ภารกิจล่า
แสงทไวไลท์
ใต้ฟ้าบางกอก
1. ณ สถานีรถไฟฟ้าBTSอโศก
ผมประเดิมช็อทแรกของโปรเจ็กเป็นขวัญถุงให้กับตัวเองด้วยการรื้อภาพทไวไลท์เก่าที่ถ่ายในกรุงเทพ เจอภาพเดียวคือภาพนี้เป็นธงนำ ถ่ายในเย็นวันที่เดินทางทำธุระย่านอโศกด้วยรถไฟฟ้าBTS วันนั้นมีกล้องติดตัวแต่ไม่มีขาตั้ง ดันISO ไปที่ 400 ปรับF16 แคบเข้าไว้เพื่อให้ความชัดคลุมมาถึงด้านหน้า ได้สปีดที่ 1.6วินาทีมันต่ำจนต้องเปิดกันสั่น และประคองกล้องให้นิ่งด้วยการยกขึ้นสุดมือเสียบเข้ากับช่องว่างระหว่างผนังทางเดิน พลิกLCD ลงมาเพื่อประกอบภาพ จบหลังกล้อง
เพราะบ่อยครั้ง การสัญญาเงียบๆกับตัวเองมันมักจะโดนเราเบี้ยวเอาเงียบๆ เสมอ!20Shots Bangkok Twilight
คือคำสัญญาดังๆ ที่ผมประกาศกลางแฟนเพจ
เพื่อกดดันตัวเองให้ลุกขึ้นหยิบกล้องมิใช่นั่งรอฤกษ์งาม
เฉพาะยามออกทริปท่องเที่ยวเท่านั้น
และมันได้ผล! มันกลายเป็นพันธกิจส่วนตัวที่เบี้ยวไปเงียบๆไม่ได้
กิจกรรมครั้งนี้ส่งให้ผมต้องไปเดินอยู่ยังสถานที่ใหม่ๆในเกือบทุกเย็นเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ มีทั้งความสนุก เพลิดเพลิน ท้าทาย ตื่นเต้น เหนื่อยและล้าไปหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็คว้าชัยชนะเล็กๆเหนือใจตนเมื่อทำจนสำเร็จ ความภูมิใจที่ได้รับยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตอนขึ้นพิชิตยอดดอดยอดภู
มันเป็นแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในบ่ายวันหนึ่งปลายกค. เมื่อใครคนหนึ่งชวนคุยเรื่องการถ่ายภาพแสงทไวไลท์และแสงไฟรถ ทำให้ผมนึกสนุกอยากออกเก็บภาพแสงทไวไลท์อย่างจริงจังดูบ้าง
และวันนี้ขอแบ่งปันประสบการณ์ทอดน่องท่องกรุงย่ำสนธยามาแบ่งปันพร้อมบอกเล่าเทคนิคการถ่ายภาพทไวไลท์แม้ไม่ถึงขั้นพิสดารอันใดแต่หวังจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับท่านที่กำลังสนใจ
ไปไหนดีเป็นที่แรกผมเลือกสวนเบญจกิติเพราะอยากเห็นเงาสะท้อนน้ำของกลุ่มตึกสูง เห็นหลายคนว่ามายืนดูตึกที่นี่มันเหมือนยืนอยู่เมืองนอก
ฝนพรำๆ ตลอดเย็นและหยุดสนิทเมื่อได้เวลาถ่ายพอดี ผมออกจากที่หลบฝนภายในศูนย์ประชุม ลมสงบแต่ร้อนอบอ้าว เดินเข้าสวนสาธารณะเบญจกิตติ คนรักสุขภาพวิ่งจ๊อกกิ้งกันประปราย มีคนมาตั้งกล้องรอถ่ายแสงเย็นเช่นกันอยู่หลายคน สวนเบญจกิติอยู่ข้างศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นสถานีศูนย์ประชุม 2. สวนเบญจกิติ Focal length 18mm. F8 speed 20sec ISO.100 Metering Mode: Multi ชดเชยแสง +0.7stop
Benjakitti Park
Tip #01 ISOต่ำสุด ไอโซ่ยิ่งต่ำคุณภาพของเนื้อสียิ่งดี เหตุผลเดียวที่ผมจะใช้ไอโซ่สูงคือต้องการสปีดชัตเตอร์ที่สูงขึ้น อีกอย่างหนึ่งเมื่อไอโซ่สูงขึ้นน๊อยส์จะปรากฏชัดขึ้นมากขึ้น
วันที่สองเริ่มสนุก
ผมมาตั้งกล้องชมแม่น้ำเจ้าพระยาเลือกสะพานตากสินเพราะใกล้บ้าน ลมเย็นๆพัดสบาย เดินไปๆกลับๆเลือกทำเลซักพักก็กางขาตั้งรอเวลา ดูเรือ ชมวิวไปเรื่อยๆเอื่อยๆเวลาเหลือเฟือ เมื่อวานหอบหิ้วกระเป๋ากล้องใส่อุปกรณ์มาครบชุดหนักเกินไปแถมไม่ได้ใช้ วันนี้พกกล้องติดเลนส์ตัวเดียว ปรับตัวให้สบายๆหน่อย ของไม่จำเป็นไม่นำติดตัว ใต้สะพานด้านฝั่งธนมีสวนสาธารณะเล็กๆ เขียนไว้ว่าสวนป่า! ผมขับรถส่วนตัวมาก็เลี้ยวเข้าไปจอดรถ สะดวกสบาย 3. สะพานตากสิน Focal Length 18mm. F8 speed 2sec ISO100 Meterring mode: Multi ชดเชยแสง +0.7stop
Cho Phraya River at Taksin Bridge
Tip #02 โหมดวัดแสงแบบไหนดี สำหรับผม Exposure Mode สามัญประจำกล้องคือแบบ Multi Segment หรือแบบแยกส่วนทั่วภาพนั่นเองครับ อีกแบบหนึ่งที่คุณอาจเลือกใช้คือแบบ Center Weighted Average ซึ่งก็ใช้ได้เหมือนกันครับ อย่าไปใช้แบบ Spot หรือ Partial ก็แล้วกันเพราะว่าคุณอาจจะวัดแสงพลาดได้หลายstop
เข้าสู่วันที่3
ควบมอเตอร์ไซค์กะจะไปตั้งกล้องสะพานแขวนมัดขากล้องไว้ตะกร้าหน้า บรื๋นๆ พอขี่ข้ามสะพานกรุงเทพมองไปในแม่น้ำ โอ้ว วิวสวยๆ เลยเปลี่ยนใจหาที่ซุกรกไว้ใต้สะพานแล้วก็ขึ้นมายืนบนสะพาน บนนี้เป็นที่โปรดของเหล่าพรานเบ็ด เลนส์มุมกว้าง 18mm. ที่เคยทำงานได้ดีมาที่นี่ไม่เวิร์คซะแล้ว ต้องชักไปที่มุมแคบสุดของช่วงเลนส์ ที่ 36mm. ขนาดนี้แล้วยังยากที่จะไม่ให้ติดใต้ท้องสะพานพระราม3 ที่อยู่เกือบๆเหนือหัวเลย
การเดินทาง ผมว่าขี่มอเตอร์ไซค์สะดวกที่สุด คือที่ใต้สะพานฝั่งกรุงเทพเค้ามีสวนหย่อมเล็กๆและมีที่จอดมอเตอร์ไซค์ จอดได้สักสี่ห้าคันเท่านั้น ส่วนทางด้านฝั่งธนผมก็ไม่รู้แต่มองไปเห็นเป็นศาลเจ้าจีนไม่รู้มีที่จอดรถยนต์หรือเปล่า
Cho Phraya River at Krung Thep Bridge
Krung Thep Bridge & RAMA III Bridge
5. สะพานกรุงเทพ vs สะพานพระราม3ตอนกำลังจะเดินลงจากสะพานหันหลังกลับไปแลเห็นท้องฟ้าฝั่งทิศตะวันตกยังมีทไวไลท์เหลืออยู่ แถมเมื่อมองย้อนไปบนสะพานแบบนี้ แสงไฟรถสาดมาเป็นลำๆสวยมาก เลยกางขาตั้งกล้องขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง คราวนี้ใช้เอฟแคบสุด F22 เพื่อให้แหล่งกำเนิดแสงแตกเป็นแฉกๆและให้แสงไฟรถมีเวลาวิ่งพาดผ่านหน้าจอเป็นเวลานานๆFocal Length 18mm. F22 speed 60sec ISO100 Meterring mode: Multi, ชดเชยแสง +0.7stop
Tip #03 รูหน้ากล้องต้องแคบกำลังเหมาะ เอฟที่ผมใช้บ่อยที่สุดคือ F8 ครับ เพราะเลนส์ที่ผมใช้บ่อยสุดคือ 18-36mm. เลนส์ช่วงแบบนี้เอฟ 8 ก็เหลือเฟือแล้วที่จะทำให้ภาพชัดทั้งภาพ ที่สำคัญเอฟ8 ยังมักจะเป็นรูหน้ากล้องช่วงกลางที่สุดระหว่างรูหน้ากล้องกว้างสุดและแคบสุด ซึ่งมันคือช่วงรูหน้ากล้องที่รีดคุณภาพเลนส์ออกมามากที่สุด หลายคนอาจจะยังไม่รู้เลนส์ของเรานั้นไม่ได้คงคุณภาพเท่ากันตลอดทุกขนาดรูหน้ากล้อง ที่ปลายสุดแต่ละด้านทั้งกว้างสุดและแคบสุดคุณภาพจะถดถอยพอสมควรโดยเฉพาะขอบๆของภาพครับ เพราะจะใช้เอฟแคบว่า 8 เมื่อต้องการสปีดชัตเตอร์ที่นานขึ้นหรือไม่ก็ต้องการช่่วงความชัดลึกที่มากขึ้นไปอีก หรือไม่ก็เวลาที่ต้องการแสงแฉกๆจากแหล่งกำเนิดไฟ
วันต่อมาใกล้ที่ไหนไปที่นั่น
ยึดเส้นทาง BTS เป็นหลัก
ผมทำงานย่านประตูน้ำ ช่วงทำภารกิจนี้จำต้องทิ้งรถหันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ดังนั้นสถานที่ที่จะไปเลยอาศัยใกล้บีทีเอสเข้าไว้ เวลาที่เหลือเฟือผมเลยเดินจากที่ทำงาน ทอดน่องจากประตูน้ำเรื่อยมากระทั่งถึง ใช้เวลาครึ่งชม.ก็มาถึงสี่แยกปทุมวัน
การ ได้มาเดินเล่นบน SkyWalk แยกปทุมวันที่นี่รู้สึกดีมากเลย ได้เห็นกรุงเทพในมุมมองที่โมเดิร์นมาก ทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬา เชื่อมห้างมาบุญครอง เชื่อมหอศิลป์กรุงเทพ และเชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้า Siam Discovery มันช่างอลังการดีจัง จุดตั้งกล้องอยู่บน Skywalk ของสถานีBTS มุมค่อนข้างบังคับให้ถ่ายในมุมมหาชน วงแดงๆในภาพด้านซ้ายนั่งล่ะครับที่ผมตั้งกล้อง เค้าทำทางช่วงนั้นปล่องออกเพื่อชมวิวพอดีไม่เกะกะทางสัญจร
การเดินทาง ใช้บริการ BTS มาลงสถานีสนามกีฬา หรือถ้าขับรถมาเองก็เลือกจอดได้หลายที่ไม่ว่าจะห้างมาบุญครอง ห้างสยามดิสฯ หรือเลือกจอดฟรีในหอศิลป์กรุงเทพก็ได้สะดวกดี 6. ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง Focal Length 18mm. F22 speed 30sec ISO100 Metering Mode: Multi ชดเชยแสง +0.7stop
MaBoonKrong
Tip #04 ความเร็วชัตเตอร์ ปกติเมื่อตั้ง iso 100 F8 สภาพแสงพลบค่ำแบบนี้สปีดชัตเตอร์ที่ได้มักจะต่ำกว่า 1วินาทีอยู่แล้ว อาจจะอยู่ที่ราวๆ 4-15วิ ทีนี้ถ้าต้องการแสงไฟรถลากยาวๆแบบในภาพนี้ผมมักจะปรับเอฟให้แคบลงไปอีกจนกว่าจะได้สปีดสัก 30-60วิ ซึ่งเพียงพอจะจับเส้นแสงแล้วและก็เป็นสปีดที่ต่ำสุดที่กล้องส่วนใหญ่ทำได้ ยกเว้นชัตเตอร์ B ที่เหลือก็รอจังหวะสัญญาณไฟหรือรอจังหวะให้มีรถวิ่งเข้ามาในระยะจากนั้นก็กตชัตเตอร์
เดินเท้าสู่อนุสาวรีย์ชัยฯ
เช่นเดียวกับเมื่อวานที่ผมเดินไปสยาม วันนี้เดินอีกแล้ว จากประตูน้ำสู่วงเวียนอนุสาวรีย์ชัย ใช้เวลาเดินหนึ่งชั่วโมง ผมพบว่าการไปในถนนเส้นเดิมที่เคยแต่ขับรถผ่านด้วยวิธีอื่นบ้างเช่นเดินเท้า มันทำให้มองเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมากมาย สองข้างทางมีอะไรน่าตื่นตาเยอะแยะ
การเดินทาง คงไม่มีใครไม่รู้จักอนุสาวรีย์ชัยแห่งนี้ คงไม่มีตรงไหนสายรถเมล์เยอะเท่าที่นี่อีกแล้ว หรือจะเดินทางด้วยBTS ก็สะดวก แล้วเดินขึ้นไปตั้งกล้องบนสะพานลอยคนข้ามถนนที่ยาวที่สุดในประเทศไทยบนนี้คนเยอะมาก จุดที่พอจะตั้งกล้องได้คือเหนือปากทางถนนพหลโยธิน7. วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ Focal Length 18mm. F22 speed 30sec ISO100 Metering Mode: Multi วัดแสงพอดี
Victory Monument
Tip #05 ใช้ขาตั้งกล้อง อะไรนะครับ ไม่อยากใช้ เกะกะ หนัก ออ อืมส์ งั้นเอาไงดีล่ะ ถ้าดัน iso สูงปี๊ดไปสัก 800 หรือ 1600 คุณก็อาจจะได้ความเร็วชัตเตอร์สูงกว่าหนึ่งวินาทีขึ้นมาก็ได้ โดยเปิดรูหน้ากล้องให้กว้างที่สุดอีก ยังไงดีล่ะครับ ถ้าเราไม่ได้เน้นคุณภาพมากนักก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงถ้าต้องการเส้นสายของแสงไฟยาวๆคุณก็ต้องใช้สปีด 15-60วินาทีเป็นอย่างน้อย สปีดแบบนี้ยังไงก็ต้องมีขาตั้งนะครับ ที่สำคัญกว่านั้นขาตั้งต้องมั่นคงพอที่จะไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างบันทึกภาพ เคล็ดลับในการกางขาให้มั่นคงขึ้นคือชักข้อแรกก่อนข้อปลาย สองการยืดแกนกลางของขาตั้งเพื่อเพิ่มความสูงขอให้เป็นตัวเลือกสุดท้าย สาม ถ้ายังรู้สึกว่าไม่มั่นคงก็หาอะไรมาถ่วงขาเช่นกระเป๋ากล้อง นำมันมาแขวนห้อยไว้
เหมือนได้เที่ยววันละที่
วันนี้ผมมาเที่ยวซูเปอร์Sky Walk
อยากเห็น Skywalk ยักษ์ที่ออกโฆษณาทีวีบ่อยๆเสียหน่อย ได้ยินมานานแล้วว่าสวย พอไปถึง โห นอกจากสวยแล้วยังใหญ่โตน่าทึ่งมาก มันตั้งอกลางสี่แยกใหญ่ ทำให้มันกลายเป็นสะพานลอยข้ามถนนที่ทั้งใหญ่ กว้าง และงามที่สุดในประเทศไทยไปเลย เพราะการออกแบบสะดุดตาด้วยงาโค้งๆใหญ่มหึมาสองงาและรายล้อมด้วยกลุ่มตึกสูงทันสมัย
การเดินทางวันนี้ทำให้ผมรู้ว่าค่าโดยสารบีทีเอสระหว่างนั่งยันป้ายกับแวะกลางทางแล้วกลับขึ้นมานั่งใหม่นั้นค่าโดยสารไม่เท่ากัน _ _"
การเดินทาง นั่ง BTS มาลงสถานีช่องนนทรี หรือนั่ง BRT มาลงสถานีสาทร Skywalk นี้เป็นทางเดินลอยฟ้าข้ามแยกสาทร-นราธิวาสฯ เชื่อมระหว่างBTSและBRT ตั้งอยู่กลางสี่แยกถนนสาทรตัดถนนนราธิวาสฯ8. SkyWalk ช่องนนทรีFocal Length 18mm. F11 speed 2.5sec ISO100 Meterring mode: Multi วัดแสงพอดี
Sky Walk
Tip #06 ใช้สายลั่น ในสภาพแสงทไวไลท์ที่ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำมากๆ การใช้นิ้วกดชัตเตอร์แม้จะพยามกดด้วยความนุ่มนวลเพียงใดก็ยังส่งผ่านความสั่นสะเทือนแม้เพียงเล็กน้อยสู่ตัวถังกล้อง สายลั่นไกชัตเตอร์ช่วยเราได้ในเรื่องนี้ มันเพิ่มความนิ่งสนิทและที่สุดเพิ่มความคมชัดให้กับภาพ
วันที่เก้าของพันธกิจ
วันนี้ติดธุระมีมีตติ้งเล็กๆกับเพื่อนที่มีนิวาสสถานอยู่บนคอนโด
เลยถือโอกาสไปขอมุมทไวไลท์บนตึกสูงเสียหน่อย ได้ภาพแปลกตากว่าเก้าภาพแรก การถ่ายบนระเบียงบ้านแบบนี้เป็นอะไรที่ชิลชิลเพลินๆส่วนตัวและสงบดี ชอบมาก ถ่ายไปก็จิบเบียร์ชมวิวเพลินๆ โดยเฉพาะเบียร์วันเข้าพรรษานี่สิ อร่อยล้ำไปกันใหญ่
9. บ้านนนทรีคอนโดมิเนียม Focal Length 28mm. F11 speed 15sec ISO100 Meterring mode: Multi วัดแสงพอดี
@16th Fl. Baan Nondsi Condominium
Tip #07 โหมดตั้งเวลาถ่ายตัวเอง ถ้าไม่มีสายลั่นเราก็ใช้โหมดตั้งเวลาช่วยได้ กล้องส่วนใหญ่สมัยนี้มีให้เลือกระหว่าง หน่วงเวลา 2วิ กับ 10-12วิ เราก็เลือกแบบ 2วิ ซึ่งเพียงพอที่จะลดแรงสั่นสะเทือนเล็กๆน้อยๆหลังจากปล่อยนิ้วอย่างนุ่มนวลออกจากปุ่มกดชัตเตอร์
เปลี่ยนมายืนข้างถนนเป็นอีกวันที่มีธุระแต่ก็พกกล้องไว้ พอใกล้เวลาทไวไลท์กำลังขับรถอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าเดอะมอลล์บางแค ตอนแรกก็จอดรถในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแล้วเดินขึ้นสำรวจทำเลบนสะพานลอยคนข้ามถนน มองๆหามุม แต่ยังไม่ใช่ ขับต่อไปอีกหน่อยเห็นต่างระดับถนนกัลปพฤกษ์ดูท่าน่าจะมีมุม เห็นมีปั๊มแก๊สอยู่ใกล้ๆก็รีบซุกรถเข้าไปจอดแล้วกระเตงอุปกรณ์ปุเลงๆมาหามุมในที่สุดก็ได้มุมนี้ครับ ถูกใจมาก ยืนถ่ายอยู่เสียนานเลย สนุกกับการรอจังหวะลำแสงจากรถที่วิ่งผ่านหน้ากล้อง การเดินทาง จุดที่ถ่ายนี้อยู่บนถนนกาญจนาภิเษกด้านขาขึ้นมุ่งหน้าแยกเดอะมอลล์บางแค ก่อนถึงต่างระดับกัลปพฤกษ์ประมาณสองร้อยเมตรจะมีปั๊มแก๊สซ้ายมือนำรถเข้าไปจอดแล้วเดิน
Fly Over
Tip #08 Anti Shock / Mirror Lock / ระบบล็อกกระจกสะท้อนภาพ ถ้ากล้องของเราเป็น SLR หรือ DSLR มันมีตัวกระจกสะท้อนภาพอยู่ กระจกตัวนี้จะตีขี้นและม่านชัตเตอร์จะเปิด การสั่นสะเทือนจะเกิดขึ้นจากการสะบัดขึ้นหรือกระดกขึ้นอย่างเร็วและส่งอาการเบลอเล็กๆให้ภาพเมื่อเราใช้ชัตเตอร์ที่ความเร็วต่ำมากๆ กล้องส่วนใหญ่จึงออกแบบให้มีระบบ Anti Shock หรือ Mirror Lock หรือระบบล็อกกระจกสะท้อนภาพ บางรุ่นสามารถกำหนดเวลาการล็อกได้ด้วย สัก1วิ หรือ2วิ ดูกำลังเหมาะครับ
ตะลอนเพลินจนเลยบางกอก
วันนี้เป็นวันหยุดผมจึงขับรถไปไกลหน่อย อยากมาถ่ายที่นี่นานแล้ว ใต้สะพานวงแหวนอุตสาหรรมฝั่งด้านพระประแดง!! ใช่แล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าภาพที่ผมได้มาเป็นฟ้าสมุทรปราการก็สายไปแล้ว ความจริงถ้าเพียงแต่มันเป็น This is Bangkok หรือ That is Bangkok ก็ได้ทั้งนั้น แต่ภาพทั้งชุดที่ผมได้คราวนี้ไม่มีอะไรส่วนไหนในภาพเป็นกรุงเทพเลย ทำให้ผมไม่นับภาพนี้เป็น1ใน20 แต่เอาลงไว้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว
วันแก้มือวันหยุดต่อเนื่องจากเมื่อวาน คราวนี้ผมตรงดิ่งมาที่ี่นี่ มาแก้มือถ่ายสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมฝั่งกรุงเทพ การขับรถยนต์ออกจากบ้านตอนห้าโมงเย็นเป็นอะไรที่โหดร้ายมากกับการจราจรที่ติดขัดสุดขีด มาถึงสถานที่ถ่ายก็แทบหามุมถ่ายไม่ทันแล้ว การเดินทาง ขับรถมาสะดวกสุดใต้สะพานมีที่ซุกรถด้วยลานจอดของสวนสาธารณะขนาดหย่อมๆ จอดสบาย11. สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม (ภูมิพล1และ2)Focal Length 56mm. F5.6 speed 10sec ISO100 Meterring mode: Multi ชดเชยแสง +1stop
Bhumibol Bridge
Tip #09 White Balance เอาไงดี ถ้าเราตั้งให้กล้องบันทึกภาพที่ถ่ายเป็น Jpeg การเลือก WB ให้เหมาะสมก่อนกดชัตเตอร์เป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงกับภาพ WB ที่ผมทดลองดูเหมาะสมที่สุดสำหรับภาพทไวไลท์ก็คือ Daylight ครับ ถ้าเป็น Shade หรือ Cloudy ภาพจะติดวอร์มโทนเกินไป และถ้าเป็น Fluoressent Incacent หรือ Tungsten ภาพจะติดคูลโทนมากเกินไปถึงแม้ว่าเราจะได้ฟ้าที่น้ำเงินเข้มขึ้นก็ตาม
ภารกิจชะงัก
ขาตั้งใช้งานหนักเกินไป
ด้วยความรีบทำให้ผมออกแรงบิดล๊อคหางปลาขาตั้งหนักมือไปหน่อย เกลียวขาด! ล็อกขาไม่ได้ โชคยังนี้บริเวณนี้เป็นบันได จึงพอประยุกต์ดใช้ความต่างระดับมาแทนขาตั้งรอดไปหนึ่งวัน แต่หลังจากนั้นภารกิจนี้ก็ต้องหยุดชะงักไปโดยปริยายหลายวัน
นั่งรถเมล์ไปวัดเบญฯในที่สุดผมก็ได้ขาตั้งสำรองอันใหม่มาใช้ทดแทนดันเดิมที่ใช้งานมานานกว่า 20ปี ความตั้งใจแรกคือจะไปถ่ายทไวไลท์พระที่นั่งอนันตสมาคม แต่ดันมีพิธีรับปริญญา จึงเปลี่ยนใจเดินย้อนมาวัดเบญจมบพิตร คนน้อยมากอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ (ไหนอ่ะคน) เลยถ่ายเล่นเก็บแสงแรกแล้วเดินวนรอบโบสถ์หนึ่งรอบกลับมาถึงที่เดิม คุณพระช่วยกล้วยทอด เจอตากล้องสามคนมายืนปักหลักกางขาแย่งที่ไปเรียบร้อยแล้ว ชนิดทอดสมอรากงอกไม่ขยับขยายไปไหนเลยชั่วโมงกว่าๆ จนแสงทไวไลท์หมดหนึ่งในนั้นเก็บกล้องแล้วหันมาบอกผมว่าเสร็จแล้วครับ ว่างแล้ว เชิญครับ รับคำเชิญตอนหมดแสงเนี่ยนะ ! ไม่ล่ะครับ
แต่ว่าแต่ภาพนี้ที่สุดได้มาก็เพราะตัดสินใจเอาขากล้องไปกลางแหวกกลุ่มเค้าเลย ทนรอต่อไปไม่ไหว ยิ่งฟ้าแบบนี้ด้วย เป็นวันที่ฟ้าสวยเป็นใจให้ถ่ายวัดเบญจบพิตรมากๆ ถือเป็นความประทับใจในครั้งแรกที่มาถ่ายวัดนี้เลยทีเดียว
การเดินทาง ผมเลือกเดินทางด้วยรถเมล์ร้อน ^^ แต่ว่าหน้าวัดมีที่จอดรถกว้างขวางพอควร ใครขับรถมาเองก็น่าจะสะดวกดีเข้ามาได้ทั้งจากด้านถนนศรีอยุธยาและถนนพิษณุโลก
Wat Benchamabophit
Tip #10 Raw ถ้ามีก็อย่ารั้งรอ แม้คุณจะบอกว่ากล้องของคนก็สามารถถ่ายไฟล์ RAW ได้ แต่ไม่อยากใช้ แค่ Jpeg ฉันก็โอเคแล้ว แต่ได้โปรดเชื่อหน่อย ไฟล์ Raw คือไฟล์ดิบๆ มันเก็บค่าทุกอย่างเหมือนเป็นฟิล์ม มันรับรู้ค่า WB ที่ตั้งไว้แต่ไม่ได้นำไปประมวลผล คุณจะเปลี่ยน WB เล่นเป็นอะไรก้ได้ภาพหลัง ที่สำคัญมันเก็บความละเอียดของสีไว้ที่ 12Bit/Channel (เป็นอย่างน้อย กล้องบางตัวทำได้ถึง 14 และ 16Bit) ผิดกับ Jpeg ที่เก็บเพียง 8Bit/Channel เท่านั้น ลองคิดดูแชลแนลสีในกล้องมี 3 ช่อง Red Green Blue ลองเอาเลขฐานสองคูณดูสิ 68,719ล้านสี กับ 16.7ล้านสี อย่างไหนจะแจ่มกว่ากัน อีกอย่างหนึ่งคือนอกจากกล้องจะไม่นำ WB มาประมวลผลแล้ว ค่า Hue, Sharpness, Contrast, Tone, Saturation กล้องก็ไม่นำมาประมวลเช่นกัน คุณสามารถไปกำหนดเองตามใจชอบได้ในภายหลัง
ทไวไลท์ตอนเช้ามั่งผมเกือบลืมไปว่าโลกเราไม่ได้มีแค่แสงทไวไลท์เย็น เลยถือโอกาสมาลานพระบรมยามเช้า เลี่ยงงานรับปริญญาในยามเย็น ตารางเวลาบอกว่าแสงจะมาราว 05:40 ถึง 06:00 ข้อดีของการถ่ายตอนเช้าคือรถไม่ติด ถนนโล่งโจ้งมาก แต่ข้อแตกต่างคือถ่ายตอนเย็นนั้นสีน้ำเงินของท้องฟ้าจะเข้มขึ้นเรื่อยๆในขณะที่แสงไฟสถานที่ก็จะทยอยเปิดสว่างขึ้นๆ แต่ตอนเช้านี่กลับกันและยากกว่า เพราะบางทีแสงไฟสถานที่เค้าปิดไปแล้วหรือไม่ก็กำลังทยอยปิดสวนทางกับฟ้าที่สว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว การเดินทาง ลานพระบรมอยู่สุดถนนราชดำเนินนอก ถ้าไม่มีงานรับปริญญาหรืองานกาชาดหรืองานสำคัญอะไรก็จอดรถหน้าสวนอัมพรหรือหลังพระบรมรูปหรือหน้าสนามเสือป่าได้
King Rama V Equestrian Monument
Tip #11 วัดแสงอย่างไรดี พอดี! Over! Under! สารภาพตามตรง ตั้งแต่กล้องสมัยนี้มี Live Histogram ผมก็แทบไม่เคยวัดแสงดีเลย อ่านกร๊าฟอย่างเดียวเลยครับ แต่ถ้าคุณยังถนัดการวัดแสงอยู่ผมว่าลองอย่างนี้ดีมั้ยครับ ไปดูTip ถัดไป
มาที่นี่ผมได้ 2Shots ครับนี่เป็นภาพช๊อทที่สอง พระที่นั่งอนันฯ ยืนถ่ายจากบริเวณด้านหลังพระบรมฯเลย การเดินทาง อยู่บริเวณเดียวกับพระบรมรูปทรงม้า
The Ananta Samakhom Throne hall
Tip #12 ถ่ายคร่อมแสง นั่นล่ะครับ เด็ดสุด นาทีแห่งแสงอลังการมันสุกสว่างเต็มที่แค่ 5-6 นาทีเท่านั้นเอง ดังนั้นถ่าย 3เฟรมรัวๆ พอดี โอเว่อร์ อันเดอร์ไปเลยชัวร์สุดครับ ถ้ากล้องของคุณปรับฟังชั่นก์นี้ได้ และมีให้เลือกคร่อมหลายแบบ WB Bracketing, ISO Bracketing, Exposure Bracketing ให้เลือกอย่างหลังสุดครับ
ทำงานอยู่ย่านประตูน้ำแท้ๆ
ทำไมเราไม่คิดถ่ายแถวที่ทำงานนะว่าแล้ววันนี้ผมเลยถือโอกาสสบายๆหนึ่งวันเดินหาถ่ายภาพแถวนี้ล่ะครับ ตั้งใจว่าจะขึ้นไปยืนปักหลักบนอาคารจอดรถห้างพันธ์ทิพย์ พอขึ้นไปหาทำเลเป็นที่เรียบร้อยก็ลงมาเดินเล่นหน้าห้างรอเวลา พอแสงทไวไลท์เริ่มปุ๊บผมมาอยู่ตรงสะพานลอยหน้าห้างพอดีก็เลยยกกล้องลองเทสมุมหน่อยเผื่อดีเด๋วจะลงมาตั้งกล้อง ภาพนี้ปรับ isoสูงขึ้น Fกว้างขึ้น เพื่อให้speedสูงพอถือเพราะไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง การเดินทาง ย่านประตูน้ำมีถนนเพชรบุรีตัดใหม่ผ่ากลาง มีห้างใหญ่ๆแวดล้อม ถ้าขับรถมาเองก็จอดที่ห้างพันธุ์ทิพย์ได้ ราคาค่าจอดชม.ละ20 หรือเลือกจอดที่ห้างแพลตินั่ม ห้างซิตี้ กรุงทอง ชิบูย่า ค่าจอดแพงกว่ากันเล็กน้อย หรือเลือกเดินทางด้วย BTS มาลงสถานีราชเทวีก็ได้ สถานีพญาไทก็ได้แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์วินหรือเดินทางเข้ามาสักสิบนาทีก็ถึง ภาพนี้ถ่ายบนสะพานลอยหน้าห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า
Tip #13 ปิดกันสั่น ระบบกันสั่นนั้นดีเมื่อเราถือกล้องถ่าย มันจะลดอาการสั่นไหวได้มาก แต่เมื่อเราตั้งกล้องอยู่บนขาตั้งที่นิ่งสนิทระบบนี้จะกลายเป็นดาบสองคมที่หันมาส่งผลให้เกิดการสั่นเล็กน้อยทำให้ภาพไม่คมชัด
กระหือกระหอบขึ้นห้าง
หลังจากถ่ายไปภาพนึงที่สะพานลอย ผมก็ห้อปุเลงไปหลังห้างขึ้นลิฟท์อาคารจอดรถมายังชั้นบนสุดที่หมายตาไว้ ว่าก็ว่านะครับ ผมว่าที่บนนี้กรุงเทพสวยดี มองเห็นวิวเมืองกว้างไกลและเส้นสายกลุ่มตึกสวยงาม ไล่ตั้งแต่สยามพารากอน มายังตึกเบื้องหน้าผมกลุ่มห้างเซ้นทรัลเวิร์ลดและโรงแรมเซนทารา แกรนด์ ขาตั้งพร้อมแล้ว กล้องพร้อม แสงทไวไลท์มาพร้อม ไฟเมืองทยอยเปิดขึ้น ว้าว
(ภาพนี้ผมตั้งกล้องบนอาคารจอดรถห้างพันธุ์ทิพย์ ดูการเดินทางตามภาพ 15)
Centara Grand Central World
Tip #14 ฟิลเตอร์ เมื่อต้องรีดคุณภาพเลนส์กันถึงที่สุดแล้ว เช่นใช้ค่า F กลาง เลือก iso ต่ำ วางกล้องบนขาตั้ง ปิดกันสั่น ล็อกกระจก ใช้สายลั่น สิ่งเล็กๆสุดท้ายถ้าทำได้คือ ถอดฟิลเตอร์ออก ใช่แล้ว ถ้าเลนส์ตัวเก่งของคุณมีฟิลเตอร์คุณภาพปานกลางบังอยู่ คุณภาพโดยรวมของเลนส์ทั้งหมดก็จะดร็อฟลงไปตามคุณภาพของชิ้นเลนส์ส์ตัวหน้าสุดนั่นคือเจ้าฟิลเตอร์ปกป้องเลนส์ ดังนั้นถ้าไม่เสียเวลาเกินไปผมเองจะถอดมันออกเสมอเมื่อต้องการเน้นคุณภาพให้ถึงที่สุด
เขยิบมาขึ้นดาดฟ้า
จากอาคารจอดรถที่เดิม ผมขยับสูงไปดาดฟ้า มาส่องตึกนี้บ้าง อันเนื่องจากก่อนหน้าชั่วโมงนึงฝนตกหนัก ตอนขึ้นมาเล็งมุมผมเห็นว่าน้ำที่ท่วมขังบนนี้แสงเงาสะท้อนน้ำได้ดี วันนี้วันเดียวเลยไปไป 3 Shots ความจริงความตั้งใจแต่เดิมของผมกับโปรเจ็คนี้คือ 20ภาพ 20สถานที่ทั่วกรุงเทพ แต่แล้วหลังจากถ่ายมาได้ครึ่งทางก็มีเหตุจำเป็นต้องปรับย่อคอนเซ็บลงนิดหน่อย แต่ยังตั้งใจให้ได้ภาพ 20ภาพเช่นเดิม (ภาพนี้ผมตั้งกล้องบนอาคารจอดรถห้างพันธุ์ทิพย์ ดูการเดินทางตามภาพ 15)
Tip #15 Continuos Shooting ไหนๆถ้าเลือกถ่ายคร่อมแล้วล่ะก็ ปรับโหมดการกระหน่ำชัตเตอร์จาก Single เป็น Continuos Shooting เลย รัวติดๆสามเฟรมซ้อน กล้องบางรุ่นมี Anti Shock Continuos Shooting อีกก็ยิ่งสะดวกล็อกกระจกพร้อมรัวไปในตัว
ตะเวนไปทั่ว สุดท้ายมาจบที่นี่
วันอาทิตย์อุตส่าห์งานตั้งแต่บ่ายสามตะเวนหาสถานที่ถ่าย ผ่านหัวลำโพง วงเวียนโอเดียน ไปเดินหามุมตรงข้ามวัดอรุณแต่ไม่ถูกใจเลยย้ายมาย่านสี่พระยามาขอขึ้นตึก CAT telecom แต่จนท.บอกว่าต้องทำเรื่องขออนุญาตมาก่อน มันจวนเวลามากแล้วหาสถานที่ใหม่น่าจะไม่ทันเลยดอดขึ้นอาคารจอดรถตึกCAT เสียเลย และแล้วการตั้งกล้องรอหนึ่งชม.เต็มๆเกือบล้มไม่เป็นท่าเมื่อเมฆดำที่ตั้งเค้ามาหนึ่งชม.เต็มเช่นกันนั้นมันไม่ยอมสลายแถมลมไม่สามารถหอบมันให้พ้นไป และฝนก็กระหน่ำสาดเต็มที่หลังเข้าสู่ช่วงเวลาทไวไลท์ได้เพียงสองสามนาที เรียกว่าเก็บกล้องแทบไม่ทัน แต่ก็ยังได้ติดมือมาอีก 1 Shot
a location Along The Chao Phraya River
Tip #16 เรื่องน่ารู้ Color Profile ถ้ากล้องของคุณมี Color Profile ให้เลือกได้ ให้เปลี่ยนจาก sRGB เป็น Adobe RGB มันมีช่วงสีที่กว้างกว่า และเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับการถ่ายภาพแสงทไวไลท์
เมฆทะมึนดำ
ยังคงตามราวี
เป็นช่วงเวลาหลายวันติดต่อกันที่ท้องฟ้าเหนือกรุงเทพมีเมฆฝนปกคลุมทุกเย็น เป็นอุปสรรคให้ต้องหิ้วกล้องหอบขาไปรอเก้อ วันนี้เป็นอีกวันที่เกือบพลาดหวังแต่โชคก็เข้าข้าง ผมสาละวนอยู่ย่านประตูน้ำเช่นเคย เดินไปขึ้นอาคารจอดรถเซ็นทรัลเวิร์ลดแต่แล้วทำเลก็ไม่เหมาะ สุดท้ายเมื่อเวลาจวนเจียนก็เร่งเดินย้อนกลับมาขึ้นอาคารจอดรถของรร.อามารีที่ผมเช่่าที่จอดรถรายเดือนไว้ที่นี่ กับมุมส่งตึกใบหยก1 และตึกใบหยกสถายที่ตั้งตะหง่านท้าสายตาอยู่คู่กัน และก็ได้ภาพนี้มา ภาพคุ้นตาที่ผมมองเห็นอยู่เกือบทุกวัน
19. ตึกใบหยก1 และตึกใบหยกสกายFocal Length 18mm. F16 speed 25sec ISO100 Meterring mode: Multi วัดแสงพอดี
Biyoke Suite & Biyoke Sky Building
Tip #17 การรอจังหวะแสง แสงทไวไลท์จะค่อยๆ เริ่มปรากฏขึ้นหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า และจะค่อยๆมืดหมดไปราว 20นาที ในนาทีแรกๆแสงท้องฟ้ายังสุกสว่างกว่าฉากมาก และจะลดความสว่างลงกระทั่งเท่ากันและน้อยกว่าจนมืดดำในที่สุด ช่วงนาทีที่แสงท้องฟ้าสว่างกว่าฉากประมาณสัก 1 stop เป็นช่วงเวลาที่ผมว่ามันเรืองรองดีครับ ไม่ต้องใช้เครื่องวัดแสงวัดว่าเมื่อไหร่จะส่วนห่างกัน 1stop หรอกเราสามารถสังเกตด้วยตาเปล่าของเรานี่แหละ นาทีก่อนที่แสงท้องฟ้ากับแสงในเมืองจะสว่างเท่าๆกันนั่นล่ะครับคือช่วงเปล่งสกาวเงาวาวที่สุดของแสงทไวไลท์ สำหรับทไวไลท์ยามเช้าก็เป็นไปในทิศทางตรงข้ามครับ
ภาพสุดท้าย
ใครเดาออกบ้างที่นี่ที่ไหนครับ ในที่สุดทริปนี้ก็จบลง การเดินทางล่าแสงยาวนานถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ เสร็จสิ้นแล้ว ในภาพสุดท้ายนี้ผมตั้งใจหาสถานที่อลังการปิดฉาก แต่วันแล้ววันเล่าฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ หนำซ้ำผมตะลอนไปสนามหลวง วัดพระแก้ว วัดอรุณก็ไม่ได้มุมดั่งใจ และไม่ได้ภาพถ่ายติดมือมาเลย สุดท้ายผมก็รู้สึกอยากให้ภาพสุดท้ายเป็นที่นี่ ที่ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผม จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการทำงานประจำวัน
และที่นี่ก็คือ
20. มุมสงบแถวบ้าน
ทไวไลท์หน้าโกดังสินค้าของที่ทำงานของผมเองFocal Length 20mm. F8 speed 40sec ISO100 Meterring mode: Multi วัดแสงพอดี
Getting Back to
Day to Day LIFE
Tip #18 สุดท้ายคือการหามุม บางสถานที่ก็เลี่ยงมุมมหาชนยากเหลือเกิน แต่การขยับก้าวซ้ายขวา เงยก้มกล้อง ปรับสูงต่ำแม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลให้กับเส้นสาย ช่องไฟ เปอร์สเป็คทีฟ และสร้างความแตกต่างได้
และแล้ว
อย่างไม่คาดฝันมาก่อน!!
ผมต้องแปลกใจ ทึ่ง และปลื้มใจเป็นอย่างมาก เมื่อวันสุดท้ายของภารกิจนี้จบลง ผมก็พบสเตตัสบนเฟชบุ๊คของลูกสาว ประกาศภารกิจ! พร้อมกับวันเดียวกันนั้นสาวน้อยคว้าไอแพดไปยืนถ่ายแสงทไวไลท์หน้าระเบียงบ้านผมเอง มันคือสิ่งที่บอกว่าตลอดเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ โฟกัสเห็นผม สังเกตผม และประทับใจผม และอยากทำภารกิจเหมือนผม การสัญญาดังๆในที่สาธารณะของผมกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ไปฝังอยู่ที่ลูกสาว ผมลูบหัวเค้า ยิ้ม หอมแก้ม และบอกเค้าว่า ปะป๊าจะคอยเป็นผู้ช่วยหนูเองนะ ดีแล้วมาประกาศภารกิจกึกก้องแล้วลงมือทำกัน
และผมก็เลยทำเฟชบุ๊คแฟนเพจขึ้นมาอันหนึ่งให้เค้า ให้เป็นที่คุยกับโลก