หลังจากถ่ายวิวทิวทัศน์กันจนแดดจ้า ก็หันมาถ่ายพวกเดียวกันเองบ้าง
พี่หนิง พี่แตน ถ่ายกับพี่หนุ่ยที่พยายามแต่งกายเป็นชาวพื้นเมือง
ทุกคนยิ้มแย้มกันแบบคนที่แปรงฟันมาแล้วอย่างสม่ำเสมอสุขภาพฟันดีทั้ง7ประการ
แม้ว่าจะต้องตื่นแต่เช้า และมาเดินขึ้นเขาตอนมืดๆให้ยุงกัด อันมิใช่วิสัยปกติของเรา
ยืนถ่ายกันแบบไม่กลัวตกเขา
.
.
.
.
พี่หนุ่ยพยายามจะทดลองเอาผ้าผูกตัวเองให้เป็นซุปเปอร์แมน
ร่ำๆว่าจะกระโดดเขาแดงเพื่อความตื่นเต้น
.
.
.
.
ยังไม่ถึงเวลาเคารพธงชาติ ก็ได้เวลาลงจากเขาแดง
เขาแดง ลมแรง อย่าใส่กระโปรงขึ้นไปถ้าไม่อยากโชว์เอ็กซ์
ลมแรง ทำให้การถ่ายภาพให้คมชัดที่ค่าเอฟนัมเบอร์สูงๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก
เพราะขาตั้งกล้องสั่นหงึกๆ
มันคงหนาวเพราะลมพัดแรง สั่นใหญ่เลย
ควรหาที่ยึดขากล้องให้มั่นคงนะครับ
.
.
.
.
ถ่ายสลัดไดที่ขึ้นอยู่ทั่วไป
ใช่รึเปล่าก็ไม่รู้?
อาจจะเป็นต้นมะนาวภูเขาก็ได้
.
.
.
.
ระหว่างทางลง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคน
เหตุเกิดตรงซอกหิน โดยการเอาศอกไปจามกับหินแกรนิตคมๆ
ผู้ประสบเหตุคือพี่แตนนั่นเองโดยมีพี่หนิงยืนยิ้มเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ
.
.
.
.
ลงมาถึงพื้นโดยปลอดภัยดี
ขอซีลูเอทภูเขาซักภาพ
.
.
.
.
กลับถึงที่พัก อาบน้ำ ทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มกุ้ง
ใครหนอช่างรู้ใจอีกแล้ว นัดออกเดินทางไปแก้มือที่ทุ่งสามร้อยยอดตอนเก้าโมงเช้า
หลังจากเมื่อวานนี้เราไปกัน แล้วพระพิรุณกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่พอดี
กอ่นออกเดินทาง ก็เช็คเอ้าท์กันก่อน
จากนั้นถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระทึกใจกันซักหน่อย เอาไว้ให้ลูกหลานดูตอนเราแก่
.
.
.
.
อ้อ จำผิดๆ
ออกจากที่พัก เราไปล่องเรือหารักกันก่อน ไปที่คลองเขาแดงที่เรามองเห็นจากบนเขานั่นแหละ
แถวนี้มีคลองเดียว
ท่าเรืออยู่ตรงวัดเขาแดง ตรงเชิงเขาแดงนั่นเอง ค่าเรือไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่
น่าจะลำละ 250 บาท อันนี้ต้องถามดิวอี้อีกที
อากาศร้อนตอนสายๆชวนหัวใจละลายเป็นอย่างยิ่ง
พี่แตนกับพี่หนุ่ย กินไอติมประจวบ
.
.
.
.
คณะเราใช้เรือสองลำในการล่องเล่นในคลอง
สองข้างทางมีป่าชายเลน ต้นโกงกาง
มีภูเขาหินปูนสูงเสียดฟ้า รึเปล่า ก็ไม่สูงขนาดนั้น ขนาบไปตามลำคลอง
ใครมาหน้าหนาว คาดว่าน่าจะเจอหมอกด้วย
.
.
.
.
ป่าชายเลน ย่อมคู่กับปลาตีน
.
.
.
.
ซึ่งกำลังจะพัฒนาไปเป็นนกอีโกร่งตัวนี้รึเปล่า?
เราก็ต้องคอยดูกันต่อไป
.
.
.
.
ล่องไปล่องมา ก็ออกปากอ่าว
ไปเจอเรือลำนึงที่เรามองเห็นจากยอดเขาเมื่อเช้า
เดาว่า นะจะเป็นเรือตกหมึกขนาดใหญ่พิเศษ
.
.
.
.
ขากลับ ก็กลับทางเดิมที่มา
ตลอดทางชาวบ้านยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายเป็นกันเอง
บางคนกำลังจับปลา บางคนกำลังหาหอยในคลอง
ที่ลูกศรชี้นั่นคือป้ายจุดชมิววเขาแดง ที่เราเพิ่งลงมา
ดังนั้น นั่นก็คือยอดเขาแดงนั่นเอง
.
.
.
.
จากนั้น ก็มุ่งหน้าต่อไปทุ่งสามร้อยยอด
ที่ไม่มีดอกบัว ไม่มีทุ่งบัว เพราะหน้านี้ ไม่ใช่หน้าบัว
.
.
.
ใครบางคนเอาเรือชาวบ้านมาพาย
หน้าตาคุ้นๆ เหมือนพี่หนุ่ยมาก
ถามว่าพายเป็นไหม ?
ไม่น่าจะเป็น เห็นพายวนไปวนมา
แต่น้ำที่นี่ไม่ลึก ภาษิตที่ว่าน้ำนิ่งไหลลึก ใช้กับที่นี่ไม่ได้
เพราะน้ำที่นี่ ไม่ลึก น้ำนิ่งเลยไหลลึก ไม่ได้
.
.
.
.
ยอดเขาอันเป็นเอกลักณ์ของสามร้อยยอด
.
.
.
.
.
แวะทานข้าวเที่ยงที่ตลาดน้ำหัวหิน
ตลาดน้ำเยอะมาก ช่วงนี้
กินเสร็จ เดินทางกลับกรุงเทพ
ถึงตอนหกโมงเย็น แจกเงินคืนคนละ 270 บาท
เงินเหลือ กินกันท้องบาน แต่เงินเหลือ
นับเป็นนิมิตรหมายอันดี
จบทริปหน้าฝนไปอีกทริป คงเป็นทริปสุดท้ายแล้ว
รอฝนหมด จะหอบสังขารขึ้นภาคเหนือ กลางๆพฤศจิกายน
จองไว้แล้ว แล้วพบกันใหม่ครับ
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
หนุ่มสุพรรณคนยาก คนเดิม
.
.
.
ขำจัง ไดอารี่จริง เขียนโดนใจ อย่าลืม
การแข่งขันทำให้เราพัฒนาครับ แต่อย่าจริงจังกับมันมาก
เอาหนุกๆก็พอ เนอะ
เพื่อนๆเรามีไปตั้งสำนักในเฟสกันด้วยนะ
กดสิ
ท้องฟ้าสวยมาก