ไม่บ่อยนัก ..ที่เราจะรู้สึกหดหู่กับโลกไม่บ่อยนัก..ที่เราจะรู้สึกเศร้ารู้สึกกระอักกระอ่วนกับชีวิตแต่วันนี้..เรารู้สึกอย่างที่ว่านั้นไม่คุ้นกับมันซักเท่าไหร่..เลยหาทางออกไม่ค่อยถูก..ภพจาก //www.glogster.comเมื่อคืน..หลับไปเพราะความเพลียเพลียจากความเครียดเราไม่ค่อยชอบมันนักหรอกจำไม่ได้..ว่าเครียดขนาดนี้ครั้งสุดท้าย..เมื่อไหร่?...ภาพจาก //www.drastudio.comอยากจะเขียนบทกวีซักบทมันอาจจะไม่ใช่บทกวีหรอกนะแต่สำหรับคนที่ไร้จินตนาการอย่างเราเราถือว่ามันคือบทกวีเวลาหดหู่..เราชอบเขียนอะไรที่คนไม่เข้าใจนั่นแหละ คือจุดมุ่งหมายของสิ่งที่จะเขียน..ภาพจาก //www.glogster.comบทกวีของเป็ด..“ฉันเดินเงียบเชียบ ไปบนถนนสายหนึ่งก้อนกรวดสีเทาทึม..บ้างก็สีน้ำตาลประกอบกันเข้า เป็นถนนสายนี้..ต้นไม้ไร้ใบ สีซีด ไร้ชีวิต ยืนต้นตายอยู่ริมถนนเมฆฝนบนฟ้า เริ่มส่งเสียงครืนครางฉันแหงนมองดูพวกมัน มันกำลังคลั่งบ้าดูวุ่นวาย..ราวกับการเริงระบำของผีป่าฉันละสายตาจากพวกมัน แล้วพร่ำบ่นไม่นานนัก ฉันก็เริ่มร่ายบทกวีแห่งความตายตอนหนึ่งของบทกวีนั้นกล่าวว่า..สิ้นแล้วความถูกผิดฉันกล่าวคำลาต่อโลกใบเก่าเบื้องหน้าฉันคือความมืดและนั่นคือโลกใหม่ของฉันไร้รูปให้เห็น ไร้เสียงให้สดับ ไร้กลิ่นให้ดอมดมฉันปรารถนา จักทอดกายในความมืดนั้นนิรันดร....รอบกายฉันตอนนี้ ..ช่างคล้ายบทกวีนี้เหลือเกิน..ฝนเม็ดหนึ่งหยดลงที่ไหล่ฉันฉันมองมันอย่างใคร่รู้จุดมุ่งหมาย“ความเป็นเจ้าช่างเล็กน้อยและสั้นนัก” ฉันกล่าวฝนหยดนั้นซึมหายไปในผ้าเนื้อหยาบที่ฉันใช้ห่มกาย“ฉันเองก็เช่นกัน” ฉันเอ่ยแผ่วเบาแล้วจึงร่ายบทกวี อันคนผู้ใกล้ตายพึงกล่าว “...ภาพจาก //www.glogster.comนั่นคือบทกวีของเรานั่นคือความเศร้าแต่พรุ่งนี้ เราจะเลิกเศร้าเราไม่ควรเศร้านานเกินไปนึกอยากตีลังกาขึ้นมาจริงๆผับผ่าสิเศร้าๆอย่างนี้ ได้ตีลังกา คงจะสะใจดีเป็นบ้าวันนี้ตู้เย็นก็หน้าบูดทีวีก็หน้าตูดชักโครกก็เกี่ยงงอนแต่เราไม่ง้อชักโครกหรอกนะชิ...ภาพจาก //i22.photobucket.comบางครั้ง เราก็นึกอยากให้ดวงดาวทั้งท้องฟ้าตกลงมาพร้อมๆกันมันคงจะสวย และเศร้าดีนะ?...ลงนามเป็ดสวรรค์พรุ่งนี้ฉันจะหายเศร้าและขนขึ้นเหมือนเดิม
จากบล็อก... จะว่าเกี่ยว ก็คงได้อ่ะเนอะ...ยุคสมัยนี้ อะไรก็เป็นไปได้...ออกกฎหมายมีผลย้อนหลัง ยังทำได้เลย
(เตือนตัวเองด้วย)