สิงหาคม 2549

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
12
13
14
15
16
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เรือนกล้วยไม้ปลายตะวัน
...เมื่อไหร่ที่เผลอภาพเธอก็ย้อนคืนมา อาจทำให้เสียน้ำตาแต่ยังชื่นใจ รู้สึกดีเสมอที่ยังจดจำเรื่องเธอเอาไว้ ฉันเข้าใจว่าเรายังคงผูกพัน แต่มีบางครั้งคนเราต่างหวังไปไกล แต่ตอนสุดท้ายไม่เป็นดั่งใจต้องการ เหมือนกับเราวันนี้ที่มีแต่ความทรงจำเท่านั้น คิดถึงมันเมื่อไรก็ได้แต่ยิ้ม...

อัญญากดรีโมทเพื่อเพิ่มเสียงเมื่อถึงช่วงดังกล่าวของบทเพลง และเมื่อเพลงจบลง ก็ย้อนกลับมาเล่นซ้ำอีกครั้ง ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนที่ยังใช้เครื่องเล่นเทป ป่านนี้หัวเทปอาจจะกร่อน และม้วนเทปอาจจะยืดไปแล้ว เพลงนี้ทำให้อัญญามีน้ำตาเหมือนกับอีกหลายเพลงที่เคยได้ฟังด้วยกัน แต่วันนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว อัญญานั่งฟังเพลงลำพัง คนเดียว...

บางอย่างที่ผ่านไปแล้ว แต่ยังเป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำเสมอ เรื่องของเขา ผู้ชายคนหนึ่งที่เพียงบังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิตและจากไปบนหนทางของเขาในต่อมา แต่ความทรงจำที่ดีทำให้อัญญาจดจำในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยกันเสมอ

เวลานี้เขาอาจจะอยู่กับตัวเอง... ฟังเพลงเดียวกับที่อัญญากำลังฟัง หรืออีกบางทีเขาอาจจะไม่ฟังเพลงที่เคยฟังด้วยกันอีกเลยก็ได้ หรือไม่...เขาอาจจะฟังกับคนอื่น... ก็มันเป็นอดีตไปแล้วนี่นะระหว่างอัญญาและเขา ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่นานนัก เมื่อความรักเปลี่ยนไปอะไรก็ไม่เหมือนเดิมด้วย แต่สำหรับอัญญานั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มีต่อเขาเลยแม้สักนาที... ว่ากันว่าผู้หญิงอ่อนไหวกว่าผู้ชายในเรื่องความรัก และมักจะมีเรื่องราวให้จดจำมากกว่าผู้ชายเสมอ... อัญญาเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าวนี้ เพราะในเวลานี้... ค่อนดึก ก็ไม่อาจที่จะข่มตาหลับลงได้

อัญญาลุกขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์ พิมพ์เรื่องสั้นที่ยังค้างอยู่... เมื่อกลางวันพี่ บ ก. เวบไซต์ที่อัญญาเขียนเรื่องสั้นประจำโทฯ มาทวงต้นฉบับเรื่องสั้น และทางสำนักพิมพ์ที่อัญญาเป็นกองบรรณาธิการอยู่ก็ถึงกำหนดหนังสือปิดเล่มแล้ว อัญญาจึงต้องรีบส่งต้นฉบับ นี่ยังไม่รวมวารสารรายปักษ์ที่อัญญาเขียนบทความอยู่ซึ่งทางสำนักพิมพ์เพิ่งจะโทฯ มาบอกว่าให้ส่งต้นฉบับได้แล้ว...

ก่อนหน้านี้อัญญาไม่ได้เป็นสาวโฮมออฟฟิศเหมือนทุกวันนี้หรอก หลายปีทีเดียวที่อัญญาเป็นนักเดินทาง ถ่ายรูปและเขียนบทความเอง.. อัญญาได้รู้จักกับเขา...ผู้ชายคนเดียวที่อัญญารักและไม่เคยลืมเลยก็จากการเดินทางเพื่อเขียนสารคดีเรื่องกล้วยไม้นั่นเอง

ไร่กล้วยไม้ทางเหนือที่ปลูกเพื่อส่งออก เป็นธุรกิจขนาดเล็กและกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ เขาเป็นเจ้าของไร่... ภาพสไลด์และบทสัมภาษณ์ครั้งนั้นไม่ได้ลงตีพิมพ์หนังสือเล่มไหน แต่อยู่ในใจและความทรงจำของอัญญาไม่เคยลืม
* * * * * * *

ตุลาคม ปลายฝนต้นหนาว จังหวัดทางเหนือของเมืองไทย ณ ‘เรือนกล้วยไม้ปลายตะวัน’

“ชื่อเพราะจังนะคะ ใครเป็นคนตั้งชื่อนี้คะ” ขณะที่ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์และเขียนสารคดีเกี่ยว กับกล้วยไม้

“เจ้าของไร่ครับ” ในตอนนั้นอัญญาไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอกำลังสนทนาด้วยนั้นเป็นใคร ชายหนุ่มผมยาวร่างสูง วัยไล่เลี่ยกับอัญญา

“มีความหมายไหมคะ” อัญญาอยากรู้ถึงที่มาของชื่อ เพื่อใช้ประกอบการเขียนบทความ

“ดวงตะวันนั้นอยู่ไกลนัก ใครที่หมายจะไปให้ถึงดวงตะวันนั้นไม่ง่ายดายเท่าไร แต่ถ้าหากด้วยแรงใจและความพยายามแล้วนั้นจะทำให้เราไปถึงที่นั่นได้...” ชายหนุ่มอธิบายความหมายที่มาของชื่อ อัญญาเดาว่าเขาคงไม่ได้เป็นเพียงเด็กในไร่เท่านั้น เพราะภาษาและการเปรียบเทียบของเขานั้นเหมือนคนที่มีความรู้พอสมควร

“เมื่อก่อนที่นี่ไม่ได้เป็นไร่กล้วยไม้ที่สวยงามและมีนักท่องเที่ยวหรือนักเขียนสารคดีมาขอชมเหมือนอย่างวันนี้หรอก ที่นี่เป็นดงหญ้าป่า ผมใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีในการสร้างมันขึ้นมาเพราะมันเป็นความฝันของผม แล้วผมก็ทำได้” ชายหนุ่มนึกถึงครั้งแรกที่เขามาเป็นผู้บุกเบิกการปลูกกล้วยไม้ในแถบนี้

“จากที่นี่เดินไปอีกไม่ไกลนักเราจะถึงน้ำตก คุณจะ...ไปด้วยกันไหม?” เขาชวนแล้วยื่นมือมาให้ อัญญาจับเพื่อที่จะเดินลุยดงหญ้าสาบเสือไปจนถึงน้ำตก แล้วไม่นานนักเราสองคนก็เดินมาจนถึงปลายดอยที่มีน้ำตกไหลผ่านลงมาเป็นสายยาว หน้านี้เป็นปลายฤดูฝน น้ำอาจจะขุ่น แต่อัญญาคิดว่าถ้าไม่มีฝนแล้วน้ำคงจะใสน่าดูเหมือนกัน

“เราใช้น้ำจากที่นี่ต่อเข้าไปที่ไร่ เรามีที่เก็บน้ำเมื่อถึงหน้าแล้ง และถ้าเป็นฤดูนี้เราจะใช้น้ำจากที่นี่โดยต่อสายเข้าไปในไร่เลย”

“นั่นสิคะ อัญญาก็สงสัยตั้งแต่แรกว่าที่นี่ใช้น้ำจากไหน เพราะไม่อยู่ใกล้แหล่งน้ำเลย”

“ยังมีอีกมากที่คุณ... ไม่รู้ จะอยู่ต่ออีกสักพักหนึ่งดี
ไหม? คุณจะได้รู้มากกว่านี้เกี่ยวกับที่นี่”

“ดีค่ะ ไม่ได้พักผ่อนนานแล้วเหมือนกัน”

“แล้วผมจะพาทัวร์เอง” นั่นเองคือบทเริ่มต้นแห่งความผูกพันและความรัก แล้วไม่นานนัก อัญญาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘เรือนกล้วยไม้ปลายตะวัน’...

อัญญาได้รู้จักกับครอบครัวของเขาคือแม่และน้องสาว ทุกคนน่ารักและและใจดีกับอัญญา แต่ก็คงไม่มีอะไรที่จะได้ดังใจเราทุกอย่าง เมื่อเวลาหนึ่งผ่านไป ใครหลายคนก็เข้ามาทำความรู้จักกับชีวิตเรามากขึ้น อัญญาต้องเดินทางบ่อยๆ เพื่อทำงานจึงไม่ได้อยู่ที่ไหนนานๆ และอาจจะเพราะความห่างไกล เมื่ออัญญากลับไปหาเขาอีกครั้ง สิ่งที่อัญญาได้พบคือ พยาบาลสาวสวยที่เป็นคนสำคัญ ‘คนใหม่’ ของเรือนกล้วยไม้ปลายตะวัน... และนั่นเองที่ทำให้อัญญาต้องอยู่ลำพังกับตัวเองในเวลานี้...

----------------

“ฮ่าโหล... แม่หนูอัญญาที่รักของธิน ยังไม่นอนอีกหรือป่านนี้แล้ว” เสียงที่กรอกมาตามสายนั้นเป็นเสียงของชายหนุ่มเพื่อนคนหนึ่งอัญญาที่รู้จักเพราะต้องติดต่อกับเขาเพื่อทำสารคดี

“งานอัญไม่เสร็จ” อัญญาพูดเสียงเนือยๆ

“มีอะไรให้กระผมรับใช้มั้ยครับเจ้าหญิง...” เขายังเล่นเหมือนไม่รู้สึกอะไร

“ไปเที่ยวมาหรือไง ถึงได้โทฯ มาได้เวลานี้”

“ใครบอก....คิดถึงอัญ ต่างหาก”

“จริงเร้อ...แล้วน้องมินท์ล่ะ อยู่ไหน?”

“ส่งกลับบ้านไปแล้ว ข้อหาช่างซักช่างถามมากไป เร่งงานให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงนะแม่หนู แล้วตีห้ายี่สิบเจอกัน บ๊าย บายครับผม” แล้วเขาก็วางสายไป ง่ายๆ อย่างนี้เสมอ แต่อัญญาก็ชินเสียแล้ว และถ้าไม่เพราะเขา...อัญญาก็คงทำใจไม่ได้ถึงเพียงนี้

แม้จะตัดใจให้ไม่รักชายหนุ่มแห่งเรือนกล้วยไม้ปลายตะวันไม่ได้ แต่ธินก็ทำให้อัญญาเศร้าน้อยลงกว่าเดิมได้ อาจจะเพราะเขาเป็นคนร่าเริงและอารมณ์ดี เขาไม่เคยมีเรื่องเศร้าๆ มาทำให้อัญญาต้องเป็นทุกข์กังวลไปกับเขาเลย ทุกครั้งที่ธินมา เขาจะมาพร้อมด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเสมอ อัญญาคิดเพลินๆ และเผลอหลับไป ความรู้สึกอุ่นๆ ที่หน้าผาก ทำให้อัญญาสะดุ้งตื่น...

“หืมม์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ธิน แล้วเข้ามาได้ยังไง”

“เป็นพ่อมด บินเข้ามาทางหน้าต่าง เชิญเจ้าหญิงไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็มาทานอาหารเช้าขอรับ” อัญญายังลูบหน้าผาก และมองหน้าธินเพื่อขอคำตอบว่าเขาแอบทำอะไรตอนที่อัญญาเผลอหลับไป

“อ๊ะ ป๋มป่าวน๊า ขอโต้ด ถุงโจ้กตะหากล่ะครับ...ฮ่าๆ แล้วคราวหน้าก็ล็อคห้องด้วยล่ะ...อันตราย” ธินเป็นห่วงอัญญาเสมอ เขารู้ว่าเธอซุ่มซ่ามและมักจะเผลอลืมอะไรบ่อยๆ เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากที่เขาจำได้แม้กระทั่งวันที่อัญญาต้องส่งต้นฉบับ เขาจำเบอร์เพื่อนสนิทของอัญญาได้ เขาจำวันเกิด จำชื่อหมาตัวโปรดที่บ้านต่างจังหวัดของอัญญาได้ และเขาจำได้ว่าอัญญาชอบดอกมะลิ และบ่อยครั้งเหลือเกินที่ธินจะโทฯ มาเตือนให้ส่งต้นฉบับ ธินเคยไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัดของ อัญญา เขารู้จักกับครอบครัวของอัญญาและทุกคนก็ดูเหมือนจะชอบเขา

อัญญากินโจ้กที่ธินซื้อมาฝาก ขณะที่ตัวเขาเองไปนั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์รอเวลาอัญญา แต่งตัวเสร็จ

“ไปกันเล้ย.....” แล้วธินก็ซิ่งรถยนต์คันโปรดไปยังถนนสายเหนือ... ธินสั่งให้อัญญานอนพัก...แล้วเขาก็ขับรถไปยังจุดหมายที่อัญญาไม่รู้ หลายชั่วโมงทีเดียวที่อัญญานอนหลับ แล้วตื่นขึ้นมาอีกทีเมื่อรถแล่นเข้าสู่เขตจังหวัดลำปาง

“ธิน...ขับรถหรือบิน อัญยังไม่อยากไปเข้าเฝ้าเทวดาตอนนี้นะ...”

“ฝีมือระดับนี้แล้วธินก็เหมือนอัญนะแหละ ยังไม่ได้จูบหญิงสาวที่รักเลย ยังไปเฝ้ายมบาลไม่ได้เหมือนกันจ้ะ”

“งั้นก็ขับรถเบาลงกว่านี้ได้มั้ย หัวใจจะวาย”

“โทษทีขอรับ เคยขับแต่เครื่องบิน มันเคยชินน่ะ แต่ถ้าองค์หญิงต้องการแบบหอยป่วยก็ได้เสมอขอรับ” บางครั้งธินก็ว่าง่าย และมันทำให้อัญญาชอบเขา ธินเป็นทหารอากาศซึ่งบุคลิกของเขาทำให้ดูไม่ออกเลยว่าเขาเป็นทหาร ถ้าไม่อยู่ในเครื่องแบบ

“ธินจะพาอัญไปไหน?” อัญญาถามเมื่อรถมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดเชียงราย

“ไม่บอกหรอก ไปถึงก็รู้เองแหละ...”

“อย่าบอกว่าจะไปเรือนกล้วยไม้ปลายตะวันนะ”

“โห...เป๊ะเลย ซื้อหวยก็ถูกน่ะอัญ”

“จอดรถเดี๋ยวนี้ อัญจะลง”

“โน”

“งั้นอัญจะโดด”

“อยากไปเฝ้าเทวดาเหรอ”

“อย่าบ้าน่าธิน... อัญไม่อยากเจอหน้าใคร”

“อย่ากลัวเลย... ความกลัวมันจะทำให้เราอ่อนแอนะอัญ แต่ถ้าเราเข้มแข็ง ไม่ว่าอะไรก็ตาม เราจะชนะ” ธินจับมือแล้วกำแน่น เขาถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีที่สุดให้อัญญา

แล้วในที่สุดธินก็พาอัญญามาจนถึง...เรือนกล้วยไม้ปลายตะวัน ก่อนลงจากรถ ธินพูดกับอัญว่า

“อัญไม่ใช่คนอ่อนแอ... การมาครั้งนี้จะทำให้อัญรู้จัก หัวใจที่แท้จริงของตัวเอง เดี๋ยวธินจะเข้าเชียงใหม่ มีธุระนิดหน่อย แล้วจะกลับมารับนะครับ คนดี...” เอาเรามาปล่อยชัดๆ อัญคิดในใจ

ธินปล่อยให้อัญเข้าไปในไร่คนเดียว เขารู้ว่าการกระทำครั้งนี้อาจจะไม่สมควรนัก... แต่มันเป็นหนทางเดียวที่จะพิสูจน์ความเข้มแข็งของหัวใจอัญญา

เรือนกล้วยไม้ปลายตะวันเปลี่ยนแปลงไปมากมาย มีเรือนกล้วยไม้เพิ่มอีกหลายหลัง และปลูกไม้ดอกเพิ่มและมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม ทางเดินลงไปสู่น้ำตกก็ไม่มีหญ้าสาบเสือแล้ว แต่เป็นทางปูด้วยหินสวยงาม รอบสองข้างทางปลูกดอกไม้หลากสีทำให้ดูสดชื่นกว่าเมื่อก่อน

“ดีใจจังที่อัญมา ผมไม่กล้าที่ติดต่อไปเพราะรู้ว่า...ทำผิดต่ออัญ” เขาพาอัญญาเดินไปที่น้ำตก

“อัญไม่เคยลืมคุณหรอกและยังจดจำได้เสมอสำหรับที่นี่”

“ขอโทษนะครับ”

“แล้ว...คุณรินล่ะคะ”

“เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วล่ะครับ... แค่เจ้าของไร่กล้วยไม้เล็กๆ หรือจะสู้นักบิน นกกระจอกกับเทวดา เทียบกันไม่ได้หรอกครับ” น่าแปลกที่มันทำให้อัญญานึกถึงธิน...ผู้หญิงบางคนคลั่งไคล้ในเครื่อง แบบ แต่ไม่ใช่อัญญา อัญญาไม่เคยเอาเรื่องอาชีพการงานมาเกี่ยวข้องกับมิตรภาพ และน้ำใจ ธินไม่เคยพูดถึงเรื่องงานให้อัญญาฟังและอัญญาก็ไม่เคยถามเกินความจำเป็น...

“แล้วอัญ...มีคนรักแล้วหรือ?” เขาถามอัญญาตรงๆ ตรงจนอัญญาตั้งตัวไม่ติด

“บอกแล้วไงคะ ว่าอัญไม่เคยที่จะไม่รักคุณ”

“จริงๆ นะ ผมดีใจ....”

“แล้วคุณไม่รักคุณรินแล้วเหรอ”

“....รักน่ะรัก แต่เขาไปแล้ว”

“อืมม์ ค่ะ” อัญญาไม่พูดอะไรมากกว่านั้น และการมาครั้งนี้ก็....จบลงแล้ว

อัญญานั่งเงียบบนรถ อัญญาไม่สับสนและไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วกับความรักที่มีต่อเขา... ถ้าหากคุณรินไม่จากไปเขาก็คงไม่ต้องการให้อัญญากลับมาหา และเขาก็คงลืมอัญญาไปในไม่ช้า

“มันเป็นความบังเอิญนะที่คนรักใหม่ของคุณรินเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของธินเอง... ธินได้รู้จักคุณรินและเธอก็เล่าให้ฟังว่าเคยอยู่ที่เรือนกล้วยไม้ปลายตะวัน...” ธินขับรถไปเรื่อยๆ และพูดเรื่องขึ้น

“แล้วธินก็เลย...”

“เป็นสปาย..” อัญญาต่อความให้

“ก็ทำเพื่ออัญนะแหละ ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะอัญจะได้คืนดีกับคนรักเก่าไง” ธินพูดปนหัวเราะ

“ธินดีใจเหรอ”

“ดีใจสิ ถ้าเพื่อนรักของธินมีความสุขกับคนที่รัก”

“แล้วธินก็เสียใจ...”

“ว้าว ซื้อหวยถูกอีกแล้วอัญญา ถูกเผงเลย เอ๊ะ เอ๋ หมายความว่าไง เรียบเรียงก่อนนะ โอ๊ะ โอ ตามหลักตรรกะแล้ว มันแปลว่าธินอกหักจากอัญนี่นา...”

“ฮื่อ... ถูกเผงเลย ซื้อหวยถูกอีกแล้วอัญญา...” ประโยคหลังนั่นเราสองคนพูดพร้อมกัน ทั้งที่ไม่ได้นัดหมาย แล้วก็หัวเราะร่วนกันทั้งสองคน

“เฮ้อ.. ขอบคุณมากจริงๆ จ้ะธินกับการลงทุนครั้งนี้ อัญอยากจะบอกธินว่า... อัญดีใจที่มีธินเป็นเพื่อน แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่ธินคิดหรอกนะ เพราะวันนี้คุณรินไป แล้วเขาก็ต้องการอัญ ธินลองคิดดูสิว่าถ้าคุณรินไม่ไปจากเขาแล้วเขาจะยังต้องการอัญอยู่ไหม อัญรักเขาที่เขาเป็นคนจริงใจและรักใครจริงๆ เสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่าอัญจะเป็นตัวแทนของใคร... วันนี้เขาอาจจะยังทำใจไม่ได้กับการไปของคุณริน เขาเพียงแต่ต้องการใครสักคน ซึ่งเป็นใครก็ได้ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นอัญ”

“คิดดีนี่ อัญเข้มแข็งเหมือนเดิมแล้วนะจ๊ะ” ธินเป็นคนพูดประโยคนี้ เพราะครั้งแรกที่อัญญากลับมาจากเรือนกล้วยไม้ปลายตะวันนั้น นัยน์ตาที่ช้ำแดงก่ำเพราะร้องไห้มาก และนอนป่วยที่บ้านของธินเพราะความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ธินดูแลจนหายดี... และคอยดูแลความรู้สึกไม่ให้อัญญาเศร้ามากเกินไปนัก... และวันนี้ อัญญาก็กลับมาเป็นคนเดิมที่เขารู้จัก ธินรักอัญญาอย่างไม่มีข้อแม้.... เพียงแต่เขายังไม่กล้าบอกเธอออกไปตรงๆ แต่ธินรู้ว่าอัญญาก็รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ

“ขอบคุณมากนะธินที่ไม่ทิ้งอัญ”

“ไม่เคยคิดจะทิ้ง และไม่มีวันทำอย่างนั้นด้วย นอนเถอะ ไม่นานก็ถึงกรุงเทพฯ แล้ว...” แล้ว อัญญาก็เผลอหลับไป... ธินไม่ง่วงนอน เพราะตอนที่เขาไปส่งเธอที่เรือนกล้วยไม้ปลายตะวันเสร็จแล้วเขาก็แอบไปนอนพัก จนเย็นจึงไปรับเธอ
* * * * * * *

อัญญาตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนของตัวเอง เอื้อมไปหยิบนาฬิกามาดูเวลา... สองยามกว่าๆ เพลงจากเครื่องเสียงดังเบาๆ

รักเอย...อยู่แห่งไหนหนอ จากไปไหนหนอ ฉันรอเธอ รักเอย ได้ยินฉันไหม ขาดเธอฉันเหงา เธออยู่ไหน จะต้องช้ำซักกี่หนก็ทนได้เสมอ ถ้ามันทำให้เธอเห็นใจ จะต้องล้มซักกี่ครั้งก็ยังจะสู้ทนแค่มีใครสักคนเข้าใจ...

อัญญากดรีโมทเพื่อเพิ่มเสียงเมื่อถึงช่วงดังกล่าวของบทเพลง ลุกขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์ พิมพ์เรื่องสั้นที่ยังค้างอยู่ นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่นานนี้ อัญญายังไม่แน่ใจนักว่ามันเป็นความฝันหรือความจริงเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในระยะเวลาระหว่างวัน อัญญาดูปฏิทินเพื่อความแน่ใจ แล้วกดโทรศัพท์ไปหาธิน

“ธิน เมื่อกลางวันเราอยู่ที่ไหนกัน” ธินงัวเงียรับโทรศัพท์

“หือ...ผีเข้าหรืออัญ ธินก็อยู่กองบินสิ แล้วอัญก็อยู่บ้าน ถามทำไมเหรอ... แล้วนี่เขียนเรื่องสั้นเสร็จหรือยัง พี่ บ ก. ทวงแล้วไม่ใช่เหรอ ฮ้าววววว ง่วงจังอัญ ธินขอนอนก่อนได้มั้ย แล้วพรุ่งนี้จะโทฯ หานะ ราตรีสวัสดิ์ครับ” นั่นยิ่งทำให้อัญงงเข้าไปใหญ่... และบอกตัวเองว่าคงจะนอนมากไปก็เลยฝันน่ะ แต่อัญไม่รู้ว่าหลังจากวางหูโทรศัพท์แล้วธินหัวเราะก๊ากใหญ่ที่แกล้งอัญได้

อัญญานั่งทำงานสักพักก็ฟุบหลับกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ อะไรสักอย่างอุ่นๆ ที่หน้าผากทำให้อัญญาสะดุ้งตื่น แล้วก็เห็นธินถือถุงโจ้กยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า

“ขณะนี้เป็นเวลาหกนาฬิกายี่สิบนาทีครับคุณผู้หญิง ตื่นนอน ล้างหน้าแปรงฟันและทานโจ้กได้แล้วขอรับ”

“อัญรู้แล้วล่ะ...ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน เมื่อวานอาจจะเป็นถุงโจ้กนะ แต่วันนี้ไม่ใช่ อ๊ะๆๆ อย่าปฏิเสธไปเลย อัญรู้... เพราะว่า ธินไมได้โกนหนวดน่ะ มันทิ่มหน้าผากอัญ...” แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะอย่างรู้ทันกัน... /



Create Date : 10 สิงหาคม 2549
Last Update : 10 สิงหาคม 2549 13:07:20 น.
Counter : 1061 Pageviews.

4 comments
  
ลงชื่อเฉยๆ แต่ยังไม่ได้อ่าย
โดย: ชลสิทธิ์ (ชลสิทธิ์ ) วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:14:17:04 น.
  
อ่านแล้วทำให้รู้สึกคิดถึงใครบางคน
ที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงบนโลกใบนี้
โดย: ~โบยบิน~ IP: 203.188.60.109 วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:18:15:18 น.
  
ชอบ..
โดย: พิม IP: 203.150.4.131 วันที่: 16 สิงหาคม 2549 เวลา:10:14:03 น.
  
กร๊ากก หนวดทิ่มด้วย
มีผู้ชายน่ารักๆ อย่างนี้ รักตายเล้ย...
...พูดไปงั้นแหละ พอเอาเข้าจริงเราก็ไม่ได้รักคนที่ว่าเขาเป้นคนดีหรือเปล่าอยู๋ดีแหละเนอะ...
โดย: sovo (http://kangalala.spaces.live.com) IP: 124.87.237.237 วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:10:46:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ