แด่เธอ..มนุษย์เงินเดือน
สวัสดีจ้ะ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย สบายดีหรือเปล่าจ้ะ ส่วนฉันไม่ค่อยสบายดีเท่าไหร่หรอก เพราะชีวิตมนุษย์เงินเดือนของฉันที่ต้องทำงานซ้ำซาก ทำงานเยี่ยงหุ่นยนต์ ไม่ได้พัฒนาความคิดหรือจิตวิญญาณในตัวฉัน มันทำให้ฉันเหมือนมีชีวิตที่ตายทั้งเป็น ขอโทษนะที่ต้องใช้คำแรง ๆ แบบนี้ แต่ฉันรู้สึกไม่แตกต่างจากหุ่นยนต์ที่มีคนคอยตั้งโปรแกรม แล้วทำงานซ้ำ ๆ อย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้นึกไม่ออกเลยว่าหัวใจและจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ของฉันอยู่ที่ไหน
ฉันไม่ได้กล่าวหาว่าสิ่งที่เธอทั้งหลายทำอยู่ทุกวันมันไม่ดี มันคงมีดีและมีเหตุผลอยู่ในตัวบ้าง เธอถึงเลือกทำ และทนทำในสิ่งที่เป็นอยู่ แต่สำหรับฉันมันไม่เหมาะกับความเป็นตัวฉันเอาซะเลย ยิ่งทำไปนานวันเข้าก็ยิ่งรู้สึกว่าความเป็นมนุษย์ของฉันมันสึกกร่อนลงไปทุกที ๆ ... หากเธอบอกฉันว่า ทำงาน มีเงินเดือน มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันโต มีทุกอย่างที่อยากจะมี..แล้วความสุขล่ะ มีไหม๊ ??? ฉันโหยหาความสุข ฉันโหยหารอยยิ้ม ฉันโหยหาความสนุกในชีวิต ฉันโหยหาความเป็นตัวเอง..
หากงานคือส่วนหนึ่งของชีวิต ฉันก็ขอเลือกงานที่ทำให้ชีวิตฉันมีความสุข มีความสนุก และมีรอยยิ้มปนอยู่ด้วย ฉันไม่กลัวความยากลำบาก ฉันไม่เกี่ยงเงินน้อย แต่ฉันอยากได้จิตวิญญาณ และความเป็นตัวเองกลับมา ได้โปรดอย่าพึ่งประนามว่าฉันบ้า หรือคลั่งไคล้อุดมการณ์ที่กินไม่ได้ แต่ฉันก็อยู่ไม่ได้เช่นกันที่ต้องทนกับความกล้ำกลืน ทำงานอย่างให้หมดวันไปเร็ว ๆ เช้ามาไม่อยากจะลุกจากที่นอนเพื่อใช้ชีวิตวันใหม่ ทำงานแบบที่ไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองอยู่ที่ไหน มันทรมานใจยิ่งกว่าการถูกสลัดรักจากใครสักคนเสียอีก
พระท่านว่า กรรม คือสิ่งที่เราเลือกกระทำ ครั้งนี้ขอให้ฉันได้เลือกทำสิ่งที่ฉันต้องการบ้างเถอะ..เพราะฉันเรียนรู้แล้วว่า การทำสิ่งที่คนอื่นต้องการมันไปไม่รอด มีแต่จะทำร้ายกันและกัน มีแต่จะทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลงไปเรื่อย ๆ
ได้โปรดอภัยในสิ่งที่ฉันได้กระทำลงไป แม้ว่ามันจะจบไม่สวยสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยฉันก็บอกกับตัวเองว่า ฉันทำดีที่สุดแล้ว.. ได้โปรดให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำเยี่ยงเด็กไร้เดียงสา เพราะอันที่จริงมันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลที่สวยหรู ฉันแค่ต้องการความเป็นตัวเองกลับคืน ได้โปรดให้อภัยในสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำตามที่เธอคาดหวังได้ เพราะสิ่งที่เธอคาดหวังมันขัดแย้งกับจิตวิญญาณฉันมากมาย
และได้โปรดให้อภัยฉัน หากข้อเขียนนี้กระทบกระเทือนถึงความรู้สึกของเธอ
ขอบคุณช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ทำให้ฉันรู้ว่า ยามฉันลำบาก มีใครบ้างที่อยู่ข้างฉัน ขอบคุณครอบครัว ที่เข้าใจฉัน โดยที่ฉันไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาว ขอบคุณเพื่อนรัก ที่โทรหากริ๊งเดียว ก็สัมผัสความรู้สึกฉันได้ โดยไม่ต้องพูดอะไร (ซึ้ง..ว่ะ)
9 ธันวาคม 2552 สี่โมงสี่สิบสามนาที
Create Date : 09 ธันวาคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 9 ธันวาคม 2552 16:49:54 น. |
Counter : 700 Pageviews. |
|
|
|
ทุกอย่างที่คุณคิด คือทุกอย่างที่ผมคิด
ผมเข้าใจคุณ
เป็นกำลังใจให้คุณครับ
ผมเองด้วย
ตอนนี้ผมก็กำลังหาทางออกที่ดีให้ตัวเองอยู่ครับ
จะต่างจากคุณ ก็ตรงที่ผมมีจุดหมาย มีปลายอุโมงค์ให้เดินตามไป
แต่ตอนนี้ต้องอดทนและรอเวลอยู่ในอุโมงค์ไปก่อน
สักวันเราจะหยุดจากอุโมงค์ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
ให้รู้ไว้ว่าไม่ใ่แค่คุณหรอกที่คิดแบบนั้น ผมก็คิด แต่คุณเขียนลงบล็อคหมดแล้ว ของผมคงไม่มีอะไรให้ต้องเขียนอีก
ว่างๆ คุณกันได้ครับ ถ้าไม่รังเกียจเด็ก อายุ 23
ขอรับเพื่อนร่วมอุดมการณ์เพิ่มอีก 1 คนครับ