📌 Fukushima Japan
🍁 🍂 🍁 🍂 🍁 🍂 🍁 🍂
เช้าวันนี้ เราพบว่าตัวเองเป็นชาวญี่ปุ่น เพราะลองใส่ชุดกิโมโนก่อนวันแรก คือพอเดินออกมาจากเรียวกัง
คนญี่ปุ่นแตกตื่นกัน มาขอถ่ายรูปด้วย 555 🤣 🤣
สายๆ เช็คเอ้าท์จากเรียวกัง 🏚️
แต่วันนี้หมดหวังค่ะ เพราะเข้าป่าสองข้างทางโกร๋นเกือบหมด 555
การเดินทางล่าใบไม้แดงของเราก็เริ่มนับถอยลงลงเรื่อยๆ แต่ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะวันที่ 3 ที่ผ่านมานั้น
เราได้เชื่อว่าเป็นวันที่สวยที่สุดในทริปฟุกุชิมะ ปี 2 ที่เราได้มาเยือนแล้ว จริงๆน้าา
สถานทีที่เราได้ไปเยือนมา ในวันที่ 4 ของเราตามเที่ยวกันต่อได้เล้ย
🍁 OKU-AIZU-NONBIRI KAN
🍁 LAKE NUMAZAWA
🍁 OSHI VILLAGE VIEW POINT
และส่วนมากคือวันนี้จะเน้นขับรถชมวิวตามทางไปเรื่อยๆ มากกว่า
วันนี้ไร้ฝน อากาศเย็นอีกวันหนึ่ง ถือเป็นเรื่องดีสำหรับการขับรถเที่ยวในจังหวัฟุกุชิมะในวันนี้อีกด้วยค่ะ
เช้าวันนี้ เราใส่ชุดกิโมโนสีแดง ที่เอามาจากไทยด้วย จากร้าน Hello Autumn Shop ที่เรียวกังมีรองเท้าเกี๊ยะไม้อยู่หลายคู่ จึงยืมมาใส่หน่อยเดินไปทีหัวแทบคะมำ เพราะเดินไม่เป็นกับรองเท้าแบบนี้ 555
เดินเล่นกันในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ใกล้กับ Tadami line first bridge ที่เราไปแวะถ่ายรูปรถไฟเมื่อวานนี้กันค่า
โดยปลายทางหมู่บ้านจะเป็น สะพานใหญ่ๆ สามเส้น ถ่ายเก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อย
ที่นานๆ ที่จะมีรถผ่านมาสักคัน แบบว่า หมู่บ้านแห่งนี้เงียบมากจริงๆ
แล้วเราก็ขับรถกันขึ้นเขาไปต่อเลาะเลียบเส้นแม่น้ำทาดามิ ไปเรื่อยๆ เจอจุดสวยๆ ตรงไหน ก็จอดรถลงถ่ายภาพ
นานๆที จะเจอรถสวนทางมาสักคัน เรียกได้เลยว่า ถนนส่วนตัวเราชัดๆ
ใบไม้สองข้างทางร่วงลงสูู่พื้นเยอะมากแล้ว พร้อมกับสีสันเหลืองอร่ามในพื้นที่
วันนี้เป็นวันจันทร์สีเหลือง แต่เสื้อขนเป็ดสีเหลืองเราใส่มาแล้ว จึงใส่หมวกโปเกม่อนสีเหลืองแทน
ก็น่ารักไปอีกแบบหนึ่งนะ 555
ลัดเลาะตามเส้นทาง แม่น้ำทาดามิ และเก็บภาพสีสันของใบไม้ไปเรื่อยๆ ค่ะ
สองข้างทางมันเงียบมาก ได้ยินแค่เสียงรถตัวเองว่ิ่งเท่านั้น ไร้ผู้คนสวนทาง
LAKE NUMAZAWA
Kaneyama-machi, Ōnuma-gun, Fukushima-ken
LAKE NUMAZAWA ทะเลสาบเล็กๆ ที่ล้อมไปด้วยภูเขาไฟอีกแห่งหนึ่งที่เรามาเยือน แบบไร้นักท่องเที่ยว
เงียบอีกแล้ว มีเพียงรถเราคันเดียวเท่านั้นด้วยค่ะ 555
ทะเลสาบนูมาซาว่า (Numazawa) เป็นทะเลสาบ Caldera Lake 2 ชั้นที่เกิดจากภูเขาไฟ
บริเวณรอบข้างมีป่าต้น Beech และต้น Mizunara เป็นบริเวณกว้าง เป็นทะเลสาบลึกลับที่มีปลา Himemasu อาศัยอยู่
ตอนเราไปไม่เห็นตัวปลานะคะ เห็นแต่เพียงความเงียบสงบของสถานที่
และเสียงลมหายใจของตัวเองเท่านั้น สถานที่แห่งนี้แนะนำเดินทางมาด้วยรถสวนตัวเท่านั้นค่ะ จะสะดวกที่สุด
หากมองย้อนไปช่วงพีคสุดของใบไม้เปลี่ยนสีล่ะก็ ฉากหลังจะเต็มไปด้วยภูเขาที่มีสีสันอย่างมาก
สะท้อนแสง กระทบทะเลสาบเป็นเงาจะสวยงามมากขนาดไหน จินตนาการกันเข้าไป
เราเดินเล่นเตร่ๆ อยู่ทีทะเลสาบได้ไม่นาน ก็ขับรถออกมาตามเส้นทางใหม่
แต่ทว่า ต้องหาที่จอดทันที เพราะตรงหน้าเรานั้นเจอวิวที่สวยมากกก สวยมากชนิดที่เราร้อง ว้าว ว้าว ว้าวอยู่หลายครั้ง
ฉากตรงหน้าคือ แม่น้ำที่นิ่งราบเรียบราวกระจกสะท้อนเงาบนล่างออกมาให้เราได้เห็น
แม่น้ำกว้างใหญ่ราบเรียบสวยแบบนี้ เราจะปล่อยผ่านได้อย่างไรโดยไม่เก็บภาพมาฝากกัน
ชัตเตอร์กล้องเราก็มีเสียงดังรัวๆ ดังขึ้นมา พร้อมกับสายตาเราที่ทอดมองเรือลำเล็กๆ ทีพายอย่างโดดเดียวตรงหน้า
ยืนดูจนหนำใจ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ รู้แต่ว่า ลมมันเย็นมาก มันหนาว เราควรพอแค่นี้ 555
ก่อนจากก็ขอมีภาพตัวเองเป็นที่ระลึกกับฉากสวยๆ แห่งนี้เช่นเคยค่า
ยอมรับเลยว่า ระหว่างทาง มีสะพานสวยๆ มีแม่น้ำไหลผ่านตลอดเส้นงามมาก
บางทีได้แต่ดูด้วยตาตัวเองค่ะ เพราะหาที่จอดไม่ได้ เราเชื่อว่า ช่วงใบไม้เปลียนสีที่พีคสุดๆ
บนภูเขาเหล่านี้ สวยสะพรึงอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งจุดน่าสนใจที่ห้ามพลาดของเมือง Mishima
นั่นคือ OSHI VILLAGE VIEW POINT เรียกได้ว่าเรามาเห็นแบบบังเอิญก็ว่าได้หลังจากขับรถมุ่งหน้าเตรียมไป Aizu Kawagushi
แต่แล้วสายตาก็เห็นสะพานใหญๆ เห้นนักท่องเที่ยวจอดรถปักหลักเตรียมถ่ายภาพอยู่กลุ่มหนึ่ง จึงลงไปสำรวจกันทันที
และนี่เป็นเบื้องหน้าที่เราได้เห็นค่ะ
นอกจากมุมนี้วิวจะสวยแล้ว ยังเป้นจุดสำคัญในการตามถ่ายรถไฟ Tadami Line อีกด้วย
เมือรุ้แบบนั้นเรามองเวลาจะพลาดได้อย่างไร เหลืออีกชั่วโมง หาา รอเหรอ รอค่ะระหว่างรอเราไม่ได้อยุ่ตรงนี้นะ
ขับรถเข้าไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวป้ายหน้า หาของกินรองท้องก่อนดีกว่า
ขนมอร่อยๆ เยอะมาก มื้อเทียงของเราจึงป็นขนมจำพวก โมจิ ไดฟูกุ และโดรายากิมากกว่า 555
นี่คือจุดชมวิวหมู่บ้าน Ooshi กับฉากตรงหน้าที่ห้ามพลาด
มันสวยมาก
เรียกได้ว่า หมู่บ้านในหุบเขาชัดๆ
และระหว่างนี้คากล้องก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ เวลาที่รถไฟจะแล่นผ่านตรงที่เรายืนตรงนี้
คือ 12.33 น. ค่ะ
และเวลา 12.33 น. รถไฟ Tadami Line ก็แล่นผ่านมาแบบตรงเวลา แบบเป๊ะมาก
รถไฟญี่ปุ่นนี่โคตรตรงเวลาจริงๆ 555
สำหรับช่วงเวลาที่รถไฟจะวิ่งไป Aizu Nakagawa Sta. โดยจะผ่านจุดชมวิว หมู่บ้าน Ooshi แห่งนี้คือ
05.30 / 08.41 / 12.33 / 15.28 / 19.10
หากใครมาเยือนในเวลาใกล้เคียงกับตารางผ่านรถไฟเหล่านี้ ก็อย่าพลาดที่จะรอเก็บฉากเด็ดนี้ได้ด้วยนะคะ
ดีกว่าถ่ายรางรถไฟเปล่าๆ อีกน้าา
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เมือง Shimogo-machi ซึ่งเป็นที่พักของเราในคำคืนนี้
ระหว่างทางเจอซ่อมถนนเป็นระยะๆ ก็จะมีป้าย และสัญญาณไฟบอกให้เห็น
หรือจะมีคนช่วยโบกรถตลอดเวลา ดูการทำงานประเทศเขาเป็นระเบียบอย่างมาก
ช่วยลดอุบัติเหตุได้ดีสุดๆ แต่สังเกตนะคะ คนที่มาทำงานซ่อมถนนหรือใช้แรงงานเหล่านี้ส่วนมากอายุเยอะๆ ทังนั้นคะ
เรียกได้ว่า ประเทศเขาก็ยังขาดแคลนแรงงานด้วยนี่แหละค่า
ระหว่างทาง ที่ขับรถผ่าน เจอจุดไหนสวยๆ และสามารถจอดได้
ก็จะจอดและลงไปเก็บภาพกันค่ะ
ระหว่างทางไปต่อที่ Shimogo-machi นั้น เราก็ผานกับถนน และสะพานสวยๆ อีกหลายจุด
กับเบื้องหลังฉากสะพานที่มีใบไม้สีส้มๆ เขียวๆ ทึมๆ ให้เราเห็นตลอดเส้นทาง
พร้อมกับถนนที่โล่่งมาก ถึงโล่งมากที่สุด ก็วันนี้เราขับบนถนนส่วนตัวเที่ยวนี่นาาา 555
เส้นทาง Road Trip 🚘
เรียวกังที่พักของเราอยู่แถวๆ นี้ค่ะ
และเป็นเรียวกังที่แพงที่สุดในทริปนี้ของเราเลยก็ว่าได้ คืนละ 6,xxx บาท
โปรดติดตามชมกันตอนต่อไปสำหรับทริป ฟุกุชิมะปี 2 วันที่ 5 ของเรานะค้าาา
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
สวยมากๆคะ ทริปนี้ไฮไลด์เน้นใบไม้เปลี่ยนสี
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 316 คน [
ชมเพลินมากๆ