Cooking For Fun
Group Blog
 
All blogs
 
Homemade Graham Crackers : ขนมปังกรอบแป้งโฮลวีตแบบบ้านๆ กรอบอร่อยเพื่อสุขภาพ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวบล็อกทั้งหลาย
หลังจากที่ต้องหลีกทางให้การบ้านฟาร์มไก่ที่มาแรงแซงโค้ง
ทำทีหลังแต่เอาลงก่อนซะงั้น 555 เรื่องของเรื่องคือติดเฟซบุคค่ะ
แฮ่ๆเพราะจะอัพบล็อกแต่ละทีมันใช้ทั้งเวลา
และแรงกายแรงใจมหาศาล (เวอร์มาก)
จริงๆก็ทำขนมกิน ทำแจกไปเรื่อยแหล่ะค่ะ แต่อัพลงเฟซบุคซะส่วนใหญ่
สูตรไหนที่โดนจริงๆเท่านั้นถึงจะเอามาเผยแพร่ในบล็อก
ให้เพื่อนๆพี่น้องชาวบล็อกได้ทดลองกัน
เป็นยังไงล่ะคะ แสดงว่าสูตรที่เอามาลงบล็อกเนี่ย อร่อยจริงอะไรจริงนะคะ อิอิ
แกรแฮมแครกเกอร์ ชื่อนี้เชื่อว่าหลายๆคนที่เริ่มทำขนมคงจะเคยได้ยินกันมาแล้ว
เพราะส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากของง่ายๆที่ไม่ต้องใช้เตาอบ
เช่น พวกบลูเบอร์รี่ชีสพาย ที่ทำยังไงก็อร่อยถ้าเราใช้วัตถุดิบดีมีคุณภาพ
แล้วในสูตรทั้งหลายทั้งปวงที่เราหามาส่วนใหญ่ก็จะให้ใช้
เจ้า Graham Crackers นี่ล่ะค่ะ หลายคนคงสงสัยว่า
เอ๊ะ !!! แล้วเจ้านี่มันต่างกับแครกเกอร์ธรรมดายังไง
ทำไมถึงต้องมีชื่อเรียกเฉพาะ ไฮโซวววขนาด
ถ้าเราใช้ขนมปังกรอบธรรมดามาทำมันจะไม่อร่อยหรืออย่างไร
ก้อยก็สงสัยเหมือนกันค่ะ อากู๋ช่วยเราได้เสมอค่ะ อิอิ เข้าไปสืบเสาะมาได้ว่า
Graham Cracker เนี่ยในสมัยก่อนถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง
เพราะทำจาก Graham Flour ซึ่งเป็นแป็ง Whole Wheat ชนิดหนึ่ง
แต่จะแยกบดส่วนที่เป็น รำ จมูกข้าวแบบหยาบๆ และบดส่วนเมล็ดข้าวสาลี
จนละเอียดมากๆ เมื่อบดเสร็จแล้วจึงนำมารวกกันอีกที
ทำให้ได้แป้งที่มีความละเอียดและส่วนที่เป็น Grain หยาบๆ เวลาเคี้ยวจะกรุบๆ
เรียกว่ามี Texture ที่ต่างกัน เป็นความอร่อยอีกแบบหนึ่งค่ะ

ถ้าใครอยากรู้ประติของเกรแฮมแครกเกอร์มากกว่านี้ลองเข้าไปดูที่นี่นะคะ

อบแครกเกอร์กินเองเนี๊ย มันอร่อยกว่าไปซื้อกินม๊ากมายเลยนะคะ
โดยเฉพาะตอนที่ขนมของเราใกล้จะสุก จะส่งกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจ ไปทั่วบ้านเลยค่ะ
แต่ไม่ดีอยู่อย่างตรงที่จะกินเยอะ เคี้ยวเพลินจนหมดโดยไม่รู้ตัว อิอิ

วันนี้เอาสูตรโฮมเมด แครกเกอร์จากบล็อกน้องลูกสนมาลองทำค่ะ
อร่อยถูกใจจริงๆ ขอบคุณน้องลูกสนอีกครั้งนะคะ ที่เอาสูตรขนมอร่อยๆมาฝากกันอยู่เรื่อยเลย
จากเนื้อสัมผัสของแป็งโฮลวีตที่มีอะไรให้เคี้ยวกรุบๆ
แล้วก็ความหอมหวานที่ไม่มากจนเกินไปจากน้ำตาลทรายแดง และน้ำผึ้งดีๆ
เรียกว่าถ้าใครที่คิดจะอบแครกเกอร์นี้ไว้ทำชีสพายละก็
ควรจะทำเผื่อไว้เลยค่ะ เท่านึง ไม่งั้นอาจหมดก่อน คริคริ

มาดูสูตรกันเลยดีกว่า มัวแต่เวิ่นเว้ออีกแระเรา

ส่วนผสม
แป้งเอนกประสงค์ 160 g.
แป้งโฮลวีต 150 g..
เนยสดจืด 170 g.
น้ำตาลทรายแดง 60 g.
น้ำตาลทรายขาว 30 g.
น้ำผึ้ง 2 ชต.
ไข่ไก่ no. 1 1 ฟอง
เบคกิงโซดา 1/2 ชช.
เกลือ 1/4 ชช.
(ก้อยเพิ่มเป็น 1/2 ชช.นะคะ ชอบให้ออกเค็มนิดนึง)
กลิ่นวนิลา 1 ชช.
(แอร๊ะ เพิ่งนึกได้ตอนพิมพ์ว่าลืมใส่ แต่ก็ไม่มีกลิ่นคาวไข่นะคะ
สงสัยกลิ่นน้ำผึ้งกลบหมด )

อ้อ ถ้าใครชอบกลิ่นอบเชย จะใส่อบเชยผงด้วยก็ได้ค่ะ ซัก 1/2 ชช.
ถ้าใส่ขิงผงกับ all spice ด้วยจะคล้ายๆ ginger bread เลยล่ะค่ะ

วิธีทำ

เอาแป้ง 2 ชนิดกับเบคกิงโซดา ใส่รวมกันแล้วคนให้เข้ากัน
ปกติเวลาทำคุกกี้ก้อยไม่ค่อยได้ร่อนแป้งอยู่แล้วค่ะ
สูตรนี้น้องลูกสนเขียนไว้ว่าไม่ต้องร่อน ถูกใจคนขี้เกียจอย่างเราจริงๆ อิอิ

ตีเนยกับน้ำตาลทั้งสองชนิดจนฟูขาว(ก้อยดีพอฟูนิดๆเองอ่ะ)
พอตีเข้ากันแล้วก็ใส่ไข่น้ำผึ้ง วนิลาตีให้เข้ากัน
อาจจะมีแยกตัวเป็นลิ่มๆหน่อยนะคะ ไม่ต้องตกใจ



พอตีเข้ากันแล้วก็ใส่ไข่น้ำผึ้ง วนิลาตีให้เข้ากัน
อาจจะมีแยกตัวเป็นลิ่มๆหน่อยนะคะ ไม่ต้องตกใจ



ใส่ของแห้งที่เรารวมกันไว้ลงไปเลยค่ะ
อ้อ แบ่งใส่ทีละ 1/3 ก็ได้นะคะ จะได้ไม่ฟุ้งมากเวลาผสม



ตีพอเข้ากันก็พอนะคะ ตีนานเดี๋ยวคุกกี้เราจะเหนียว ไม่อร่อยนะคะ



แบ่งเป็นสองส่วนเท่าๆกัน ห่อพลาสติกแร็พ
เข้าตู้เย็นไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก้อยทำตอนเย็น
แช่ค้างคืนไปเลยค่ะ
เช้าขึ้นมาก็เอามารีดแล้วอบตอนเช้า
เป็นเครื่องมือปลุกคนขี้เซาให้ตื่นได้เป็นอย่างดี อิอิ



เอามาคลึงบางๆ ให้หนาประมาณ 2 มิลลิเมตร (เหมือนตอนเรียนทำฟันเลยอ่ะ --")
ขั้นตอนนี้ยากหน่อยนะคะ เพราะตอนเอาออกจากตู้เย็นใหม่ๆมันจะแข็งคลึงแล้วแตก
แต่ถ้าทิ้งไว้นานเกินไปจะนิ่มจนเหนียวเหนอะหนะ
ติดไปหมดเลย แนะนำให้คลึงบนพื้นผิวที่เย็นๆ
เช่นหินหรือสเตนเลสที่เอาน้ำแข็งมาประคบไว้ก่อน
(อ่า เหมือนผ่าฟันคุดแล้วต้องเอาน้ำแข็งมาประคบ ลดอาการบวมน่ะค่ะ)



แต่ก้อยค้นพบวิธีใหม่ค่ะ ง่ายกว่านั้น คือปั้นเป็นก้อนกลมๆ
วางบนกระดาษรองอบ แนะนำแบบเคลือบซิลิโคนนะคะ
เวลาอบเสร็จเราไม่ต้องแซะเลยค่ะ ขนมจะหลุดออกมาเองอย่างง่ายดายและสวยงาม 555
แล้วก็เอาพลาสติกแร๊พ ที่เราใช้ห่อก้อนแป้งเมื่อกี๊
มาปิดไว้แล้วเอามือกดๆให้เป็นรูปร่างตามต้องการ
แต่ต้องระวังให้ขนาดและความหนาเท่าๆกันนะคะ
เวลาอบจะได้สุกกรอบพร้อมๆกัน
แล้วก็เอาส้อมมาจิ้มให้เป็นรูๆ ไม่ได้ทำเพื่อให้ดูเป็นเอกลักษณ์ของแครกเกอร์เท่านั้นนะคะ
เคยได้ยินคำว่า Form follow function มั้ยคะ
เราจิ้มให้เป็นรูเพื่อเวลาที่อบจะได้มีรูระบายอากาศแป้งจะได้ไม่ปูดขึ้นมา
ก่อนอบต้องอุ่นเตาให้ร้อนก่อนนะคะ ก้อยอบที่ 170 องศาเซลเซียส
ประมาณ 13-15 นาทีแล้วแต่ขนาดและความหนาบางของขนม



ตอนใกล้ๆสุกเนี่ย หอมยั่วน้ำลายมากๆเลยค่า
สุกแล้ว กรี๊ซซซซ
แต่อย่าเพิ่งชิมตอนนี้นะคะ ยังร้อนอยู่ขนมจะนิ่มๆยังไม่กรอบค่ะ
พักให้เค้าเย็นตัวลงนิดนึง เค้าจะกรอบขึ้นค่ะ
เย็นแล้วรีบเก็บใส่กล่องปิดฝาให้สนิทเลยค่ะ
ไม่ได้กลัวว่าจะหายกรอบหรอกนะคะ แต่กลัวหมด 555



อบเสร็จ กลิ่นยังหอมอบอวลไปทั่วบ้าน ทานกับกาแฟร้อนตอนเช้าๆ
หืมมม ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร



ถ้ายังมีเหลือเก็บใส่กล่องไว้ทานคู่กับน้ำชาตอนบ่ายๆก็ดีมิใช่น้อย ฮิฮิ
ก้อยว่าทานคู่กับชาเอิร์ลเกรย์ น่าจะดีเลยล่ะค่า




ขอให้มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่ทำนะคะ แล้วชีวิตจะมีความสุขค่ะ

พบกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ





Create Date : 16 กันยายน 2553
Last Update : 16 กันยายน 2553 11:21:55 น. 15 comments
Counter : 8639 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับสูตรนี้นะคะ กำลังตระเวนดูในบล๊อกแก็งพอดี
ที่บ้านเราหาซื้อมาทำสมอร์ให้ลูกๆยากจังเลย


โดย: quiltmom วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:11:54:04 น.  

 
อบไว้กินเล่นเผลอแป๊บเดียวหมดเลยค่ะ


โดย: ฟันคุดน้อยซี่ที่7 วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:12:03:20 น.  

 
ว้าวน่าทานจัง


โดย: pragoong วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:12:24:47 น.  

 
มีมาใหม่ ๆ อีกแหล่ะ ขยันจังเลย

อันนี้ก็น่าหม่ำ สุขภาพดีเน้อ


โดย: เนส (ChuyJumbo ) วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:14:10:15 น.  

 
พี่ก็ชอบกินGraham Crackersเล่นๆ
ประมาณว่าซื้อมาจะมาทำขนม แต่หมดก่อนทุกที

ติด FB นี่เอง หุหุ


โดย: allenalina วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:14:22:21 น.  

 
เก่งจังเลค่ะคุณก้อย
ทำออกมาได้น่าทานมากๆเลยค่ะ


โดย: หน่อย (โตเหมี่ยว ) วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:14:44:11 น.  

 
น่าอร่อยอีกแล้วค่ะ เคยทำทานเหมือนกัน ทานเล่น กรอบๆ เพลินๆดีค่ะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:15:41:13 น.  

 
เหมือนเคยเห็นแว้บ ๆ ใน fb นะ อิอิ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:16:06:40 น.  

 
คุณหมอก้อยขา ช่วงนี้แวะมาบ่อย แสดงว่าพอมีเวว่างแล้วใช่ไม๊คะ
มาบ่อย ๆ นะคะ น้าบี๊จะได้ขอเก็บเกี่ยวสูตรไปเอาไปทำมั่งคะ


โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:16:17:16 น.  

 
เห็นแล้วเกิดกิเลสอยากทำเลยค่ะ กรุบ ๆ กะน้ำชาคงอร่อยเหาะ


โดย: หญิงแม่ IP: 10.1.27.67, 203.152.19.179 วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:17:01:12 น.  

 
คุณ pragoong ขอบคุณนะคะ

พี่เนส น้าบิ๊ขา ช่วงนี้ก้อยเริ่มดีขึ้นละค่ะ อยู่บ้านเกือบทุกวัน ไปไหนมาไหนก็ยังไม่สะดวก กิจกรรมก็เลยวนเวียนอยู่แค่ ทำขนม อัพบล็อก เล่นเฟซบุค หรือไม่ก็ออกกำลังกาย ทำกายภาพไปเรื่อยๆ (แต่ช่วงหลังเริ่มขี้เกียจ แหะๆ)

คุณ allenalina คะ สารภาพมาซะดีๆว่าติดเหมือนกัน อิอิ

พั่หน่อยขา คิดถึงจังเลย จุ๊บๆ

พี่ชื่น ถูกต้องนะคร้าบบบบ พอดีวันนั้นจะอัพแต่เน็ตล่ม เลยต้องมาอัพทีหลัง ปล่อยให้การบ้านฟาร์มไก่เค้าลงไปก่อน อิอิ

คุณ Sai Eeuu คุณหญิงแม่ขา (อิอิ เหมือนในละครเลย ) กับกับน้ำชาตอนบ่ายๆก็เข้าทีค่ะ กรุบๆกรอบๆ เคี้ยวเพลินนักแล


โดย: ฟันคุดน้อยซี่ที่7 วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:19:35:45 น.  

 
น่าทานนมากกค่ะ:))


โดย: สมหญิง (popoas ) วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:6:34:40 น.  

 
น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ คุณก้อย
เด๋วไว้ไม่ขี้เกียจเมื่อไร ต้องได้ลงมือแน่เลย

เพราะส่วนตัวหม่อนก้อชอบหม่ำเกรแฮมป่าว ๆ อยู่แล้ว


โดย: ซามอ วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:6:36:15 น.  

 
คุณสมหญิง ขอบคุณค่า

ลองเลยค่ะพี่หม่อนสูตรนี้คอนเฟิร์ม กรุบกรอบ หอมน้ำผึ้ง กินเปล่าๆอร่อยสุดๆ


โดย: ฟันคุดน้อยซี่ที่7 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:7:34:37 น.  

 
Thank you krab


โดย: Bomb IP: 1.46.135.244 วันที่: 23 สิงหาคม 2565 เวลา:23:45:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฟันคุดน้อยซี่ที่7
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบใช้ชีวิตธรรมดา ว่างก็ทำขนม ทำอาหาร ถ่ายภาพ ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ฟังเพลง ก็มีความสุขแล้วค่ะ เรียกว่ามีโลกส่วนตัวสูงก็ได้ค่ะไม่ชอบที่คนเยอะๆ รู้สึกว่ามันวุ่นวายจัง วันไหนได้อยู่บ้านนี่ทำขนมได้ทั้งวันเลยจนพี่ๆแซวว่าก้อยเปิดโรงงานทำขนมทุกอาทิตย์ ทำไงได้ล่ะคะ ก็คนมันรัก(การทำอาหาร) นี่นา แค่ได้ทำอาหารให้คนรอบข้างได้กินของ(ที่เราดิดว่า)ดีๆ ก็มีความสุขแล้วค่ะ เพื่อนๆเป็นกันมั้ยคะ ^__^
หลังไมค์ถึงฟันคุดน้อยฯกดที่นี่ เฟซบุคเชิญทางนี้ค่ะ cooking for fun
Friends' blogs
[Add ฟันคุดน้อยซี่ที่7's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.