อิทธิพลจากแดนกิมจิแผ่ขยายเข้ามาในประเทศไทยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางยอดฮิต หรือจะเป็นซีรีส์เกาหลีที่หากได้ดูเป็นต้องติดตามจนยากจะละสายตา รวมไปถึงดาราและนักร้องเกาหลี ที่เข้ามาเรียกเสียงกริ๊ดจากสาวไทยได้มากโข
แต่หากจะพูดถึงเรื่องอาหารการกินล่ะก็ ร้อยทั้งร้อยอันดับแรกที่นึกถึงเห็นจะหนีไม่พ้นอาหารสร้างชาติอย่าง "กิมจิ" เป็นแน่ และเมื่อมีโอกาสไปเยือนกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ครั้งนี้ คม ชัด ลึก เลยขออาสาพาไปตระเวนชิมอาหารเด่นรอบๆ เมืองหลวงกันเสียหน่อย วันหน้าวันหลังหากเฉียดกรายไปย่านนั้นจะได้แวะไปตามรอยความอร่อยด้วยกัน
ก่อนเริ่มออกตระเวนชิม 'อโณทัย' ไกด์หนุ่มประจำทริป เล่าให้ฟังว่า การจะออกไปทานอาหารนอกบ้านของคนเกาหลี ต้องมีการพูดคุยตกลงกันก่อนว่าจะเลือกทานอะไร เพราะร้านอาหารที่นี่จะขายเฉพาะอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีให้เลือกหลากหลายชนิดเหมือนกับบ้านเรา
และคนที่นี่นิยมบริโภคผักกันมาก ราว 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเนื้อสัตว์จะทานเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ต่อมื้อ โดยทุกมื้อจะต้องมีพันชัน หรือกับข้าวเป็นเครื่องเคียงด้วยเสมอ ซึ่งจะมีให้เลือกมากกว่า 200 ชนิด แต่จะทำจากผักเพียงไม่กี่ชนิดที่ปลูกได้ในประเทศเกาหลีเท่านั้น อาทิ ผักกาดขาว หัวไชเท้า แตงกวา เป็นต้น
หลังรู้ข้อมูลคร่าวๆ ไกด์หนุ่มพาไปประเดิมกินของอรอ่ยมื้อแรกที่ร้านเก่าแก่ "แพคยอน โทจัง ซัมเกทัง" กลางย่านทงแด กับเมนู ซัมเกทัง หรือ ไก่ตุ๋นโสม เป็นอาหารเกาหลีสูตรดั้งเดิม และเป็นเมนูขึ้นชื่อของเกาหลี
วิธีการทำ
คือนำไก่ทั้งตัวมายัดข้าวเข้าไปในท้องไก่ แล้วนำไปตุ๋นกับรากโสม เสิร์ฟร้อนๆ ในน้ำซุปเข้มข้น ทานคู่กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว จะได้รสชาติอร่อยแบบดั้งเดิม
เมนูนี้คนเกาหลีนิยมทานกันมากในหน้าร้อน เพราะเชื่อว่าการทานอาหารร้อนๆ จะช่วยขับเหงื่อเพื่อให้ร่างกายเย็นขึ้น มื้อถัดมาไกด์หนุ่มคนเดิมพาไปลิ้มรสอาหารชื่อดังอย่าง เทจิคาลบี หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม หมูย่างเกาหลี ที่ร้าน "ซอเรปนคา" ย่านพันโพ
ที่นี่เขาหมักเนื้อหมูได้นุ่มมากๆ ย่างจนได้ที่ เพิ่มรสชาติอีกนิดด้วยน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว แล้วแก้เลี่ยนด้วยพันชันสารพัดชนิดที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นสลัดงาดำ ปลาชุปแป้งทอด กุยช่ายทอด เป็นต้น
ยังไม่หนำใจกับความอร่อย มื้อนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศไปชิลแถบชานกรุงโซลกันบ้าง ที่ร้านกลางทุ่งนาชื่อ "เย็นนัล" กับเมนู จิมทัก หรือ ไก่ผัดวุ้นเส้น ที่ดูเหมือนจะธรรมดาด้วยไก่ชิ้นโต วุ้นเส้น แครอท หอมใหญ่ ผัดใส่ซีอิ๊วดำ แล้วเพิ่มความหอมและรสชาติเผ็ดเล็กน้อยด้วยพริกแห้ง
จานนี้อร่อยจนทุกคนพร้อมใจกันยกนิ้วให้ทีเดียว รวมไปถึงสไตล์การตกแต่งร้าน ด้วยการนั่งพื้นแบบดั้งเดิมก็เป็นที่ถูกอกถูกใจหลายคนเช่นกัน
มื้อถัดมาเป็นเวลาของปูอาลาสก้าก้ามโต ที่ร้าน "คิมคิม" ย่านทงแด มื้อนี้นอกจากจะได้หม่ำเนื้อปูสดๆ กันแล้ว ยังมีข้าวผัดปูเสิร์ฟร้อนๆ ในกระดองเจ้าปูยักษ์ให้ได้ลิ้มรสกันด้วย แต่หากจะให้คล่องคอแนะนำให้เลือกซดน้ำซุปตามด้วย ทางร้านเขามี 2 แบบให้เลือกจะเป็นซุปสาหร่ายใสหรือซุปทะเลรสจัดจ้านแบบไทยก็แล้วแต่ชอบ
มื้อสุดท้าย ณ แดนกิมจิ ไกด์รูปหล่อการันตีว่าต้องถูกใจคนไทยมากๆ เพราะที่ผ่านมาทุกกรุ๊ปที่พามาร้าน "บูลโกกิ บราเธอร์ส" ต่างพยักหน้ายอมรับว่าถูกใจกันถ้วนหน้า
ร้านนี้เขาเสิร์ฟเมนูชื่อ บูลโกกิ เป็นอาหารประเภทย่างสูตรดั้งเดิมของเกาหลี มีให้เลือกทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัวผัดในกระทะร้อน ร่วมด้วยวุ้นเส้น เห็ดเข็มทอง หอมใหญ่ และต้นหอม รสชาติออกหวานเล็กน้อยทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่างที่ไกด์บอกจริงๆ ด้วย
อ๊ะอ๊ะ..อย่าเพิ่งเชื่อหากยังไม่ได้ลองเอาเป็นว่ามาเกาหลีครั้งหน้า แวะชิมเสียหน่อยจะได้รู้ว่าอร่อยจริงสมราคาคุยหรือไม่...
ขอบคุณ คม ชัด ลึกออนไลน์
สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ