Group Blog
 
All Blogs
 
ทหารเสือแผ่นดินถัง ตอนที่ ๑๒ ฮ่องเต้สิ้นกรรม

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๑๒ ฮ่องเต้สิ้นกรรม

“ เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อ ชั่นเล่งจือ ขึ้นไปบนยอดเขาแล้ว ก็บอกกับ ชันเหลง ชันเฮ้า นายทหารเอกทั้งสองว่า หลีจีนอ๋อง กับ หลีซุนเฮ้า ขึ้นมาแต่สองพ่อลูกหามีทหารติดตามมาไม่ อาวุธสำหรับมือก็ไม่ได้มี จงรีบไปจับเอาตัวฆ่าเสีย ทั้งสองก็บอกว่าหลีซุนเฮ้าเป็นคนมีฝีมือเข้มแข็งนัก ข้าพเจ้าสองคนกลัวจะจับไม่ได้ ชั่นเล่งจือจึงว่าตัวมีอาวุธสำหรับถือทั้งสองแล้วสิ จะมากลัวคนไม่มีอาวุธเล่า การเป็นทีแล้วจงเร่งไปจับฆ่าเสียเถิด

ชันเหลงชันเฮ้าก็ขับม้าถืออาวุธ รีบลงมาจะฆ่าสองพ่อลูก หลีซุนเฮ้าเห็นดังนั้นก็ตกใจกระโดดขึ้นม้าชักถอยห่างออกไป ชันเฮ้าจึงขับม้าสอึกเข้าไปแทง หลีซุนเฮ้าหลบได้เอามือคว้าจับทวนชันเฮ้ากระชากได้ แล้วเอาทวนแทงถูกชันเฮ้าตาย ชันเหลงเห็นชันเฮ้าถูกอาวุธก็ขับม้ารำง้าวเข้าไปช่วย หลีซุนเฮ้าก็ร้องตวาดด้วยเสียงอันดัง ชันเหลงตกใจเสียที หลีซุนเฮ้าก็เอาทวนแทงตกจากหลังม้าตายตามไปอีกคนหนึ่ง

ฝ่าย หลีขี พระราชบุตรของพระเจ้าตงหัวฮ่องเต้ เห็นหลีซุนเฮ้าฆ่าชันเหลงชันเฮ้าตายทั้งสองคน ก็ตกใจคิดจะหนีไปก็กลัวจะไม่พ้น จึงแข็งใจเข้าไปพูดกับหลีจีนอ๋องว่า

“………พระเจ้าตงหัวพระราชบิดาของข้าพเจ้า ก็มีพระทัยรักใคร่ชุบเลี้ยงท่านถึงขนาดแล้ว ประการหนึ่งพระเจ้าตงหัวก็มิได้มีความขัดเคืองสิ่งไรท่าน เหตุใดเล่าท่านจึงได้มาคิดเป็นกบฏดังนี้……..”

หลีจีนอ๋องจึงว่า

“……..ข้าพเจ้าจะได้เป็นกบฏประทุษร้ายต่อพระเจ้าตงหัวนั้นหามิได้ ข้าพเจ้ายกกองทัพมาครั้งนี้ ก็จะกำจัดข้าศึกศัตรู ป้องกันรักษาพระเจ้าตงหัว ให้พ้นภัยอันตราย เหตุใดท่านจึงมาว่าตัวขัาพเจ้าเป็นกบฏดังนี้เล่า………”

หลีขีจึงเล่าความตามที่ชั่นเล่งจือกราบทูลพระเจ้าตงหัว จนพระเจ้าตงหัวหนีออกจากเมืองเชียงอาน มาอยู่บนเขาเกยปอซัว ชั่นเล่งจือให้เชิญเสด็จขึ้นไปอยู่บนยอดเขาหลายวัน หามีผู้ใดได้เฝ้าพบปะไม่ เดี๋ยวนี้จะเป็นประการใดก็ไม่รู้

หลีจีนอ๋องได้ฟังดังนั้นก็มีความโกรธยิ่งนัก จึงใช้ให้คนลงไปตามทหารเชิงเขาขึ้นมา แล้วให้ไปจับตัวชั่นเล่งจือมาได้ หลีจีนอ๋องจึงถามว่า

“…….เหตุใดตัวเอาความเท็จผูกพันใส่โทษเราว่าเป็นกบฏ ทูลพระเจ้าตงหัวให้ขัดเคืองเรา แล้วแต่งอุบายพาพระเจ้าตงหัวหนีทิ้งเมืองเสีย มากักขังไว้ที่เขานี้………”

ชั่นเล่งจือก็อิดเอื้อนหารับตามความจริงไม่ หลีจีนอ๋องจึงสั่งทหารให้แหกปาก ลากลิ้นชั่นเล่งจือออกมาจะตัดเสีย ชั่นเล่งจือกลัวเจ็บก็แจ้งความตามจริงว่า คบคิดกับจูอุนจะชิงราชสมบัติ จึงพาพระเจ้าตงหัวขึ้นไปข้างบนเขา และให้ชันเหลงชันเฮ้าช่วยกันบีบพระศอจนถึงแก่สวรรคตไปแล้ว แล้วชั่นเล่งจือก็โดดไปเอาศรีษะกระแทกศิลาจะให้ตาย

หลีจีนเฮ้าจึงให้ทหารจับตัวมาผ่าปากลากลิ้นตัดตัวแขนขา เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ทิ้งเรี่ยรายไป

แล้วหลีจีนอ๋องกับหลีขีพระราชบุตร ก็พาขุนนางขึ้นไปบนยอดเขา เห็นซากศพพระเจ้าตงหัวฮ่องเต้ทรุดโทรมอยู่กับแผ่นดิน ต่างก็พากันร้องไห้เศร้าโศกบ่นคร่ำครวญไปว่า การซึ่งเป็นดังนี้ก้เพราะฮ่องเต้หลงชุบเลี้ยงชั่นเล่งจือ อันเป็นคนโลภหาประมาณมิได้ ให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ สำเร็จราชการแผ่นดิน ชั่นเล่งจือก็กระทำความผิดเพื่อปกปิดความผิดเป็นชั้น ๆ จนถึงปลงเสียซึ่งพระชนม์พระมหากษัตริย์ อันเป็นเจ้านายผู้มีคุณเป็นที่สังเวชอนาถใจนัก

ครั้นค่อยคลายความโศกเศร้าลงแล้ว จึงสั่งให้นายช่างเอาไม้หอมมาทำหีบใส่พระศพฮ่องเต้ แล้วก้เชิญพระศพพาพระราชบุตรพระญาติวงศ์และขุนนางกลับมาเมืองเชียงอาน เมื่อถึงเมืองหลวงแต่งการพระศพฮ่องเต้ตามอย่างพระมหากษัตริย์สำเร็จเรียบร้อยแล้ว หลีจีนอ๋องจึงประชุมขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ปรึกษาพร้อมกันยกให้ไท้จือหลีขีพระราชบุตรใหญ่ขึ้นเป็นกษัตริย์ ถวายพระนามว่า พระเจ้าถังเจียวจงฮ่องเต้

พระเจ้าถังเจียวจง จึงให้เจ้าพนักงานจัดเงินทองและแพรเป็นอันมาก มาพระราชทานให้เป็นบำเหน็จรางวัลแก่หลีจีนอ๋อง แล้วทรงปรึกษาการแต่งตั้งขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ครบที่ตามตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว หลีจีนอ๋องก็กราบถวายบังคมลาพรเจ้าถังเจียวจง กลับไปอยู่เมืองเปง จิวตามเดิม

หลีจีนอ๋องรักษาเมืองเปงจิวอยู่มาอีกนาน ก็ได้รับหนังสือจาก งักเอียงจินเจ้าเมืองทองไถ แจ้งว่าจูอุนยกกองทัพมาล้อมเมืองทองไถไว้ ด้วยเหตุจะแย่งชิง นางยูฉุย บุตรหญิงของ เฮงตัด เจ้าเมืองชังจิว ให้แต่งงานกับ จูอิวเตียน บุตรคนโตของจูอุน แต่เฮงตัดได้ยกนางให้แก่ งักซุนฮุย บุตรชายของตน จึงเกิดรบพุ่งฆ่าฟันกันขึ้น และว่า

“………บัดนี้จูอุนยกกองทัพมาล้อมเมืองทองไถไว้ ทแกล้วทหารข้าพเจ้าที่จะรักษาเมืองก็น้อยตัว ขอท่านได้เมตตายกกองทัพมาช่วยป้องกันเมือง ซึ่งเป็นข้าขอบขัณฑเสมาของพระเจ้าถังเจียวจงไว้ อย่าให้ต้องไปเป็นเมืองเชลยของจูอุนเสียเลย………”

หลีจีนอ๋องก็ให้หลีซุนเฮ้าเป็นแม่ทัพหน้า ตนเองคุมทัพหลวงออกจากเมืองเปงจิว ไปถึงเมืองทองไถก็ตั้งค่ายลงที่ชัยภูมิอันมั่นคง จูอุนก็ก็ใส่เกราะขึ้นม้าถืออาวุธนำทหารออกไปประจันหน้ากับหลีจีนอ๋อง เมื่อเห็นจูอุนยกมาหลีจีนอ๋องก็ร้องออกไปว่า

“……ตัวท่านเป็นขุนนางพระเจ้าแผ่นดินถัง ชุบเลี้ยงให้มาครองเมืองเปียนเหลียง ก็เป็นเมืองใหญ่อยู่แล้ว ท่านยังมีจิตคิดกำเริบไม่อิ่มในอิสริยยศ ตั้งตัวขึ้นเป็นอ๋องแล้วไม่อยู่ในยุติธรรม ประพฤติทุจริตคิดแย่งชิงเอาเมียเขา แล้วมิหนำซ้ำยกกองทัพมาตีเอาบ้านเมืองเขาอีกเล่า และการที่ท่านประพฤติดังนั้นหาใช่ปัญญามนุษย์ไม่ เหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน………”

จูอุนได้ฟังดังนั้นก็มีความโกรธยิ่งนัก หาพูดจาโต้ตอบประการใดไม่ ขับม้าเงื้อทวนเข้าไปจะแทงหลีจีนอ๋อง หลีซุนเฮ้าก็ขับม้าเข้ามาสกัดสู้รบกับจูอุนทันที จูอุนเห็นหลีซุนเฮ้าก็ตกใจเหมือนหนึ่งเนื้อเห็นเสือหนูเห็นแมว รีบชักม้าพาทหารกลับเข้าค่ายไป แล้วก็สั่งทหารทั้งปวงว่า

“……..เรายกมาตีเมืองทองไถก็ช้านานแล้ว ยังหาได้ชัยชนะไม่ บัดนี้หลีจีนอ๋องยกมาช่วยเป็นสองแรงเข้า เห็นจะไม่ได้เมืองทองไถ จำเราจะเลิกทัพกลับไปเมืองเปียนเหลียง ทำนุบำรุงทแกล้วทหาร ให้มีกำลังบริบูรณ์ แล้วจึงยกมาตีเมืองทองไถให้จงได้ ท่านทั้งปวงจงตระเตรียมบอกกันให้รู้ทั่วเถิด ว่าเราจะเลิกทัพกลับไปในเวลาค่ำวันนี้…….”

ครั้นถึงเวลาค่ำจูอุนก็นำทัพออกเดินกลับไป ทหารทั้งหลายก็พากันตื่นตกใจว่าหลีซุนเฮ้ายกทหารติดตามมา ก็รีบหนีแตกตื่นเบียดเสียดเหยียบกันล้มตายเป็นอันมาก ข้าวของและเสื้อเกราะเครื่องศาตราวุธตกทิ้งเรี่ยรายไปตามทาง ต่อพ้นแดนเมืองทองไถมาแล้วจึงได้สงบเรียบร้อยเดินเป็นปกติ

ฝ่ายงักเอียงจินแจ้งว่าหลีจีนอ๋องยกทัพมาถึง และจูอุนเลิกทัพหนีไปแล้ว ก็มีความยินดีเปิดประตูเมืองออกมาคำนับ เชิญหลีจีนอ๋องและหลีซุนเฮ้าเข้าไปในเมือง แล้วให้แต่งโต๊ะเลี้ยงดูกันเป็นที่รื่นเริง งักเอียงจินก็สรรเสริญว่า

“……..จูอุนยกกองทัพมาตีเมืองทองไถครั้งนี้ด้วยความโกรธ ทำศึกขับเคี่ยวกันอยู่ช้านาน ถ้าท่านไม่ยกมาช่วยแล้ว ที่ไหนจูอุกจะเลิกกลับไปโดยง่าย บุญคุณของท่านครั้งนี้มีอยู่กับข้าพเจ้าเป็นอันมาก ขอเชิญท่านหยุดพักทหารอยู่ในเมืองสักสองสามเวลาก่อน จึงค่อยกลับไป….”

หลีจีนอ๋องก็พักอยู่สองสามวัน แล้วก็ลางักเอียงจิน เลิกทัพกลับไปเมืองเปงจิว

ฝ่ายจูอุนกลับมาถึงเมืองเปียนเหลียงแล้ว ก็ไม่มีความสบายคิดโกรธแค้น งักเอียงจิน และหลีจีนอ๋องยิ่งนัก จึงปรึกษากับขุนนางนายทหารหาทางที่จะแก้แค้น กัวะซองจิว ก็คิดอุบายว่า พระเจ้าถังเจียวจงได้เสวยราชย์ครั้งนี้ บรรดาเจ้าเมืองทั้งปวงก็เข้าไปเฝ้าถวายบังคมทั้งสิ้น เหลืออีกห้าเมืองที่ยังหาได้ไปไม่ จึงให้จูอุนทำหนังสือเป็นรับสั่งฮ่องเต้ ไปขู่เข็ญว่าจะให้หลีจีนอ๋อง ยกทัพไปปราบปรามฆ่าเจ้าเมืองและขุนนางทั้งห้านั้นให้สิ้น

เจ้าเมืองห้อตง เมืองฮัวจิว เมืองเช่าจิว เมืองเอี้ยวจิว และเมืองฮุนจิว ได้รับหนังสือรับสั่งปลอมแล้วก็พากันตกใจ ต่างปรึกษาหารือกันว่าครั้งนี้ภัยอันตรายคงจะมาถึงเราทั้งห้าเมืองแล้ว ผู้ใดจะมีความคิดประการใดจึงจะรักษาเมืองไว้ได้ จูอุนทราบความก็ทำหนังสือเป็นไมตรี เชิญเจ้าเมืองทั้งห้าไปให้มาที่เมืองเปียนเหลียง

ครั้นมาถึงพร้อมกันแล้ว จูอุนก็ต้อนรับพูดจาเกลี้ยกล่อม เชิญให้กินโต๊ะเสพสุราเป็นที่สบาย แล้วจึงว่า

“……..หลีจีนอ๋องตั้งตัวเป็นใหญ่มีใจกำเริบ คิดจะปราบปรามหัวเมืองทั้งปวงให้อยู่ในอำนาจ เมืองท่านทั้งห้านี้ได้ให้ขุนนางไปมาหาหลีจีนอ๋องอยู่บ้างหรือไม่…….”

เจ้าเมืองทั้งนั้นก็ว่าครั้งนี้พระเจ้าถังเจียวจง สงสัยลงเอาข้าพเจ้าทั้งห้าหัวเมืองนี้ว่าเป็นกบฏ จะให้หลีจีนอ๋องยกกองทัพมาปราบปราม พวกข้าพเจ้ามีความวิตกนักจึงได้พากันมาหาท่าน ขอเอาบุญบารมีอำนาจท่านเป็นที่พึ่งกันภัยอันตราย จูอุนจึงยุว่า

“……..พระเจ้าถังเจียวจงจะลงโทษท่านทั้งห้าเมืองนี้ ก้เพราะเชื่อถืออำนาจหลีจีนอ๋องว่าไม่มีใครเสมอสู้รบได้ ถ้าท่านมาร่วมคิดกับเราตัดทอนอำนาจหลีจีนอ๋องเสียได้แล้ว ก็จะสิ้นภัยอันตรายซึ่งจะมีมาแต่พระเจ้าถังเจียวจง…….”

เจ้าเมืองทั้งห้าก็ยอมเข้าเป็นพวกจูอุนทั้งสิ้น แล้วแต่จะคิดอย่างไรก็ยอมตัวให้ใช้ทุกอย่าง จูอุนจึงให้เจ้าเมืองเหล่านั้นกลับไปเกณฑ์ทหารตระเตรียมเครื่องศาตราวุธ รวบรวมสะสมเสบียงอาหารไว้ให้พร้อม เมื่อถึงกำหนดนัดให้ยกกองทัพมาประจบกัน ไปตีเมืองเปงจิวทำลายล้างหลีจีนอ๋องเสียให้จงได้ เจ้าเมืองทั้งห้าก็คำนับลากลับไปเตรียมการตามคำของจูอุน.

##########

วารสารฟ้าหม่น
มีนาคม ๒๕๔๕

Create Date : 23 กรกฎาคม 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 20:29:26 น. 0 comments
Counter : 43 Pageviews.



Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2554 14:05:35 น. 5 comments
Counter : 527 Pageviews.

 
ชื่อจีนจำยากจังค่ะ ขยันอัพจังนะคะเนี่ย สงสัยต้องเอาเยี่ยงบ้างแล้วฮาาาา



โดย: Setakan วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:46:07 น.  

 
"กระซิบอย่าลืมนะครับ." กระซิบอะไรค่ะ
ถ้าหมายถึงให้ หนูบอกจารย์จีเรื่องนักดวนขวดกันอีกหรือเปล่าค่ะ

ถ้าใช่เรื่องนั้น ด้วยความยินดีค่ะ

ปล. เพิ่งเห็นนะคะ เลยขออนุญาตยกมาตอบที่นี่เลยละกัน


โดย: Setakan วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:49:11 น.  

 
เรื่องนี้ดูวันที่จะรู้ว่าผมวางไปนานแล้ว แต่คราวนี้จะย้ายกลุ่มน่ะครับ
เลยมีผลพลอยได้เพิ่มขึ้น คือผู้อ่านนึกว่าเป็นเรื่องใหม่เมื่อเห็นว่าไม่เคยอ่าน ก็เลยแวะเข้ามาครับ

เรื่องที่กระซิบนั้นเห็นหลังไมค์เช้านี้แล้วครับ
ผมตั้งใจจะชวนคุณแต่ไม่แน่ใจว่าเหมาะสมหรือไม่ จึงรอให้อาจารย์เขาชวนเองครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:21:23 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่นึกถึงหนู ด้วยความยินดีค่ะ

ความจริงจารย์จีไม่ได้ชวนหนูหรอกค่ะ หนูเองแหละที่พูดแบบเบ็ดเสร็จว่าจะขอตามไปเอง ฮา..(เพราะพี่เค้าเคยชวนเอาไว้นานแล้ว ป่านนี้อาจจะลืมไปแล้วดวยมั้งคะ)

หนูเลยฉวยโอกาสตอนพี่ชายปวดขา เลยเถียงไม่ทัน สรุปเอาเองเลยอ่ะค่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ได้น้ำเหลืองๆกลั้วปาก พี่เค้าจะคุยไม่หยุดเลยเชียวอิๆ) แอบนินทราผู้ใหญ่ จะบาปมั๊ยเนี่ยเรา...แหะๆ

ปล. ถ้าได้คำตอบที่แน่นอนของจารย์จีเมื่อไหร่ จะรีบติดต่อกลับไปเลยค่ะ


โดย: setakan IP: 183.89.113.201 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:56:34 น.  

 
ขอบคุณครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:55:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.