ตุลาคม 2550

 
1
2
3
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เรื่องสั้น : รักเรา รักษ์โลก
รักเรา รักษ์โลก

เมื่อคนเหงาสองคนมาพบกัน พวกเขาเหมือนรู้จักกันมาทั้งชีวิต... ประโยคโรแมนติกบัดซบจากหนังสักเรื่อง ซึ่งก็จำไม่ได้แล้ว แต่ก่อนที่คนเหงาทั้งสองคนจะมาพบกัน ย่อมมีใครสักคนหรือทั้งสองคนนั่นแหละที่เหงา และบางทีมันอาจจะเหงาบัดซบ... ในท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง และคนส่วนหนึ่งเป็นโสด โสดเพราะไม่แต่งงาน คำว่าไม่แต่งงานหมายความรวมถึง ไม่ได้แต่งงานและไม่ยอมแต่งงาน ซึ่งกรณีแรก เหตุปัจจัยอาจจะมากมายจนทำให้ไม่ได้แต่ง แต่กรณีหลัง นั่นเป็นเพราะหัวใจเพียงอย่างเดียว...

ไม่รู้หรอกว่าในกรณีของเราสองคน ใครเหงากว่ากัน และเราต่างก็ลืมไปแล้วว่าอะไรดลใจให้เราสองคนมาใช้ชีวิตด้วยกัน...ในความผิดแผกแตกต่างแทบทุกอย่างของชีวิต เว้นแต่เพียงความเหงาเท่านั้นที่เราเหมือนกันสนิท...

“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าเวลาไปทอปส์น่ะ ให้เค้าใส่มาในถุงใหญ่ถุงเดียวเลย หรือไม่คุณก็เอาถุงผ้าไปด้วยจะได้ไม่ต้องใช้ถุงพลาสติก ผมรำคาญเสียงกรอบๆๆๆๆ ของมันเต็มที อ้อ แล้วไอ้พวกอาหารกล่องโฟมเนี่ย ได้โปรด เป็นไปได้อย่าซื้อมาได้มั้ย รู้ไหมว่าโฟมน่ะ มันสร้างมลภาวะให้สิ่งแวดล้อมแค่ไหน” และอีกสารพัดที่จะสรรหาเรื่องบ่นอยู่ได้ทุกวี่วัน เขาซึ่งเป็นผู้ชาย แมนเต็มร้อย เป็นศิลปิน เป็นจิตรกรหนุ่มผมยาว (ดีหน่อยที่มันสะอาด) มันช่างขัดกับบุคลิกเหลือร้าย กับเรื่องจุกจิกทั้งหลายที่เขาเป็น...

“พระเจ้า คุณทิ้งขวดพลาสติกพวกนี้ลงขยะไปหน้าตาเฉย ทูนหัว ได้โปรดล้างมันก่อน แล้วค่อยหย่อนลงถังขยะแบบรีไซเคิล โอเค นี่ผมอุตส่าห์สรรสร้างงานศิลปะชั้นเลิศเพื่อคุณแล้วนะ” ซึ่งมันก็คือ ตะกร้าหวายสำหรับรับลูกบอลในกีฬาแชร์บอลที่เขาเอามาดัดแปลงเป็นถังขยะรีไซเคิล และเศษอาหาร

เธอไม่รู้หรอกว่าเขาไปได้รับอิทธิพลเหล่านี้มาจากไหน บางทีอาจจะเป็นหนังสักเรื่อง...และถ้าจำไม่ผิด มันต้องเป็น An Inconvenient หนังสารคดีของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อัล กอร์ (Al Gore) เป็นแน่...

แน่ล่ะ, จะมีกิจกรรมอะไรในเมืองหลวงให้ทำมากไปกว่าดูหนังสำหรับสองหนุ่มสาวที่เพิ่งรักกันนอกจากดูหนัง แล้วก็แจ็คพ็อตหนังที่ดูเป็นหนังสารคดี... ซึ่งเนื้อหาของหนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับด้วยวิกฤตการณ์สภาวะโลกร้อน หรือ Global Warming ในเรื่อง-มีการเปรียบเทียบปริมาณหิมะในอดีตกับปัจจุบันของสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เช่น เทือกเขาหิมาลัยกับเทือกเขาคิลิมันจาโร ซึ่งมีปริมาณหิมะลดลง ขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ กระทั่งธารน้ำแข็งทั่วโลกที่กำลังละลาย แล้วก็เกิดภัยธรรมชาติตามมาไม่ว่าจะเป็น ฝนแล้ง น้ำท่วม และเกิดพายุหากโลกยังร้อนขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วแผ่นน้ำแข็ง หรือ Ice sheets ที่ขั้วโลกใต้และแอตแลนติกเหนือก็จะละลายหมด… เถอะ, แต่ใครจะคิดว่าพ่อคุณทูนหัวจะ “อิน” ขนาดนี้

“ยังไง ก็ต้องทิ้งอยู่ดี แล้วจะล้างให้เปลืองน้ำไปทำไม”

“เอ๊า คุณนี่ก็...โอเค แม่ประหยัดแห่งชาติ ให้ดาวคุณไปหนึ่งดวง ในฐานะที่ช่วยกันประหยัดน้ำ” มองในแง่ดีอีก...

“แต่ผมว่าคุณเลิกซื้อผลิตภัณฑ์จากขวดพลาสติกเลยจะดีที่สุด”

“เฮ่ย นี่มันปีสองพันเจ็ดนะคุณ ใครจะมาถือกระบอกไม้ไผ่เดินโทงๆ ดื่มน้ำอักๆ อยู่นั่น”

“คุณก็ขี้ขำเหมือนกันเนาะ ผู้หญิงเค้าไม่โทงๆ กันหรอก... เออ ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ขนาดนั้น ก็อย่ากินน้ำเป็นดีที่สุด อ่ะ... ล้อเล่น อย่าทำตาเขียวปั้ด และตั้งท่าจะเถียงผม ความรักจะอยู่คู่เรา เพราะงั้น ยาหยี ไม่ต้องเถียงแล้วมาช่วยทำให้ผมของผมมันดูดีกว่านี้หน่อยเถอะได้โปรด ผมรู้สึกว่ามันจะหวีไม่ลงแล้ว”

“สีน้ำมัน สีน้ำเงิน ติดอยู่เต็มหัวคุณ...”

“โอ้ว พระเจ้า สีน้ำเงินของสีน้ำมัน ร้ายกาจกว่าที่ผมคิดชิบเป๋ง แต่ช่างหัวผมเถอะ ผมไม่อยากยุ่งกับผมสักพัก แล้วไปหากิจกรรมที่ประหยัดไฟทำกันดีกว่า”

นั่นแหละ... เรื่องของเราสองคนล่ะ น่าแปลกที่พวกเราก็อยู่กันได้ อาจเพราะความรัก หรืออาจจะไม่ใช่ เราต่างก็ไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ ที่แน่ๆ เราไม่คิดจะหาข้อสรุป เพราะการใช้ชีวิตร่วมกัน หลักสำคัญมีไม่กี่อย่างเท่านั้น แน่นอน, หนึ่งในนั้นคือการยอมรับและให้อภัยซึ่งกันและกันเสมอ ซึ่งน้อยนักที่คนยุคนี้จะมี จึงไม่แปลกที่การล่มสลายของชีวิตคู่จะขึ้นอยู่กับเหตุผลหลักๆ สองอย่างนี้ แค่คำว่า “ยอมรับ และให้อภัย” ถ้าทำได้จริง ก็ไม่ต้องมานั่งสงสัยว่าทำไมถึง “ยังโสด”

“คุณกำลังวาดรูปเกี่ยวกับอะไรคะ”

“อ้อ เซตนี้เป็นเรื่อง global warming ยูโน๊ว... ภาวะโลกร้อนน่ะ ออเดอร์สดซิงจากมูลนิธิป้องกันภาวะเรือนกระจกแห่งชาติ”

“ทำไมเค้าเลือกคุณล่ะคะ”

“ก็ผมเจ๋ง”

“ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ มันไกลตัวเกินไป”

“ใครบอก คุณนี่ตกข่าวเรื่อยเลย ไม่เจ็บมั่งหรือไง รู้ไหมว่า ตอนนี้เค้ารณรงค์เรื่องโลกร้อนกันแค่ไหน บางประเทศสนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม แทนน้ำมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะเรือนกระจก Greenhouse gases แล้วคุณคงไม่รู้แน่เลยว่า ภาวะโลกร้อนเนี่ยเกิดจากน้ำมือมนุษย์เกือบทั้งหมดโดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงสูงมาก ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สูงด้วย เป็นไง นอกจากจะหน้าตาดี แล้วผมยังฉลาดด้วยใช่ไหม”

“กว่าที่คิดเลยแหละ”

“หนังสือกองเป็นตั้ง ข้อมูลจาก Internet อีกเพียบ, ไม่ให้รู้ก็เกินไปแล้ว เออ นี่ผมเพิ่งไปอ่านเจอว่าเค้ามีคู่มือช่วยลดภาวะโลกร้อนฉบับสามัญชนด้วยนะ ยกตัวอย่างให้สุดที่รักของผมทราบ...เช่น ลดการใช้รถส่วนตัว ลดขยะในบ้าน ลดการใช้พลาสติก เป็นไปได้ก็งดใช้กล่องโฟมซะ และที่สำคัญ ประหยัดไฟ”

“ถ้าสมมติ คุณได้คอนเสปท์ สัตว์ป่า มาคุณจะทำยังไงคะ”

“ก็เข้าป่าสิ...คิดว่าผมจะเอามันเข้าบ้านหรือไง”

“ก็แค่แปลกใจ เห็นคุณอินกับเรื่องที่กำลังทำเสียเหลือเกินนี่คะ”

“อ๊ะ แต่ก็นั่นล่ะนะ ขออีกหน่อย ตอนนี้สัตว์ป่าเองก็กำลังเผชิญกับปัญหาโลกร้อนเหมือนคนเลย ตอนนี้น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลาย สัตว์ที่อาศัยแถบนั้นอย่างเจ้า Polar Bear นี่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้วเพราะน้ำแข็งละลายแล้วเค้าไม่มีที่กระทั่งจะยืน คุณนึกออกไหม หมีขั้วโลกที่ชอบยืนอ้วนอยู่บนไอซ์ ชีทน่ะ ทีนี้นะ พอถึงอนาคตน้ำจืดลดลง ก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการเกษตร การประมง ปลาตาย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสูญพันธ์ เกิดไฟไหม้ป่า น้ำท่วม พายุกระหน่ำซ้ำอีก เดี๋ยวพวกเราก็ตายกันหมดเหมือนกัน”

“คุณไม่เหมาะกับมาดนักอนุรักษ์เลยจริงๆ”

“ผมก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นไปตามสถานการณ์ ปรับตัวให้เข้ากับโลกที่อาศัยอยู่ แต่เรื่องถุงพลาสติกนี่เป็นนิสัยของผมมานานแล้ว ผมไม่ชอบเสียงของมัน เหมือนโรคจิต ยิ่งดึกๆ กำลังหลับ แล้วใครทะลึ่งหิ้วถุงพลาสติกเข้ามาให้ได้ยินเสียง แกรกๆ ของมันนะ ผมจะโดนสิงร่างด้วยซาตานทันที… เตะสลบ นะยาหยี”

“โรคจิตนี่นา”

“ผมล้อคุณเล่นน่า คุณสังเกตไหมล่ะ เวลาไปซุปเปอร์มาเก็ตน่ะ คุณซื้อของนะ เค้าจะแยกให้คุณเลยนี่ของกินได้ นี่ของกินไม่ได้ แต่ของทุกอย่างยังอยู่ในบรรจุภัณฑ์ของมัน ผมว่าใส่มาในถุงเดียวก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรสักนิด ประหยัดดีออกด้วยซ้ำ”

“ถ้ากินข้าวในกระทงใบตองได้คุณก็คงทำไปแล้วมั้งคะ”

“อ๊ะ อย่าประชดเชียวที่รัก มีโรงเรียนแถวๆ พระรามสองเนี่ย ปลูกฝังเด็กนักเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อมตั้งแต่หัวเท่ากำปั้นเลย ร้านค้าที่ถูกเรียกว่าวันเดอร์แลน เค้าใช้ใบตองทำเป็นกระทงใส่อาหาร แล้วขวดพลาสติกนี่เค้าล้างก่อนนำกลับไปรีไซเคิลใหม่ ขยะก็แยกชัดเจนว่าอันไหนต้องไปเป็นปุ๋ยหมัก และอันไหนไปกับรถขยะ กทม”

“ทำไมคุณรู้คะ”

“ผมเคยเป็นครูศิลปะอยู่ที่นั่น”

“จริงเหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นคุณ”

“ผมก็ไม่เคยเห็นคุณ อ้าว... แล้วคุณไปทำอะไรที่นั่น”

“ฉันก็เป็นครูเหมือนคุณ”

“ตั้งสองปีแล้วนะที่ผมอยู่ที่นั่น”

“ฉันก็ออกจากที่นั่นมาสองปีแล้วเหมือนกัน ว่าแต่หลังจากนั้นคุณไปไหน”

“ผมไปเรียนต่อปริญญาโทที่อิตาลี ใครๆ ที่เรียนอาร์ตมา ก็ไปเรียนต่อที่นั่นกันทั้งนั้น”

“ฉันเปลี่ยนงานไปสอนมหาวิทยาลัย แล้วถูกส่งไปอบรมที่อิตาลี ตอนนั้นฉันเจอคุณที่เนเปิลส์”

“เยส มาดาม ผมจำคุณได้ เพราะคุณให้ผมวาดรูปแต่ไม่เอารูปกลับไปด้วย แล้วผมกลับเมืองไทย จัดนิทรรศการภาพเขียน ผมก็เลยเอารูปคุณขึ้นประจานซะเลย”

“และดูเหมือนตอนนั้นฉันโคตรเหงา ไม่มีอะไรทำ ก็มันว่างนี่นา คนสวยแต่โสด ความโดดเดี่ยวเลยกระชากแขนเข้าหอศิลป์ แล้วไปเจอนิทรรศการคุณพอดี”

“ตอนที่ผมเดินเข้าไปทักคุณ คุณจำผมไม่ได้แต่ถามหาคนวาดรูปหน้าตาเฉย พอผมบอกว่าผมเนี่ยแหละ คุณก็ทำหน้าตาเหมือนเห็นแบรท พีท แล้วยังยืนยันอยู่นั่นแหละว่าจะเจอศิลปินให้ได้ คุณนี่โคตรกล้าหาญเลย รู้ไหมนิทรรศการผมน่ะ มีจิตรกรชื่อดังทั้งประเทศแทบเดินชนกันเลยในวันนั้น”

“คุณขอที่อยู่ฉันไว้ แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะให้ศิลปินติดต่อกลับไป ต่อมาไม่นานฉันก็ได้รับรูปตัวเองถึงบ้าน โรแมนติกเป็นบ้าเลย”

“ทำไมคุณถึงคิดว่าคนที่เขียนรูปไม่ใช่ผม”

“คุณดูดีกว่าตอนที่ฉันเจอครั้งแรก”

“ถ้าผมไม่เดินไปเคาะประตูบ้านแล้วบอกว่าตอนอยู่ที่นาโปลีน่ะ คุณไม่จ่ายตังค์ค่ารูป คุณก็คงไม่เชื่อว่าเป็นผม”

“เปล่า แต่คุณมายืนอยู่หน้าบ้านในเสื้อผ้าชุดเดียวกับที่ฉันเจอที่โน่น ผมสั้นกว่าเดิม แล้วยังท่าทางก๊องๆ เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ฉันก็เลยจำได้”

“ที่รัก คุณรู้ไหมว่าผมลงทุนไปแค่ไหนกว่าจะทำให้ตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในสภาพนั้นได้ ประเทศไทยร้อนนรกแตกแต่ผมต้องใส่เสื้อโค้ท แถมผ้าพันคอเข้าไปอีก ที่แน่ๆ ผมต้องไปตัดผมออกให้สั้นลง แล้วยังถูกหาว่าบ้าอยู่สองครั้งในวันเดียว”

“ใช่ๆ ผ้าพันคอสีแดงแล้วก็หมวกไหมพรม ตลกเป็นบ้าเลยค่ะ”

“งั้นระหว่างเราคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือแค่ความเหงาพาเราสองคนมาพบกันแล้วล่ะ”

“แปลกดีนะคะ”

“ดูเหมือนเราจะยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกันมาก่อนโดยที่เราไม่รู้... ไม่ใช่เพราะโลกมันกลม แต่เป็นเรื่องของพรหมลิขิต ชัวร์”

เรื่องเล่าเล็กๆ ของเราสองคน และยังเป็น “เราสองคน” ไม่ใช่ใครคนหนึ่ง คนเดียวเหมือนที่ผ่านมา ฉันไม่รู้หรอกว่าชีวิตของเขาผ่านอะไรมาบ้าง และมีช่วงเสี้ยวของเวลามากน้อยแค่ไหนที่เดินเฉียดไหล่ระหว่างกัน สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือ นับแต่นี้ไปฉันจะต้องล้างขวดพลาสติกก่อนทิ้งลงถังรีไซเคิล และถ้าหากต้องไปซุปเปอร์มาเก็ต ถุงผ้าดิบหนาใบโตจากคิวบา ที่เขาเป็นคนเขียนรูปเพิ่มลายให้เก๋ไก๋ขึ้นมา ดูเหมาะกับการเดินชอปปิ้งไม่เบา...

“คุณอย่าลืมถอดปลั๊กกาต้มน้ำแล้วก็ปิดไฟในห้องนั่งเล่นด้วยนะ”

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจากสิ่งเล็กๆ แล้วร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นความรัก หรือการ “อนุรักษ์” ก็ตาม.../


© //arcturus.bloggang.com



Create Date : 09 ตุลาคม 2550
Last Update : 27 สิงหาคม 2554 22:45:00 น.
Counter : 2470 Pageviews.

5 comments
  
บางทีก็สับสนแยกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเลือกทำอย่างไรถึงจะทำลายโลกให้น้อยที่สุด มีหลาย ๆ เหตุผลขัดแย้งกันเองในหัวเรา .
รึคิดมากไปหว่า. เห็นว่าดีมากกว่าเสียก็ช่วยกันเถอะ (บอกตัวเอง)
โดย: รายารีย์ วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:20:13:41 น.
  
ถ้าทุกคนบนโลกเป็นอย่าง"เขา"คนนี้ก็คงดี แต่ก็นะคงเป็นไปไม่ได้หรอก

กิจกรรมที่ประหยัดไฟ---> กิจกรรมที่ประหยัดไฟคือกิจกรรมไรเหรอ

เรื่องสั้นเรื่องนี้เข้ากับโลกเราตอนนี้มากๆเลยนะเนี่ย
โดย: น้องเก้อ IP: 222.123.196.198 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:21:34:34 น.
  
สาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อน คือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมของผู้หญิง


ดีนะที่ชั้นไม่ต้องใช้ ...แกก็ด้วย
โดย: อาร์ต IP: 58.10.128.134 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:19:27:55 น.
  
ชื่อเรื่องเหมือนเพลงของน้าหมูพงษ์เทพเลย
โดย: คนธรรมดา IP: 125.27.236.75 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:23:17:47 น.
  
เจ้ป้าดา พักนี้เราไม่ค่อยได้ทักทายกันเลย เนอะ อ่ะ

ยุ่งมากมายเปล่าพักนี้
โดย: double_nee IP: 202.5.87.140 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:19:33:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ