Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๓ ชายกลายเป็นหญิง

ทหารกล้าแผ่นดินฮั่น

ตอนที่ ๓ ชายกลายเป็นหญิง

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ขณะเมื่อลิวซูกำลังตกใจกลัวว่า ตนจะพ้นจากความตายหรือไม่นั้น เอียบสิหยงก็บอกว่า

“………รูปร่างท่านงดงามสีหน้าและลักษณะเหมือนสตรี ท่านจงเอาเสื้อกางเกงแต่งตัวปลอมเป็นผู้หญิง ให้เราพาไปขายไว้กับชาวบ้านสักสี่ห้าวัน แล้วตามแต่ปัญญาของท่านเถิด แต่เมื่อขณะว่าราคากันนั้น ท่านอย่าได้พูดประการใด ตามแต่เราจะว่ากล่าว ถ้าทำได้ดังนี้แล้วจึงจะพ้นโทษ……”

ลิวซูได้ฟังจึงนึกว่าถ้าตนไม่ยอมก็คงตายเป็นแน่ จึงพูดว่าจะให้ทำอย่างไร ตนก็จะปฏิบัติตามใจทุกอย่าง เอียบสิหยงจึงเอาเสื้อกางเกงและรองเท้าสำหรับสตรี มาสวมใส่ให้ลิวซู แล้วชมว่า แต่งตัวแล้วงามเหมือนหญิงเพิ่งรุ่นสาว น่าเสน่หารักใคร่ แล้วให้ชื่อว่า นางกุ้ยหวย และให้เรียกตนเองว่าลุง ครั้นจัดแจงสั่งเสียเสร็จแล้ว พอเวลารุ่งสว่างหาข้าวปลาอาหารกินกันแล้ว เอียบสิหยงก็พานางกุ้ยหวยหญิงปลอม ออกจากบ้านไปถึงริมคลอง เห็นเรือเท้งจอดอยู่ ก็แวะลงไปดู

เจ้าของเรือเป็นหญิงนักเลง ชื่อนางอาจับเจ๋ ชอบคบชู้สู่ชายหาผลประโยชน์เลี้ยงชีวิต ด้วยการอัปมงคล พอเห็นเอียบสิหยงพาหญิงสาวมาด้วยคนหนึ่ง ก็มีความยินดีเชิญนั่งในที่สมควร แล้วให้คนใช้ยกน้ำชามาเลี้ยง และถามว่าวันนี้มีธุระสิ่งใด จึงได้พากันมาที่นี่

เอียบสิหยงก็ทำเป็นเศร้าโศกบอกว่า

“……..พี่เขยพี่สาวข้าพเจ้าตายเมื่อเวลาวานนี้ทั้งสองคน ไม่มีเงินทองจะทำบุญในการฝังศพ นางกุ้ยหวยหลานข้าพเจ้าคนนี้มีกตัญญู คิดจะสนองคุณบิดามารดา ยอมให้ข้าพเจ้าพามาขายสักสองร้อยตำลึง แต่ไม่ทราบว่าท่านจะชอบใจหรือไม่…….”

นางอาจับเจ๋พิเคราะห์ดูนางกุ้ยหวย เห็นรูปร่างลักษณะดี กิริยาก็เรียบร้อย ผิวพรรณผ่องใส จึงเรียกหญิงนักเลงที่อยู่ในเรือออกมาเก้าคน หญิงพวกนั้นเห็นนางกุ้ยหวยพากันชมว่า หญิงนี้งดงามนักพวกเราไม่มีใครสู้ได้ นางอาจับเจ๋จึงถามว่าอายุได้เท่าไร จะขอให้สักร้อยห้าสิบตำลึง จะยอมหรือไม่ เอียบสิหยงก็ว่า

“……..อายุได้สิบหกปี ยังไม่รู้จักขนบธรรมเนียมสิ่งใด เมื่อท่านจะให้ร้อยห้าสิบตำลึง ข้าพเจ้าก็ต้องยอมรับด้วยเป็นคราวขัดสน แต่ขอท่านได้เมตตาช่วยสั่งสอนด้วย……”

นางอาจับเจ๋ก็รับรองว่า

“……..ข้อนั้นท่านอย่าวิตก ถ้าอยู่ด้วยกันแล้ว ข้าพเจ้าก็รักเหมือนบุตร……”

พูดแล้วก็หยิบเอาเงินมาให้เอียบสิหยงร้อยห้าสิบตำลึง เอียบสิหยงก็เขียนหนังสือขายมอบตัวนางกุ้ยหวยให้นางอาจับเจ๋ แล้วก็รับเงินคำนับลากลับไป นางอาจับเจ๋จึงให้นางกุ้ยหวยไปอยู่ในท้ายเรือ

บรรดาหญิงขายตัวที่ลิวซูหรือนางกุ้ยหวยได้เห็นหน้านั้น มีอยู่คนหนึ่งที่จำได้ว่าเคยได้รู้จักพูดจากันมาก่อน แต่นึกชื่อไม่ออกและไม่กล้าถามเพราะมีคนอยู่มาก พอเวลาค่ำหญิงทั้งปวงต่างก็รับผู้ชายเข้าไปอยู่ในห้องของตัวหมดแล้ว เวลาดึกประมาณยามเศษนางผู้นั้นก็เข้ามาในห้องของนางกุ้ยหวย และพูดว่า

“……..ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูท่านเหมือนผู้ชาย แต่เดิมอยู่ที่เมืองลกเอี๋ยงไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงมาค้าขายตัวอยู่ดังนี้เล่า…….”

ลิวซูถอนใจใหญ่แล้วก็เล่าความ ตามที่ตนถูกพวกกังฉินคิดร้าย จนต้องหนีมาและถูกเอียบสิหยงบังคับให้ปลอมเป็นหญิง และเอามาขายให้นางอาจับเจ๋ แล้วก็ถามว่าตัวท่านเราก็จำหน้าได้แต่ลืมชื่อไป นางก็บอกว่าชื่อกิมเหนียว เป็นญาติห่าง ๆ กับลิวซู ถูกหญิงผู้หนึ่งล่อลวงมาเมื่อเดือนห้าขึ้นสิบสามค่ำ ขณะที่ตนไปเที่ยวดูงานลอยกระทงตามคลอง แล้วก็นำมาขายไว้กับนาง อาจับเจ๋ จึงถูกเคี่ยวเข็ญเฆี่ยนตีให้คบชู้สู่ชายเหมือนหญิงทั้งปวง แต่อยู่มามีชายผู้หนึ่งชื่อเตียวอ๋วน มาขอผูกขาดไปเดือนหนึ่ง โดยให้เงินนางอาจับเจ๋สิบตำลึง ตนจึงยอมรับแต่เตียวอ๋วนผู้เดียว และแนะนำว่าลิวซูจะต้องอดทนอยู่สักสี่ห้าวันก่อน อย่าเพิ่งให้ผู้ใดรู้ว่าเป็นชาย ตนจะช่วยหาเงินให้ซื้อเสบียงกินตามทางบ้างเล็กน้อยจึงค่อยหนีไป ลิวซูก็ดีใจบอกว่าถ้าตนได้ไปถึงเมืองหลวง คงจะคิดอ่านกลับมาสนองคุณนางกิมเหนียวให้จงได้ นางนั้นก็กลับไปห้องของตน

อยู่มาไม่นานก็มีชายคนหนึ่งชื่อบู๊ไต้หยง ทำมาหากินอยู่ในเมืองเซียงเอี๋ยง มีภรรยาชื่อนางพัวสี แต่ป่วยมานาน บู๊ไต้หยงไม่มีความสบายใจ จึงจ้างเรือไปเที่ยวดูผู้หญิงเล่นตามคลองหลายแห่งก็ไม่ชอบ พอมาถึงเรือเท้งของนางอาจับเจ๋ นางเชื้อเชิญให้ค้างในเรือ บู๊ไต้หยงก็ว่าถ้ามีหญิงรูปงามชอบใจก็อยู่ ถ้าไม่มีก็จะเลยไปที่อื่น นางอาจับเจ๋ก็ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งเพิ่งมาได้สามวัน ยังไม่เคยคบผู้ชาย จะเรียกมาให้ดูตัว

แล้วนางอาจับเจ๋ก็เดินมาที่ท้ายเรือบอกกับนางกุ้ยหวยว่า

“……..ค่ำวันนี้เห็นจะขายของดีมีกำไรมาก ด้วยบู๊ไต้หยงเขาเป็นคนมั่งมีรูปร่างก็ยังหนุ่มงดงามพอสมกับเจ้า จงออกไปให้เขาเห็นตัวสักหน่อย…….”

นางกุ้ยหวยก็ว่าตนเป็นหญิงสาว ไม่ควรจะคบค้าสมาคมกับชายชั่วเช่นนี้ นางอาจับเจ๋ก็โกรธพูดว่า เมื่อมาขายตัวแล้วต้องเชื่อฟังถ้อยคำตน ซึ่งจะขัดขวางดังนี้ไม่ได้ พูดแล้วก็ทุบตีเอาเป็นอันมาก บู๊ไต้หยงได้ยินเสียงก็วิ่งเข้ามาห้ามปรามแล้วว่า

“……..เขาเป็นคนยาก ถ้าเคี่ยวเข็ญดังนี้ เขามีความขัดแค้นมากขึ้นฆ่าตัวให้ตาย หรือหลบหนีไปเสียแล้ว เงินของท่านจะไม่สูญเปล่าหรือ ท่านจงเอาแต่เงินเดิมคืนเถิด ข้าพเจ้าจะช่วยไถ่เอาไปไว้ใช้ที่บ้าน พอได้เป็นเพื่อนกับภรรยาข้าพเจ้า……..”

นางอาจับเจ๋ก็ว่าช่วยไว้เป็นเงินสองร้อยตำลึง เมื่อท่านต้องการก็ตามใจ บู๊ไต้หยงว่าวันนี้มีเงินมาเพียงสามสิบตำลึง จึงวางมัดจำไว้ก่อน รุ่งขึ้นก็เอามาให้นางอาจับเจ๋อีกร้อยเจ็ดสิบตำลึง ครบจำนวนแล้ว ก็พานางกุ้ยหวยกลับมาบ้าน บอกกับภรรยาว่า เราเห็นเจ้าไม่สบายก็ไปช่วยสาวใช้มาให้ปฏิบัติคนหนึ่ง

นางพัวสีเดินออกมาดู เห็นนางกุ้ยหวยมีรูปร่างจริตกิริยางดงาม ก็คิดว่าบู๊ไต้หยงเห็นว่าตนมีอายุมากปรารถนาจะทอดทิ้งเสีย จึงได้ไปช่วยเอานางกุ้ยหวยมาเป็นภรรยาน้อย จึงบอกกับสามีว่า

“……..ข้าพเจ้าไปหาซินแสหมอดูเขาทายว่า ตัวท่านในปีนี้เคราะห์ร้ายนัก จะมีศัตรูมากระทำย่ำยีญาติพี่น้องซึ่งอยู่ในบ้าน ข้าพเจ้าเห็นว่านางกุ้ยหวยนี้มีอัชฌาสัยเรียบร้อย ควรจะให้ไปอยู่กับนางลิวเอ๋งน้องสาวท่าน พอได้เป็นเพื่อนพูดจาปรึกษาหารือกันจึงจะชอบ ด้วยนางลิวเอ๋งเป็นสาวอยู่เรือนห่างกันกับเรา………”

บู๊ไต้หยงจึงต้องจำยอมตามใจภรรยาไม่กล้าขัดขวาง นางพัวสีจึงไปบอกให้นาง ลิวเอ๋งมารับเอาตัวนางกุ้ยหวยไปอยู่ด้วย บู๊ไต้หยงก็สั่งว่า

“……เขาพึ่งมาใหม่ไม่รู้จักขนบธรรมเนียม จะผิดสิ่งใดค่อยพูดจาสั่งสอนกันแต่โดยดี อย่าเฆี่ยนตีเขาให้ได้ความเจ็บอาย………”

นางลิวเอ๋งก็รับคำแล้วพานางกุ้ยหวยไปถึงเรือน จูงมือขึ้นไปบนเหลาสูงอันเป็นที่อยู่ และถามชื่อแซ่ นางกุ้ยหวยก็แกล้งทำเสียงเหมือนผู้หญิงบอกชื่อแซ่แล้วว่า

“……..ข้าพเจ้ามาถึงบ้านท่าน ค่อยมีความสุขสบายมาก ข้าพเจ้าขอฝากตัวเป็นบ่าวท่าน สุดแต่ท่านจะเมตตาใช้สอยเถิด อย่าได้มีความรังเกียจเลย…….”

นางลิวเอ๋งก็สั่งให้คนใช้ยกโต๊ะอาหารและสุรามาเลี้ยงบนเหลา แล้วก็ปิดประตูนั่งกินอยู่กับนางกุ้นหวยสองคน นางกุ้ยหวยอดอยากมาหลายวัน จึงกินสุราเพลินไปจนเมาเหลือกำลัง ลงนอนหลับอยู่กับโต๊ะ นางลิวเอ๋งให้คนใช้มายกโต๊ะ และช่วยกันพยุงยกนางกุ้ยหวยขึ้นไปนอนบนเตียง

ขณะนั้นเป็นเวลาพลบค่ำ นางลิวเอ๋งเห็นเสื้อชั้นในเป็นของผู้ชาย แต่ดูไม่ถนัดจึงจุดไฟมาส่อง พิเคราะห์ดูรูปร่างลักษณะผิวพรรณ ก็เป็นคนมีตระกูลมิใช่ไพร่ เอามือคลำดูที่อกไม่เห็นมีนมก็ตกใจ ร้องตวาดด้วยเสียงอันดังว่า

“………ผู้ชายแกล้งแต่งตัวปลอมเป็นผู้หญิงมาลวงขายอยู่กับเรา จะบอกแก่บู๊ไต้หยงพี่เรา ให้เอาตัวไปทำโทษ เฆี่ยนตีเสียให้แทบตาย…….”

นางกุ้ยหวยตกใจตื่น รีบลงจากเตียงคุกเข่าคำนับแล้วว่า ขอจงได้เมตตาช่วยตนด้วย ตนชื่อลิวซูเป็นฮู่ม้า พวกขุนนางกังฉินคิดจะฆ่า จึงต้องหนีภัยพเนจรมาถึงนี่ แล้วก็เล่าเรื่องราวทั้งปวงให้นางลิวเอ๋งฟังทุกประการ นางลิวเอ๋งก็ทดลองให้ต่อคำโคลงบทหนึ่ง ลิวซูก็ต่อได้ดี นาง ลิวเอ๋งจึงยอมเชื่อว่าเป็นฮู่ม้าจริง แต่ต้องระวังตัวให้ดีอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้ ตนจะช่วยคิดอ่านแก้ไขเอง ลิวซูก็มีความยินดีจัดแจงจุดโคมไฟให้สว่างแล้วก็เข้านอน นางลิวเอ๋งก็เอาผ้ารัดเอวไว้ให้มั่นคง แต่ก็นอนไม่ใคร่หลับ ด้วยระวังตัวกลัวลิวซูจะมาพูดจาเย้ายวนกวนใจ

ครั้นเวลารุ่งเช้า นางลิวเอ๋งก็เรียกบู๊อั้นคนใช้ของบู๊ไต้หยง ออกไปที่สวนดอกไม้แล้วสั่งว่า

“…ท่านได้เมตตาสงเคราะห์เรา เข้าไปในเมืองเซียงอาน สืบดูให้รู้แน่ว่าลิวซูที่เป็นฮู่ม้า พวกขุนนางกังฉินคิดทำอันตราย แล้วหนีไปนั้นจะจริงเหมือนคำเล่าลือหรือไม่ แต่ความเรื่องนี้ถ้ากลับมาถึงแล้ว ท่านอย่าได้พูดจาให้ผู้ใดรู้ ถ้าบู๊ไต้หยงถามก็จงบอกว่าเราใช้ให้ไปบ้านลุง……”

แล้วนางก็ให้เงินไปซื้อเสบียงกินตามทางห้าสิบตำลึง บู๊อั้นก็คำนับลาไป ส่วนนางลิวเอ๋ง ก็กลับเข้าบ้าน ให้คนใช้ตักน้ำมาให้นางกุ้ยหวยล้างหน้าแล้วบอกว่า

“……นางกุ้ยหวยที่มาอยู่ใหม่นั้น เขาเป็นบุตรขุนนางตงฉิน เพิ่งมาตกยากอยู่กับเรา ซึ่งจะหมิ่นประมาทเขานั้นมิได้ ต่อไปภายหน้าเผื่อมีบุญวาสนาขึ้น เราจะได้พึ่งเขาบ้าง ตั้งแต่วันนี้เจ้าจงจัดหาข้าวปลาอาหารและน้ำชา ส่งขึ้นมาบนเหลาจงทุกเวลา อย่าให้ขาดได้…….”

สาวใช้ก็คำนับรับคำ แล้วลงจากเหลาไปจัดการตามคำสั่ง พอลิวซูล้างหน้าแล้ว นางลิวเอ๋งจึงบอกว่า เราอยู่กินด้วยกันบนเหลานี้ แต่อย่ามานอนร่วมเตียงกับตน ถ้าบู๊ไต้หยงและนางพัวสีขึ้นมาแล้ว จงทำกิริยาพูดจาให้เหมือนผู้หญิงไว้ก่อน อย่าเพิ่งให้ผู้ใดรู้ ลิวซูก็รับว่าจะปฏิบัติตามที่สั่งทุกประการ อย่ามีความวิตกเลย.

###########

ฟ้าหม่น วารสารของทหารม้า
มกราคม ๒๕๕๐












Create Date : 05 กรกฎาคม 2551
Last Update : 5 กรกฎาคม 2551 8:57:46 น. 5 comments
Counter : 1360 Pageviews.

 
มาเยี่ยมเยือนค่ะคุณตาเจียวต้าย


โดย: teansri วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:03:19 น.  

 
อิอิอิ เกือบไปซะแล้วสิ สนุกดีค้าบคุณตา ไม่ได้แวะมาอ่านเรื่องของคุณตานานมาก แต่ยังไม่ลืมคุณตานะค้าบ แง๊วววว


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก IP: 202.123.145.203 วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:29:08 น.  

 
ขอบคุณทั้งสองท่านครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:41:47 น.  

 
เรื่องจะเป็นไงต่อนะ


โดย: kira7 IP: 203.144.144.164 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:12:35 น.  

 
มีต่อเปล่าค่ะนี่ สนุกดี


โดย: ผู้ผ่านทาง IP: 223.207.251.21 วันที่: 30 กันยายน 2556 เวลา:2:52:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.