1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
Lee Ritenour / World Of Brazil (Verve)
เชื่อว่าในนาทีนี้คงจะไม่มีใครไม่รู้จักมือกีตาร์สายคอนเทมโพรารีแจ๊สอย่าง ลี ริทนัวร์แล้ว ลีมีผลงานออกมามากมายนับตั้งแต่ปี 1976 แนวทางของลีก็ค่อนข้างที่จะหลากหลายในตอนแรกๆ หากแต่ ณ วันนี้ เส้นทางที่ผ่านมาทำให้แนวทางทางดนตรีของลีโดดเด่น และมั่นคงมากพอสมควร เช่นเดียวกับมือกีตาร์สายคอนเทมโพรารีรุ่นเดียวกันอย่างแลรี่ คาร์ลตัน อิทธิพลการเล่นดนตรีของลีนั้นมาจากนักกีตาร์ฝีไม้ลายมือละมุนละไมอย่างโจ แพส เสียงกีตาร์ของลี ริทนัวร์จะไม่เน้นการสร้างเสียงหรือสีสันทางด้านเอฟเฟกต์มากนัก เสียงที่ออกมาจากงานของเขาเป็นเสียงที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ ใส ซึ่งเป็นเสียงที่มาจากกีตาร์กิ๊บสัน รุ่น ES-335 รุ่นสัญลักษณ์ของลีเองเลยทีเดียว จนเขาได้ชื่ออีกชื่อหนึ่งก็คือ นาย 335 ที่บางคนเคยได้ยินนั่นเอง หะแรกที่ได้ยินข้อมูลอัลบัมใหม่ของลี ก็พาลนึกไปว่าเป็นสตูดิโออัลบัมชุดใหม่ แต่เมื่อได้ฟังเข้าจริงๆ แล้วก็เป็นคอนเซ็ปต์รวมฮิตที่นำเอาเฉพาะเพลงที่มีกลิ่นอายละตินของลี จับมารวมอยู่ในคอนเซ็ปต์แบบบราซิลเลียนนั่นเอง ก็เรียกว่าเข้ายุคเข้าสมัยแหละนะ อัลบัมนี้มีความโดดเด่นที่เสียงกีตาร์ของลีเป็นอันดับแรก คอนเซ็ปต์อัลบัมเป็นอันดับที่สอง แต่อย่างหนึ่งแว่บเข้ามาในสมอง ตามประสาพวกดักดานแบบว่าคอนเซอร์เวที๊ฟ คอนเซอร์เวทีฟ มันมีความรู้สึกว่าเสียงที่ออกมาจากอัลบัมนี้มันช่างใส กิ๊ก จริงๆ กิ๊กมากจนทำให้เรารู้สึกว่ามันสะอาดเอี่ยมเกินไปรึเปล่าวะเนี่ย??? ถ้าเป็นคอเครื่องเสียงแบบหูทองอะไรอย่างนี้ เขาคงจะฟังอัลบัมนี้อย่างปรีด์เปรมเกษมศรี (ฮา) สงสัยเรามันพวกหูสังกะสีแหงๆ เวร!! เอาละมาว่ากันเรื่องเพลงในอัลบัมนี้กันต่อดีกว่า ทั้งสิบเอ็ดเพลงในอัลบัมนี้เป็นการหยิบมาจากอัลบัมของลีทั้งหมดประมาณห้าอัลบัมด้วยกัน ซึ่งข้อดีอีกอย่างก็คือการได้ฟังแขกรับเชิญเยี่ยมๆ หลายๆ คนในอัลบัมนี้อัลบัมเดียว Bahia Funk เพลงดังของลีที่เรามั่นใจว่ายังไงก็ต้องเคยได้ยินกันแน่ๆ เพราะห้างสรรพสินค้าชอบนำไปเปิดกันจริงๆ ถึงแม้ว่ากลิ่นอายของละตินจะบางบาไปหน่อย แต่ชื่อ Bahia ก็ยังขลังเสมอล่ะน่า ในเพลงนี้เราจะได้ยินเออร์นี วัตส์กับลีลาการเป่าแซ็กฯ ซึ่งถ้าเป็นแฟนเพลงแจ๊สบ้านเราเนี่ย งานของเออร์นีนั้นถือว่าหายากยิ่งกว่าขุดทองถ้ำลิเจียซะอีก ถ้าใครไม่มีอัลบัม Color Rit ของลีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ก็ถือเป็นโชคลาภไป เพลงที่ถือว่าเป็นไฮไลต์คงหนีไม่พ้นเพลง Water To Drink (Aqua De Beber) เพลงบอสซาฯอันดับต้นๆ ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์บ่อยที่สุดก็ว่าได้ แต่ก็เป็นเวอร์ชันที่งดงามสะอาดหู มาก จริงๆ แต่แน่นอนอยู่แล้วว่าเสียงกีตาร์ของลียังคงมีเสน่ห์เช่นเดิม Stone Lover เพลงนี้ประพันธ์โดยโฆบิม ราชาบอสซาฯมีดาวเด่นแห่งวงการแจ๊สมาร่วมแจมด้วยอย่างเฮอร์บี แฮนค็อก และ จอห์น พาทิทัคชี (คนนี้มาเล่นงานเทศกาลแจ๊สที่หัวหินเมื่อช่วงกลางปีนี้เอง) อาการอิมโพรไวส์แสดงออกให้เห็นเด่นชัดที่สุดในเพลงนี้ บางคนอาจจะคิดว่าเพลงสมูธแจ๊ส หรือคอนเทมโพรารีแจ๊ส มักจะอ่อนอิมโพรไวส์ ก็ลองฟังเพลงนี้เอาก็แล้วกัน ความยาวเกือบเก้านาที น่าจะเป็นเครื่องการันตีได้ดีในระดับหนึ่งกับนักดนตรีกลุ่มนี้ คงจะบอกได้สั้นๆ ว่าอัลบัมนี้เป็นอัลบัมที่โยงใยถึงบราซิลได้ชัดเจน อย่าเพิ่งคาดว่าจะมีแต่เพลงประเภทบอสซาให้คุณได้เคลิบเคลิ้ม ไม่เช่นนั้นละก็จะผิดหวังอย่างแน่นอน
Create Date : 01 มกราคม 2549
Last Update : 1 มกราคม 2549 19:13:11 น.
3 comments
Counter : 1185 Pageviews.
โดย: grappa วันที่: 1 มกราคม 2549 เวลา:19:09:30 น.
โดย: nunaggie วันที่: 1 มกราคม 2549 เวลา:19:14:57 น.
โดย: grappa วันที่: 1 มกราคม 2549 เวลา:20:01:33 น.
Location :
City of Angels, Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
คุยเฉพาะเรื่องเพลง :D "I still find each day too short for all the thoughts I want to think, all the walks I want to take, all the books I want to read, and all the friends I want to see." John Burroughs Follow my twitter @nunaggie :) "มีเรื่องราวอีกมากมายให้ชีวิตต้องเดินทางไปค้นหา เราคงไม่ค้นพบทุกอย่างได้ เพียงแค่ชั่วชีวิตเดียว"
© Supada Luangsirimongkol 2015.
The following text will not be seen after you upload your website,
please keep it in order to retain your counter functionality
Free Trackers Help
ชอบเพลงของค่าย Verve เหมือนกัน
แต่ที่ชอบเป็นประเภท Remix น่ะค่ะ