กล้องรุ่นที่คุณใช้อยู่ใน List นี้บ้างมั้ยเอ่ย
เพื่อความสมบูรณ์! กรุณารับชมบนFireFox
ฮะแฮ่ม! นายน้ำคว้าถ่ายรูปเล่นมากี่ปีแล้วจำไม่ได้ ใครอยากรู้โน่นมุมบนขวา! อิอิปีใหม่ย่างกรายมาอีกหนึ่งปีวันนี้อยากจะลำดับบรรดาอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งแต่อดีตเริ่มแรกสุดกระทั่งปัจจุบันของผมเสียหน่อย อะอะ มาดูกัน มีใครใช้รุ่นไหนตรงกันบ้าง
รุ่นพ่อซื้อให้ ผลิตในเยอรมัน รุ่นนี้เรียกว่าโกดักแฮนเดิ้ล ตัวถังมันกางปีกอ้าซ่าออกมาเป็นมือจับได้ เลยเรียกว่าhandle ใช้ฟิล์มชนิดกลัก110 เท่พอสมควรในสมัยนั้นแต่ผมก็ชอบชำเลืองมองกล้องของเพื่อน Minolta 110 Zoom มันเป็นSLRที่ใช้ฟิล์มกลัก110 ตัวแรกของโลกดูไฮเทคมาก ได้มีโอกาสยืมเพื่อนมาจับๆส่องๆด้วย
Minolta 110 Zoom
ฟิล์มกลัก 110
เจ้าโกดักมันปรับไม่ได้ ได้แต่อ้าอ้าหุบหุบแฮนเดิ้ลของมันพอขึ้นชั้นปวช.ผมก็รวมตังค์ค่าขนมกับพี่และน้องมาเป็นเจ้าของกล้องสุดเริดYashica Electro 35 สุดยอดกล้องRangefinder มันเป็นกล้องที่มีอีเล็กทรอนิคควบคุมตัวแรกของโลกนั่นคือมีโหมด Aperture Priority มีระบบวัดแสงอ่านค่าแสงจากไฟสองปุ่มสีส้มกับสีแดงที่ด้านบนของกล้อง มีแป้นปรับความไวฟิล์ม ISO ด้วยสมัยนั้นเรายังไม่เรียกiso แต่เราเรียก ASA กับDin กล้องรุ่นนี้เป็นElectroรุ่นหลังๆของยาชิก้า รุ่นแรกสุดออกตัวปี1966 ปีเดียวกับปีเกิดของผมแล้วก็พัฒนามาเรื่อย จนรุ่นที่ผมได้ครอบครองเป็นรุ่นที่เสียบแฟลขภายนอกได้ เวลาหาโฟกัสก็มองในช่องมองภาพจะมีเงาเหลื่อมๆ หมุนวงแหวนปรับโฟกัสที่เลนส์จนเงาซ้อนกันพอดีเป็นอันเข้าเป้า
บนกระบอกเลนส์มีวงแหวนสามวง วงนอก คือวงแหวนชัตเตอร์ B คือชัตเตอร์Buld Auto คือชัตเตอร์ปรับอัตโนมัติตามค่ารูหน้ากล้อง หรือAv หรือA หรือAperture Priority ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง ส่วนสัญลักษณ์แฟลชคือ X-Sync นั่นเอง วงกลาง ปรับค่ารูหน้ากล้อง ค่าFกว้างสุดได้ถึง 1.7 เลยเชียวนา วงในสุด คือวงแหวนปรับโฟกัส มีสเกลเช็คชัดลึกที่กระบอกอีกต่างหาก
ตัวนี้สุดโปรด
กล้องSLR ตัวแรกของผม แลกด้วยค่าขนมเป็นแรมปีกว่าจะได้เป็นเจ้าของ เป็นSLR 35mm.ที่เล็กที่สุดในโลก กล้องตัวนี้Full Manual เต็มรูปแบบ มีเพียงระบบวัดแสงเท่านั้นที่ใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ นอกนั้นเป็นกลไกล้วน
มาตรวัดแสงแบบไฟ LED Pentax MX แสดงมาตรวัดแสงด้วยระบบไฟLED 5 ดวงสุดเจ๋ง ในขณะที่กล้องอื่นๆยังคงใช้มาตรวัดแสงแบบเข็มเด้งกระดกขึ้นกระดกลงเหมือนไม้คอนดักเตอร์
แท่งเข็มสีขาวมหัศจรรย์ นวัตกรรมที่ล็อกหางฟิล์มแบบอัจฉริยะ ขจัดปัญหาใส่ฟิล์มหลุดซ้ำซากที่มักประสบกันในยุคฟิล์มของมือใหม่
อยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1976 - 1985
Pentax MX มีม่านชัตเตอร์แบบผ้า วางตัวแนวนอน ซิงค์แฟลชได้ที่ความเร็ว 1/60sec ที่ก้านตั้งเวลาถ่ายตัวเองตรงด้านซ้ายของเลนส์มีฟังก์ชั่นเช็คชัดลึก เพียงดันสวนทางเข้าหากระบอกเลนส์
Pentax MX เทียบไหล่กับรุ่นพี่Pentax K1000 สุดยอดกล้องอมตะในอดีต เห็นได้ชัดว่าMX นั้นตัวเล็กกระจิ๊ดเดียวถือเป็นกล้องที่เหมาะมือนายน้ำฟ้ามาก
ยังมีPentax เล็กสุดริดอีกตัวที่อยากได้ นั่นคือ Pentax 110 SLR กล้องSLR ระบบฟิล์ม110 ที่เล็กที่สุดในโลก
นิคอนมักมีแถบแดงหรือแต้มแดงที่กริ๊บจับ และนิคอน เอฟ3 ตัวนี้คือต้นตระกูลแถบแดง
กล้องตัวต่อมาก็นี่เลย นิคอน เอฟ3 ใหญ่มากหนักมาก ได้มาเพราะพ่อกับแม่ไปเที่ยวฮ่องกง ก็ถามเราว่าจะซื้อกล้องสักตัวเอาอะไรดี เราก็วะวะว้าว จดชื่อยี่ห้อชื่อรุ่นให้ จัดเต็มไปซะเลย พอซื้อกลับมาแล้วพ่อแม่ใช้ไม่เป็น เราล่ะก็หวานคอแร้งได้ใช้กล้องระดับ Professional เป็นครั้งแรก แต่ว่าต้องแอบขโมยเอาไปใช้ ตลอดๆ
นิคอน เอฟ3 ผู้ผลิตเคลมว่าเป็นกล้องสามชั่วอายุ ภาพโฆษณาบางภาพมีรูปคนขึ้นยืนเหยียบบนกล้อง แข็งแกร่งทนเป็นแรด ซิงค์แฟลชได้เร็วขึ้นมาอีกหน่อย ที่ 1/80sec มีระบบAperture Priority ถอดเปลี่ยนหัวกระโหลกได้ ที่มาแปลกแหวกแนวคือวางHot Shoe ไว้ตรงแป้นกรอฟิล์มกลับ ไม่รู้คิดได้ไง มันช่วยทำให้แสงแฟลชไม่ส่องตรงเกินไปก็จริง แต่แหม เวลาจะกรอฟิล์มกลับขึ้นฟิล์มใหม่แต่ละทีต้องปลดแฟลชออกก่อนทุกครั้งไป
ช่วงนั้นผมใช้กล้องมือเติบมาก นอกจากPentax MX และNikon F3 แล้ว อีกหลายครั้งที่ได้ใช้ Nikon FM2 ของเพื่อนสนิทด้วย เจ้าFM2 เนี่ยก็กล้องเด่นกล้องดังและคลาสสิคมาก ม่านชัตเตอร์โลหะแนวตั้งที่ทำให้ซิงค์แฟลชได้สูงถึง 1/200sec ปัจจุบันเดินดูดีดียังมีให้เห็นตามร้านกล้องเลย
มาสู่ยุคเรียนจบตกอับ Pentax MX ของผมมาถึงกาลเสีย Nikon F3 พ่อกับแม่สั่งให้ไปเทิร์นและเอากล้องคอมแพ็คป๊อกแป๊กมาใช้แทนเพราะมันใช้งานยาก เพื่อนสมัยนักเรียนที่มีFM2 ก็แยกย้าย ตังค์เรารึก็ยังน้อย จึงมาสู่ยุคยืมกล้องเพื่อนใช้ โชคดีมีเพื่อนที่มีอันจะกินซื้อนิคอนF801sมาไว้ครอบครองแต่ใช้ไม่ค่อยเป็นเพราะมันไฮเทคเกิน เลยไหว้วานผมช่วยถ่ายให้บ่อยๆและได้ยืมมาใช้บ่อยจนไม่รู้ใครเป็นเจ้าของกันแน่
นิคอน เอฟ801เอส มาพร้อมลูกเล่นแพรวพราวก้าวสู่ยุคกล้องอีเลคทรอนิคส์เต็มสูบ ด้วยสารพัดฟังชั่น เร่ิมด้วยระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ นับเป็นนิคอนรุ่นแรกๆที่มีระบบนี้ แม้จะจับโฟกัสอืดๆอยู่บ้าง มีอักษรAFพิมพ์เด่นหราด้านหน้า โหมดการถ่ายภาพStandard Zone ครบเซ็ท P A S M (Program, Aperture Priority, Shutter Priority,และManual) ซิงค์แฟลชเร็วปรี๊ดที่ 1/250sec ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดพุ่งไปถึง 1/8000sec. โอ้ว จะเร็วไปไหน เช็คชัดลึกด้วยปุ่มกด และอีกสารพัดฟังชั่น นับว่าทันสมัยมากในยุคนั้น
นิคอนยักษ์หลับ! Canon ผงาดชิงแชมป์ กลับสู่ยุคมีกล้องเป็นของตัวเองอีกครั้งราวปี 2536 (1993) เงินทองก็ยังน้อยแต่ตัดสินใจยืมตังค์เพื่อนที่มีอันจะกินจะไปสอยนิคอนเอฟ801เอสเป็นของตัวเองบ้าง ก็ต้องตะลึงกับCanon EOS 5 สุดยอดของสุดยอดกล้องไฮเทคที่เทคโนโลยีแซงหน้าNikon ไปหลายขุม
ระบบโฟกัสตามลูกตา !! canon eos 5 มาพร้อมกับระบบจับโฟกัสล้ำยุค โดยกระจายจุดโฟกัสออกเป็นแนวนอน 5 จุด วางเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวของลูกนัยตาคนถ่ายว่ากำลังเล็งไปที่จุดไหนและปรับโฟกัสฉับไวไปที่จุดนั้น และcanon ยังมีเลนส์ระบบ USM (ultrasonic motor) มอร์เตอร์ไร้แกนขับเคลื่อนจับโฟกัสเร็วเหนือเสียงและเงียบกริบ
เช็คชัดลึกด้วยการเหลือบตา นี่ก็เป็นอีกสุดยอดนวัตกรรม eos 5 ใช้การเช็คชัดลึกโดยวางเซ็นเซอร์อีกหนึ่งตัวไว้ตำแหน่งมุมบนขวาสุดในช่องview finderรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน นอกจากนี้ยังมีระบบวัดแสงแบบMulti Segment กระจาย 16ส่วนทั่วเฟรม มีระบบวัดแสงเฉพาะจุดสัมพันธ์กับจุดโฟกัสที่เหลือบมามองด้วย ดีไซน์สวยเฉียบ การใช้งานถนัดมือเป็นอย่างมาก
และแล้วก็ถึงกาลเบื่อ!เมื่อถึงเช้าวันหนึ่ง ทะเลหมอกปรากฏสวยงามหน้าเต็นท์ บนม่อนกระทิง กล้อง เลนส์ ขาตั้ง สายลั่น ทุกอย่างที่ข้างกายพร้อม แต่ผมเกิดอาการล้า เหนื่อย เบื่อหยิบกล้อง เบื่อเปลี่ยนเลนส์ เบื่อความหนักของอุปกรณ์ ได้แต่นอนมุดหัวอยู่ในเต็นท์ แต่ Canon EOS 5 ตัวนี้ก็อยู่รับใช้ผมกว่าสิบปีทีเดียว
กลับจากทริปผมก็ทยอยขายกล้องและอุปกรณ์ทิ้งไปทีละตัว ก้าวสู่ยุคดิจิตอล ด้วยกล้องตัวเล็กๆเบาๆกะทัดรัด ไร้พันธนาการ อิสระเสรีเหนืออื่นใด Casio QV2900UX ฟังชั่นครบยกเว้นคุณภาพของภาพ
กล้องเป็ดเป็ด Casio QV2900UX ออกแบบเลียนจุดเด่นของกล้องค่ายดังทุกยี่ห้อ ตัวเลนส์หมุนได้คล้ายNikon Coolpix990 พลังซูม 8X Optical Zoom (40 - 320 mm.โหเยอะ) ถ่ายโหมดมาโครจ่อติดๆ 1ซม. สวดยอด มีเกลียวหน้าเลนส์ให้ใส่ฟิวเตอร์ (แต่หาเบอร์ใส่ยากมาก เพราะขนาดมัน 43มิล ต้องพึ่งStep Ring) มันถ่ายไฟล์Rawไม่ได้ แต่บันทึกภาพเป็นไฟล์TIFFได้ มีโหมดวัดแสงครบไม่ว่าจะ Multi, Center, หรือSpot โหมดถ่ายภาพก็ครบเซ็ททั้งStandard Zone P,A,S,M หรือCreative Zone สำเร็จรูปต่างๆ นอกจากนี้มันยังถ่ายวีดีโอได้ด้วย
เห็นมั้ยครับ ฟังชั่นครบเซ็ทจริงๆ มันน่าจะเป็นกล้องในฝัน แต่! เพราะภาพที่ได้นั้นมันไม่ค่อยสวย กาลต่อมาปีกว่าๆหลังจากนั้น ผมจึงเขยิบเข้ามาคุณภาพอีกครั้ง กระนั้นก็ยังคงคอนเซ็บไม่เอากล้องถอดเปลี่ยนเลนส์
เจ้าปืนโตโซนี่ กล้องUltra Compact/DSLR Like ที่โดดเด่นเร้าใจด้วยเลนส์Carl Zeiss Vario-Sonnar T* F2.0-2.8 ทางยาว 28-200mm. เห็นแล้วน้ำลายสอ ด้วยสนนราคาสี่หมื่นสาม โอ แพงเป็นบ้าแต่ก็กล้าซื้อ กระบอกเลนส์ใหญ่ล่ำสันหมุนกระดกก้มเงยได้ CCD แนวคิดใหม่ใส่ฟิวเตอร์เพิ่มไปอีกหนึ่งสีเป็น RGBE ให้สีเนื้อคนสวยขึ้น E มาจาก Emerald สีเฉดฟ้า ถ่ายไฟล์RAW ได้ด้วย (แต่รอจริงๆ โคตรรอเลย กดไปหนึ่งแช๊ะก็นั่งรอมันProcess ไปหลายวิ
รายรอบด้วยปุ่มแข็ง Hard Button ช่วยให้เข้าถึงสารพัดฟังชั่นได้อย่างรวดเร็ว ดูสิเฉพาะด้านข้างก็ปาไปเจ็ดปุ่มแระ ด้านบนอีกห้า ด้านหลังอีกสิบกว่า โฮะโฮะ
ความละเอียดแปดล้านพิกเซล ใส่การ์ดได้สองชนิด sony memory stick และ CF card ลูกเล่นครบเครื่องมาก กริ๊ปใหญ่ปึ้กจับกระชับมือสุดขีดสะบัดไม่หลุดกันเลยทีเดียว แบบว่าเกี่ยวด้วยนิ้วทำห้อยๆร่องแร่งก็ไม่หลุดมือ
5 ปีกับโซนี่ F828 5 ปีกับการทนรอมันProcess ไฟล์RAW และใจร่ำร้องถามหากล้องเปลี่ยนเลนส์ได้อีกครั้ง ในที่สุด ผมก็ขายมันทิ้งไปตอนอยู่อเมริกา และสอยกล้องชุดใหม่ยกชุดจากเวปAmazon
ในที่สุดก็ DSLR ในที่สุดก็โอลิมปัส หลังจากจับสเป็คกล้องลงเข่งตะแกรงกรองเซาะหากล้องรุ่นตรงใจ มีกล้องเข้ารอบมาให้ครุ่นคิดหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นNikon D5000, Canon 500D, Sony Alpha อีกหลายรุ่น แต่กลับไม่มีตัวไหนตรงใจเลย Nikon D5000 ดันออกแบบLCDหมุนได้แบบติงต๊องที่สุด Canon ก็ไม่มีLCDหมุน Sony Alpha ก็ปรับLCDได้แค่ก้มเงยในองศาที่จำกัดจำเขี่ยและช้า ที่สุดก็ต้องเซาะหากล้องค่ายอื่นที่ไม่เคยอยู่ในความคิด โดยเอาคุณสมบัติที่ต้องการเป็นตัวตั้งตะแกรงร่อน และได้เจ้าOlympus E-620 มาครอบครอง นอกจากจอหมุนได้ที่ได้ดั่งใจ ฟังชั่นอื่นนับว่าจัดเต็มชุดใหญ่ครบเครื่องเหลือร้ายในราคาเบาสบาย อีกทั้งเลนส์คิทสองตัวที่สอยควบมาด้วยคุณภาพก็จัดว่าใช้ได้แถมพกด้วยแฟลชFL36R ที่ทำงานแบบWirelessได้
บางคนถ่ายรูปเพียง 3-4 ปีฝีมือขั้นเทพ ไอ้เราถ่ายมา 34 ปี! เปลี่ยนกล้องมาเก้าตัว!แต่ฝีมือนี่สิ มันพัฒนาฮวบๆ 5555ฉีกตัวเองไม่ออก แหวกแนวเดิมตัวเองไม่ได้เจ้าOly ตัวนี้ก็สองปีกว่าและคงใช้อีกหลายปี แม้ถ่ายไม่ค่อยเก่งแต่โชคดีมีฝีมือ PhotoShop อยู่บ้าง อิอิ ใช้เลนส์Kit มาตลอดชีวิต ช่วงนี้เริ่มหันเข้าหาเลนส์คุณภาพ ล่าสุดสอยเลนส์เกรดดีดีมาแทนเลนส์คิทได้สองตัว ตัวต่อไปที่เล็งๆไว้คือเจ้ากระบอกโตรูปข้างล่างนี้ ว่าจะสอยในเวปอเมซอนอีก เร็วๆนี้แหละ ต่อไปถ่ายไม่สวยจะได้เลิกโทษอุปกรณ์ ดีไม่ดีเลิกเล่นกล้องไปเลยสิบอกให้ ฝากคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจ หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ด้วยนะจ๊ะแล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้า
Create Date : 10 มกราคม 2555 |
|
78 comments |
Last Update : 30 ตุลาคม 2557 10:55:26 น. |
Counter : 9170 Pageviews. |
|
|
|
ฝีมือพี่นี่ฉุดยอดอยู่แล้ว ถล่มตัวอ่ะพี่
เอิ้กๆ