Bloggang.com : weblog for you and your gang
"แจ๊ส....ฉัน"
Group Blog
All about Jazz
Framed
ธรรมะหมัดเด็ด (การปล่อยวาง)
Just Read
Find out here!
Pay It Forward
<<
มกราคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
28 มกราคม 2553
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (4)
All Blogs
สตีฟ ชาพิโร รูปถ่ายให้พลังคนและดนตรี
10 กว่าปีกับบล็อกแจ๊ส nunaggie
จอห์น โคลเทรน และความหมายแห่งชีวิต (ตอนจบ)
จอห์น โคลเทรน และความหมายแห่งชีวิต (ตอนแรก)
มาร์คัส มิลเลอร์ แมวเก้าชีวิต
แจ๊สกับการเหยียดสีผิว
Willie Nelson & Wynton Marsalis แจ๊สกับคันทรี ดนตรีมะริกัน
Gretchen Parlato เสียงจากสายลมบนเส้นทางระหว่างตึงและหย่อน
Bobby Broom ความมุ่งมั่นคือสรณะ
วีเจย์ ไอเยอร์ เมื่อศาสตร์ปะทะศิลป์ จึงเกิด แจ๊สปัญญาชน
40 ปีแห่งอิสรภาพไร้ขีดจำกัด Bitches Brew . (2)
40 ปีแห่งอิสรภาพไร้ขีดจำกัด Bitches Brew .(1)
1959 นั้นสำคัญไฉน? (จบ)
1959 นั้นสำคัญไฉน? (1)
Matte Kudai หวีดหวิวอย่างแจ๊ส
Astigmatic ความพร่ามัวที่แจ่มจรัสของเพชรน้ำเอกแห่งโพลิชแจ๊ส
ว่าด้วยเรื่องของน้องเอสฯ
รายชื่อศิลปินและอัลบัมที่ได้เข้าชิงรางวัลลแกรมมี หมวดเพลงแจ๊ส ครั้งที่ 53
Conversation Piece วิวาทะผ่านเสียงเพลง
Anthony Wilson ลูกไม้ดนตรีที่หล่นไม่ไกลต้น
CHAOGRAPHY แจ๊สสำเนียงใหม่ในร่องหนามเตย
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (5)
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (4)
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (3)
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (2)
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (1)
5 เพลงแจ๊สมาสเตอร์พีซที่ถูกลืม
Nels และ Alex Cline คู่แฝดฟรีแจ๊สยกกำลังสอง
Six Forgotten Beats
Keith Jarrett ผมกำลังทำอะไรอยู่?
Blue For Two
2009 Jazz Grammy Award Winners and Nominations
Rolling Stone::The 100 Best Singles of 2008
Esperanza Spalding บ็อปแบบบียองเซ
Wish you were here ..... Esbjorn Svensson
คาวบอยกับหนังรัก ผู้กำกับฯและดนตรีแจ๊ส
ตะลุย 50 อัลบัมเพลงแจ๊สตามอำเภอใจ (จบ)
ตะลุย 50 อัลบัมเพลงแจ๊สตามอำเภอใจ
อัลบัมโปรดประจำปี 2550 (ห่าแรก)
Ascenseur Pour LEchafaud
George Benson จากสามัญสู่สูงสุดแห่งแจ๊สพิภพ
Joshua Redman กับการเดินทางของวงดนตรีสามชิ้น
Jeff Lorber กระแสความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดยั้ง
Next Stop Wonderland บอสซาโนวาที่อร่อยทั้งภาพและเสียง
Round Midnight เมื่อเสียงดนตรีคือสิ่งเกื้อหนุนชีวิต
Jacob Fred Jazz Odysey / The Sameness Of Difference
John Abercrombie in the New York Sessions
Jazz On The Road To New Year!
Pat Martino : Remember Wes Montgomery
Sarah Vaughan เพชรเม็ดงามแหงแจ๊สพิภพ
Dome Project อีกหนึ่งความพยายามของคนแจ๊สสายพันธุ์ไทย
Derek Bailey ดนตรีเหนือกาลเวลา
Idiot Guides for New Jazz Collectors
Bill Charlap & Sandy Stewart / Love Is Here To Stay
The Little Willies และ Brokeback Mountain
Robert Glasper / Canvas
Veronica Mortensen / Pieces In A Puzzle
Paul Brown / The City
Kasper Villaume Quartet / #2
Jacob Christoffersen Trio / Facing The Sun
Katie Melua สาวน้อยที่มีมากกว่าความงาม
Madeleine Peyroux / Careless Love
Anna Maria Jopek / Secret
Lets BOSSA! แซมบาฮาเฮ
Ella Fitzgerald THE FIRST LADY OF SONG (จบ)
Ella Fitzgerald THE FIRST LADY OF SONG ตอนแรก
รวมมิตร ECM แจ๊ส
Walter Lang Trio พลิ้วไปในยามเช้าที่นุ่มละมุน
Jamie Cullum แจ๊สลูกผสมที่บ่มเพาะเพื่อคนรุ่นใหม่
Brad Mehldau Trio / Day Is Done
Larry Carlton / The Very Best Of Larry Carlton
Lee Ritenour / World Of Brazil (Verve)
Tomasz Stanko หัวหอกแจ๊สสมัยใหม่แห่งโปแลนด์
อัลบัมประจำใจปี 2548
Charlie Haden & The Liberlation Music Orchestra
ROCK SWINGS สีสันใหม่ของพอล แองกา
Lyambiko สวิงแจ๊สเยอรมัน
John McLaughlin เทพแห่งกีตาร์แจ๊ซ
MIKE STERN จากหัวใจใส่เส้นลวด
Count Basie : Count Of Jazz
Norah Jones เมื่อนางฟ้ายังคงไม่เปลี่ยนไป
Norah Jones ส่วนผสมที่ลงตัว
ที่สุดของมือกีตาร์เเจ๊ซซ์ที่คุณต้องหามาฟัง
Pat Metheny กีตาร์แจ๊สผู้ไม่เคยสร่างฝัน
Gil Goldstein & Friends / Disney Meets Jazz ~ Tribute To Walt Disney
Vince Giordano ชีวิตและจิตใจ คือ แจ๊สและคืนวันแห่งอดีต
Eliane Elias ต่างไปในความเหมือน
Patricia Barber / Live : A Fortnight In France (Bluenote)
Diana Krall
Ana Caram หญิงสาวที่ถือกำเนิดมาจากดินแดนแห่งบอสซาโนวา
บทเพลงที่ไม่มีวันตายของ The Genius : Ray Charles
Miles Davis - The Prince of Darkness - The last part
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 7
Duke Ellington Music Is My Mistress
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 6
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 5
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 4
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 3
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 2
John Scofield
Miles Davis - The Prince of Darkness ตอนที่ 1
Billie Holiday เสียงแห่งความปวดร้าว
8 อัลบัมเพลงแจ๊สสู่สนามรัก
75 สุดยอดมือกีตาร์พันธุ์แจ๊ส (4)
ศิลปินเอกผู้ร่ายดนตรีบลูส์
1. Robert Johnson โรเบิร์ต จอห์นสัน
มือกีตาร์พรสวรรค์ชาวมิสซิสซิปปีผู้ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัยในปี 1938 โรเบิร์ตเป็นสุดยอดปรมาจารย์ ตำนานของบลูส์เลยก็ว่าได้ ฝีมือระดับเทพที่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ได้มาแบบไม่น่าเชื่อ นักดนตรีร่วมสมัยนั้นต่างก็พากันอิจฉาในความฉกาจฉกรรจ์ เขาผสมผสานทุกอย่างตั้งแต่การสไลด์ที่แพราวพราว ไปจนถึงการทูนกีตาร์ลี้ลับไม่มีใครรู้ นอกจากนั้นเขายังเป็นนักแต่งเพลงที่มีความสร้างสรรค์ดึงเอาแนวคิดในโครงสร้างของเพลงไปใส่ในเพลงบลูส์ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในความสามารถโดยสัญชาตญาณ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งเป็นนัยถึงความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างให้กับนักดนตรีคนอื่นๆ ที่แสดงบนเวที โรเบิร์ต จอห์นสันก้าวล้ำหน้าไปไกลมากจนไม่น่าเชื่อ จอห์น แม็กลัฟลินกล่าว คอนเซ็ปต์ในการเล่นของเขานั้นเป็นเสมือนรากฐานเลย ส่งอิทธิพลในการเล่นให้ผมเยอะมาก เลยไปถึงมือกีตาร์คนอื่นๆ หลายคน แล้วก็ไม่ใช่น้อยๆ ด้วยหากจะพูดถึงเอริก แคลปตัน
2. Sister Rosetta Tharpe ซิสเตอร์ โรเช็ตตา ธาร์ป
เริ่มแรกด้วยชื่อ ลิตเติล โรเช็ตตา นูบิน มหัศจรรย์แห่งการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ โรเช็ตตาเริ่มต้นอาชีพของเธอด้วยการแสดงคู่กับแม่ หมอสอนศาสนา ผู้ซึ่งเล่นแมนโดลินและเทศน์อยู่ที่แคมป์ลี้ภัยทางภาคใต้ หลังจากครอบครัวย้ายมาที่ชิคาโกช่วงปลายยุค 1920 โรเช็ตตามักจะเล่นบลูส์และแจ๊สด้วยรสนิยมส่วนตัว แต่ในที่สาธารณะเธอจึงเล่นดนตรีกอสเปล สไตล์กีตาร์ของเธอนั้นชัดเจนว่า ได้รับอิทธิพลมาจากดนตรีทางโลก เนื่องเพราะการโยกสายเปลี่ยนโน้ตอย่างที่นักดนตรีแจ๊สและบลูส์ใช้กัน ในช่วงยุค 1930 เธอได้เล่นกับฮีโรดนตรีแจ๊สบ่อยครั้งกับแค็บ คัลโลเวย์ และเบนนี กูดแมน
3. T-Bone Walker ทีโบน วอล์กเกอร์
ช่วงปลายยุค 1930 ทีโบนเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบุกเบิกกีตาร์ไฟฟ้าไปสู่ดนตรีบลูส์ยุคใหม่ ซึ่งส่งอิทธิพลทางดนตรีให้กับเพลงป็อปที่ตามมาเหมือนกัน เขาผสมผสานเทคนิกการเล่นบลูส์เข้ากับกีตาร์ไฟฟ้าด้วยจังหวะแจ๊สและสวิง อันเป็นที่นิยมของยุคนั้น T-Bone Blues และ Stormy Monday เพลงฮิตในยุค 1940 ของเขาขึ้นหิ้งในฐานะเพลงบลูส์อมตะเป็นที่เรียบร้อย และเป็นบลูส์ที่มีรากฐานแจ๊สอันเป็นสไตล์ของเขา ลีลาการโซโลดุเดือดสายเดี่ยวของทีโบนได้ส่งแรงบันดาลใจให้กับมือกีตาร์บลูส์อย่าง บีบี คิง และกีตาร์ร็อกอย่าง ชัค แบร์รี, เอริก แคลปตัน และสตีวี เรย์ วอห์น
4. B.B. King บีบี คิง
ผู้มีการเล่นกีตาร์ที่มีพื้นฐานมาจากสไตล์การเล่นของทีโบน วอล์กเกอร์ บีบี คิงเติมจังหวะของแจ๊สสมัยใหม่และใช้ประโยชน์จากการเล่นผ่านแอมป์ได้อย่างสูงสุด จากการคงเสียงของตัวโน้ตเอาไว้ ทั้งจังหวะ การพัฒนาขั้นสำคัญของเขาเป็นไปในหลายรูปแบบของการเฟรสซิงแบบขัดจังหวะ, ใช้คอร์ดบาร์ราจ หรือไม่ก็การโยกสายเปลี่ยนโน้ต เสียงกีตาร์ของบีบี คิงเป็นส่วนเสริมเติมเต็มให้กับเสียงร้องของเขามาก เป็นท่อนรับส่งที่เข้ามารับช่วงทันทีที่หมดท่อนร้องพอดี ซาวด์ที่ออกมาสำคัญกว่าการเล่นออกมาแบบโน้ตะเยอะแยะ เขากล่าว เหมือนกับรถนั่นแหละ ถ้าไม่ใช่รถแรงๆ ก็เป็นรถประหยัด แต่คุณมีพร้อมกันสองแบบไม่ได้แน่นอน
5. Lonnie Johnson ลอนนี จอห์นสัน
ผู้บุกเบิกการโซโลอิมโพรไวส์ เล่นทีละโน้ตด้วยพิก ในบทเพลง 6/88 Glide ที่ออกมาใช้ปี 1927 เทคนิกการเล่นของเขาเข้าถึงเหล่านักดนตรีที่ใช้สไตล์ลอนนีปูทางสู่ดนตรีอิเล็กทริกบลูส์ งานบันทึกเสียงยุคแรกๆ ของเขาเป็นการเล่นกีตาร์ 12 สาย ในลักษณะที่เป็นอิทธิพลต่อชาร์ลี คริสเตียน และจังโก ไรน์ฮาร์ดต ลอนนีถือเป็นมือกีตาร์บลูส์ที่เล่นติดกลิ่นอายแจ๊สมากที่สุดในบรรดานักเล่นสมัยแรกๆ แล้ว ในปี 1927 ช่วงนิวออร์ลีนส์ขาขึ้น ลอนนีได้บันทึกเสียงกับหลุยส์ อาร์มสตรองและวงฮ็อต ไฟว์ และในปี 1928 เขาได้บันทึกเสียงกับดุก เอลลิงตัน
6. John Lee Hooker จอห์น ลี ฮุกเกอร์
ถนัดในการเล่นคอร์ดเดียวเสียงหอนๆ ซึ่งได้ผูกร้อยเดลตา บลูส์ไว้กับอิเล็กทริก บลูส์ยุคหลังสงครามโลก จอห์นเป็นนักเล่นขับเคลื่อนด้วยจังหวะอิสระไม่ใคร่จะเล่นบีตมาตรฐานเท่าใดนัก เนื่องจากเขาจะเปลี่ยนจังหวะเพื่อให้เข้ากันได้กับเพลงมากกว่า เขาเป็นคนสรรค์สร้างจังหวะใหม่ๆ ให้กับบลูส์ บ่อยครั้งที่ใช้เปียโนสไตล์บูกีวูกีเข้ามาปรับเป็นลักษณะเฉพาะของตัวเอง จอห์น แม็กลัฟลินเคยสาธยายเกี่ยวกับจอห์นไว้ว่า จอห์นเป็นมือกีตาร์บลูส์คนสำคัญ และเป็นนักเล่นที่น่าเกรงขาม จอห์นมักจะเดินสายเบสด้วยนิ้วโป้ง หยุดย้ำตอนหมดไลน์ด้วยการแฮมเมอร์ออนและพูลออฟเป็นชุด เพลงที่เป็นที่รู้จักของจอห์นคือ Boogie Chillen (1948) และ Boom Boom (1962)
7. Buddy Guy บัดดี กาย
ได้เป็นผู้เปลี่ยนแนวความคิดของดนตรีบลูส์ไปด้วยการเล่นสดที่ทรงพลัง และการเล่นที่ดุดัน หนักกน่วงในแบบซิงเกิลโน้ต เขานำดนตรีไปสู่จุดสูงสุด เล่นทุกอย่างจากดิสทอร์ชันและฟีดแบ็ก ไปสู่การโยกสายเปลี่ยนโน้ตและการการลากเสียง มือกีตาร์บลูส์ผู้หลงใหลในแจ๊สและติดกลิ่นอายนิดๆ ของอาร์แอนด์บีได้เป็นอิทธิพลสำคัญต่อนักเล่นบลูส์ในยุคต่อมาเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงเอริก แคลปตัน, สตีวี เรย์ วอห์น และจิมมี เฮนดริกซ์ ผมวางรากฐานทุกอย่างจากปฏิกิริยาของแฟนเพลง เขาเคยเล่าไว้ ถ้าลูกเล่นมันได้ผล ผมก็ใช้
8. Muddy Waters มัดดี วอเตอร์ส
ได้ครอบครองแนวหน้าดนตรีบลูส์ในชิคาโกช่วงยุคหลังสงครามโลก หลังจากย้ายตัวเองไปสู่ Windy City ในปี 1943 ศิลปินที่ถือเป็นอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในแบบฉบับของอิเล็กทริกบลูส์ ทั้งยังเป็นตัวเอ้ของการเล่นกีตาร์สไลด์ในแบบเดลตา บลูส์ที่เสริมเสียงร้องให้กับตัวเองได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ ซาวด์วงของเขาเป็นซาวด์ดุดัน ฉูดฉาดในแบบมิสซิสซิปปีรุ่นเก่า ผมคิดเสมอว่าตัวเองเป็นนักดนตรี มัดดีเคยกล่าวไว้ ถ้าผมยังไม่ใช่นักดนตรีที่เก่งพอ ผมก็จะกลายเป็นนักดนตรีเก่งได้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วหลังจากนั้น ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นจริงๆ
9. Albert King อัลเบิร์ต คิง
หนึ่งในมือกีตาร์ไฟฟ้าระดับหัวแถวช่วงหลังยุคสงครามโลก อัลเบิร์ตเล่นในสไตล์ของมิสซิสซิปปี บลูส์ ได้เรียนกีตาร์ด้วยตัวเอง โดยใช้นิ้วบรรเลงแทนพิก ถือกีตาร์พลิกกลับขึ้นมาในแบบฉบับของกีตาร์ซ้าย ตลอดชีวิตการเล่นดนตรีเขาเจาะจงเล่นออกมาคมบาดจิต ต้องขอบคุณการทูนสายแบบแหวกประเพณีที่เขาใช้ อัลเบิร์ตสามารถโยกสายได้ทารุณในอารมณ์ ซึ่งบ่งบอกสไตล์ของเขาได้อย่างชัดเจน อันเป็นการแยกแยะตัวเองจากมือกีตาร์รุ่นเดียวกันไปโดยปริยาย เขาโยกโน้ตต่ำลงข้างล่าง เพื่อให้ได้เสียงของการโยกโน้ตขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มือกีตาร์ทั่วไปเล่นกัน จอห์น สกอฟิลด์พูดถึงการเล่นของอัลเบิร์ต มีแรงผลักดันที่แตกต่างในการทำงานและกล้ามเนื้อมือขวาที่ใช้เล่น ดังนั้นเขาเลยได้ซาวด์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและพิสดาร
Create Date : 28 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 11:37:26 น.
1 comments
Counter : 1878 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาค่ะ อิอิอิ
โดย:
prunelle la belle femme
วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:19:37:45 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
nunaggie
Location :
City of Angels, Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
?
]
คุยเฉพาะเรื่องเพลง :D
"I still find each day too short for all the thoughts I want to think, all the walks I want to take, all the books I want to read, and all the friends I want to see." John Burroughs
Follow my twitter @nunaggie :)
"มีเรื่องราวอีกมากมายให้ชีวิตต้องเดินทางไปค้นหา เราคงไม่ค้นพบทุกอย่างได้ เพียงแค่ชั่วชีวิตเดียว"
© Supada Luangsirimongkol 2015.
The following text will not be seen after you upload your website, please keep it in order to retain your counter functionality
Free Trackers
Help
Friends' blogs
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Johann sebastian Bach
merveillesxx
melkor
I will see U in the next life.
winston
ป้ามด
มรกตนาคสวาท
ลุดวิก
บูมเมอร์
fakeplasticgirl
grappa
กึ่งยิงกึ่งผ่าน
Plin, :-p
> เอ้ < photo
No Appendix
ชายลังเล
CD-Ghost
A r t F u l l Y
ลุงแมว
Cooking_For_Love
berryapple
รักษ์บ้านเกิด
kittymintz
QD_p2
ดาว..กลางวัน
โรส วริศรา
ge-or-ge
catz2go
brainsup
rainynight
Webmaster - BlogGang
[Add nunaggie's blog to your web]
Links
ThaiAVclub
คมบางสำนักพิมพ์
Ebolaknot
Open
คนชายขอบ
Cinemag Online
Tune In Garden
Corruption Watch
The Little Prince
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
Music ATM
คู่สร้างคู่สม
Typhoonbooks
iannnnn
PixPros
Senses of Cinema
Image Host
Dressup
OpenDrive
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.