 |
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | |
|
 |
|
|
- เจ้าสำนักทั้งหลายชอบพูด จึงเอาคุณสมบัติของบุคคลโสดาบันย้ำอีกที
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าจะเปรียบเทียบทุกข์ ระหว่างปุถุชน กับ พระโสดาบันนี้ ทุกข์ของปุถุชนเหมือนภูเขาหิมาลัย ส่วนทุกข์ของพระโสดาบันเหลือเท่าก้อนกรวด
หมายความว่า พระโสดาบันนี้ ทุกข์น้อยเหลือเกิน ใจมีความสุขสบายตลอดเวลา เหลือทุกข์เท่าก้อนกรวด หรือเม็ดทรายเท่านั้น
นี่คือผลอย่างหนึ่งของการที่ได้พัฒนาจิตใจ ด้วยการเจริญเมตตา เป็นต้น ทำให้จิตใจมีความสุขมากยิ่งขึ้นตามลำดับ.
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=06-09-2024&group=106&gblog=5
คุณสมบัติฝ่ายหมดและฝ่ายมี นี้ ว่าโดยสาระสำคัญ ก็เป็นอย่างเดียวกัน กล่าวคือ จะละสักกายทิฏฐิได้ ก็เพราะมีปัญญาหยั่งรู้สภาวธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัยพอสมควร เมื่อเกิดปัญญาเข้าใจชัดขึ้นอย่างนี้ วิจิกิจฉาคือความสงสัยคลางแคลงใจก็หมดไป ศรัทธาที่อาศัยปัญญาก็แน่นแฟ้น
พร้อมนั้น ก็จะรักษาศีลได้ถูกต้องตามหลักการ ตามความมุ่งหมายกลายเป็นอริยกันตศีล คือ ศีลที่อริยชนชื่นชมยอมรับ สีลัพพตปรามาสก็พลอยสิ้นไป เมื่อจาคะเจริญขึ้น มัจฉริยะก็หมดไป เมื่อราคะ โทสะ โมหะเบาบางลง ก็ไม่ตกไปในอำนาจของอคติ และราคะ โทสะ โมหะ เบาบางลง ก็เพราะปัญญาที่มองเห็นความจริงของโลกและชีวิต ทำให้คลายความยึดติด เมื่อสิ้นยึดติด ถือมั่นน้อยลง ความทุกข์ก็ผ่อนคลาย และรู้จักความสุขที่ประณีตยิ่งขึ้น
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2568 |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2568 11:02:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 40 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|