Innocence ... เด็กโต๋ ... หนังดีที่ไม่อยากให้พลาดครับ ฉายวันนี้ที่ลิโด้ รีบดูด่วน
...................เพิ่งกลับมาจากลิโด้ครับ ไปดูเด็กโต๋ รอบสามทุ่มมาคนเต็มโรงเลยครับ น่าชื่นใจแทนคนทำจริงๆ แต่จะน่าดีใจกว่านี้ถ้าหนังได้ฉายในโรงหนังรอบปกติบ้านเรา คุณป๊อป กะคุณนิสา ผู้กำกับ มาตอบคำถามหลังหนังเลิกด้วย น่ารักมากเลยครับ ทั้งๆที่มันดึกมากแล้ว ห้าทุ่มเศษๆ หนังเรื่องนี้เป็นหนังสารคดีที่ถ่ายทอดชีวิตเด็กนักเรียนในโรงเรียนหลังเขาได้อย่างน่าประทับใจอย่างมากครับ รอบฉายมีวันนี้เต็มวัน แล้วก็เหลือรอบวันธรรมดาตอนหกโมงเย็นเท่านั้นครับ หนังคงได้ฉายแค่อาทิตย์เดียว รายได้ทั้งหมดไปช่วยเหลือเด็กบ้านแม่โต๋ครับ ผมเชื่อมั่นมากว่าหนังเรื่องนี้ ใครที่ได้ดู ก็ต้องรักเด็กโต๋ครับ ไปดูกันมากๆเถอะครับ เผื่อจะมีโอกาสได้ฉายโรงหนังรอบปกติบ้าง
รีวิวครับ Innocence ( เด็กโต๋ ) .. 3 ดาวครึ่ง ..
...................คุณเคยมีความฝันใหมครับ ? แล้วความฝันของคุณคืออะไรกัน ? เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่โต๋ทุกคนมีความฝันอันสูงสุดครับ คุณคงนึกว่ามันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ใช่ใหมครับ? เปล่าเลย พวกเค้าแค่ขอสักครั้งในชีวิตที่ได้ไปเห็น ..ทะเล.. นอกจากผมจะได้เห็นเด็กๆวิ่งไล่ล่าฝันที่เป็นจริงของตัวเองแล้ว หนังเรื่องนี้ยังทำให้ผมได้เห็นความแกร่งของผู้หญิงเก่งอีก 2 ท่าน คือคุณป๊อป อารียา และ คุณนิสา คงศรี ที่มุ่งมั่นบากบั่นทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อสานฝันของตัวเองล้วนๆ ( คุณป๊อปควักเงินตัวเองหลายแสน เพื่อทำหนังทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีโอกาสฉายโรง นั่นหมายความว่าไม่มีโอกาสแม้แต่จะหาทางคืนทุนเลยสักบาท )
..................เมื่อได้ยินคำว่า ภาพยนตร์สารคดี หรือหนังสารคดี หลายคนอาจจะทำหน้าเบ๊ แม้แต่ตัวผมเองก็ยอมรับว่าผมไม่ค่อยชอบดูหนังสารคดีเท่าไหร่นัก เพราะส่วนมากมันมักจะน่าเบื่อ และเราก็เชื่อฝังหัวกันมานานแล้ว หนังสารคดีเรื่องนี้ คุณป๊อป กับคุณนิสา เข้าไปคลุกคลีอยู่กับเด็กนักเรียนบ้านแม่โต๋ ถึงปีกว่าๆ เพื่อถ่ายทอดภาพชีวิตของเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสแห่งนี้ออกมาเต็มเหยียด ก่อนจะตัดต่อออกมาเหลือแค่ 100นาที
...................แว่บแรกที่ผมเห็นสภาพโรงเรียนบ้านแม่โต๋ ซึ่งมีอาคารถาวรสูง2-3ชั้น รวมถึงอาคารอเนกประสงค์อยู่รายรอบ ผมก็บอกได้เลยว่าโรงเรียนนี้ไม่ใช่โรงเรียนแบบในเพลง โรงเรียนของหนู ของพงษ์สิทธิ คัมภีร์แน่ เพราะมันห่างไกลคำว่าทุรกันดาร ซึ่งตัวผมเอง เคยเห็นโรงเรียนที่ห่างไกลและกันดารกว่าที่นี่มาเยอะมาก สมัยเรียนเกษตรฯ ก็เคยไปออกค่ายตามโรงเรียนชนบทอยู่บ่อยๆ เคยเจอโหดๆกว่านี้มาเยอะ แต่ผมกลับไม่เคยรู้สึกว่าจะเคยเจอโรงเรียนใหนที่อบอุ่นเหมือนอย่างโรงเรียนนี้มาก่อน บ้านแม่โต๋ คือโรงเรียนที่มีชีวิต จริงๆครับ
.....................สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของหนัง ไม่ใช่ความกันดาร แต่เป็นเรื่องราวของทุกชีวิตในโรงเรียนแห่งนั้น มันเต็มไปด้วยสีสัน อารมณ์ที่หลากหลาย เหตุการณ์ที่เหลือเชื่อว่าจะเกิดแต่ทำให้หนังดูดราม่ามาก หนังวางเด็กๆ5-6คนเป็นตัวหลัก เพื่อดึงคนดูให้รู้สึกเข้าถึงกับหนังได้อย่างง่ายดาย เด็กๆชาวเขาหลายเผ่า ซึ่งต้องมาอยู่รวมกันแต่ทุกคนก็รักใคร่กันดี และอยู่ในวินัยอย่างเคร่งครัด เพราะที่นี่คือโรงเรียนกินนอน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่โคตรถูก ปีละ 600บาท ??
.....................เด็กๆในหนังเรื่องนี้ถ่ายทอดภาพชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีอาการเขินกล้องเลย ตลอด 100นาทีของการชม จึงเป็นประสบการณ์ที่วิเศษสุด ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ จะต้องรัก เด็กโต๋ แน่นอนครับ ผู้กำกับทั้งสองท่าน สร้างทั้งผลงานที่เป็นแรงบันดาลใจอันวิเศษ รวมถึงส่งผลกระทบใจอย่างรุนแรง มีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นหลังดูจบ ทำอย่างไรจะให้โรงเรียนในเมืองไทยเป็นแบบโรงเรียนบ้านแม่โต๋ เราจะมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียงได้ใหม๊ งบประมาณของกระทรวงศึกษาที่ผ่านๆมา มันใช้ไปกับไอ้ที่สมควรจะจ่ายหรือเปล่า ? ทำไมครูส่วนใหญ่ของบ้านเรา ถึงไม่มีจรรยาบรรณครู รวมถึงจิตวิญญาณที่รักการสอนเหมือนอย่างคุณครูที่โรงเรียนนี้ ฯลฯ ผมอยากให้คนไทยสักล้านคน มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้
.....................ผมอยากให้เด็กไทยได้ดูหนังเรื่องนี้กันเยอะๆ จะได้รู้จักค่าของเงิน เด็กๆที่นี่เค้าเก็บหอมรอบริบกว่าจะได้เงิน 20บาท เพื่อมาใช้จ่าย แต่เด็กกรุงเทพแม่มซื้อมือถือเครื่องเป็นหมื่น ขายตัวหาเงินเที่ยว ใช้จ่ายเงินเป็นเบี้ย เลือกขอแด๊ก ทำตัวหรูหราฟุ้งเฟ้อ มีโอกาสเรียนแต่ไม่ตั้งใจเรียน อยากให้ไปดูชีวิตของเด็กที่เค้า อยากจะเรียน แต่หลายๆคนไม่มีโอกาสเรียนต่อสูงๆ ผมเชื่อมั่นอย่างสูงว่า ทุกคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ จะได้ข้อคิดอะไรกลับไปอีกเยอะเลยครับ นอกเหนือจากความบันเทิงที่หนังเรื่องนี้ทำให้ผมทั้งหัวเราะร่า น้ำตาริน มาแล้วครับ
ป.ล. หนังเรื่องนี้มีฉายแค่ที่ลิโด้ วันอาทิตย์วันนี้ 20พ.ย. และ วันธรรมดา 21-24พ.ย. รอบหกโมงเย็น จากนั้นสุดสัปดาห์หน้าอาจจะไปฉายที่เอมโพเรียม ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดครับ แต่อยากบอกว่า ถ้าท่านมีเวลาว่างพอ อยากให้ไปดูครับ เรื่องนี้ห้ามพลาด......
เวปไซค์ของหนัง //www.pigonine.com/

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2548 |
|
17 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2548 3:14:21 น. |
Counter : 1993 Pageviews. |
|
 |
|
ขอบคุณนะคะสำหรับการเตือนความจำ เกือบลืมดูเลย
อยากดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ