Group Blog
 
All Blogs
 
ทหารเสือแผ่นดินถัง ตอนที่ ๙ ฮ่องเต้คืนเมือง

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๙ ฮ่องเต้คืนเมือง

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ฝ่าย พระเจ้าตงหัวฮ่องเต้ ตั้งแต่เสด็จมาอยู่ที่เมืองไซคีจิว ก็ไม่สบายพระทัย ทรงพระวิตกกลัวจะไม่ได้กลับไปครอบครองเมืองหลวงตามเดิม จึงรับสั่งถามขุนนางถึงเรื่องที่ หลีจีนอ๋อง ยกกองทัพไปรบกับ ฮ่องเฉา อยู่เนือง ๆว่าได้ทีเสียทีประการใด แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบไม่ อยู่มาวันหนึ่ง แต้เถียน ซึ่งเป็นเจ้าเมืองไซคีจิวมาแต่เดิมนั้น กราบทูลว่าได้ใช้ทหารไปสืบข่าวราชการกองทัพหลีจีนอ๋อง ได้ความว่ายกเข้าสู้รบกับทหารฮ่องเฉาหลายครั้ง ทหารหลีจีนอ๋องมีชัยชนะทุกครั้ง บัดนี้ยกกองทัพเข้าไปเกือบจะได้เมืองเชียงอานอยู่แล้ว พระเจ้าตงหัวก็มีพระทัยยินดี

ครั้นนายประตูเข้ามาบอกให้กราบทูลว่า เทียะเปงซือ กับ หลีซุนเฮ้า บุตรเลี้ยงหลีจีนอ๋องที่สิบสาม มาแต่กองทัพจะขอเข้าเฝ้าพระเจ้าตงหัว จึงรับสั่งให้ขุนนางออกมานำเข้ามาเฝ้าถึงหน้าพระที่นั่ง เทียะเปงซือถวายบังคมทูลว่าหลีจีนอ๋องให้มาเชิญเสด็จกลับไปเมืองเชียงอาน แล้วก็กราบทูลเล่าความตามที่ได้สู้รบกับฮ่องเฉา จนฮ่องเฉาตายหลีจีนอ๋องได้เมืองเชียงอาน ให้พระเจ้าตงหัวทรงทราบโดยตลอด

พระเจ้าตงหัวมีพระทัยยินดียิ่งนัก จึงตรัสถามว่าการซึ่งสู้รบกับฮ่องเฉาครั้งนี้ ทหารผู้ใดที่มีฝีมือเข้มแข็ง เป็นที่ยิ่งกว่าทหารทั้งปวง เทียะเปงซือจึงกราบทูลว่า

“……..หลีจีนอ๋องมีบุตรตัวบุตรเลี้ยงอยู่สิบสามคนเป็นทหาร ได้สู้รบกับข้าศึกทุกคน แต่หลีซุนเฮ้าบุตรที่สิบสามซึ่งมากับข้าพเจ้า ได้สู้รบกับข้าศึกมีชัยชนะมาก หามีผู้ใดต้านทานฝีมือได้ไม่……..”

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า

“……….หลีซุนเฮ้านี้ดูรูปร่างแบบบาง ไม่น่าจะเป็นคนมีกำลังแข็งแรง…..”

ตรัสดังนั้นแล้ว ก็สั่งให้เจ้าพนักงานจัดเตรียมการที่จะเสด็จไปเมืองเชียงอาน ครั้นได้วันฤกษ์ดีก็เสด็จออกจากเมืองไซคีจิว

เมื่อขบวนเสด็จของพระเจ้าตงหัวฮ่องเต้ เดินทางมาได้ระยะหนึ่ง ก็พบกองทัพหนึ่งตั้งขวางหน้าอยู่ นายทหารใส่เกราะขี่ม้าถืออาวุธออกมายืนอยู่หน้าทหาร พระเจ้าตงหัวทราบว่ามีกองทัพมาตั้งขวางทางอยู่ก็ตกพระทัย เทียะเปงซือก็กราบทูลว่าซึ่งข้าศึกยกมาตั้งสกัดอยู่นั้น ขอพระองค์อย่าได้ทรงพระวิตก รับสั่งให้หลีซุนเฮ้าออกไปก็จะตีแตกไปได้โดยเร็ว พระเจ้าตงหัวก็รับสั่งกับหลีซุนเฮ้าว่า ท่านจงออกไปรบกับข้าศึกให้เราชมฝีมือสักหน่อยหนึ่ง

หลีซุนเฮ้าก็ถวายคำนับออกมาแต่งตัวขึ้นม้าถืออาวุธ นำทหารไปถึงหน้าขบวนทหารข้าศึกแล้วร้องถามว่า พวกอ้ายโจรมึงจะพากันมาหาที่ตายหรือ จึงได้มาตั้งขวางทางอยู่ดังนี้ นายทหารข้าศึกที่ชื่อ ฮ่องปา ก็ตอบว่า

“………เราเป็นน้องของฮ่องเฉา เรามาตั้งอยู่นี้หมายจะรบกับพวกเจ้าแผ่นดินถัง แก้แค้นแทนฮ่องเฉาผู้พี่เรา…….”

หลีซุนเฮ้าก็ขับม้าเข้ารบกับฮ่องปา ยังไม่ทันถึงเพลงฮ่องปากำลังน้อย ไม่สู้ชำนาญในเพลงอาวุธ ก็ถูกหลีซุนเฮ้าเอาทวนแทงตายซบอยู่กับหลังม้า ทหารของหลีซุนเฮ้าก็เข้าไล่บุกบันฆ่าฟันทหารข้าศึกล้มตายแตกหนีไปสิ้น

พระเจ้าตงหัวเห็นหลีซุนเฮ้ารบได้ชัยชนะแก่ฮ่องปาโดยรวดเร็ว ก็ตรัสชมว่ามีฝีมือกล้าหาญเพลงอาวุธคล่องแคล่วรวดเร็วนัก สมควรเป็นนายทหารเอกหาผู้เสมอมิได้ แล้วจึงทรงตั้งให้หลีซุนเฮ้าเป็นที่องน่ำก๋องทหารเอก แล้วก็รับสั่งให้เคลื่อนขบวนเดินทางต่อไป

เมื่อขบวนเสด็จของพระเจ้าตงหัวฮ่องเต้ เดินทางมาใกล้จะถึงเมืองเชียงอาน เทียะเปงซือก็ให้ม้าใช้รีบเอาข่าวเข้าไปแจ้งแก่หลีจีนอ๋อง เมื่อทราบแล้วหลีจีนอ๋องและขุนนางเจ้าเมืองนายทหารทั้งปวง ก็พากันออกมารับเสด็จนอกเมือง กระทำคำนับถวายบังคมแล้วเชิญให้ประทับอยู่นอกเมืองเป็นเวลาสามวัน เมื่อได้ฤกษ์ดีก็เสด็จเข้าเมืองเชียงอาน ราษฎรตามแถวถนนก็ตั้งเครื่องบูชาตามหน้าตึกหน้าบ้าน ตลอดไปจนถึงประตูพระราชวัง

ครั้นเสด็จเข้าไปในพระราชวัง เห็นพระตำหนักน้อยใหญ่ซึ่งซ่อมแซมและปลูกสร้างขึ้นใหม่ หมดจดงดงามดีกว่าแต่ก่อน ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าหลีจีนอ๋องนี้สมควรเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ทำนุบำรุงแผ่นดิน เมื่อรับสั่งให้พระญาติวงศ์และนางข้างในเข้ามาอยู่ตามตำหนักใหญ่น้อย เป็นปกติดีแล้ว ฮ่องเต้ก็เสด็จออกให้หาหลีจีนอ๋องเข้าไปเฝ้า และตรัสว่า

“……..ครั้งนี้ท่านได้ปราบปรามฮ่องเฉากู้แผ่นดิน ให้แซ่ลี้ได้คงเป็นเจ้าแผ่นดินอยู่ตามเดิมนั้น ความชอบของท่านมากนัก นับว่าเป็นคนมีกตัญญูต่อแผ่นดินวงศ์ถัง ซึ่งเป็นต้นแซ่ของเราสืบ ๆ กันมาทุก ๆ พระองค์ จะหาสิ่งใดทดแทนบุญคุณท่านนั้น ก็ไม่มีที่เป็นอันจะสมควร ท่านจงเอาเมืองเปงจิว เมืองซินจิว เมืองเสียวจิว เมืองซกจิว สี่หัวเมืองไว้เป็นเมืองส่วย ขึ้นกับท่านเถิด…….”

หลีจีนอ๋องก็กราบทูลว่า

“……..ซึ่งข้าพเจ้ากับนายทัพนายกองได้ปราบปรามข้าศึก สำเร็จเรียบร้อยไปได้ดังนี้ ก็เพราะบุญบารมีของพระองค์ซึ่งจะได้คงเป็นกษัตริย์ ปกป้องไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสืบวงค์ถังต่อไป และซึ่งโปรดตั้งให้ข้าพเจ้ากับหลีซุนเฮ้ามียศบรรดาศักดิ์ พระราชทานรางวัลเป็นอันมากนั้นพระคุณเป็นที่ยิ่ง แต่การศึกสงครามซึ่งสำเร็จไปได้ครั้งนี้ ก็เพราะหลีซุนเฮ้าเป็นทหารมีฝีมือคนหนึ่ง การสติปัญญาคิดผ่อนสั้นผ่อนยาว ประมาณการหน้าหลังนั้นคือ จิวเต๊กอุยเป็นต้นมีความชอบมาก พระองค์ก็ยังหาได้ตั้งแต่งพระราชทานบำเหน็จรางวัลไม่……..”

พระเจ้าตงหัวจึงตรัสว่า

“………การทั้งนี้ขุนนางนายทหารที่ได้เหน็ดเหนื่อย มีความชอบมากน้อยประการใด ท่านจงได้ชี้แจงให้เราฟังเถิด จะได้ตั้งแต่งให้ตามสมควร………”

ตรัสดังนั้นแล้ว ฮ่องเต้ก็ตั้งให้จิวเต๊กอุยเป็นที่ไต้สุมาขุนนางผู้ใหญ่ พระราชทานบ้านส่วยเมืองขึ้นให้เป็นบำเหน็จสมควรแก่ความชอบ แล้วรับสั่งให้เจ้าพนักงานยกโต๊ะมาตั้ง เลี้ยงหลีจีนอ๋องและเจ้าเมืองทั้งยี่สิบเจ็ด กับนายทัพนายกองพร้อมกันหน้าที่นั่ง แล้วทรงตรัสปราศรัยกับเจ้าเมืองและนายทัพนายกองทั่วกันไป ครั้นกินโต๊ะเลี้ยงแล้วหลีจีนอ๋องกับเจ้าเมืองทั้งหลาย ก็กราบถวายบังคมลาจะกลับไป ฮ่องเต้จึงตรัสว่า

“………ท่านทั้งปวงได้มาช่วยราชการศึกสงครามครั้งนี้ โดยใจภักดีกตัญญูต่อแผ่นดิน เรามีความขอบใจท่านยิ่งนัก ท่านจงกลับไปรักษาบ้านเมือง ให้มีความสุขเจริญทุก ๆ คนเถิด……….”

ครั้นพระเจ้าตงหัวเสด็จขึ้นแล้ว หลีจีนอ๋องกับเจ้าเมืองทั้งหลายก็ออกมาจัดทหาร ยกกองทัพกลับแยกทางกันไปเมืองของตน หลีจีนอ๋องกลับมาถึงเมืองเปงจิว ก็จัดแจงทำบ้านที่อยู่เป็นปกติแล้ว จึงปรึกษากับหลีซุนเฮ้าว่า

“……..ครั้งนี้พระเจ้าตงหัวชุบเลี้ยงเราทั้งสองให้มียศบรรดาศักดิ์ มีพระคุณเป็นอันมาก เราหาควรจะนิ่งนอนอยู่กับบ้านเมืองไม่ ด้วยบ้านเมืองราชอาณาเขตของพระเจ้าตงหัวนั้น เกิดการระส่ำระสายเพราะฮ่องเฉามาหลายปี บัดนี้พระเจ้าตงหัวก็ได้กลับมาอยู่เมืองหลวงแล้ว หัวเมืองเหล่านั้นจะกระด้างกระเดื่องอยู่บ้าง หรือจะดีเป็นปกติเหมือนแต่ก่อนก็ยังไม่รู้แน่ จำเราทั้งสองจะคุมทหารเป็นกองทัพออกลาดตระเวน ตามหัวเมืองน้อยใหญ่ฟังดูกิจทุกข์สุขของราษฎร จึงจะสมควรกับที่พระเจ้าแผ่นดินชุบเลี้ยงเรา………..”

หลีซุนเฮ้าได้ฟังก็เห็นชอบด้วย จึงจัดทหารแบ่งออกเป็นสองกอง หลีจีนอ๋องคุมพวกหนึ่งไปทางทิศใต้ หลีซุนเฮ้าคุมอีกพวกหนึ่งไปทางฝ่ายเหนือ สัญญาจะไปบรรจบกันที่เมืองเปียนเหลียง ครั้นจัดทหารเสร็จแล้วก็ยกแยกทางกันไป

หลีจีนอ๋องเดินทางตรวจราชการตามหัวเมือง จนไปถึงเมืองเปียนเหลียงก่อน ก็หยุดพักทหารคอยหลีซุนเฮ้าอยู่ที่หน้าเมือง ก็ได้รับหนังสือจาก จูอุน เจ้าเมืองเปียนเหลียงซึ่งเคยขัดเคืองกัน เมื่อครั้งที่จะยกกองทัพไปปราบกบฏฮ่องเฉา หลีจีนอ๋องเปิดผนึกออกอ่านหนังสือนั้นมีความว่า

จูอุนขอคำนับมายังหลีจีนอ่อง ด้วยข้าพเจ้าทราบว่าท่านคุมทหารเที่ยวลาดตระเวน ปราบโจรผู้ร้ายซึ่งเป็นเสี้ยนหนามต่อแผ่นดิน ให้ไพร่บ้านพลเมืองได้มีความสุขสบายนั้น ข้าพเจ้ามีความยินดียิ่งนัก ขอเชิญท่านเข้ามากินโต๊ะในเมืองเปียนเหลียง สนทนากันให้สบายสักเวลาหนึ่ง

หลีจีนอ๋องแจ้งความแล้วก็สั่งให้จัดแจงทหารพอสมควร จะเข้าไปกินโต๊ะในเมืองเปียนเหลียงตามคำเชิญของจูอุน จิวเต๊กอุยจึงพูดกับหลีจีนอ๋องว่า

“……..ตัวท่านกับจูอุนมีสาเหตุบาดหมางกันอยู่ ซึ่งจะเข้าไปในเมืองเปียนเหลียงครั้งนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าจูอุนคงจะคิดทำร้ายท่านเป็นแน่………”

หลีจีนอ๋องก็ว่า

“……..จูอุนกับเราไม่ชอบกันก็จริงอยู่ แต่ครั้งนี้เขาได้มีหนังสือมาเชิญแล้ว ครั้นจะไม่เข้าไป ก็จะเป็นคนขลาดกลัวจูอุนนัก ถ้าเข้าไปแล้วจูอุนจะคิดทำร้ายประการใด ก็คงจะแก้ตัวกลับออกมาได้………”

จิวเต๊กอุยก็พยายามห้ามปราม โดยชักเรื่องโบราณสมัยแผ่นดินเลียดก๊ก ครั้ง กงจูกิก๊อง คิดจะฆ่า อองเหนียว จึงเชิญไปกินโต๊ะที่บ้าน ให้คนใช้ยกจานปลาออกมาตั้ง และซ่อนมีดมาในท้องปลาด้วย เมื่อเอาจานปลามาตั้งชิดตัว กงจูกิก๊องก็ชักมีดจากท้องปลา ออกมาแทงอองเหนียวตาย ทั้ง ๆ ที่มีทหารฝีมือดีมาด้วยเป็นอันมาก แต่ก็ป้องกันไม่ทัน จึงขอให้หยุด ตริตรองให้ดีก่อน

หลีจีนอ๋องได้ฟังก็หัวเราะ แล้วจึงว่า

“……….ท่านพูดทัดทานดังนี้ก็ควรอยู่ แต่เกิดมาเป็นชายชาติทหารแล้ว ก็หากลัวสติปัญญาและอุบายของคนทั้งปวงไม่ ข้าพเจ้าคงจะเข้าไปในเมืองเปียนเหลียงให้จงได้…”

แล้วก็สั่งให้นายทหารเอกสี่คนคุมทหารฝีมือดีสามพัน พากันเข้าไปในเมืองเปียน เหลียง ตามคำเชิญของคู่อาฆาตเก่า โดยยังไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์ เช่นเดียวกับเรื่องโบราณ ซึ่งที่ปรึกษาได้ยกมาเป็นอุทธาหรณ์หรือไม่.


##########

วารสารฟ้าหม่น
มกราคม ๒๕๔๕

Create Date : 23 กรกฎาคม 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 20:33:01 น. 0 comments
Counter : 30 Pageviews.




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 7:00:07 น. 0 comments
Counter : 455 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.