาเรียกพนักงานสิบคนถืออาวุธครบมือ พากันไปหาหลีซุนเฮ้าในที่พัก บอกว่า

“…..หลีจีนอ๋องมอบอาญาสิทธิ์ให้เราทั้งสองมาเอาตัวท่านไปฆ่าเสียเดี๋ยวนี้…”

หลีซุนเฮ้าก็ตกใจจึงว่า

“…..ข้าพเจ้าหาความผิดไม่ เหตุใดหลีจีนอ๋องจะฆ่าข้าพเจ้าเสียดังนี้เล่า……..”

หลีคังกุนก็มิได้ตอบประการใด สั่งให้ทหารเข้าจับหลีซุนเฮ้าทันที เมื่อทหารเข้าจับตัวนั้น ถ้าหลีซุนเฮ้าจะต่อสู้แล้ว ทหารเหล่านั้นที่ไหนจะสู้กำลังของหลีซุนเฮ้าได้ แต่บังเอิญที่หลีซุนเฮ้าเกรงอาญาสิทธิ์ของบิดา และไม่คิดที่จะขัดขืนจึงนิ่งให้ทหารจับผูกมัดแต่โดยดี และพาตัวมายังลานประหาร ก็ปรากฎว่าทุกคนเห็นเหมือนรูปเทพารักษ์ขี่เมฆมายืนลอยอยู่ตรงหน้า แล้วกล่าวกับหลีซุนเฮ้าว่า

“…..ตัวเจ้านี้สิ้นอายุถึงกำหนดแล้ว ถ้าตายไปในครั้งนี้ความสัตย์ซื่อสุจริตของเจ้าก็จะนำไปให้เป็นเทพารักษ์ อย่าคิดวิตกให้ใจวุ่นวายไปเลย จงตั้งสติให้ดีเถิด…….”

หลีซุนเฮ้าก็ประสานมือก้มหน้าคำนับลงสามครั้ง รูปเทพารักษ์นั้นก็หายไป หลีซุนเฮ้าก็ร้องบอกทหารว่า จงเร่งลงดาบเถิดเราจะไปแล้ว ทหารก็ฟันหลีซุนเฮ้าศรีษะขาด กระเด็นออกไป ถึงแก่ความตาย

ขณะนั้นมีผู้เอาความไปแจ้งแก่หลีจีนอ๋อง ว่าหลีคังกุนกับหลีซองซินแอบอ้างคำสั่งเอาตัวหลีซุนเฮ้าไปฆ่าเสียแล้ว หลีจีนอ๋องได้ฟังดังนั้นก็ตกใจสิ้นสตินิ่งอั้นไปเป็นครู่ใหญ่ ครั้นได้สติก็คิดแค้นสองพี่น้อง เหมือนเลือดตาจะหยดย้อยลง จึงสั่งให้ให้นายทหารเร่งไปจับตัวการทั้งสองมาให้ได้โดยเร็ว

เมื่อขณะที่หลีจีนอ๋องกำลังโกรธวุ่นวายอยู่นั้น นางเล่าฮุยกับหลีซือหงวนกลับมาถึง ก็เข้าไปคำนับแจ้งความตามที่หลีคังกุนกับหลีซองซินแอบอ้างคำสั่งหลีจีนอ๋อง ให้ไปสืบสวนโจรผู้ร้ายที่แม่น้ำอึ้งหอให้ฟังทุกประการ หลีจีนอ๋องก็ยิ่งซ้ำมีความโกรธเป็นอันมาก จึงให้เอาตัวหลีคังกุนกับหลีซองซินมาเฆี่ยนตีตบต่อยยับเยิน แต่ไม่ให้ตายจะเอาตัวไว้ตัดศรีษะเซ่นศพหลีซุนเฮ้า

แล้วหลีจีนอ๋องก็สั่งให้พนักงานเอาหีบไปใส่ศพหลีซุนเฮ้า มาตั้งไว้และแต่งการเซ่นวักเป็นอันมาก ครั้นถึงวันกำหนดฝังศพหลีจีนอ๋องและขุนนางทั้งปวงก็พากันไปพร้อมที่ฝังศพ เมื่อขณะจะยกศพลงฝังนั้น หลีจีนอ๋องก็สั่งให้ตัดศรีษะหลีคังกุนกับหลีซองซินเซ่นศพ ชดใช้กรรมที่ทำไว้ให้ตายตกไปตามกัน

ตั้งแต่นั้นมาหลีจีนอ๋องก็ไม่มีความสบาย เสพแต่สุราทุกวันไม่ใคร่จะสร่างเมา ถือเอาว่าเป็นการแก้ทุกข์แก้เสียใจ หาออกว่าราชการบ้านเมืองไม่

ฝ่ายจูอุนซึ่งเป็นเลียงอ๋องนั้น เมื่อหลีซุนเฮ้าตายแล้ว ก็มีอำนาจมากขึ้น ไม่เกรง กลัวผู้ใด และติดสินบนขุนนางผู้ใหญ่ให้เชิญเสด็จ พระเจ้าถังเจียวจง ย้ายไปประทับที่เมือง เปียน เหลียง แล้วเลียงอ๋องก็ข่มขู่บังคับให้ฮ่องเต้สละราชสมบัติให้ตน ขึ้นครองราชย์แทนทรงพระนามว่า พระเจ้าเหลียงไทโจ๊ฮ่องเต้ และให้นายทหารคนสนิทเอายาพิษไปให้พระเจ้าถังเจียวจงซึ่งถูกถอดเป็น จีอิมอ๋อง กินจนสิ้นชีวิตไป

เมื่อหลีจีนอ๋องรู้ข่าวก็ยกกองทัพไปตีเมืองเปียนเหลียง แต่ก็พ่ายแพ้แก่ทหารเอกของพระเจ้าไทโจ๊ บุตรชายก็ตายในที่รบถึงเจ็ดคน ตนเองก็แก่ชราแล้วไม่เข้มแข็งที่จะต่อสู้ศัตรูได้จึงอาเจียนเป็นโลหิต ถึงแก่ความตายในกลางศึก เมื่อายุได้แปดสิบสี่ปี คงเหลือบุตรชายอีกสามคน คือ หลีซือหงวน หลีลูอ๋อง และหลีซุนหยก ซึ่งทำศึกกับเมืองเปียนเหลียงต่อไป

ต่อมาพระเจ้าเหลียงไทโจ๊ฮ่องเต้ได้เอาบุตรสะใภ้ภรรยาของ จูอิวกุย บุตรคนโตเป็นนางสนม จูอิวกุยโกรธแค้นมากถึงกับชักกระบี่ไล่ฟันบิดา พระเจ้าไทโจ๊เห็นจวนตัวก็ร้องขึ้นว่าบุตรฆ่าบิดาดังนี้มีอยู่บ้างหรือ จูอิวกุยกลับตอบว่าเมื่อเป็นขุนนางอยู่นั้น ตัวก็ฆ่าเจ้าแผ่นดินเสีย เจ้าแผ่นดินไม่เหมือนบิดาคนทั้งหลายหรือ ว่าแล้วก็เอากระบี่ฟันถูกพระกรขาดไปข้างหนึ่ง แล้วฟันซ้ำถูกพระเศียรผ่าออกเป็นสองซีก สิ้นพระชนม์ในทันใดนั้นเอง จูอิวฉอง ผู้เป็นน้องเห็นพี่ชายฆ่าบิดา ก็เข้าสู้รบกับจูอิวกุย และฆ่าพี่ชายตายตกไปตามบิดาในที่นั้นเอง

จูอิวฉองก็ได้ครองราชสมบัติทรงพระนามว่า พระเจ้าเคียนฮวยฮ่องเต้ แต่ก็ถูกกองทัพของบุตรทั้งสามของหลีจีนอ๋อง ยกมาตีเมืองเปียนเหลียงแตก ขุนนางก็พากันเข้าไปในพระราชวังจับพระเจ้าเคียนฮวย ตัดศรีษะออกมามอบให้แม่ทัพของแซ่หลี ในเวลานั้นหลีลูอ๋องป่วยตายไปก่อนที่จะได้เมืองเปียนเหลียงแล้ว เหลืออยู่แต่หลีซือหงวนกับหลีซุนหยก ขุนนางประชุมปรึกษากันว่า เชื้อวงศ์ของพระเจ้าถังเจียวจงก็ถูจูอุนฆ่าเสียสิ้นแล้ว หลีซือหงวนนั้นแม้จะเป็นผู้ใหญ่แต่เป็นบุตรเลี้ยงของหลีจีนอ๋อง จึงยกให้หลีซุนหยกบุตรตัวของหลีจีนอ๋องขึ้นครองราชสมบัติในเมืองเปียนเหลียง ทรงพระนามว่า พระเจ้าจังจงฮ่องเต้ ให้หลีซือหงวนผู้พี่เป็นมหาอุปราชสำเร็จราชการแผ่นดิน และย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองลกเอี๋ยง

แต่พระเจ้าจังจงฮ่องเต้ก็ไม่เอาราชการ มัวลุ่มหลงแต่อิสตรี และประพฤติการเล่นอันหาประโยชน์มิได้ อยู่ในราชสมบัติได้เพียงสามปี ก็ถูกพวกโต้โผงิ้วที่โปรดเอามาไว้ในพระราช วังเป็นกบฏ ปลงพระชนม์เสีย ขุนนางทั้งปวงจึงยกหลีซือหงวนขึ้นครองราชสมบัติ ทรงพระนามว่า พระเจ้าเหมงจงฮ่องเต้ ขณะนั้นมีอายุได้หกสิบปีเศษ พระองค์ก็ตั้งอยู่ในยุติธรรม มิได้มีโลภและหลง เอาพระทัยสอดส่องในกิจราชการใหญ่น้อยทั้งปวง ทรงตัดสินข้อคดีของราษฎรก็ถูกต้องตามกฎหมายแผ่นดิน มิได้มีพระทัยลำเอียงเห็นแก่หน้าบุคคลที่รักและชัง ทรงระวังขุนนางพนักงานไม่ให้ผู้ใดเบียดเบียนราษฎรได้ความเดือดร้อน ไพร่บ้านพลเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาหากินเป็นปกติ หามีเหตุภัยสิ่งใดไม่ ราษฎรพากันสรรเสริญสิ้นทุกพวกทุกเหล่า

ครั้นถึงเทศกาลเข้าปีใหม่พระองค์ก็ให้ตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นบูชา พระมหากษัตริย์และเทพยดาผู้ครองฟ้าและดิน ทรงอธิษฐานว่าตัวข้าพเจ้าผู้ชื่อ หลีซือหงวน ได้เป็นกษัตริย์ครองราชสมบัติในการนี้ ใช่จะเป็นเชื้อวงศ์สืบต่อมาก็หามิได้ ตัวข้าพเจ้าเกิดในแผ่นดินฮวนนอกประเทศจีน หลีจีนอ๋องเอามาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม บัดนี้อายุข้าพเจ้าล่วงมาได้หกสิบสองปีแล้ว ขอให้เทพยดาเจ้าบันดาลให้ผู้มีบุญซึ่งตั้งอยู่ในยุติธรรม มาครอบครองแผ่นดินทำนุบำรุงราษฎรให้เป็นสุขเจริญต่อไป อย่าให้มีภยันตรายเกิดฆ่าฟันประทุษร้ายกันเหมือนแต่ก่อน ๆ

พระเจ้าเหมงจงฮ่องเต้ทรงอธิษฐานดังนั้นทุก ๆ ปีมา เป็นเวลาแปดปี จนพระชนมายุถึงหกสิบเก้าปี.



##########

วารสารฟ้าหม่น
พฤษภาคม ๒๕๔๕



Create Date : 25 กรกฎาคม 2551
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 6:28:06 น. 0 comments
Counter : 52 Pageviews.



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2554 15:18:13 น. 11 comments
Counter : 890 Pageviews.

 
เพิ่งกลับมาจากรพ.ค่ะ พาตัวเองกับเด็กไปหาหมอมา
มนมีความคืบหน้ามาแจ้งค่ะ ว่าจารยืจีติดภารกิจ ในวันอาทิตย์นี้ค่ะ

เพราะเป็นช่วงเด็กใก้ลสอบปลายภาคพอดี แต่ในรายละเอียด เดี๋ยวมนขอหลังไมค์ไปเล่าให้ฟังนะคะ


โดย: มนต้นไม้ (Setakan ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:40:20 น.  

 
แอบกระซิบถามว่าตอนเขียนเรื่องนี้ คุณเจียวต้ายต้องอ่านหรือหาข้อมมูลมากขนาดไหนค่ะ

ถามอย่างนี้ต้องคุยกันยาว เอาแค่สั้นๆก่อนตอนนี้ ถ้ามีโอกาสได้เจอกัน ต้องขอซึมซับข้อมูลช่วงลึกด้วยนะคะ อยากรู้ๆๆ อิๆ


โดย: คนขี้สงสัย (Setakan ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:45:24 น.  

 
จารย์จีเขาบอกมาทางหลังไมค์แล้วว่า เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ว่างครับ
ยังมีเบื้องหลังอีกหรือครับ

เรื่องนิยายอิงพวศาสวดารจีน ไม่มีอะไรมากครับ
ผมมีหนังสือโบราณอยู่ในตู้ ก็เอามาอ่านจนจับความได้
ก็คิดเรียบเรียงใหม่ตามชอบใจ แล้วก็ไปลอกเอาของเก่ามาต่อกัน
แค่นี้เองครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:04:16 น.  

 
อย่าลืมที่หนูหลังไมค์ ไปถามด้วยนะคะ กระซิบๆ แกล้งเพนกวินป่วยแถวๆนี้ให้อยากรู้ๆรู้ ฮ่าๆๆ(ความจริงไม่มีอะไรหรอกเน๊อะๆ)

ดีจังค่ะ ที่ได้ทราบเรื่องงานเขียน บางอย่างพูดเหมือนง่าย แต่กว่าจะกลั่นออกมาได้เป็นเรื่องราวแบบนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้นะคะ น่าภูมิใจแทนค่ะ

ปล. จารย์จีแอบมีหลังมือ เอ้ยหลังไมค์ให้คุ๊เจียวต้ายด้วยอ่ะ นึกว่าจะให้หนูเป็นล่ามอยู่คนเดียวซะแล้ว เห็นเล่าอะไรให้ฟังก็เอาแต่หัวเราะอย่างเดียว เหอๆ


โดย: Setakan วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:33:15 น.  

 
ผมตอบหลังไมค์ไปแล้วครับ เชิญเลือกและนัดได้ตามสะดวก อาทิตย์ที่ ๒๐ ก.พ.ผมจะได้ทำตัวให้ว่างครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:53:39 น.  

 
ได้รับเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ เดี่ยวมนขออนุญาตตอบหลังไมค์อีกครั้งนะคะ

พอดีมีงานเลี้ยงนะคะเพิ่งกลับมาถึง

ปล. นั่นซิค่ะ รอแต่คุณเพนกวินจอมดื้อคนเดียวว่าจะมีคำสั่งอะไรลงมาอีกมั๊ย

แอบกระซิบๆ เพื่อนคุณเจียวต้ายคนนี้ดื้อมาก น่าจับตีก้น ไม่ยอมหายามาทาน ทนเจ็บอยู่ได้ ทานแต่พาราอย่างเดียวเบยค่ะ น่าสงสาร บวกสม...ควร อิๆ


โดย: Setakan วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:44:52 น.  

 
รับทราบครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:42:05 น.  

 
แง่วๆๆ ฟ้องค่ะฟ้อง หาพวก แต่สงสัยจะไม่ได้พวกซะแล้ว แงๆ ล้อเล่นนะคะ

ส่งข่าวค่ะ ว่ายอมกระดืบๆออกไปซื้อยามาทานแล้ว ฮา...ค่อยยังชั่ว


โดย: Setakan วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:48:25 น.  

 
ควรจะไปหาหมอนะครับ ไม่ใช่ซื้อยากินเอง
แล้วปฏิบัติตามที่หมอแนะนำโดยกวดขันครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:04:11 น.  

 
เพนกวินดื้อบอกว่า หายแล้วก็พอ มันน่ามั๊ยค่ะ

ขี้เกียจพูดเตือนแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังเริงร่ากับสาวๆอยู่ค่ะ เลยไม่อยากขัด ได้แต่มองอยู่ห่างๆ ดูว่าเมื่อไหร่จะเป็นอีก หุๆ


โดย: Setakan วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:22:12 น.  

 
ขอขอบคุณคุณอาเจียวต้ายครับ ที่มอบความรักความปรารถนาดีให้ในวันเกิดผม
ขอให้คำอวยพรสนองตอบเป็น 5 เท่านะครับ



โดย: yyswim วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:33:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.