Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๑ สงครามตั้งเค้า

ทหารกล้าแผ่นดินฮั่น

ตอนที่ ๑๑ สงครามตั้งเค้า “

เล่าเซี่ยงชุน “

ชายคนที่ทหารบอกว่าเป็นผู้ฉีกประกาศ ตามหาตัวนางแบ๊ลวนเองน้องสาวของยวดซิมอ๋อง ก็บอกกับยวดซิมอ๋องว่า ตนแซ่แบ๊ชื่อหยง เดิมบิดามารดาตั้งบ้านเรือนค้าขายหากิน อยู่ในเขตแดนเมืองเซียงอาน ครั้นภายหลังบิดามารดาตายตนเองยากจนลง จึงได้มาอาศัยอยู่กับอา ที่มาทั้งนี้ก็หมายจะขอเอาบุญบารมียวดซิมอ๋องเป็นที่พึ่งต่อไป ขออย่าได้ถือโทษที่ฉีกประกาศเสียเลย

แล้วก็เล่าเรื่องที่ตนเข้าไปล่าสัตว์ในป่า แล้วพบนางแบ๊ลวนเองนอนสลบเพราะกัดลิ้นตัวเอง อยู่ที่เชิงเขาใต้ต้นไม้ใหญ่ จึงเอากลับไปรักษาพยาบาลที่บ้าน ซึ่งอยู่กับนางเกียงสีผู้ภรรยา และมีหลวงชีคนหนึ่งมียารักษาจนหายเป็นปกติ และฝึกหัดเพลงอาวุธให้นางแบ๊ลวนเอง จนชำนิชำนาญ วันนี้มาเที่ยวยิงเนื้อในป่า พบหนังสือประกาศที่ปิดไว้ริมทาง รู้ว่ายวดซิมอ๋องตามหาตัวนางแบ๊ลวนเอง จึงกลับบ้านไปบอกให้รู้ และพานางมารออยู่ที่หน้าค่าย

ยวดซิมอ๋องก็มีความยินดียิ่งนัก รีบพาแบ๊หยงกับนายทหารออกไป รับน้องสาวเข้ามาในค่าย นางก็คำนับยวดซิมอ๋องแล้วก็ร้องไห้ เล่าความที่ตกทุกข์ได้ยากมาแต่เดิม จนแบ๊หยงพาไปเลี้ยงไว้ให้ฟังถ้วนถี่แล้วก็บอกว่า แบ๊หยงกับภรรยามีคุณแก่ตนมากนัก ยวดซิมอ๋องก็บอกว่า ที่นางได้ความทุกข์ครั้งนี้เป็นความผิดของตนเอง และต้องสู้รบกับหลวงจีนกิวเลงถึงสองครั้งทแกล้วทหารล้มตายเสียหนักหนา ภายหลังลิวซูคิดอุบายปลอมเข้าไปฆ่าหลวงจีนกิวเลงเสียได้ บุญคุณของลิวซูก็มีแก่เราเป็นอันมาก

ลิวซูกับนายทหารทั้งปวงก็เข้ามาคำนับนางแบ๊ลวนเอง พูดจาไต่ถามถึงความทุกข์สุขกันตามธรรมเนียม แล้วยวดซิมอ๋องจึงสั่งให้แบ๊หยงไปรับนางเกียวสีภรรยา เข้ามาอยู่เสียด้วยกัน แบ๊หยงก็เก็บรวบรวมทรัพย์สิ่งของ พาภรรยามาอยู่กับนางแบ๊ลวนเองในค่ายบนเขาปวยง่อเหนีย

ยวดซิมอ๋องก็สั่งนายทัพนายกอง ให้เตรียมการที่จะเลิกทัพกลับเมืองหลวง แต่นางแบ๊ลวนเองขอร้องว่าให้ตนตั้งลุยไถลองฝีมือเพลงอาวุธก่อน ยวดซิมอ๋องก็ไม่เห็นด้วย ว่าเป็นผู้หญิงจะตั้งลุยไถเป็นการผิดธรรมเนียม แบ๊หยงก็กล่าวว่าการตั้งลุยไถนั้นจะประสงค์ผลประโยชน์สิ่งใดก็หามิได้ แต่อาจารย์ของนางแบ๊ลวนเองสั่งไว้ ให้ลองเพลงอาวุธผู้มีฝีมือในแผ่นดิน และจะได้รู้ว่าผู้ใดเป็นคู่สร้างของนาง

ลิวซูก็ไม่เห็นด้วยพูดว่า

“…….ท่านกล่าวดังนี้ไม่ถูก ชอบแต่จะกลับไปเมืองเซียงอาน สืบหาบุตรเจ้านายและขุนนางที่มีสติปัญญาและฝีมือ ตกแต่งการงานตามประเพณีจึงจะควร……….”

นางแบ๊ลวนเองและแบ๊หยงก็ยืนยันจะตั้งลุยไถตามคำอาจารย์ให้ได้ ยวดซิมอ๋องก็ไม่เชื่อว่านางแบ๊ลวนเองจะมีฝีมือเพลงอาวุธ ที่จะเอาชนะผู้ที่มาขึ้นลุยไถได้ ลิวซูก็ว่า

“……..เวลาค่ำวันนี้เดือนหงายแจ่มสว่าง ขอท่านจงให้นางแบ๊ลวนเองรำเพลงอาวุธให้ดู ถ้าเห็นว่าคล่องแคล่วว่องไวจริงจึงให้ตั้งลุยไถ ถ้าเห็นไม่ควรก็เลิกกลับไปเสีย…….”

ยวดซิมอ๋องก็เห็นด้วย จึงให้คนใช้ยกโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงดูกันเป็นที่สบาย แล้วคืนนั้นนางแบ๊ลวนเองก็รำเพลงอาวุธให้ทุกคนดู นางก็รำได้คล่องแคล่วว่องไว ดุจดังสิงโตฝึกหัดให้ลูก บรรดาขุนนางนายทหารที่ดูอยู่นั้นพร้อมกันสรรเสริญว่า ฝีมือเพลงอาวุธนี้ดีหนัหนา ถึงหากว่าอาจารย์ที่ฝึกสอนมาแต่ก่อน ๆ นั้นก็สู้ไม่ได้ เห็นทีเทพยดาจะฝึกหัดให้เป็นแน่

ครั้นเวลารุ่งเช้ายวดซิมอ๋องจึงเขียนหนังสือใบบอกให้เปากัง ถือไปถึงลิวบ๋ายบิดาของลิวซูที่เมืองเซียงอาน แล้วก็ให้ลีหงไปเบิกข้าวเสบียงตามหัวเมืองขึ้น มาเลี้ยงดูทหารทั้งสามกองทัพ และขอยืมเงินจากโซบู๊เจ้าเมืองมาซื้อหญิงสาวใช้ ซึ่งบิดามารดายอมขายโดยสุจริต มาให้นางแบ๊ลวนเองยี่สิบคน นางถามหญิงเหล่านั้นว่าสมัครใจจะอยู่ด้วยหรือ นางเหล่านั้นก็ว่าพวกตนเป็นคนอดอยากขัดสน ซึ่งได้มาอยู่กับท่านครั้งนี้ เปรียบเหมือนทารกกำลังหิวอ่อน ได้มาพบรส น้ำนมของมารดา จึงมีความยินดีนัก ยอมสมัครอยู่ให้ท่านใช้ไปกว่าจะหาชีวิตไม่ นางแบ๊ลวนเองก็ดีใจ ฝึกหัดเพลงอาวุธให้หญิงคนใช้เหล่านั้น จนชำนิชำนาญคล่องแคล่วทุกคน

ฝ่ายพระเจ้าฮั่นบู๊ฮ่องเต้วันหนึ่งเสด็จออกว่าราชการ ลิวบ๋ายได้นำใบบอกของยวดซิมอ๋องให้เปากังนำมาให้นั้นขึ้นถวาย ฮ่องเต้ทรงรับมาเปิดทอดพระเนตรมีความว่า

ข้าพเจ้ายวดซิมอ๋องขอกราบทูลให้ทราบ ด้วยมีรับสั่งโปรดให้ข้าพเจ้าไปตามหา ลิวซูฮู่ม้านั้น ก็พบปะแล้ว ซึ่งข้าพเจ้ายังไม่ได้เข้ามาเมืองเซียงอานนั้น เพราะด้วยมีผู้คิดทำร้ายนางแบ๊ลวนเองน้องสาวข้าพเจ้า ต้องสู้รบกับหลวงจีนกิวเลง ทแกล้วทหารล้มตายเสียหนักหนา ภายหลังลิวซูคิดอุบายฆ่าหลวงจีนกิวเลงตายแล้ว แต่บัดนี้นางแบ๊ลวนเองผู้น้องข้าพเจ้า จะขอตั้งลุยไถลองฝีมือเพลงอาวุธ ข้อซึ่งข้าพเจ้าพาทหารไปล้มตายเสียนั้น มีโทษผิดมาก ขอให้ลดหย่อนยศข้าพเจ้าให้น้อยลงกว่าเก่าจึงจะควร

ฮ่องเต้อ่านหนังสือสิ้นข้อความแล้ว ก็ทรงพระสรวลตรัสปรึกษาขุนนางแล้ว ต่างก็กราบทูลว่า ซึ่งยวดซิมอ๋องบอกมานั้น ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับแผ่นดิน เป็นขุนนางตงฉินโดยแท้ ชอบแต่เลื่อนให้มียศใหญ่ขึ้นไปอีกจึงจะควร ฮ่องเต้ได้ทรงฟังก็เห็นชอบด้วย จึงรับสั่งให้ลิวบ๋ายพาเปากังผู้ถือหนังสือเข้ามาเฝ้า เมื่อทรงตรัสถามได้ความว่า เปากังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับ ยวดซิมอ๋อง และลิวซู รักใคร่กันสนิทเหมือนหนึ่งร่วมบิดามารดาเดียวกัน จึงตั้งให้เปากังเป็นแม่ทัพหน้า ให้ยวดซิมอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการฝ่ายทหาร โปรดอนุญาตว่าจะทำการสิ่งใด ซึ่งเป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ถึงไม่กราบทูลพระเจ้าแผ่นดินก็ไม่ถือโทษ และอนุญาตให้นางแบ๊ลวนเองตั้งลุยไถ โดยให้ลิวซูเป็นผู้กำกับลุยไถด้วย

ขุนนางพนักงานทำตราตั้งแล้วก็เอาเข้าไปถวาย ฮ่องเต้ทรงรับทอดพระเนตรแล้วประทับตราสำหรับแผ่นดิน เข้าผนึกมอบให้เปากังถือกลับไปให้ยวดซิมอ๋อง เปากังก็ถวายบังคมลากลับมาบ้าน ลิวบ๋ายจึงสั่งให้ไปบอกลิวซูว่า แม้นการลุยไถสำเร็จแล้วให้รีบกลับโดยเร็ว เปากังก็เดินทางกลับไปที่ค่ายเขาปวยง่อเหนีย มอบหนังสือรับสั่งและตราตั้งให้ยวดซิมอ๋อง ทราบแล้วก็มีความยินดีด้วยกันทุกคน

ต่อมาลิวซูก็ส่งคนไปหาเตียวเหาที่เขาอึงเถ้าซัว ให้ยกพลย้ายมาอยู่ที่เขาปวยง่อ เหนีย เตียวเหาจึงให้นางแบ๊สีผู้ภรรยา กับนางลิวเอ๋งภรรยาของลิวซู เก็บรวบรวมทรัพย์สิ่งของที่ดี มีราคาพอสมควร และให้ลิ่วล้อทั้งปวงเก็บทรัพย์สมบัติทั้งหลายเรียบร้อยแล้ว ก็จุดเพลิงเผาที่อยู่อาศัยเสียสิ้น และออกเดินทางจากเขาอึงเถ้าซัว

เมื่อถึงเขาปวยง่อเหนีย ยวดซิมอ๋องก็ออกไปคอยต้อนรับ นำผู้อพยพเข้าไปในค่าย แล้วก็ไต่ถามทุกข์สุขกันตามธรรมเนียม นางลิวเอ๋งก็มาหาลิวซูร้องไห้สอึกสอื้น และเล่าเรื่องตั้งแต่หนีบู๊ไต้หยงผู้พี่มาเจอหลวงจีนเต้าเฉงจับไปขังไว้ แล้วเตียวเหาไปช่วยแก้ออกมา จนพาไปเลี้ยงดูอยู่ที่เขาอึงเถ้าซัว ทั้งช่วยออกตามหาลิวซูจนพบด้วย แล้วว่าถ้าไม่ได้เตียวเหาที่ไหนจะได้มาเห็นหน้าลิวซู บุญคุณของเตียวเหามีอยู่เป็นอันมาก

เตียวเหาก็ถ่อมตัวว่า เมื่อเวลาท่านเคราะห์ร้ายก็เผอิญเป็นไปต่าง ๆ ครั้นสิ้นเคราะห์แล้วจึงได้พบกัน ซึ่งจะยกเอาบุญคุณขึ้นมาว่านั้นไม่ควร ยวดซิมอ๋องได้ฟังจึงว่า

“……..ใช่เตียวเหาจะมีคุณแก่นางลิวเอ๋งผุ้เดียวเมื่อไร ถึงแก่เราเขาก็มีอยู่มาก ถ้ากลับไปถึงเมืองเซียงอาน จะกราบทูลพระเจ้าฮั่นบู๊ฮ่องเต้ ขอให้เป็นที่มียศศักดิ์ตามสมควรแก่กำลังและสติปัญญา…….”

เตียวเหาก็ว่าตนเป็นคนอยู่ตามเขาและป่า ไม่รู้จักขนบธรรมเนียมราชการ แต่ได้มาเป็นคนใช้ของท่านเท่านี้ก็ดีอยู่แล้ว ยวดซิมอ๋องก็มิได้ตอบแต่ประการใด ให้ยกโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงดูกัน เป็นที่รื่นเริงทุกคน แล้วก็ให้สร้างลุยไถเพื่อให้นางแบ๊ลวนเองได้ทดลองฝีมือหาคู่ต่อไป

จะกล่าวถึงหลวงจีนผู้วิเศษผู้หนึ่งชื่อฮุนฮงเหลา อยู่ที่เขาโก๊เล่าซัว ประพฤติแต่การสุจริตมิได้คิดเบียดเบียนผู้ใด ให้ได้ความเดือดร้อน แต่มีศิษย์เอกอยู่สามคนคือ หลวงจีนกิมเลง กับ พกเตาอัน และ เนียบฮวบเสง ซึ่งไปตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เขาจงน่ำซัว วันหนึ่งหลวงจีนฮุนฮงเหลานั่งแหงนหน้าดูท้องฟ้าแล้วก็ถอนใจใหญ่ พกเตาอันจึงถามว่าท่านมีความวิตกทุกข์ร้อนด้วยสิ่งอันใดหรือ อาจารย์จึงบอกว่า

“………ลิวซูกับเตียวเหาฆ่าหลวงจีนกิวเลงซึ่งเป็นศิษย์ที่รักของเราตายเสียแล้ว แต่หลวงจีนกิวเลงไม่อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนเรา ประพฤติการทุจริตต่าง ๆ จึงต้องตายด้วยคมอาวุธ เราจะพลอยโกรธขึ้งเขาด้วยหรือก็ไม่ควร ซึ่งเราถอนใจใหญ่นั้น ด้วยคิดถึงว่าแต่เดิมหลวงจีนกิวเลง ได้ทำความดีไว้แก่เราอยู่บ้าง……..”

พกเตาอันได้ฟังก็นึกโกรธจึงพูดว่า

“………ซึ่งลิวซูเตียวเหาฆ่าหลวงจีนกิวเลงผู้เป็นศิษย์นั้น อาจารย์จะนิ่งเฉยเสียไม่เจ็บร้อนบ้างหรือ ข้าพเจ้าจะขอไปแก้แค้นแทนหลวงจีนกิวเลง ฆ่าลิวซูเตียวเหาเสียให้ได้…….”

หลวงจีนฮุนฮงเหลาก็ว่า

“…….หลวงจีนกิวเลงควรถึงที่ตายอยู่แล้ว เจ้าอย่าคิดวุ่นวายไปเลย จงรักษาตัวประพฤติแต่การสุจริตให้ตลอดเถิด……..”

แต่พกเตาอันไม่เชื่อฟังอาจารย์ คิดจะแก้แค้นแทนเพื่อนศิษย์ให้จงได้ จึงพิเคราะห์ดูยามตามตำรา ก็รู้ว่าคุดตงเสงเป็นศัตรูกับยวดซิมอ๋องและลิวซู บัดนี้ตั้งตนเกลี้ยกล่อมผู้คนมาฝึกเพลงอาวุธ อยู่ที่เขาตังเพาซัว เพื่อจะไปกำจัดยวดซิมอ๋องกับลิวซู จึงหนีออกจากเขาโก๊เล่าซัว เดินทางไปสามิภักดิ์อยู่กับคุดตงเสง ที่เขาตังเพาซัวในเวลาค่ำวันนั้นเอง

เมื่อพบกับคุดตงเสงแล้ว พกเตาอันก็บอกว่า

“………ข้าพเจ้าแซ่พกชื่อเตาอัน เป็นศิษย์หลวงจีนฮุนฮงเหลาอยู่ที่เขาโก๊เล่าซัว ข้าพเจ้าเห็นว่าท่านมาตั้งอยู่เขาตังเพาซัวนี้ เป็นชัยภูมิดีควรจะตั้งตัวขึ้นเป็นอ๋อง คิดยกกองทัพไปตีเมือเซียงอาน ก็คงจะได้ชัยชนะโดยง่าย………”

คุดตงเสงก็มีความยินดีพูดว่า

“………ข้าพเจ้าเตรียมการมานานแล้ว แต่หาผู้มีสติปัญญาและฝีมือเป็นนายทัพหน้ายังไม่ได้ ก็ต้องงดรออยู่ ท่านรู้เหตุผลอย่างไรหรือ จึงได้มาพูดดังนี้………”

พกเตาอันก็ว่าตนได้ฝึกเพลงอาวุธ และขบวนศึกสงคราม ทำกลอุบายมากมายหลายอย่าง แล้วก็รำเพลงอาวุธให้ดู คุดตงเสงกับพวกบริวารทั้งหลายก็มีความเลื่อมใส คุดตงเสง จึงตั้งให้เป็นกุนซือ ที่ปรึกษาและให้บังคับบัญชาการงานสิทธิ์ขาดทั้งสิ้น แล้วให้คนยกโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงต้อนรับ พกเตาอันก็ไถ่ถามถึงไพร่พลและเสบียงที่มีอยู่ เพื่อคิดการศึกสงครามต่อไป คุดตงเสงก็ว่า นายทหารและทหารเลวมีประมาณหมื่นเศษ แต่เสบียงอาหารยังน้อยนัก พกเตาอันก็ว่าถ้าดังนั้นยังคิดการใหญ่ไม่ได้ ท่านจงให้นายกองคุมทหารยกไปเที่ยวตีปล้นบ้านเล็กเมืองน้อย รวบรวมเสบียงอาหารกวาดต้อนครอบครัวราษฎรมาไว้ให้มากก่อน จึงค่อยคิดอ่านภายหลัง

คุดตงเสงก็เห็นชอบด้วย จึงสั่งให้นายทหารคุมพลยกไปทำตามที่พกเตาอันแนะนำทุกประการ จนมีไพร่พลและเสบียงอาหารเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก ก็มีใจกำเริบตั้งตัวขึ้นเป็นงุยอ๋อง และตั้งให้มกหยงเป็นแม่ทัพ เตรียมพลจะยกไปตีเมืองเซียงอาน ความทราบถึงเจ้าเมืองกุยเต๊กจึงทำหนังสือใบบอกให้ม้าใช้ถือไปถวายฮ่องเต้ที่เมืองเซียงอาน เพื่อคิดอ่านปราบปรามต่อไป.

###########

ฟ้าหม่น วารสารของทหารม้า
พฤษภาคม ๒๕๕๑



Create Date : 12 กรกฎาคม 2551
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 18:55:42 น. 3 comments
Counter : 413 Pageviews.

 
ขอนอกเรื่องนิดนึง คุณตามีเชื้อสายจีนบ้างรึเปล่าค้าบ เห็นชอบวรรณกรรมจีนและสามารถจดจำชื่อยากๆได้อีกตะหาก


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:22:02 น.  

 
หนูอ้อหาความเห็นตัวเองไม่เจอ

มาธุสวัสดีคุณเจียวต้ายอย่างเป็นทางการค่ะ
แล้วหนูอ้อก็ add บล็อกคุณเจียวต้ายไปแล้วนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:03:42 น.  

 
เรื่องอิจฉาริษยาเล็กน้อย ดันกลายเป็นสงครามใหญ่ได้
ไม่น่าเชื่อเลยคนเรา


โดย: kira7 IP: 203.144.144.164 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:31:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.