ผลงานของพอลในยุคแรกๆ นั้น เริ่มต้นกับอีซีเอ็ม และมีผลงานเด่นอย่าง Dance (1977) ด้วย หากแต่ก็ได้ไปร่วมงานกับสังกัดอย่างโซลโน้ตและคลอดงานดีอย่าง The Story Of Maryam (1983) ออกมาด้วย จากนั้นจึงไปอยู่ค่ายเจเอ็มที ซึ่งถือเป็นยุคที่เขามีผลงานชั้นดีออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ On Broadway Vol.1 & 2 (1988, 1989) หรือ Bill Evans:Tribute To The Great Post Bop-Pianist (1990) วินเทอร์แอนด์วินเทอร์เป็นอีกค่ายที่พอลสร้างผลงานระดับขึ้นหิ้งหลายชุด ไม่ว่าจะเป็น Sound Of Love (1998), 2000 + One (1999) หรือ Play Monk And Powell (1999) ส่วน I Have The Room above Her เป็นงานล่าสุดที่เขาออกกับต้นสังกัดบ้านเก่าที่หวนคืนกลับไปอีกครั้ง
การได้ไซด์แมนดีอย่างบิล ฟริเซล (กีตาร์) และ โจ โลวาโน (เทนเนอร์แซ็กโซโฟน) ทำให้งานชิ้นนี้โดดเด่นขึ้นมาอีกเยอะทีเดียว เพราะแค่ชื่อนักดนตรี ก็แทบจะซื้อโดยไม่ต้องฟังแล้ว ทริโอวงนี้ก็ได้เคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้แล้วเมื่อราวๆ ยี่สิบปีก่อนในอัลบัม It Shouldve Happened A Long Time Ago (1984) แต่ว่าการเป็นวงทริโอที่ไม่มีเครื่องดนตรีที่ใช้เสริมจังหวะอย่างเบส ก็อาจจะทำให้คนฟังต๊กกะใจ นึกว่าเป็นงานฟังยากไปก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนัก หากได้ฟังเพลงแจ๊สและคุ้นชินกับการอิมโพรไวส์มาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประพันธ์ในสไตล์ของพอลเอง อย่างเพลง Osmosis Part III เพลงเปิดอัลบัม ซึ่งเนิบนาบและเน้นทางด้านการแสดงอารมณ์ของนักดนตรีในการอิมโพรไวส์ออกมาในเพลง ประกอบกับไลน์กีตาร์ของบิล ทำให้เรารู้สึกว่าของเหลวในร่างกายจะเกิดกระบวนการออสโมซิสอย่างชื่อเพลงเสียแล้ว
คอมโพสิชันในเพลง Odd Man Out แสดงให้เห็นความเป็นมือกลองมืออาชีพที่เชี่ยวชาญกับเทคนิก ที่ฟังแล้วดูเหมือนกับว่าพอลจะมีมือสักสิบมือก็ไม่ปาน แต่อย่ากังวลว่ามันจะฟังแล้วหนวกหู เพราะไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ด้วยเมโลดีหวานๆ จากฝีมือกีตาร์ของบิลผสมผสานกับฝีปากเป่าแซ็กฯ ของโจ ทำให้เพลงนี้ลงตัวอย่างช่วยไม่ได้เลยทีเดียว ส่วน I Have The Room Above Her สแตนดาร์ดแจ๊สจากการประพันธ์ของเจอร์โรม เคิร์นและออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ เป็นเพลงดังที่มาจากหนังเรื่อง Showboat การตีความแตกต่างจากหลายๆ เวอร์ชันที่เคยได้ยินมา พอลคุมจังหวะกลองไปเรื่อยๆ แต่แฝงสีสันอยู่ในที ไม่ใช่แค่โป๊ะ-ตึก โป๊ะ-ตึก-ตึกเหมือนกลองวงโยธวาทิตแน่นอน ลูกเล่นฉาบแฉของเขาแพรวพราวเห็นได้ชัดจากเพลงนี้ เคล้าคลอไปกับการเดินคอร์ดของบิล ส่วนเสียงแซ็กฯ ของโจก็กลายเป็นพระเอกของเพลงหวานๆ
Paul Motian / I Have The Room Above Her Musicians : Joe Lovano : Tenor Saxophone Bill Frisell : Guitar Paul Motian : Drums *************************************
Tomasz Stanko Quartet / Suspended Night
โธมัส สแตนโก ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่ว่าบนเวทีสากลหรือแฟนเพลงแจ๊สยุโรปแล้วล่ะก็ ชื่อนี้ไม่ธรรมดา นักทรัมเป็ตวัย 63 คนนี้เริ่มต้นฟอร์มวงแจ๊สสี่ชิ้นของตัวเองเมื่อปี 1962 ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นยูโรเปียน แจ๊สวงแรกๆ ที่ได้รับอิทธิพลทางดนตรีจากออร์เน็ต โคลแมน เขาเคยเล่นกับคริสตอฟ โคเมดาด้วยในช่วงปี 1963-67 อีซีเอ็มเป็นบ้านที่เขาย้ายเข้ามาอยู่ในปี 1994 กับชุด Matka Joanna จากนั้นเขาทำอัลบัม Litania : The Music Of Krystof Komeda ซึ่งเป็นอัลบัมที่ปผระสบความสำเร็จอย่างมากไม่เฉพาะในเยอรมันเท่านั้น แมนเฟร็ด เอเคอร์ โปรดิวเซอร์ตาดีของอีซีเอ็ม (ซึ่งเป็นผู้ดูแลการผลิตทั้งสามอัลบัมที่เอามาแนะนำกันในฉบับนี้) ก็ได้บรรจงคัดเลือกทีมไซด์แมนอย่าง ดีโน ซาลุซซี, จอห์น เซอร์แมน, มิเชล มาร์กาสกี, แอนเดียส์ จอร์มินส์ และจอน คริสเตนเซน เอามาปลุกปั้นจนเกิดกันทุกรายในอัลบัม From The Green Hill (2000)
Suspended Night เป็นผลงานชุดที่หกภายใต้ชายคาอีซีเอ็ม โธมัสเคยกล่าวถึงงานดนตรีจากอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ของเขาว่า เปรียบเสมือนวัยหนุ่มรุ่นกระทงที่ปั่นป่วนมาสู่ความสงบราบเรียบ จากอัดกันแหลกสู่ความละเมียดละไมแห่งการประพันธ์ ดูเหมือนว่าโธมัสจะไม่ได้ปิดบังเลยว่าตัวเขาเองได้รับอิทธิพลมาจากศิลปินอมตะอย่าง ไมล์ส เดวิส น้อยตัวโน้ตแต่กินใจแบบ Less is more. มีอยู่ในงานของโธมัสทั้งสิ้น บอกตามตรงว่าอัลบัมชุดนี้ทำให้เราได้เห็นฝีมือนักดนตรีโปลิชที่เก่งกาจอีกหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็น มาร์ซิน วาสิลิวสกี (เปียโน), สลาวอเมียร์ เกอร์กีวิกซ์ (ดับเบิลเบส) และมิเชล มิสกีวิกซ์ (กลอง) (หากออกเสียงชื่อสกุลผิด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ ผู้เขียน) และคงจะถือโอกาสนี้ติดตามผลงานของพวกเขาต่อเนื่องไปด้วย
อัลบัมนี้มีสองคอมโพสิชันหลักๆ คือ Song For Sarah และ Suspended Variations คอมโพสิชันหลังนั้นเปรียบได้กับผลงานคอนเซ็ปต์ อัลบัมหรือวาริเอชันแบบดนตรีคลาสสิกก็ว่าได้ ดังนั้น อาจจะต้องการการใส่ใจในการฟังอยู่สักเล็กน้อย แต่รับรองได้ว่าฟังไม่ยากแน่นอน หากว่าได้คุ้นเคยกับการฟังเพลงแจ๊สแบบโมเดิร์นสักหน่อย มั่นใจได้เลยว่ามันจะไม่เป็นอะวองต์ การ์ดที่คุณแตะไม่ลง Suspended Variations จะพาคุณด่ำดิ่งเข้าสู่ห้วงอวกาศยามค่ำคืน ซึ่งในแต่ละพาร์ตก็จะสื่อสารกับผู้ฟังในแบบที่โธมัสต้องการ โดยที่การเรียบเรียงชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นเป็นไปด้วยความเนิบนาบ หากแต่มีจังหวะจะโคน จาก I ไปจนถึง X ล้วนแล้วแต่เป็นการเรียงร้อยถ้อยอารมณ์จากความเรียบรื่น เข้าสู่ความสุขสรรค์ ท้ายสุดก็พากลับเข้าสู่ความสงบนิ่ง แล้วเมื่อรวบรวมทุกพาร์ตเข้าด้วย มันก็คือความงดงามแห่ง Suspended Night นี่เอง ทุกสิ่งทุกอย่างคือคอมโพสิชันที่งดงาม
เนื่องจากโธมัสเน้นชิ้นงานการประพันธ์มากกว่า เฉกเช่นเดียวกับไมล์สที่เน้นงานประพันธ์กว่าที่จะมาโซโลแปร๊ดๆ ด้วยตัวเองทั้งอัลบัม (ซึ่งหากมีแฟนเพลงท่านใดชื่นชอบอัลบัม Kind Of Blue เป็นทุนเดิมอยู่แล้วละก็ อัลบัมนี้จะเข้าไปสิงสถิตอยู่ในจิตใจของคุณอีกนานเลยทีเดียว) เราจึงจะได้ฟังนักดนตรีที่มีฝีมือเปียโนเยี่ยมยอดอย่างมาร์ซินในชิ้นงานเพลงของโธมัส ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้เล่นกับท่อนอิมโพรไวส์อย่างอิ่มอกอิ่มใจในหลายๆ ช่วง อย่าง IX เป็นอาทิ
Thomasz Stanko Quartet / Suspended Night Musicians : Tomasz Stanko : Trumpet Marcin Wasilewski : Piano Slawomir Kurkiewicz : Double Bass Machal Miskiewicz : Drums *************************************
"I still find each day too short for all the thoughts I want to think, all the walks I want to take, all the books I want to read, and all the friends I want to see." John Burroughs