ณอร อ่องกมล

แม้เยอรมนีจะมีฉายา "เมืองเบียร์" และขึ้นชื่อเรื่อง "ไส้กรอก" แต่หากได้มาเยี่ยมเยือนถิ่นอินทรีเหล็กด้วยตัวเองล่ะก็ เห็นทีจะต้องพลิกทำเนียบอาหารระดับโลก เพิ่มจานโปรดเมนูเด็ดโดนใจสุดอิ่มอร่อย

แวะเวียนเข้าร้าน โซลเบอร์ฟาสส์?เจอ เฮกเซนฮอส ตั้งอยู่หัวมุมถนนกรอสเซอร์ ฟรีดแบกเกอร์ ใจกลางนคร แฟรงก์เฟิร์ต กับบรรยากาศร้านสบายๆ สไตล์ผับบาร์ เปิดให้บริการทั้งขาจร ขาประจำ กับเมนูอาหารเยอรมันดั้งเดิม และเครื่องดื่มท้องถิ่นเมืองเบียร์ในราคาสบายกระเป๋า

เริ่มที่จานเรียกน้ำย่อย อย่าง "คโนเดิล" มันฝรั่งต้มปอกเปลือกบดจนละเอียด นำไปผสมกับแป้ง เกลือและไข่ คลุกเคล้าจนเข้ากันดี ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่าผลมันฝรั่งลูกเล็กพักไว้สักชั่วโมง ก่อนต้มในน้ำเดือดอุณหภูมิคงที่ ราว 5-10 นาที รอจนลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ ค่อยช้อนพักบนตะแกรง ตามประเพณีนิยม

แต่ทางร้านปรับให้เข้ากับความชอบของลูกค้า เลยต้มก่อนแล้วจึงทอดในน้ำมันเดือดจนเหลืองกรอบ โรยเกลือเพิ่มรสชาติอีกเล็กน้อย ยกเสิร์ฟร้อนๆ กับซอสมะเขือเทศ และน้ำส้มสายชูแบบฝรั่ง จานนี้ถึงจะไร้สีสัน แต่ความหนืดหนึบหนับจากมันฝรั่งและไข่ไก่ ทำให้ยิ่งกิน ยิ่งอร่อย เผลอหยิบใส่ปาก เคี้ยวจับๆ โดยไม่รู้ตัว

แถมยังเข้ากันดีกับสารพัดจานเนื้อ ทั้ง "ขาหมูเยอรมันทอด" ต้นตำรับ นำขาหมูที่ต้มแล้วมาทอดกับไฟปานกลางจนสุกเหลืองกรอบทั่วทั้งชิ้น เพิ่มรสสัมผัสตัดความเลี่ยนด้วย "ผักดองกะหล่ำเปรี้ยว" หรือ "ซอยเออร์เคราต์" และน้ำซอสเกรวี่หมูเข้มข้น แนมด้วยซอสแอปเปิ้ล และมัสตาร์ด

ส่วน "ขาหมูต้ม" อีกหนึ่งตำรับความอร่อยของเยอรมัน ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เนื้อหมูต้มได้ให้สีขาวอมชมพู ไม่ถูกต้มนานจนเนื้อเปื่อยยุ่ย และไม่แข็งหยาบไร้รสชาติ ซึมซับน้ำเกรวี่หมักเครื่องเทศ ช่วยชูรสชาติให้กลม กล่อมยิ่งขึ้น

ตามด้วย "ไส้กรอกเยอรมัน" ที่มาแบบเต็มๆ จาน ตั้งแต่ "บราตเวิร์สต์" ไส้กรอกหมูเนื้อนุ่มรสชุ่มลิ้นจากเมืองเบิร์นแบร์ก (นูเรมเบิร์ก) ยาวราว 7-9 เซนติเมตร เสิร์ฟร้อนๆ 2 แบบ 2 สไตล์ ทั้ง ย่างบนเตาถ่านจนหอมกรุ่นติดกลิ่นไม้ไหม้นิดๆ และกรอบนอกชุ่มรสเนื้อฉ่ำอยู่ด้านในด้วยวิธีการทอด

ส่วน "บ๊อกเวิร์สต์" ไส้กรอกเนื้อหมูรมควันสูตรผสมนมสด เสิร์ฟด้วยการย่าง หรือต้มในน้ำร้อนจนเดือด ได้รสชาติเนื้อนุ่มกำลังดี ให้รสชาติอ่อนๆ ไม่เค็ม ไม่เหม็นคาว กินแล้วให้ความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม เหมือนเนื้อค่อยๆ ละลายในปาก

อีกชนิดเป็นที่รู้จักมักคุ้นสำหรับคนไทย คือ "ไส้กรอกแฟรงก์เฟิร์ต" ส่วนใหญ่ทำจากเนื้อวัวและเนื้อหมูในอัตราส่วน 40 ต่อ 60 ผสมกับเครื่องเทศเพื่อดับคาว และช่วยให้รสชาติเข้มข้นถึงใจคอไส้กรอก มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามขนาด ถ้าบรรจุในไส้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาว 4 นิ้ว จะเรียกว่า "แฟรงก์เฟอร์เตอร์" ใช้ไส้เส้นผ่านศูนย์กลาง 3/4 นิ้ว ยาว 4-5.5 นิ้ว เรียกว่า "เวียนนา" ส่วนขนาดเล็ก เป็นปล้องสั้นๆ เรียก "แฟรงก์เฟอร์เตอร์ ค็อกเทล"

กินเมนูเนื้อมากๆ เข้า ก็ต้องแก้เลี่ยนด้วยเบียร์ มีให้เลือกหลากหลายดีกรีความแรงขึ้นอยู่กับความอึดส่วนบุคคล

ที่พลาดไม่ได้จริงๆ คือ "เบียร์ดำ" หรือ "ชวาร์ซเบียร์" จิบพอคล่องคอแกล้มกับอาหารหนักๆ ทำให้สดชื่นขึ้นเยอะ

ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึง เครื่องดื่มต้นตำรับเมืองเบียร์ทั้งที แ ม้แต่ฟองยังนุ่มลิ้น ค่อยๆ กระดกรับรสชาติซาบซ่าพอตัว ไม่ขมกระด้างคอ และมีกลิ่นหอม อ่อนๆ ของข้าวสาลี ดื่มเพลินจวนหมดแก้ว พนักงานก็ยกอีกเมนูมาวางตรงหน้า!

สปีกเยอรมันคร่าวๆ ว่าเป็นพิซซ่า หรือ "คูเค่น ฟรัม" จานแป้งหน้าตาแปลก อันที่จริงเป็นขนมเบื้องโรยหน้าของเยอรมัน ตัวฐานทำจากแป้งอเนกประสงค์ และแป้งโฮลวีต ผสมน้ำอุ่น น้ำตาล เกลือ ยีสต์และน้ำมันมะกอก คลุกเคล้าจนเข้าที่ พักไว้ราวๆ 1 ชั่วโมง ค่อยแบ่งส่วนรอยีสต์ขยายตัวจนฟูอีก 15 นาที ใช้ไม้นวดแป้งกลึงเป็นแผ่นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 นิ้ว แล้วนำเข้าเตาอบ อบให้กรอบหอมทั้งสองด้าน

ก่อนโรยหน้าด้วยเบคอนเนื้อดีสับหยาบๆ ผัดกับหอมแดง ต้นหอมซอย น้ำมันมะกอกและพริกไทยดำป่น ยกขึ้นจัดวางบนแป้ง นำเข้าเตาอบอีกครั้งและจึงเสิร์ฟร้อนๆ เป็นได้ทั้งเมนูหลัก เมนูรองท้อง ตัวแป้งหอมกลิ่นควันไฟอบใหม่ๆ กัดแต่ละคำกรุบกรับได้ที่ แถมเข้ากันดีกับรสเค็มเข้มข้นของหน้าเบคอน

ใครยังไม่อิ่มจะสั่งไอศกรีม หรือนั่งชิลๆ จิบเบียร์รอตะวันตกดินหลัง 4 ทุ่ม ก็ตามอัธยาศัย

ถ้าว่างก็เดินย่อยชมทิวทัศน์นครแฟรงก์เฟิร์ตเป็นอาหารตา แต่ถ้ายังหิวก็ลองชิม "เพร็ตเซล" ขนมปังไขว้รูปหัวใจแบบหนานุ่มชุ่มเนย มีทั้งแบบโรยเกลือ เคลือบน้ำตาล โรยงาขาว ราคาก็แสนถูก ชิ้นละ 99 เซนต์ เกือบๆ 40 บาท หรือจะซื้อแพ็ก 3 ชิ้นที่ราคา 75 บาทก็น่าสน

อีกเมนูที่น่าลอง คือ "ชนีย์บอลเลน" แปลว่า สโนว์บอล เป็นขนมพื้นเมือง ทำจากแป้งอเนกประสงค์ ผสมเนย ไข่แดง นมสด เกลือ น้ำตาล ซาวครีมและเหล้ารัม คลุกเคล้าจนเป็นแป้งโดว์ พักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ก่อนใช้ไม้นวดแป้งกลึงให้บางและตัดเป็นริ้วสี่เหลี่ยมทางยาวหลายๆ อัน นำมาสานพันไปพันมาคล้ายลูกตะกร้อ ทอดในน้ำมันเดือดจนได้สีน้ำตาลทอง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง หรือจะเคลือบช็อกโกแลต กาแฟคาราเมล ซินามอนบัตเตอร์ และเนยถั่วพิสตาชิโอ รสชาติกรุบกรอบอร่อยพอตัว ไม่หวานเลี่ยน ไม่อมน้ำมัน ซื้อลูกหนึ่ง 80-100 บาท กินเล่นกับเพื่อนได้ 2-3 คน ก็ยังอยู่ท้อง

ตบท้ายมื้ออร่อยเมืองเบียร์ครบรสทั้งคาว และหวาน ไม่เสียทีเสียเที่ยวที่บินมากินไกลถึงเยอรมนีจริงๆ

หน้า 5

ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
อร่อยแบบเยอรมัน
คุณณอร อ่องกมล

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ

Create Date : 02 กรกฎาคม 2555
Last Update : 2 กรกฎาคม 2555 8:24:27 น.		0 comments
Counter : 3005 Pageviews.
Share Tweet