บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการ ของ Maslow

ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการ

Maslow’s Hierarchical Theory of Motivation


วิบูลย์ จุง // Wiboon Joong (wbj) // Jung


Maslow เชื่อว่าพฤติกรรมของมนุษย์เป็นจำนวนมากสามารถอธิบายโดยใช้แนวโน้มของบุคคลในการค้นหาเป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตของเขาได้รับความต้องการ ความปรารถนา และได้รับสิ่งที่มีความหมายต่อตนเอง เป็นความจริงที่จะกล่าวว่ากระบวนการของแรงจูงใจเป็นหัวใจของทฤษฎีบุคลิกภาพของ Maslow โดยเขาเชื่อว่ามนุษย์เป็น “สัตว์ที่มีความต้องการ” (wanting animal) และเป็นการยากที่มนุษย์จะไปถึงขั้นของความพึงพอใจอย่างสมบูรณ์ ในทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow เมื่อบุคคลปรารถนาที่จะได้รับความพึงพอใจและเมื่อบุคคลได้รับความพึงพอใจในสิ่งหนึ่งแล้วก็จะยังคงเรียกร้องความพึงพอใจสิ่งอื่นๆ ต่อไป ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะของมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความต้องการจะได้รับสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ

Maslow กล่าวว่าความปรารถนาของมนุษย์นั้นติดตัวมาแต่กำเนิดและความปรารถนาเหล่านี้จะเรียงลำดับขั้นของความปรารถนา ตั้งแต่ขั้นแรกไปสู่ความปรารถนาขั้นสูงขึ้นไปเป็นลำดับ

ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ ( The Need –Hierarchy Conception of Human Motivation ) Maslow เรียงลำดับความต้องการของมนุษย์จากขั้นต้นไปสู่ความต้องการขั้นต่อไปไว้เป็นลำดับดังนี้
1. ความต้องการทางด้านร่างกาย ( Physiological needs )
2. ความต้องการความปลอดภัย ( Safety needs )
3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ( Belongingness and love needs )
4. ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ( Esteem needs )
5. ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ( Self-actualization needs )
ลำดับขั้นความต้องการของมาสโล มีการเรียงลำดับขั้นความต้องการที่อยู่ในขั้นต่ำสุด

จะต้องได้รับความพึงพอใจเสียก่อนบุคคลจึงจะสามารถผ่านพ้นไปสู่ความต้องการที่อยู่ในขั้นสูงขึ้นตามลำดับดังจะอธิบายโดยละเอียดดังนี้

1. ความต้องการทางร่างกาย ( Physiological needs ) เป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน


ที่มีอำนาจมากที่สุดและสังเกตเห็นได้ชัดที่สุด จากความต้องการทั้งหมดเป็นความต้องการที่ช่วยการดำรงชีวิต ได้แก่ ความต้องการอาหาร น้ำดื่ม ออกซิเจน การพักผ่อนนอนหลับ ความต้องการทางเพศ ความต้องการความอบอุ่น ตลอดจนความต้องการที่จะถูกกระตุ้นอวัยวะรับสัมผัส แรงขับของร่างกายเหล่านี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความอยู่รอดของร่างกายและของอินทรีย์ ความพึงพอใจที่ได้รับ ในขั้นนี้จะกระตุ้นให้เกิดความต้องการในขั้นที่สูงกว่าและถ้าบุคคลใดประสบความล้มเหลวที่จะสนองความต้องการพื้นฐานนี้ก็จะไม่ได้รับการกระตุ้น ให้เกิดความต้องการในระดับที่สูงขึ้นอย่างไรก็ตาม ถ้าความต้องการอย่างหนึ่งยังไม่ได้รับความพึงพอใจ บุคคลก็จะอยู่ภายใต้ความต้องการนั้นตลอดไป ซึ่งทำให้ความต้องการอื่นๆ ไม่ปรากฏหรือกลายเป็นความต้องการระดับรองลงไป เช่น คนที่อดอยากหิวโหยเป็นเวลานานจะไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกได้ บุคคลเช่นนี้จะหมกมุ่นอยู่กับการจัดหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้มีอาหารไว้รับประทาน Maslowอธิบายต่อไปว่าบุคคลเหล่านี้จะมีความรู้สึกเป็นสุขอย่างเต็มที่เมื่อมีอาหารเพียงพอสำหรับเขาและจะไม่ต้องการสิ่งอื่นใดอีก ชีวิติของเขากล่าวได้ว่าเป็นเรื่องของการรับประทาน สิ่งอื่นๆ นอกจากนี้จะไม่มีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพ ความรัก ความรู้สึกต่อชุมชน การได้รับการยอมรับ และปรัชญาชีวิต บุคคลเช่นนี้มีชีวิตอยู่เพื่อที่จะรับประทานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่าง การขาดแคลนอาหารมีผลต่อพฤติกรรม ได้มีการทดลองและการศึกษาชีวประวัติเพื่อแสดงว่า ความต้องการทางด้านร่างกายเป็นเรื่องสำคัญที่จะเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ และได้พบผลว่าเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงของพฤติกรรมซึ่งมีสาเหตุจากการขาดอาหารหรือน้ำติดต่อกันเป็นเวลานาน ตัวอย่างคือ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ในค่าย Nazi ซึ่งเป็นที่กักขังเชลย เชลยเหล่านั้นจะละทิ้งมาตรฐานทางศีลธรรมและค่านิยมต่างๆ ที่เขาเคยยึดถือภายใต้สภาพการณ์ปกติ เช่น ขโมยอาหารของคนอื่น หรือใช้วิธีการต่างๆ ที่จะได้รับอาหารเพิ่มขึ้น อีกตัวอย่างหนึ่งในปี ค.ศ. 1970 เครื่องบินของสายการบิน Peruvian ตกลงที่ฝั่งอ่าวอเมริกาใต้ผู้ที่รอดตายรวมทั้งพระนิกาย Catholic อาศัยการมีชีวิตอยู่รอดโดยการกินซากศพของผู้ที่ตายจากเครื่องบินตก จากปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าเมื่อมนุษย์เกิดความหิวขึ้น จะมีอิทธิพลเหนือระดับศีลธรรมจรรยา จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามนุษย์มีความต้องการทางด้านร่างกายเหนือความต้องการอื่นๆ และแรงผลักดันของความต้องการนี้ได้เกิดขึ้นกับบุคคลก่อนความต้องการอื่นๆ

2. ความต้องการความปลอดภัย(Safety needs)


เมื่อความต้องการทางด้านร่างกายได้รับความพึงพอใจแล้วบุคคลก็จะพัฒนาการไปสู่ขั้นใหม่ต่อไป ซึ่งขั้นนี้เรียกว่าความต้องการความปลอดภัยหรือความรู้สึกมั่นคง (safety or security) Maslow กล่าวว่าความต้องการความปลอดภัยนี้จะสังเกตได้ง่ายในทารกและในเด็กเล็กๆ เนื่องจากทารกและเด็กเล็กๆ ต้องการความช่วยเหลือและต้องพึ่งพออาศัยผู้อื่น ตัวอย่าง ทารกจะรู้สึกกลัวเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหรือเมื่อเขาได้ยินเสียงดังๆ หรือเห็นแสงสว่างมาก ๆ แต่ประสบการณ์และการเรียนรู้จะทำให้ความรู้สึกกลัวหมดไป ดังคำพูดที่ว่า “ฉันไม่กลัวเสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบอีกต่อไปแล้ว เพราะฉันรู้ธรรมชาติในการเกิดของมัน” พลังความต้องการความปลอดภัยจะเห็นได้ชัดเจนเช่นกันเมื่อเด็กเกิดความเจ็บป่วย ตัวอย่างเด็กที่ประสบอุบัติเหตุขาหักก็ตะรู้สึกกลัวและอาจแสดงออกด้วยอาการฝันร้ายและความต้องการที่จะได้รับความปกป้องคุ้มครองและการให้กำลังใจ

Maslow กล่าวเพิ่มเติมว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกอย่างไม่กวดขันและตามใจมากจนเกินไปจะไม่ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกว่าได้รับความพึงพอใจจากความต้องการความปลอดภัยการให้นอนหรือให้กินไม่เป็นเวลาไม่เพียง แต่ทำให้เด็กสับสนเท่านั้นแต่ยังทำให้เด็กรู้สึกไม่มั่นคงในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเขา สัมพันธภาพของพ่อแม่ที่ไม่ดีต่อกัน เช่น ทะเลาะกันทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน พ่อแม่แยกกันอยู่ หย่า ตายจากไป สภาพการณ์เหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อความรู้ที่ดีของเด็ก ทำให้เด็กรู้ว่าสิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่มั่นคง ไม่สามารถคาดการณ์ได้และนำไปสู่ความรู้สึกไม่ปลอดภัย

ความต้องการความปลอดภัยจะยังมีอิทธิพลต่อบุคคลแม้ว่าจะผ่านพ้นวัยเด็กไปแล้ว แม้ในบุคคลที่ทำงานในฐานะเป็นผู้คุ้มครอง เช่น ผู้รักษาเงิน นักบัญชี หรือทำงานเกี่ยวกับการประกันต่างๆ และผู้ที่ทำหน้าที่ให้การรักษาพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของผู้อื่น เช่น แพทย์ พยาบาล แม้กระทั่งคนชรา บุคคลทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะใฝ่หาความปลอดภัยของผู้อื่น เช่น แพทย์ พยาบาล แม้กระทั่งคนชรา บุคคลทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะใฝ่หาความปลอดภัยด้วยกันทั้งสิ้น ศาสนาและปรัชญาที่มนุษย์ยึดถือทำให้เกิดความรู้สึกมั่นคง เพราะทำให้บุคคลได้จัดระบบของตัวเองให้มีเหตุผลและวิถีทางที่ทำให้บุคคลรู้สึก “ปลอดภัย” ความต้องการความปลอดภัยในเรื่องอื่นๆ จะเกี่ยวข้องกับการเผชิญกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ สงคราม อาชญากรรม น้ำท่วม แผ่นดินไหว การจลาจล ความสับสนไม่เป็นระเบียบของสังคม และเหตุการณ์อื่นๆ ที่คล้ายคลึงกับสภาพเหล่านี้

Maslow ได้ให้ความคิดต่อไปว่าอาการโรคประสาทในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะโรคประสาทชนิดย้ำคิด-ย้ำทำ (obsessive-compulsive neurotic) เป็นลักษณะเด่นชัดของการค้นหาความรู้สึกปลอดภัย ผู้ป่วยโรคประสาทจะแสดงพฤติกรรมว่าเขากำลังประสบเหตุการณ์ทที่ร้ายกาจและกำลังมีอันตรายต่างๆ เขาจึงต้องการมีใครสักคนที่ปกป้องคุ้มครองเขาและเป็นบุคคลที่มีความเข้มแข็งซึ่งเขาสามารถจะพึ่งพาอาศัยได้

3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ (Belongingness and Love needs)


ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของเป็นความต้องการขั้นที่ 3 ความต้องการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อความต้องการทางด้านร่างกาย และความต้องการความปลอดภัยได้รับการตอบสนองแล้ว บุคคลต้องการได้รับความรักและความเป็นเจ้าของโดยการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวหรือกับผู้อื่น สมาชิกภายในกลุ่มจะเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับบุคคล กล่าวคือ บุคคลจะรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อถูกทอดทิ้งไม่มีใครยอมรับ หรือถูกตัดออกจากสังคม ไม่มีเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำนวนเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง สามีหรือภรรยาหรือลูกๆ ได้ลดน้อยลงไป นักเรียนที่เข้าโรงเรียนที่ห่างไกลบ้านจะเกิดความต้องการเป็นเจ้าของอย่างยิ่ง และจะแสวงหาอย่างมากที่จะได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน

Maslow คัดค้านกลุ่ม Freud ที่ว่าความรักเป็นผลมาจากการทดเทิดสัญชาตญาณทางเพศ (sublimation) สำหรับ Maslow ความรักไม่ใช่สัญลักษณ์ของเรื่องเพศ (sex) เขาอธิบายว่า ความรักที่แท้จริงจะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่ดี ความสัมพันธ์ของความรักระหว่างคน 2 คน จะรวมถึงความรู้สึกนับถือซึ่งกันและกัน การยกย่องและความไว้วางใจแก่กัน นอกจากนี้ Maslow ยังย้ำว่าความต้องการความรักของคนจะเป็นความรักที่เป็นไปในลักษณะทั้งการรู้จักให้ความรักต่อผู้อื่นและรู้จักที่จะรับความรักจากผู้อื่น การได้รับความรักและได้รับการยอมรับจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่ทำให้บุคคลเกิดความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า บุคคลที่ขาดความรักก็จะรู้สึกว่าชีวิตไร้ค่ามีความรู้สึกอ้างว้างและเคียดแค้น กล่าวโดยสรุป Maslow มีความเห็นว่าบุคคลต้องการความรักและความรู้สึกเป็นเจ้าของ และการขาดสิ่งนี้มักจะเป็นสาเหตุให้เกิดความข้องคับใจและทำให้เกิดปัญหาการปรับตัวไม่ได้ และความยินดีในพฤติกรรมหรือความเจ็บป่วยทางด้านจิตใจในลักษณะต่างๆ

สิ่งที่ควรสังเกตประการหนึ่ง ก็คือมีบุคคลจำนวนมากที่มีความลำบากใจที่จะเปิดเผยตัวเองเมื่อมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับเพศตรงข้ามเนื่องจากกลัวว่าจะถูกปฏิเสธความรู้สึกเช่นนี้ Maslow กล่าวว่าสืบเนื่องมาจากประสบการณ์ในวัยเด็ก การได้รับความรักหรือการขาดความรักในวัยเด็ก ย่อมมีผลกับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะและการมีทัศนคติในเรื่องของความรัก Maslow เปรียบเทียบว่าความต้องการความรักก็เป็นเช่นเดียวกับรถยนต์ที่สร้างขึ้นมาโดยต้องการก๊าซหรือน้ำมันนั่นเอง (Maslow 1970 p. 170)

4. ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ( Self-Esteem needs)


เมื่อความต้องการได้รับความรักและการให้ความรักแก่ผู้อื่นเป็นไปอย่างมีเหตุผลและทำให้บุคคล เกิดความพึงพอใจแล้ว พลังผลักดันในขั้นที่ 3 ก็จะลดลงและมีความต้องการในขั้นต่อไปมาแทนที่ กล่าวคือมนุษย์ต้องการที่จะได้รับความนับถือยกย่องออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ลักษณะแรกเป็นความต้องการนับถือตนเอง (self-respect) ส่วนลักษณะที่ 2 เป็นความต้องการได้รับการยกย่องนับถือจากผู้อื่น (esteem from others)

4.1 ความต้องการนับถือตนเอง (self-respect) คือ ความต้องการมีอำนาจ มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความแข็งแรง มีความสามารถในตนเอง มีผลสัมฤทธิ์ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น และมีความเป็นอิสระ ทุกคนต้องการที่จะรู้สึกว่าเขามีคุณค่าและมีความสามารถที่จะประสบความสำเร็จในงานภาระกิจต่างๆ และมีชีวิตที่เด่นดัง

4.2 ความต้องการได้รับการยกย่องนับถือจากผู้อื่น (esteem from others) คือ ความต้องการมีเกียรติยศ การได้รับยกย่อง ได้รับการยอมรับ ได้รับความสนใจ มีสถานภาพ มีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขาน และเป็นที่ชื่นชมยินดี มีความต้องการที่จะได้รับความยกย่องชมเชยในสิ่งที่เขากระทำซึ่งทำให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าว่าความสามารถของเขาได้รับการยอมรับจากผู้อื่น

ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ก็เป็นเช่นเดียวกับธรรมชาติของลำดับชั้นในเรื่องความต้องการด้านแรงจูงใจตามทัศนะของ Maslow ในเรื่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นภายในจิตนั่นคือ บุคคลจะแสวงหาความต้องการได้รับการยกย่องก็เมื่อภายหลังจาก ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของได้รับการตอบสนองความพึงพอใจของเขาแล้ว และ Maslow กล่าวว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ที่บุคคลจะย้อนกลับจากระดับขั้นความต้องการในขั้นที่ 4 กลับไปสู่ระดับขั้นที่ 3 อีกถ้าความต้องการระดับขั้นที่ 3 ซึ่งบุคคลได้รับไว้แล้วนั้นถูกกระทบกระเทือนหรือสูญสลายไปทันทีทันใด ดังตัวอย่างที่ Maslow นำมาอ้างคือหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอคิดว่าการตอบสนองความต้องการความรักของเธอได้ดำเนินไปด้วยดี แล้วเธอจึงทุ่มเทและเอาใจใส่ในธุรกิจของเธอ และได้ประสบความสำเร็จเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและอย่างไม่คาดฝันสามีได้ผละจากเธอไป ในเหตุการณ์เช่นนี้ปรากฏว่าเธอวางมือจากธุรกิจต่างๆ ในการที่จะส่งเสริมให้เธอได้รับความยกย่องนับถือ และหันมาใช้ความพยายามที่จะเรียกร้องสามีให้กลับคืนมา ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของเธอเป็นตัวอย่างของความต้องการความรักซึ่งครั้งหนึ่งเธอได้รับแล้ว และถ้าเธอได้รับความพึงพอในความรักโดยสามีหวนกลับคืนมาเธอก็จะกลับไปเกี่ยวข้องในโลกธุรกิจอีกครั้งหนึ่ง

ความพึงพอใจของความต้องการได้รับการยกย่องโดยทั่วๆ ไป เป็นความรู้สึกและทัศนคติของความเชื่อมั่นในตนเอง ความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า การมีพละกำลัง การมีความสามารถ และความรู้สึกว่ามีชีวิตอยู่อย่างมีประโยชน์และเป็นบุคคลที่มีความจำเป็นต่อโลก ในทางตรงกันข้ามการขาดความรู้สึกต่างๆ ดังกล่าวนี้ย่อมนำไปสู่ความรู้สึกและทัศนคติของปมด้อยและความรู้สึกไม่พอเพียง เกิดความรู้สึกอ่อนแอและช่วยเหลือตนเองไม่ได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นการรับรู้ตนเองในทางนิเสธ (negative) ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรู้สึกขลาดกลัวและรู้สึกว่าตนเองไม่มีประโยชน์และสิ้นหวังในสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของชีวิต และประเมินตนเองต่ำกว่าชีวิตความเป็นอยู่กับการได้รับการยกย่อง และยอมรับจากผู้อื่นอย่างจริงใจมากกว่าการมีชื่อเสียงจากสถานภาพหรือการได้รับการประจบประแจง การได้รับความนับถือยกย่องเป็นผลมาจากความเพียรพยายามของบุคคล และความต้องการนี้อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ถ้าบุคคลนั้นต้องการคำชมเชยจากผู้อื่นมากกว่าการยอมรับความจริงและเป็นที่ยอมรับกันว่าการได้รับความนับถือยกย่อง มีพื้นฐานจากการกระทำของบุคคลมากกว่าการควบคุมจากภายนอก

5. ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง (Self-Actualization needs)


ถึงลำดับขั้นสุดท้าย ถ้าความต้องการลำดับขั้นก่อนๆ ได้ทำให้เกิดความพึงพอใจอย่างมีประสิทธิภาพ ความต้องการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงก็จะเกิดขึ้น Maslow อธิบายความต้องการเข้าใจตนองอย่างแท้จริง ว่าเป็นความปรารถนาในทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งบุคคลสามารถจะได้รับอย่างเหมาะสมบุคคลที่ประสบผลสำเร็จในขั้นสูงสุดนี้จะใช้พลังอย่างเต็มที่ในสิ่งที่ท้าทายความสามารถและศักยภาพของเขาและมีความปรารถนาที่จะปรับปรุงตนเอง พลังแรงขับของเขาจะกระทำพฤติกรรมตรงกับความสามารถของตน กล่าวโดยสรุปการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงเป็นความต้องการอย่างหนึ่งของบุคคลที่จะบรรลุถึงวจุดสูงสุดของศักยภาพ เช่น “นักดนตรีก็ต้องใช้ความสามารถทางด้านดนตรี ศิลปินก็จะต้องวาดรูป กวีจะต้องเขียนโคลงกลอน ถ้าบุคคลเหล่านี้ได้บรรลุถึงเป้าหมายที่ตนตั้งไว้ก็เชื่อได้ว่าเขาเหล่านั้นเป็นคนที่รู้จักตนเองอย่างแท้จริง” Maslow ( 1970 : 46)

ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงจะดำเนินไปอย่างง่ายหรือเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยความเป็นจริงแล้ว Maslow เชื่อว่าคนเรามักจะกลัวตัวเองในสิ่งเหล่านี้ “ด้านที่ดีที่สุดของเรา ความสามารถพิเศษของเรา สิ่งที่ดีงามที่สุดของเรา พลังความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์” Maslow (1962 : 58)

ความต้องการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงมิได้มีแต่เฉพาะในศิลปินเท่านั้น คนทั่วๆ ไป เช่น นักกีฬา นักเรียน หรือแม้แต่กรรมกรก็สามารถจะมีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงได้ถ้าทุกคนสามารถทำในสิ่งที่ตนต้องการให้ดีที่สุด รูปแบบเฉพาะของการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงจะมีความแตกต่างอย่างกว้างขวางจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง กล่าวได้ว่ามันคือระดับความต้องการที่แสดงความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด

Maslow ได้ยกตัวอย่างของความต้องการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ในกรณีของนักศึกษาชื่อ Mark ซึ่งเขาได้ศึกษาวิชาบุคลิกภาพเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อเตรียมตัวเป็นนักจิตวิทยาคลีนิค นักทฤษฎีคนอื่นๆ อาจจะอธิบายว่าทำไมเขาจึงเลือกอาชีพนี้ ตัวอย่าง เช่น Freud อาจกล่าวว่ามันสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับสิ่งที่เขาเก็บกด ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องเพศไว้ตั้งแต่วัยเด็ก ขณะที่ Adler อาจมองว่ามันเป็นความพยายามเพื่อชดเชยความรู้สึกด้อยบางอย่างในวัยเด็ก Skinner อาจมองว่าเป็นผลจากการถูกวางเงื่อนไขของชีวิตในอดีต ขณะที่ Bandura สัมพันธ์เรื่องนี้กับตัวแปรต่างๆ ทางการเรียนรู้ทางสังคม และ Kelly อาจพิจารณาว่า Mark กำลังจะพุ่งตรงไปเพื่อที่จะเป็นบุคคลที่เขาต้องการจะเป็นตัวอย่างที่แสดงถึง การมุ่งตรงไปสู่เป้าประสงค์ในอาชีพโดยความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงและถ้าจะพิจารณากรณีของ Mark ให้ลึกซึ่งยิ่งขึ้น ถ้า Mark ได้ผ่านกาเรียนวิชาจิตวิทยาจนครบหลักสูตรและได้เขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกและในที่สุดก็ได้รับปริญญาเอกทางจิตวิทยาคลีนิค สิ่งที่จะต้องวิเคราะห์ Mark ต่อไปก็คือ เมื่อเขาสำเร็จการศึกษาดังกล่าวแล้วถ้ามีบุคคลหนึ่งได้เสนองานให้เขาในตำแหน่งตำรวจสืบสวน ซึ่งงานในหน้าที่นีจะได้รับค่าตอบแทนอย่างสูงและได้รับผลประโยชน์พิเศษหลายๆ อย่างตลอดจนรับประกันการว่าจ้างและความมั่นคงสำหรับชีวิต เมื่อประสบเหตุการณ์เช่นนี้ Mark จะทำอย่างไร ถ้าคำตอบของเขาคือ “ตกลง” เขาก็จะย้อนกลับมาสู่ความต้องการระดับที่ 2 คือความต้องการความปลอดภัย สำหรับการวิเคราะห์ความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง Maslow กล่าวว่า “อะไรที่มนุษย์สามารถจะเป็นได้เขาจะต้องเป็นในสิ่งนั้น” เรื่องของ Mark เป็นตัวอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าเขาตกลงเป็นตำรวจสืบสวน เขาก็จะไม่มีโอกาสที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง

ทำไมทุกๆ คนจึงไม่สัมฤทธิผลในการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง (Why Can’t All People Achieve Self-Actualization) ตามความคิดของ Maslow ส่วนมากมนุษย์แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการแสวงหาเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ภายในตน จากงานวิจัยของเขาทำให้ Maslow สรุปว่าการรู้ถึงศักยภาพของตนนั้นมาจากพลังตามธรรมชาติและจากความจำเป็นบังคับ ส่วนบุคคลที่มีพรสวรรค์มีจำนวนน้อยมากเพียง 1% ของประชากรที่ Maslow ประมาณ Maslow เชื่อว่าการนำศักยภาพของตนออกมาใช้เป็นสิ่งที่ยากมาก บุคคลมักไม่รู้ว่า ตนเองมีความสามารถและไม่ทราบว่าศักยภาพนั้นจะได้รับการส่งเสริมได้อย่างไร มนุษย์ส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจในตัวเองหรือไม่มั่นใจในความสามารถของตนจึงทำให้หมดโอกาสเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง และยังมีสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่มาบดบังพัฒนาการทางด้านความต้องการของบุคคลดังนี้

อิทธิพลของวัฒนธรรม ตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของสังคมมีต่อการเข้าใจตนเอง คือแบบพิมพ์ของวัฒนธรรม (cultural stereotype) ซึ่งกำหนดว่าลักษณะเช่นไรที่แสดงความเป็นชาย (masculine) และลักษณะใดที่ไม่ใช่ความเป็นชาย เช่นจัดพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความเมตตากรุณา ความสุภาพและความอ่อนโยน สิ่งเหล่านี้วัฒนธรรมมีแนวโน้มที่จะพิจารณาว่า “ไม่ใช่ลักษณะของความเป็นชาย” (unmasculine) หรือความเชื่อถือของวัฒนธรรมด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่มีคุณค่า เช่น ยึดถือว่าบทบาทของผู้หญิงขึ้นอยู่กับจิตวิทยาพัฒนาการของผู้หญิง เป็นต้น การพิจารณาจากเกณฑ์ต่างๆ ดังกล่าวนี้เป็นเพียงการเข้าใจ “สภาพการณ์ที่ดี” มากกว่าเป็นเกณฑ์ของการเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง

ประการสุดท้าย Maslow ได้สรุปว่าการไม่เข้าใจตนเองอย่างแท้จริงเกิดจากความพยายามที่ไม่ถูกต้องของการแสวงหาความมั่นคงปลอดภัย เช่น การที่บุคคลสร้างความรู้สึกให้ผู้อื่นเกิดความพึงพอใจตนโดยพยายามหลีกเลี่ยงหรือขจัดข้อผิดพลาดต่างๆ ของตน บุคคลเช่นนี้จึงมีแนวโน้มที่จะพิทักษ์ความมั่นคงปลอดภัยของตน โดยแสดงพฤติกรรมในอดีตที่เคยประสบผลสำเร็จ แสวงหาความอบอุ่น และสร้างมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งลักษณะเช่นนี้ย่อมขัดขวางวิถีทางที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง


วิบูลย์ จุง // Wiboon Joong (wbj) // Jung
DIP Consultant Award 2013
ที่ปรึกษาธุรกิจ วิทยากรกระบวนการเชิงกิจกรรม โค้ชผู้บริหารการจัดการ นักวิจัยการตลาด
Business Consult, Facilitator Trainer, Executive Management Coach, Marketing Survey



Create Date : 07 ธันวาคม 2550
Last Update : 24 ธันวาคม 2558 22:06:10 น. 56 comments
Counter : 96231 Pageviews.

 
ขอบพระคุณอย่างสูงนะค่ะ
กำลังเรียนอยู่พอดิบ พอดีเลย


โดย: ยอพระกลิ่น วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:16:30:34 น.  

 
เนื้อหาดีอ่านเข้าใจง่าย เด็กมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร


โดย: parm IP: 202.29.24.193 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:15:43:52 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ นายเก่าให้หาอยู่ ขอบคุณจริง


โดย: แต๋ม IP: 58.8.227.252 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:20:37:32 น.  

 
THANK YOU FOR INFORMATION


โดย: TUCKKY IP: 203.158.215.80 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:10:52:55 น.  

 
ดีใจจังที่บังเอิญเข้ามาเจอ
กำลังจะวิเคราะห์ตัวละครใน Tuesdays with Morrie กับ Theory นี้เลยค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำหนังสือที่เกี่ยวกับTheoryนี้ แบบที่อ่านง่ายๆหน่อยนะค่ะ ได้มั้ยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: พร้าว IP: 203.107.219.234 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:16:15:30 น.  

 
ข้อมูลดีมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอนุญาตนำไปใช้เป็นเอกสารประกอบการสอนนักศึกษานะคะ


โดย: ครูแอ้ IP: 202.29.6.177 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:48:02 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ๆ ๆข้อมูลครบ


โดย: เต๋า IP: 202.28.62.245 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:10:46:16 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมุลค่ะ


โดย: เด็กม เกษตร IP: 158.108.159.79 วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:10:48:39 น.  

 
แหล่งอ้างอิงจากที่ไหนครับ หนังสือเล่มไหน หน้าที่เท่าไร ปีที่พิมพ์ ผู้แต่ง ขอด้วยครับ


โดย: นักวิจัย IP: 118.172.73.181 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:14:11:13 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ

ช่วยได้เยอะเลยค่ะ


โดย: ^0^ IP: 58.8.160.81 วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:21:58:04 น.  

 
จขอบคุณมากนะค่ะ อาจารย์กำลังให้หาอยู่พอดีเลย


โดย: เด็กอาชีวอุบลคร้า.... IP: 222.123.204.247 วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:09:30 น.  

 
ขอบคุณมากๆครับ อาจารย์กำลังให้หาอยู่พอดี


โดย: เทคนิคร้อยเอ็ด IP: 192.168.0.109, 117.47.10.154 วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:13:10:49 น.  

 
THANKS VERY MUCH FOR THE IMFORMATION

MY NAME IS NID


โดย: NIDDY AND FRIEND IP: 124.122.80.231 วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:21:30:33 น.  

 
DAMN IT LOVE THIS IMFORMATION

FROM DAMIAN


โดย: PARADEE AND FRIEND IP: 124.122.80.231 วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:21:32:05 น.  

 
ขอบคุณมากๆ ค่ะ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง


โดย: ใหม่ IP: 124.122.169.70 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:15:36:07 น.  

 
อ่านจบแล้ว เข้าใจ ด้วย

พร้อมสอบพรุ่งนี้ คะ

ขอบคุณ น่ะ คะ


โดย: dek mornor IP: 110.164.231.57 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:16:49:36 น.  

 
เนื้อหาเข้าใจง่ายดีคับ

ขอบคุนคับ


โดย: zee IP: 192.168.67.37, 202.28.68.202 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:40:21 น.  

 
เป็นประโยชน์มากๆค่ะ

เรียนมาแล้วแต่ว่าทำให้เข้าใจได้มากยิ่งข้น


โดย: kdu IP: 192.168.182.19, 124.121.173.230 วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:16:58:29 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: monjang IP: 222.123.140.15 วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:18:19:56 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: kid IP: 202.28.249.94 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:06:54 น.  

 
มีการประยุกต์ทฤษฏีของมาสโลว์กับการพยาบาลไหมคะ


โดย: แอน IP: 202.28.78.149 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:15:31:31 น.  

 
ขอแหล่งอ้างอิงได้ไหมคะ


โดย: นักวิจัยฝึกหัด IP: 125.27.236.203 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:21:17:05 น.  

 
อยากได้ขื่อ ผู้แต่งค่ะ จะได้เอาไปลงใน thesis
ค่ะ


โดย: Lisa IP: 27.130.39.26 วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:22:45:52 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ


โดย: GG IP: 61.90.28.9 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:23:20:22 น.  

 
จะขอแหล่งอ้างอิงจากที่ไหนครับ หนังสือเล่มไหน หน้าที่เท่าไร ปีที่พิมพ์ ผู้แต่ง ขอด้วยครับ จะเอาไปเป็นอ้างอองในthesisครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ


โดย: 2324 IP: 110.169.199.202 วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:12:43:06 น.  

 
แหล่งอ้างอิงจากที่ไหนคะ หนังสือเล่มไหน หน้าที่เท่าไร ปีที่พิมพ์ ผู้แต่ง อยากทราบเอาไปทำ IS ค่ะ
กรุณาแจ้งที่ a_nitcharee@hotmail.com


โดย: ณิชชารีย์ IP: 58.11.88.11 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:22:24:17 น.  

 
เป็นประโยชน์มากค่ะ ขอทราบแหล่งอ้างอิงของหนังสือ รบกวนด้วยค่ะ กำลังทำ thesis ค่ะ
ช่วยตอบกลับที่ narumkann@hotmail.com ด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: kingkarn IP: 180.210.216.131 วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:24:51 น.  

 
ข้อมูลมีประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: ปังปอนด์ IP: 58.8.44.242 วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:46:16 น.  

 
รบกวนขอแหล่งอ้างอิงข้อมูลด้วยนะค่ะ ทำรายงานส่งอาจารย์ค่ะรบกวนตอนกลับที่ Nun_phond@hotmail.comด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะค่ะ


โดย: ปังปอนด์อีกแล้ว IP: 58.8.44.242 วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:53:53 น.  

 

ขอบคุณมาก ๆ เลย มีประโยชฯอย่างยิ่ง เพราะอยากนำไปพูดให้ลูกน้องฟังที่โรงเรียนอยู่


โดย: วช. IP: 110.49.233.68 วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:22:04:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ กำลังทำรายงานเหมือนกันค่ะ อยากจะได้แหล่งอ้างอิงน่ะค่ะ ช่วยแนะนำหนังสือหน่อยได้ไหมคะ รบกวนอาจารย์ตอบกลับมาที่เมลล์นี้นะคะ shoujo_lolita@hotmail.com ขอบคุณค่ะ


โดย: Shoujo Lolita IP: 161.200.51.184 วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:13:53:04 น.  

 
ขอบคุณมากคะสำหรับเนื้อหา กำลังเรียน ป.โท และทำรายงานเกี่ยวกับทฤษฏีที่เกี่ยวข้องแรงจูงใจ


โดย: เทียนนส่องแสง IP: 118.174.109.45 วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:13:23:04 น.  

 
ขอบคุณมากคะสำหรับเนื้อหา กำลังเรียน ป.โท และทำรายงานเกี่ยวกับทฤษฏีที่เกี่ยวข้องแรงจูงใจ


โดย: เทียนนส่องแสง IP: 118.174.106.23 วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:13:29:17 น.  

 
ได้้ความรู้ดี ถ้าอ้างอิงแหล่งที่มาได้ก็จะเยี่ยม จะได้ตามไปค้นคว้าได้ต่อ...แฮ่ๆๆๆๆ อดเลย


โดย: etyoi IP: 103.1.166.200 วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:17:05:21 น.  

 
ขอบคุณที่ครับ


โดย: ouiouii IP: 110.77.241.74 วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:13:03:55 น.  

 
ขอบคุณครับ....กำลังเรียนเลยครับ


โดย: ก้องภพ IP: 183.89.224.58 วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:13:51:59 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: sa IP: 202.29.26.252 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:10:29:14 น.  

 
ดีมากครับ
ตอนนี้ ผมกำลังเรียนปริญญาโท อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับ ทฤษฎีมนุษยสัมพันธ์ ช่วยแนะนำด้วยครับ
รบกวนอาจารย์ช่วยตอบกลับด้วยนะครับ
wwongdee@gmail.com


โดย: wan IP: 171.7.122.140 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:00:07 น.  

 
แหล่งอ้างอิงจากที่ไหนคะ ชื่อหนังสือ หน้าที่เท่าไร ปีที่พิมพ์ ผู้แต่ง อยากทราบเอาไปทำworkshopส่งอาจารย์ค่ะ ขอบคุณค่ะ
kst_23712@hotmail.com


โดย: Saowa K. IP: 58.8.10.131 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:24:45 น.  

 
ขอบคุณมากครับ ช่วยได้เยอะเลยจริงๆ


โดย: พู IP: 124.120.158.178 วันที่: 4 สิงหาคม 2555 เวลา:10:30:07 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: nipolk IP: 171.4.107.69 วันที่: 8 กันยายน 2555 เวลา:9:57:49 น.  

 
มีทฤษฎีความปลอดภัยไหมค่ะ
อยากได้จังค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: เด็กทวิ IP: 182.52.108.122 วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:15:55:55 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ กำลังต้องการข้อมูลพอดีเลย ^^


โดย: น้ำ IP: 110.168.83.97 วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:12:15:55 น.  

 
ขอแหล่งอ้างอิงหน่อยค่ะ กำลังทำ IS อยู่
รบกวนตอบกลับที่ oil-ja@hotmail.com
ขอบพระคุณมากค่ะ


โดย: ออย IP: 182.52.88.250 วันที่: 30 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:58:21 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อมากค่ะ


โดย: aunlie IP: 203.158.176.20 วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:14:46:52 น.  

 
ก็ก๊อปมาจากวิกิไม่ใช่เหรอ อันนี้


โดย: - - IP: 171.101.198.22 วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:17:45:33 น.  

 
ขอบคุณค่ะ กำลังอ่านเรื่องนี้สอบพอดีเลย


โดย: เปีย IP: 171.5.138.111 วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:10:43:55 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลดีๆแบบนี้น่ะค่ะ เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ


โดย: ปูเป้ IP: 49.230.191.134 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:37:26 น.  

 
รบกวนของแหล่งอ้างอิงหน่อยครับ พอดีทำ IS อยู่อ่าครับ
รบกวนตอบมาทางเมล์นี้หน่อยนะครับ
m_zerzaa@hotmail.com

ขอคุณล่วงหน้าครับ


โดย: ไมค์ IP: 223.207.135.123 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:55:32 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


โดย: mm IP: 27.55.85.119 วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:20:24:53 น.  

 
พอดีทำ The sis ป โท มหิดล อยู๋ครับ ต้องการทราบชื่อผู้แต่งอะครับ จะเอาลงอ้างอิงครับผม ขอบคุณมากครับ

ID LINE : Capmoo_69
Mail : Kwanchai_umpairut@hotmail.com

***ขอบพระคุณอย่างสูงครับ***


โดย: อยากทราบผู็แต่งครับ IP: 58.10.212.218 วันที่: 16 มิถุนายน 2558 เวลา:22:15:25 น.  

 

พอดีกำลังทำงานเกี่ยวกับการสื่อสารมวลชนค่ะ
อยากจะขออ้างอิงเพื่อที่จะนำข้อมูลไปใช้ค่ะ

ชื่อจริงและนามสกุลคุณได้นะค่ะ

รบกวนช่วยส่งมาทาง E-mail : jetiyaboon@gmail.com ได้ไหมค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: อยากทราบผู้แต่งค่ะ IP: 171.98.214.95 วันที่: 23 กันยายน 2558 เวลา:10:21:47 น.  

 
รบกวนขอข้อมูลอ้างอิงหน่อยนะคะพอดีจะต้องเอาไปทำรายงานน่ะคะ
fangrung216@gmail.com
ขอบคุณล่วงหน้าคะ


โดย: ฟาง IP: 202.29.83.10 วันที่: 30 ตุลาคม 2558 เวลา:17:17:23 น.  

 
เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: Nam IP: 1.47.198.226 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:22:20:14 น.  

 
รบกวนขอข้อมูลอ้างอิงแหล่งที่มาได้ไหมคะ
Line: jdplus


โดย: juplus IP: 27.145.135.119 วันที่: 30 มีนาคม 2564 เวลา:15:44:16 น.  

 
รบกวนขอแหล่งที่มาอ้างอิงได้ไหมค่ะ พอดีจะเอาไปทำวิจัยค่ะ pen_43_7@hotmail.com


โดย: phung IP: 205.178.183.59 วันที่: 5 มิถุนายน 2566 เวลา:16:53:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.