Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๐ พบเพื่อน

ทหารกล้าแผ่นดินฮั่น

ตอนที่ ๑๐ พบเพื่อน

” เล่าเซี่ยงชุน “

ฝ่ายฮั่นทงซึ่งเคยร่วมมือกับคุดตงเสงขุนนางกังฉิน วางแผนฆ่าลิวซูฮู่ม้า และให้ คุดหอง บุตรของคุดตงเสงปลอมเป็นฮู่ม้าแทน แต่ถูกจับได้และส่งตัวไปขังคุกไว้ คุดตงเสงกับขันทีพรรคพวกคือ มีหงวนและกีก้ำ จึงพากันหนีออกจากเมืองเซียงอาน ไปซ่องสุมผู้คนอยู่ที่เขาตังเพาซัว แต่ครั้งนั้นฮั่นทงไม่ได้ร่วมทางไปด้วย คงหนีแยกไปอีกทางหนึ่ง

เมื่อออกจากเมืองเซียงอานแล้ว ฮั่นทงก็ปลอมตัวเปลี่ยนชื่อเป็นกุยจู๊ ไปตั้งโรงเตี๊ยมอยู่ที่ตำบลซังเถาฉี วันที่ลิวซูเดินทางมาถึงเวลาค่ำ จะหาที่พักแรม ฮั่นทงจำได้ว่าเป็นลิวซูฮู่ม้า ที่ตนให้เตียวเตียนและลีหงเอาตัวไปฆ่าเสีย แต่เหตุใดจึงรอดมาได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ถามชื่อแซ่และว่ามีธุระสิ่งใดจึงได้มาทางนี้ ลิวซูจำฮั่นทงไม่ได้จึงบอกว่า ตนชื่อเฮงซู ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เขาปวยง่อเนีย จะมาหาซินแสขงไต้เผง ฮั่นทงก็ว่าเวลาจวนจะพลบค่ำแล้ว จงหยุดพักที่โรงเตี๊ยมนี้ก่อนเถิด ต่อเวลาพรุ่งนี้จึงค่อยไป

ลิวซูก็ยินดีพาคนใช้สองคนเข้าไปในโรงเตี๊ยม ฮั่นทงยกน้ำชามาให้กิน แล้วขอเวลาไปเที่ยวหาซื้อสุราและเครื่องกับข้าวมาทำให้กิน เมื่อทำอาหารเสร็จแล้วก็เอายาพิษใส่ในสุรา ยกเอามาเลี้ยงลิวซูกับคนใช้ ทั้งสามต่างเสพสุรากินอาหารอยู่ครู่หนึ่ง พิษยากลุ้มขึ้น ลิวซูกับคนใช้ก็มึนเมาจนไม่ได้สติล้มนอนอยู่ที่นั่น ฮั่นทงเข้าปลุกสั่นร้องเรียกก็มิได้รู้สึกตัว นอนนิ่งเหมือนชีวิตดับสูญแล้ว ก็มีความยินดีจึงเอา เอาผ้าห่อหุ้มมิดชิดแล้วเอาเชือกมัดให้มั่นคง และอุ้มลิวซูผู้เดียวใส่เกวียนซึ่งเช่ามาจากชาวบ้าน แล้วก็ขับเกวียนไปทางเขาตังเพาซัว เพื่อจะเอาตัวลิวซูไปให้คุดตงเสง คู่อาฆาตเก่าจัดการต่อไป จนรุ่งสว่างก็หยุดพักหาอาหารกิน แล้วก็เดินทางต่อ

ฝ่ายเตียวเตียนซึ่งพักรักษาพยาบาลลีหงอยู่ที่โรงเตี๊ยม ระหว่างทางที่จะไปตามหาลิวซู เป็นหลายเวลา พอโรคค่อยคลายหายขึ้น ก็ชวนกันออกจากโรงเตี๊ยมนั้นเดินทางต่อไป จนวันนี้เวลากลางวันก็เห็นฮั่นทงขับเกวียนมาแต่ผู้เดียว จึงเรียกให้หยุดเพื่อให้ลีหงซึ่งหายไข้ยังไม่แข็งแรงได้อาศัยนั่งไปด้วย ฮั่นทงจำเตียวเตียนกับลีหงได้ เพราะเคยอยู่กับคุดตงเสงมาด้วยกัน ก็สั่นศรีษะ ทำเป็นคนใบ้ไม่พูดจาประการใด เตียวเตียนก็โกรธจึงเดินเข้าไปสกัดหน้าและยึดเกวียนไว้ จึงจำได้ว่าคนขับเกวียนคือฮั่นทง ก็ร้องบอกลีหงว่าเราพบคนร้ายเข้าที่นี่แล้ว ฮั่นทงก็ตกใจพูดว่า

“……..ท่านทั้งสองว่าเราเป็นคนร้ายนั้น ผิดตัวไปดอกกระมัง เราชื่อกุยจู๊ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลซังเถาฉี มิได้ทำความผิดสิ่งใดเลย……..”

เตียวเตียนก็ว่า

“……..ท่านกับเราถึงจะตายไปเป็นผี ก็ยังจำกันได้แน่นอน……”

ลีหงจึงว่ากับเตียวเตียนว่าอย่าพูดมากไปเลย ช่วยกันจับมัดเสียโดยเร็วเถิด แล้วทั้งสองก็ช่วยกันจับฮั่นทงมัดไว้ แล้วเห็นห่อผ้าวางอยู่บนเกวียนผิดประหลาด คิดสงสัยจึงแก้ออกดู ก็เห็นลิวซูนอนนิ่งอยู่ร้องเรียกก็ไม่ขาน เตียวเตียนก็โกรธชักกระบี่ออกเดินตรงมาจะฆ่าฮั่นทงเสีย ฮั่นทงตกใจร้องว่า

“…….ท่านอย่าทำอันตรายแก่ข้าพเจ้าเลย เวลาสองโมงเช้าพรุ่งนี้ ลิวซูก็คงจะฟื้นเป็นปกติดอก………”

ลีหงก็ว่าถ้าดังนั้นเราจะพาไปพัก ที่เขาปวยง่อเหนียก่อน แล้วทั้งสองก็เอาตัว ฮั่นทงขึ้นเกวียน ขับไปจนเวลาจวนค่ำถึงต้นไม้ใหญ่เชิงเขา ก็หยุดพักเอาตัวฮั่นทงมัดไว้กับต้นไม้ แล้วหาข้าวปลาอาหารสู่กันกิน ถึงกลางคืนก็ผลัดกันเฝ้านักโทษอยู่ จนรุ่งสว่าง พอถึงเวลาสายประมาณสองโมงเช้า ก็เข้าไปคลำตัวลิวซูเห็นยังอุ่นอยู่ก็ดีใจ ขณะนั้นลิวซูก็ถอนใจใหญ่ได้สติและลืมตาขึ้น เห็นเตียวเตียนกับลีหงก็ถามว่า ตั้งแต่พบเสือจนพลัดกันแล้วท่านไปอยู่แห่งใด ไม่ได้ข่าวคราวเลย

เตียวเตียนกับลีหงก็เล่าความตามเรื่องที่ป่วย จนมาจับตัวฮั่นทงไว้ได้ แล้วถามว่าเหตุใดจึงได้ถูกฮั่นทงจับตัวมัดใส่เกวียนมาดังนี้ ลิวซูก็เล่าความตั้งแต่ได้ไปพบเตียวเหานายโจร ซึ่งช่วยเหลือนางลิวเอ๋งภรรยาไว้ แล้วตามหายวดซิมอ๋องจนคิดอุบายฆ่าหลวงจีนกิวเลง ซึ่งจับตัวนางแบ๊เลวนเองน้องสาวของยวดซิมอ๋องไว้ แล้วตนเดินทางจะไปหาซินแสขงไต้เผง ให้จับยามดูว่านางแบ๊ลวนเองเป็นตายร้ายดีประการใด จึงมาพบกับกุยจู๊ แล้วถามว่าเดี๋ยวนี้กุยจู๊อยู่ที่ไหน

เตียวเตียนก็บอกว่ากุยจู๊ก็คือฮั่นทง และเอาตัวมาให้ดู ลิวซูก็จึงว่า

“…….เจ้าคิดอุบายจะทำอันตรายเรา ให้ถึงแก่ชีวิตครั้งหนึ่งแล้ว บัดนี้จะจับตัวเราส่งไปข้างไหนอีกเล่า………”

ฮั่นทงแก้ตัวว่า

“………ข้าพเจ้าจะพาไปส่งให้บิดาท่าน ณ เมืองเชียงอาน จะได้แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันกับนางตกเอี๋ยงกงจู๊…..”

ลิวซูได้ฟังก็หัวเราะพูดว่า

“……….ครั้งนี้ท่านมีความรักใคร่ต่อเรามาก เราก็จะทดแทนสนองคุณให้เห็นปรากฎบ้าง…….”

แล้วก็สั่งให้เตียวเตียนกับลีหงเอาตัวไปตัดศรีษะเสีย ทั้งสองก็คุมตัวฮั่นทงไปตามคำสั่ง แล้วก็ว่า

“……..ยวดซิมอ๋องหายไปช้านานแล้ว จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ เชิญท่านรีบกลับไปเมืองเซียงอานก่อนเถิด จึงค่อยคิดอ่านกลับมาตามต่อภายหลังก็คงจะพบ……..”

ลิวซูก็ว่า

“………เราวิตกอยู่ด้วยนางแบ๊ลวนเองผู้น้องยวดซิมอ๋อง ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตายประการใด ต้องไปเที่ยวหาซินแสพิเคราะห์ดูให้รู้เหตุ จะได้สิ้นห่วง……..”

ทั้งสองได้ฟังก็เห็นชอบด้วย พากันออกเดินจากเชิงเขาไปแต่เช้าจนเวลาเที่ยง ถึงศาลเจ้าแห่งหนึ่งอยู่ในป่า พอดีฝนตกหนักทั้งสามนายจึงเข้าไปพักหลบฝนในศาลเจ้า เห็นรูปเซียนผู้หนึ่งเป็นเทพารักษ์หญิงตั้งอยู่ในศาล แต่ไม่มีผู้ใดพิทักษ์รักษา พักอยู่ชั่วครู่ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาที่ศาลเจ้า ลิวซูจำได้ว่าเป็นเอียบสิหยง จึงสั่งให้เตียวเตียนกับลีหงจับตัวไว้ เอียบสิหยงก็ชักกระบี่ออกต่อสู้ แต่ไม่ช้าก็ถูกทั้งสองนายฟันคอขาดตายกลิ้งอยู่กลางศาลเจ้า เตียวเตียนกับลีหงจึงถามลิวซูว่าให้ฆ่าชายคนนี้ด้วยเหตุใด ลิวซูก็เล่าว่าเป็นผู้ที่บังคับให้ตนแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วนำตัวไปขายให้แก่นางอาจับเจ๋ หัวหน้าหญิงหากิน จนตนเองต้องระเหเร่ร่อนมาถึงบัดนี้ แล้วลิวซูก็ให้หามศพไปทิ้งไว้นอกศาลเจ้าเสีย

ขณะนั้นฝนยังตกหนักอยู่ ทั้งสามจึงหาข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงกัน จนพลบค่ำก็นอนค้างอยู่ที่ศาลเจ้านั้น ครั้นรุ่งเช้าก็ออกเดินทางต่อไปได้ประมาณสิบลี้ ก็ได้ยินสียงม้าล่อและกลองรบดังเซ็งแซ่มาในป่า ก็ตกใจเข้าแอบหลังต้นไม้คอยดูอยู่ข้างทาง พอใกล้เข้ามาจึงเห็นว่าเป็นกองทัพใหญ่ยกมาเป็นขบวน ธงทัพหน้าจารึกชื่อเปากัง ทัพที่สองจารึกชื่อฬ่อเซง ที่สามชื่อ เจียะยุโฮ ลิวซูก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง บอกกับเตียวเตียนและลีหงว่า เป็นกองทัพของเพื่อน ยวดซิมอ๋องทั้งสามทัพ

พอทัพหน้ามาถึงลิวซูก็สั่งพวกทหารว่า ไปบอกกับนายท่านเถิดว่าเราชื่อลิวซูฮู่ม้า มาคอยอยู่ที่นี่ เมื่อทหารไปบอกแล้วเปากังก็มีความยินดีเป็นอันมาก สั่งหยุดทัพและให้ทหารทำที่พัก แล้วเชิญลิวซูเข้าไปคำนับกันตามธรรมเนียม เมื่อยวดซิมอ๋องกับฬ่อเซงและเจียยุโฮตามมาถึง ก็คำนับกันด้วยความยินดี ต่างก็ไต่ถามลิวซูว่าเหตุใดจึงได้มาอยู่ที่นี่

ลิวซูกับเตียวเตียนลีหงก็เล่าเรื่องของตน ให้ทุกคนฟังตั้งแต่ต้นจนปลาย ยวดซิม อ๋องได้ทราบว่าหลวงจีนกิวเลงตายแล้ว ก็มีความยินดียิ่งนัก พูดว่า

“……..ข้าพเจ้ารบกับหลวงจีนกิมเลง ก็ปราชัยพ่ายแพ้มาถึงสองครั้ง ตัวท่านชำนาญแต่การฝ่ายบุ๋นยังอุตส่าห์คิดอุบาย ฆ่าหลวงจีนกิวเลงได้ ต่อไปภายหน้าคงจะมีวาสนามาก……..”

ลิวซูก็ว่า

“………การเป็นทั้งนี้เพราะบุญวาสนานางแบ๊ลวนเองน้องสาวท่าน ใช่ว่าจะสำเร็จด้วยสติปัญญาข้าพเจ้าผู้เดียวนั้นหามิได้………”

ยวดซิมอ๋องวิตกถึงนางแบ๊ลวนเอง ก็คิดแค้นพวกหลวงจีนกิวเลงยิ่งนัก จึงสั่งไพร่พลให้เตรียมยกขึ้นไปบนเขา จับหลวงจีนลูกวัดและศิษย์วัดฆ่าเสียให้สิ้น แต่ลิวซูทักท้วงว่า

“……..ท่านจะคิดอาฆาตต่อพวกหลวงจีนแลศิษย์วัดนั้นไม่ควร ด้วยธรรมดาเป็นทหารก็ต้องอยู่ในบังคับบัญชาแม่ทัพ พวกหลวงจีนแลศิษย์ก็ต้องอยู่ในโอวาทผู้ซึ่งเป็นเจ้าวัด นี่หลวงจีนกิวเลงก็ถึงแก่ความตายแล้ว ข้าพเจ้าได้ตั้งให้หลวงจีนเตียวหยงเป็นเจ้าวัดแทน หลวงจีนและศิษย์เหล่านั้นก็อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนหลวงจีนเตียวหยง ประพฤติการเป็นสุจริตด้วยกันทั้งนั้น ข้าพเจ้าของดโทษไว้สักครั้งเถิด……..”

ยวดซิมอ๋องก็เห็นชอบด้วย จึงให้คนใช้ยกโต๊ะสุราอาหารมาเลี้ยงกันเป็นที่สบายแล้ว ลิวซูก็จะลาไปหาซินแสขงไต้เผงอีก ยวดซิมอ๋องจึงว่าอย่าไปให้ลำบากเลย ให้แต่เตียวเตียนผู้เดียวไปก็ได้ ลิวซูก็ไม่ขัดข้อง เตียวเตียนจึงคำนับลาเดินทางไปแต่ผู้เดียว เมื่อพบแล้วก็กลับมาพร้อมกับหนังสือคำทำนายของซินแสขงไต้เผงมีความว่า

นางแบ๊ลวนเองนั้นมีผู้อุปถัมภ์ บำรุงเลี้ยงไว้เป็นอันดี นานไปจะมีวาสนามาก แต่เมื่อเวลานั้นเคราะห์ร้ายนัก จึงเผอิญเป็นไปต่าง ๆ กำหนดอีกสิบวันก็คงจะได้พบกัน อย่ามีความวิตกเลย

ยวดซิมอ๋องกับพรรคพวกอีกห้าคนได้อ่านดูพร้อมกันแล้ว ก็ยังไม่ค่อยเชื่อแน่นัก ต่างคนก็คิดสงสัยอยู่ ยวดซิมอ๋องจึงสั่งให้กองทัพทั้งสาม ยกไพร่พลขึ้นไปพักบนเขาปวยง่อเหนีย แล้วให้ลิวซูเขียนหนังสือประกาศให้ราษฎรชาวบ้าน รู้ทั่วกันว่า นางแบ๊ลวนเองเป็นน้องสาวของยวดซิมอ๋อง หายไปช้านานแล้ว ถ้าผู้ใดพบปะหรือได้รู้เห็นว่านางอยู่แห่งใดตำบลใด แล้วพาตัวมาให้ยวดซิมอ๋อง ก็จะให้รางวัลเป็นเงินพันตำลึง หากนางแบ๊ลวนเองถึงแก่ความตายแล้ว ถ้าผู้ใดพาศพไปฝังไว้จงมาบอก จะให้เงินสองร้อยตำลึง ลิวซูเขียนแล้วก็ให้คนใช้เอาไปปิดไว้ตามทาง ริมเชิงเขาหลายแห่ง

อยู่มาไม่นาน ทหารที่เฝ้ารักษาหน้าค่าย ก็เข้ามารายงานว่า มีชายผู้หนึ่งเดินมาที่หน้าค่าย แล้วฉีกหนังสือประกาศทิ้งเสีย ครั้นถามว่ามาแต่ไหนถือดีอย่างไร จึงบังอาจมาฉีกหนังสือประกาศของยวดซิมอ๋องเสียดังนี้ ชายผู้นั้นก็บอกว่าจะมาแจ้งข่าวนางแบ๊ลวนเอง

ยวดซิมอ๋องจึงให้ทหารรีบพาตัวชายผู้นั้นเข้ามาโดยเร็ว เมื่อชายผู้นั้นเข้ามาแล้วก็กระทำคำนับยวดซิมอ๋องตามธรรมเนียม ยวดซิมอ๋องถามว่าแซ่ไรชื่อใด อยู่บ้านตำบลไหน รู้ว่าน้องสาวของเราไปอยู่แห่งใดหรือ ชายผู้นั้นก็บอกชื่อแซ่ และเล่าความให้ยวดซิมอ๋องฟังโดยตลอด แต่จะมีรายละเอียดประการใด จะต้องรอให้ถึงตอนหน้าเสียก่อน.

############

ฟ้าหม่น วารสารของทหารม้า
มีนาคม ๒๕๕๑


Create Date : 11 กรกฎาคม 2551
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 18:54:24 น. 2 comments
Counter : 547 Pageviews.

 
ลิวซูนี่ดุเหมือนกันนะค้าบ ฆ่าคนเป็นว่าเล่นเลย แต่โชคดีมักมีคนมาช่วยเสมอ


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:15:36 น.  

 
โลกมันกลมจัง เดินไปเดินมาก็เจอคู่กรณี งานเลยเข้ากันทุกคนเลยนะนี่


โดย: kira7 IP: 203.144.144.164 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:23:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.