โจทย์สำหรับ 3F#4 โดยน้องสาวครอว์ฟอร์ดมีโจทย์ตามนี้
"อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทำอาหารประจำท้องถิ่น ที่นิยมทำกันวันสำคัญ หรืออาหารประเพณี ของแต่ละท้องถิ่น"

น้องสาวออกโจทย์ได้ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งจะำทำอาหารอินโด
อาหารประจำท้องถิ่นบรรพบุรุษ(อาหารมุขเดิมอีกแระ ) และกำลังจะหาจังหวะอัพลงบล๊อกอยู่พอดี
งานนี้เลยได้มั่วเอา Lontong Sayur Lodeh หรือข้าวราดแกงแบบอินโดส่งเป็นการบ้านซะเลย
...ถึงจะไม่ใช่ประเพณี แต่เป็นอาหารท้องถิ่นก็ไม่ผิดกติกาใช่มั๊ยเนอะสาว...

^ ^ Lontong's Picture from "indonesia-eats.blogspot.com"

Lontong หรือลอนต๊องคือชื่อข้าวที่หุงเป็นแท่ง ส่วน Sayur Lodeh คือชื่อแกงลอแด๊ะหรือแกงผัก ส่วนใหญ่ 2 อย่างมักจะมาคู่กัน แต่เราเคยทำอัพบล๊อกแกง ไปแล้ว บล๊อกนี้ก็เลยเอาวิธีทำแต่ Lontong มาให้รู้จักกัน Lontong เป็นการหุงข้าวในใบตองที่กรอกใส่ใบตองรูปทรง กระบอกและเอาลงต้มจนกระทั่งข้าวแข็งเป็นแ่ท่ง ปล่อยทิ้ง ให้เย็นแล้วจึงตัดขนาดพอคำกินกับอาหารทั่วไป เหมือนเรา กินข้าวสวย ข้าวเหนียว วิธีการหุงข้าวให้เป็นรูปทรงคล้ายแบบนี้ยังเห็นได้ในมาเลย์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ หรือที่อินโดเองก็ตาม เรียกว่า Ketupat ที่จะกรอกข้าวในใบมะพร้าวสาน (คล้ายสานปลาตะเพียน) รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดประมาณฝ่ามือและนำไปต้มจนแข็ง เสริฟกับสะเต๊ะ หรือกับแกง นอกจากนี้ยังจะมีข้าวเหนียว ห่อด้วยใบลานเป็นรูปสามเหลี่ยมต้มในน้ำกะทิ เรียกว่า Ketupat Pulut ส่วนอันนี้หน้าตาคล้ายๆ กับ Longtong ดูผ่านๆ ตอนที่ยังอยู่ ในห่อจะหยิบผิดอยู่เรื่อย คือขนม Lopes หรือโลเปส วิธีการ ทำเหมือนกัน แต่ใช้ข้าวเหนียวต้มจนแข็ง ปล่อยให้เย็นแล้ว ตัดเป็นขนาดพอคำเหมือน Lontong แล้วเอาไปคลุกกับ มะพร้าวขูดและ้ราดด้วยน้ำตาลมะพร้าวเคี่ยวจนใส รสชาติจะ คล้ายกับกินขนมเหนียวแต่เนื้อจะแน่นและหนุบเคี้ยวมันกว่า

อย่างที่เคยบอกว่าตอนเด็กเราอยู่ในชุมชนของคนอินโดจากชวา
อาหารอินโดชวาจึงเป็นอาหารที่เรียกว่าเป็นอาหารที่ทำกันทุกมื้อ
นานๆ ถึงจะเห็นมีบ้านไหนทำอาหารแบบไทย พวกแกงเผ็ด แกงเลียงสักที
เว้นแต่ที่บ้านเรา เพราะแม่เป็นคนเชียงใหม่ก็เลยมีอาหารต่างจากบ้านอื่นๆ
เราได้เห็นเพื่อนบ้านรอบข้างทำ Lontong กันอยู่บ่อยๆ ส่วนที่บ้านเราจะำทำก็แต่ในโอกาสพิเศษเท่านั้น

วิธีทำ Lontong
เตรียมใบตอง เช็ดให้สะอาดและผึ่งลมให้ใบตองนิ่ม เวลาม้วนจะได้ไม่แตก
แต่ถ้าจะเอาเร็วก็เอาไปอังไฟก็ได้ (อังห่างๆ นะคร๊า งั้นจะกลายเป็นใบตองปิ้งกรอบซะ )








ในอินโดเองมีโมลด์ทำเป็นกระบอกเหล็กสำหรับทำ Lontong โดยเฉพาะ
แต่ที่บ้านยังคงใช้วิธีแบบเก่าคือขึ้นรูปกับกระบอกไม้ไผ่หรือกระบองเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 1/4 นิ้ว
กรอกข้าวสารที่ซาวน้ำและสะเด็ดให้แห้งลงไปในกระบอก 1 ใน 3 ของพื้นที่และใช้ไม้กลัดปิดหัวปิดท้าย








สมัยก่อนที่ยังใช้เตาถ่านกัน จะเอา Lontong วางเรียงในปี๊ป เติมน้ำให้เต็ม เอาใบตองปิด
เอาไม้มาขัดบนใบตอง หาถาดหรือฝาหม้อที่ใหญ่กว่าปากปี๊ปปิดและหาของหนัก
เช่นครกทับบนฝาหม้อไว้ เห็นว่าเพื่อให้ไอน้ำระอุอยู่ในนั้น
จำไ้ด้ว่าต้มกันเป็นวันๆ เลยแหละกว่าจะได้ีี่ที่ ถึงว่าเลยไม่ค่อยเห็นแม่ทำเท่าไร
และมาสังเกตุเอาเองทีหลังว่า ที่ใช้ปี๊ปในการต้มเป็นเพราะคงจะขี้เกียจขัดก้นหม้อกัน
เพราะปี๊ปที่ใช้ต้ม จากปี๊ปใหม่ๆ ขาวๆ พอต้ม Lontong เสร็จปี๊ปก็ดำเหม่ไปทั้งใบ







เดี๋ยวนี้เตาถ่านไม่ได้ใช้กันแล้ว ใช้ต้มด้วยเตาแก๊ส เราทำประมาณ 15 ท่อน
ใช้เวลาต้มอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง ใช้เวลาน้อยกว่าเตาถ่านที่ต้องคอยเติมฟืนเติมถ่านตลอดเวลา
ส่วนจะรู้ว่าข้าวได้ที่หรือยัง ก็ต้องตักขึ้นมากดดู อีกอย่างขึ้นอยู่ักับตอนกรอกข้าวสารด้วย
ต้องกรอกข้าวให้พอดี ถ้ากรอกข้าวสารน้อยไปต้มยังไงข้าวที่ได้ก็จะไม่กอดเป็นก้อน
แต่ถ้ากรอกข้าวสารมากไปก็ทำให้กระบอกใบตองแตกได้
ข้าวที่ต้มได้ที่เนื้อข้าวจะหนุบแน่น และหอมกลิ่นใบตอง
...คราวนี้เราใช้เวลาต้มน้อยไปหน่อย 3 ชั่วโมง ข้าวยังนิ่มไปนิดไม่ค่อยได้ที่เท่าไร








แกงที่กินกับ Longtong ส่วนใหญ่คือแกงผักใส่กะทิ Sayur Lodeh
สูตรของแกง Sayur Lodeh จะแตกต่างกันไปตามแต่เมือง เหมือนอาหารเหนือ ใต้ อิสานบ้านเรา
ดูวิธีำทำ Sayur Lodeh แบบยะวา คลิ๊กที่นี่
....เครื่องแกงจะมีส่วนผสมของ Candle Nut หรือ Kemiri ใส่เพื่อให้น้ำแกงข้นและมัน
ในแกงจะนิยมใส่เทมเป้(Tempe) ถั่วหมักเป็นแผ่นของอินโดด้วย...ถั่วหมักประเภทเดียวกับ
ถั่วเน่าทางภาคเหนือหรือนัตโตะของญี่ปุ่น แต่ต่างกันตรงที่การหมัก Tempeh จะต้องมีเชื้อราชนิดหนึ่ง
ที่ชื่อว่า Rhizopus ที่ทำให้เกิดราที่เป็นเส้นใยสีขาวและทำให้เมล็ดถั่วเกาะกัน(ใช่หรือเปล่าคะป้าอิ๋ว )

สำหรับเทมเป้ได้ทำรูปวิธีทำไว้แล้วเหมือนกัน โอกาสหน้าจะมารีวิวนะคะ








Longtong ทิ้งไว้ให้เย็นสนิท และตัดขนาดคำ
...ถ้าข้าวยังแข็งไม่ได้ที่ ตรงปากกระบอกที่กลัดไม้กลัดไว้ ข้าวจะแฉะ









อะจ๊าก....ราดแกงซะมิดไม่เห็นข้าวเลย
บางทีเราชอบตักแต่แกงมากินเปล่าๆ เพราะเป็นแกงกะทิรสชาติกลมกล่อมไม่จัดจ้านแบบแกงกะทิแบบไทย
ถ้าให้ครบเครื่องจะต้องโรยด้วยน้ำพริก Kerisik มะพร้าวขูดตำกับพริกขี้หนูและเกลือด้วย
แต่ลืมทำอ่ะค่ะ แหะ...แหะ...









การบ้านครั้งนี้ น้องสาวขอให้เพื่อนๆ รีวิว วันที่ 1,10,20,30 ของเดือนมิถุนายน
แต่หากใครจะมีพิเศษ สำหรับวันเกิดครบ 3 ขวบ ของดัสติน วันที่ 3 มิถุนายน ก็ไม่ว่ากัน

งั้นป้าจัดให้หลานชายดัสตินเลยจ้า
ขอให้น้องดัสตินเป็นเด็กดีน่ารักและสุขภาพแข็งแรง นะค๊า

Create Date : 03 มิถุนายน 2554
Last Update : 3 มิถุนายน 2554 21:22:06 น.		46 comments
Counter : 6337 Pageviews.
Share Tweet