Zodiac .... ก้าวที่หลงทางของ เดวิด ฟินเชอร์
Zodiac ( ตามล่า ... รหัสฆ่า ฆาตกรอำมหิต ) ... สองดาว ...
..................นั่งๆนอนๆดูหนังใหม่ของเดวิด ฟินเชอร์ ผู้กำกับชื่อดังที่มีผลงานติดหูคนดูหนังบ้านเราอย่าง Seven และ Fight Club จบไปตอนตีสามเมื่อคืนวาน เกือบน๊อคเหมือนกันเพราะหนังยืดยาวย้วยมาก แถมติดจะน่าเบื่อด้วย เพราะหนังเล่าเรื่องราวเหตุการณ์คดีฆาตกรโรคจิตที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ เกือบ 40ปีก่อน ด้วยลีลาของหนังสารคดี ยัดข้อมูล และรายละเอียดของรูปคดีลงไปในหนังซะเยอะ เดาว่าผู้กำกับหรือคนเขียนบทคงจะไปค้นคว้ามาเยอะ ก็เลยเสียดาย ก็เลยใส่ๆๆๆลงมาซะหนักมือ ผลก็คือหนังเรื่องนี้มันแห้งแล้งความบันเทิงในรูปแบบของภาพยนตร์ไปซะ !! หนังเล่าแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ แล้วก็ใส่พล็อตกับตัวละครเข้ามาซ้ำซ้อน คู่ขนาน แย่งความเด่นกันในตัวจนจับไม่ได้ว่าควรจะลุ้นไปทางใหนดี ถ้าให้ไล่เรียงง่ายๆก็มีดังนี้ ตำรวจพยายามจับผู้ร้าย / นักข่าวกำลังค้นหาความจริง / นักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งที่กำลังหมกมุ่นกับตัวฆาตกรจนเกินเหตุ ฯลฯ ทั้งสามพล็อตเนี่ยก็สลับสับเปลี่ยนกันไปมาทั้งๆที่จริงๆควรจะไปขับเน้นที่พล็อตแรกมากกว่า ทำไปทำมาหนังตำรวจจับผู้ร้ายเรื่องนี้ก็เลยกลายพันธ์เป็นหนังที่ว่าด้วยนักเขียนการ์ตูนที่หมกมุ่นกับฆาตกรไปในที่สุด !! หนังเรื่องนี้ใช้ดาราดังมาเล่นบทหลักและสมทบเยอะมากครับ แต่ทำไปทำมาไม่มีคนใหนที่ชิงความเด่นมาอยู่กับตัวได้สำเร็จ เลยพลอยโดนลืมไปแทบจะถ้วนหน้า เสียดายแทนอดีตดาราดังๆบางคนที่มาเล่นในหนังเรื่องนี้แบบไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
..................ถ้าจะว่าไปแล้ว ฆาตกรจักรราศีคนนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวอยู่พอสมควรนะครับ แถมยังมีสีสันให้ตีไข่ใส่สีได้สนุกด้วย เพราะผมถือว่าแกมีลูกเล่นพอตัวทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจดหมายมาลงสื่อโดยให้โค๊ดภาษาแปลกๆมาให้สื่อและคนอ่านหนังสือพิมพ์ได้ถอดรหัส รวมถึงการต่อรองเพื่อสร้างชื่อเสียงด้วยการออกอากาศเสียงผ่านทีวี ฯลฯ ปฏิกริยาที่คนร้ายรายนี้ส่งออกมา สร้างผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง แถมคดีนี้ก็ยังปิดไม่ลงมาถึงปัจจุบันด้วย ถ้าได้คนดัดแปลงบทดีๆมาแต่งแต้มสีสันรับรองได้ว่าจะเป็นหนังแอคชั่นมันส์ๆ หรือเป็นหนังดราม่าจิตวิทยาได้สนุกๆด้วย เสียดายว่าหนังเรื่องนี้มันกลับหัวกลับหางไปหน่อย แทนที่ผู้ร้ายจะเป็นฆาตกรฉลาดๆ ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นตำรวจเก่งๆมาหักล้างกัน แต่นี่กลับกลายเป็นว่า ฆาตกรก็ไม่เท่าไหร่ ตำรวจก็ดันไม่เก่งเท่าไหร่ซะอีก ... คนดูก็เซ็งจิตสิครับ ...พูดตรงๆถ้าคดีฆาตกรโรคจิตแบบนี้เกิดขึ้นในปัจจุบันรับรองว่าคลี่คลายคดีได้ไม่ยากเลย เพราะผู้ร้ายมีจุดอ่อนเยอะ แถมยังไม่รัดกุม ตำรวจสมัยนั้นก็ไม่ประสานงานกันให้ดี แถมยังทำพลาดเองในหลายๆอย่าง บางวิธีที่ใช้จับคนร้ายได้ก็ไม่เอามาใช้ เช่น ให้เหยื่อที่รอดชีวิตมาสเก็ตใบหน้า หรือการเก็บกวาดหลักฐานในที่เกิดเหตุก็ทำกันอย่างหละหลวม ฯลฯ แต่หนังก็ไม่ได้พยายามขับเน้นประเด็นเหล่านี้ลงมาในตัวหนังสักเท่าไหร่นัก .. ผมไม่รู้ว่าคนทำหนังพยายามเดินเรื่องตามหนังสือหรือข้อมูลของนายคนเขียนการ์ตูนที่ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนนิยายหรือเปล่า เลยทำให้หนังน่าเบื่อไปด้วย จริงๆแล้วถ้าเล่นประเด็นนักเขียนนิยายที่หมกมุ่นกับฆาตกรจนสุดท้ายต้องจบชีวิตยังจะดีซะกว่า ...
..................หากว่าหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นสัก 20 - 30 ปีก่อนอาจจะได้รับคำชื่นชมในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมันสร้างในพ.ศ.นี้ ซึ่งมีหนังแนวเดียวกันระดับยอดเยี่ยมออกมามากเรื่องแล้ว หนังเรื่องนี้เลยกลายเป็นงานเด็กๆไปถนัดใจ เอาแค่ Silence of The Lambs เรื่องเดียวก็พอแล้ว หนังแนวนี้ถูกยกระดับขึ้นมาซะสูง เมื่อมาตรฐานสูง หนังแนวเดียวกันที่ทำออกมาถ้าไม่ดีจริงๆ ก็จะโดนเทียบไปตามระเบียบ กำลังคิดๆว่า เดวิด ฟินเชอร์ แกคิดไงหว่าถึงได้มาทำหนังเรื่องนี้ แล้วทำไมถึงได้ทำออกมาในลักษณะแบบนี้ .. บางทีแกอาจจะหมดมุขใหม่ๆ หรือว่าถึงทางตัน หรือไม่ก็ผลงานที่ผ่านมาเป็นความฟลุ๊คก็เป็นได้มั้ง แต่จะว่าไปแล้วมุมมองของแกในหนัง ไฟ๊ท์คลับก็ยังนับว่าคมคายกว่าเรื่องนี้มากๆๆ คงต้องเอาใจช่วยกันต่อไป แต่ถ้าทำได้แค่นี้ สงสัยหนังเรื่องหน้าคงต้องรอฟังเสียงวิจารณ์ก่อนแล้วค่อยไปดูอ่ะ ไม่ค่อยไว้ใจในฝีมือแล้ว พอๆกับ ฌอง ปิแอร์ เฌอเนย์ ที่ทำเอเลี่ยนอ่ะ พวกนี้ผีเข้า ผีออก เอาแน่เอานอนไม่ได้ !! ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วแฮะเพราะจะว่าไปแล้วหนังก็แทบไม่มีประเด็นอะไรให้นำมาเขียนเลย รอดู The Passion of the Christ คืนนี้หรือดู Lust caution ..หวังว่าคงจะมีแง่มุมเด็ดๆให้นำมาพูดถึงบ้างนะ

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2550 |
|
21 comments |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2550 20:02:18 น. |
Counter : 5891 Pageviews. |
|
 |
|
แวะเอาเค้กมาแบ่งให้ทาน