สิงหาคม 2556

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
เรื่องสั้น : ฝันซ้อน
ศรัทธาในพุทธศาสนามันละลายไปกับลมตั้งแต่เจอประโยค “จะไปไหนโยม ฟังเทศน์แค่ไม่กี่นาทีก็ลุกหนีเลยเหรอ... แหน่ะ พระพูดยังไม่หันหลังกลับมาอีก” ครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับให้ไปฟังเทศน์เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับชีวิต

แน่นอน เธอศรัทธาในพุทธศาสนา – เกิดมาเธอก็นับถือศาสนาพุทธแล้วโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาถามว่าต้องการหรือไม่, นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเธอเต็มใจที่จะสวดมนต์ ไหว้พระ เชื่อในบาปบุญคุณโทษ เชื่อเรื่องกรรม เชื่อเรื่องการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อในเรื่องนรก สวรรค์ และเชื่อว่าศีลห้าคือธรรมมะขั้นพื้นฐานที่หากปฏิบัติได้จริงแล้วนั้นจะช่วยลดปัญหาต่างๆ ในสังคมได้ - -

เธอพยายามรักษาศีลห้า แต่จะมีพลาดบ้างในข้อห้าก็ยังถือว่าเป็นการผิดศีลที่ยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ เธอยอมรับว่าเธอเป็นเพียงชาวพุทธธรรมดา ไม่ได้เข้าวัดเข้าวาเป็นกิจวัตร แต่ถ้าจำเป็นต้องไปหรือถ้าอยากไปวัดทำบุญเธอก็ไป, ไม่ได้ยึดมั่นว่าต้องวันสำคัญทางศาสนา หรือว่าต้องสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ตื่นเช้าต้องตักบาตร -

เธอไม่เคยใส่ใจในปัญหาของวัดและพระเกินกว่าการรับรู้ รับฟังข่าวคราวจากสื่อที่บังเอิญเปิดเจอ ไม่ว่าจะเป็นพระสึกเพราะสีกา พระร่ำรวยเกินกว่าที่พระควรจะรวย พระนั่งในวงไฮโล หรือข่าวอื้อฉาวต่างๆ นาๆ เธอไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่ารับรู้, ไม่ตัดสินผิดถูกในการกระทำนั้น แม้จะเคลือบแคลงอยู่บ้างว่า เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเจตนาต้องการทำลายศาสนาพุทธซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศาสนาประจำชาติของใครหรือไม่ เมื่อสิ่งสำคัญของประเทศไทยคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่ก็นั่นแหละ - - คิดไปคิดมาก็คิดมากเปล่าๆ แค่เรื่องราวของตัวเองก็วุ่นวายจะแย่

กระทั่งถึงวันเข้าพรรษาวันสำคัญทางศาสนาที่ผู้คนทั้งประเทศต่างก็พร้อมใจกันเข้าวัดทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต และเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น – เปล่าเลย, เธอไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องไปวัดในวันสำคัญทางศาสนานี้ เพียงแต่มันเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง เธอจึง “หลับตาจิ้มแผนที่ประเทศไทย” แล้วเดินทางไปพักผ่อนสบายอารมณ์ที่จังหวัดนั้น ระหว่างเดินทางเธอก็แวะบิ๊กซีซื้อชุดสังฆทาน พร้อมดอกไม้ธูปเทียน และชุดไฟนีออนอีกสองชุด บอกกับตัวเองว่า – ไหนๆ ก็วันพระแล้วนี่นะ ทำบุญสักหน่อยจะเป็นไรไป
สำหรับเธอแล้ว วัดก็คือวัด ไม่ว่าจะอลังการใหญ่โต หรือเล็กเพียงศาลาเดียวขอเพียงที่นั่นเรียกว่าวัดเธอก็สามารถเข้าไปทำบุญได้ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เธอบอกกับตัวเองว่า เธอจะเข้าไปทำบุญถวายสังฆทานในวัดที่สาม หลังจากผ่านกิโลเมตรที่สองร้อย และเป็นวัดที่ไม่อยู่ติดริมถนน - - อืมม์ เป็นเงื่อนไขที่ดูยุ่งยากไม่น้อย แต่ก็เป็นเรื่องสนุกกับการลุ้นเป้าหมายอยู่ไม่น้อย

กิโลเมตรที่สองร้อยสิบสาม เลี้ยวซ้ายตามป้ายไม้ผุๆ เก่าๆ เข้าไปในทางลูกรังอีกแปดกิโลเมตร ข้ามห้วยไปสองสะพาน ก็พบกับวัดป่าเชิงเขาที่เกือบรถยนต์เข้าไม่ถึง ในวัดมีพระจำพรรษาอยู่สามรูป เป็นพระอาวุโสที่น่าจะเป็นเจ้าอาวาส และพระหนุ่มรูปงาม หุ่นดีท่าทางเหมือนพระบวชใหม่ยังไม่สิ้นกลิ่นฆราวาส อีกรูปเป็นสามเณรอายุราวสิบขวบ นั่งนบนอบอยู่ด้านหลังพระผู้ใหญ่ หลวงตาเล่าว่าที่นี่เป็นวัดป่าที่ห่างไกลความเจริญมากเพราะอยู่ติดชายแดนตะวันตก ห่างออกไปไม่ถึงสิบกิโลเมตรจะเป็นเขตของพม่า ประชาชนส่วนหนึ่งที่มาทำบุญก็มาจากฝั่งนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไร่ และมีฐานะยากจน พระเสียอีกที่ได้ฉันอาหารดีๆ นั่นเพราะชาวบ้านมักทำอาหารดีๆ ถวายพระ ขณะที่ตัวเองนั้นรับประทานอาหารแบบตามมีตามเกิด หญิงสาวถวายปัจจัยพร้อมดอกไม้ธูปเทียน หลอดนีออน และสังฆทาน จากนั้นหลวงตาก็ให้ “พระหนุ่ม” พาเธอไปที่โบสถ์เพื่อไหว้พระประธาน เพราะสามเณรต้องอยู่ล้างจานและทำความสะอาดพื้นที่บริเวณหลังจากพระฉันแล้ว

“หลวงพี่อยู่ที่วัดนี้มานานแล้วหรือคะ”

“สามวัน”

“หา หลวงพี่เพิ่งจะบวชเหรอคะ มิน่าผิวใสยังกับหนุ่มเมืองกรุง” พระหนุ่มคิ้วขมวด กระชับจีวร เธอแอบเบะปากไม่ให้พระเห็น – นั่นไม่ใช่คำชม แต่เป็นความอิจฉาเล็กๆ น้อยๆ ในความหล่อใส ผิวดีมีออร่าของพระหนุ่มต่างหาก
หญิงสาวจุดธูปเทียน วางดอกไม้ กราบพระประธานองค์ใหญ่ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยแกะสลักด้วยไม้สักทองยึดชิ้นไม้ให้ติดกันด้วยการเข้าเดือย สูงราวสองเมตร รายรอบด้วยพระพุทธรูปขนาดต่างๆ พระหนุ่มยืนอยู่ห่างๆ เมื่อเธอกราบพระเสร็จแล้วจึงเดินออกมานอกศาลา

“ว่าแต่... ทำไมหลวงพี่ถึงเลือกมาบวชที่วัดนี้ล่ะคะ”

“ผม... เอ่อ อาตมาไม่ได้เลือกหรอก คุณแม่ เอ๊ย โยมแม่เป็นคนเลือกให้น่ะ”

“อืมมม์ แสดงว่าหลวงพี่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอ่ะดิ เลยต้องให้โยมแม่เป็นคนเลือก”

“หือ”

“ล้อพระเล่น บาปป่าวคะ?”

“แล้วโยมล่ะ ทำไมถึงเลือกมาทำบุญที่นี่ วัดนี้ห่างไกลความเจริญมากนะ ต้องตั้งใจมาจริงๆ ถึงจะมาได้”

“ดิฉันหลับตาจิ้มแผนที่มาค่ะ”

“งั้นก็ถือว่าชาติก่อนทำบุญไว้ที่นี่ ชาตินี้ก็เลยมีโอกาสได้มาทำบุญที่นี่”

“ชาติก่อนของดิฉัน ที่นี่สร้างแล้วเหรอคะ”

“โยมนี่ เถียงคำไม่ตกฟากเลยนะ แบบนี้ระวังตายไปปากเท่ารูเข็มนะ”

“ไม่ได้ฆ่าสัตว์ ไม่ได้โป้ปด ไม่ได้ผิดลูกผัวใคร และไม่ได้ขโมยของใคร ไม่บาปหรอกค่ะ”

“บาปกรรมมันไม่ได้มีแค่นั้น แต่การที่โยมสามารถรักษาศีลห้าได้ เอ.... แต่ที่นับดู มันยังไม่ครบห้านะ”

“เถอะค่ะ ต่อให้ดิฉันดื่มสุราก็ไม่เคยไประรานหรือทำให้ใครเดือดร้อน ดื่มโดยรู้สติ เมาแล้วกลับหลับเป็นตาย แบบนั้นน่ะค่ะ”

“แต่มันก็ทำลายสุขภาพไม่ใช่หรือ”

“ก็จริงค่ะ แต่ช่างมันเถอะค่ะหลวงพี่ ว่าแต่ที่วัดนี่มีพระเณรแค่สามรูป ไม่เหงาเหรอคะ ถ้าหลวงพี่อยู่ในเมือง หลวงพี่จะมีอินเทอร์เน็ตใช้ รับรองได้ว่ามีเพื่อนเพียบ หรือไม่ก็รับกิจนิมนต์บ่อยๆ เก็บตังค์แป๊บเดียวซื้อไอห้าได้เลยนะหลวงพี่”

“โยมจะเดินดูอะไรแถวนี้ก่อนมั้ย อาตมาขอตัวไปกวาดลานวัดก่อน”

“อ้าว ทิ้งกันซะงั้นน่ะ”

“เชิญตามสบายนะโยม”

หญิงสาวนั่งพักอยู่ชานบันไดขึ้นโบสถ์ ลมเย็นปะทะผิว ใบสักปลิวร่วงเกลื่อนพื้น – นั่งมองหลวงพี่ที่เพิ่งบวชได้สามวัน กวาดลานวัดอย่างใจเย็น จะหวะลากไม้กวาดครืดๆ

ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หญิงสาวผวาตื่นกับเสียงครืดดดด ของพัดลมที่กำลังหมุนติดชายผ้าคลุมบางๆ ที่เธอเอามารองนั่งแล้วชายปลิวเข้าไปม้วนกับใบพัดของพัดลมตั้งโต๊ะที่อยู่ไม่ห่าง

“ฝันอะไรพิลึก” เธอมองดูนาฬิกาข้างฝาเวลานั้นตีสี่ครึ่ง และหันกลับมาสนใจเรื่องสั้นที่กำลังเขียนค้างอยู่ ที่จริงมันก็ค้างอยู่อย่างนั้นสักระยะแล้ว - -

เหตุผลไม่กี่อย่างที่ทำให้เรื่องสั้นค้างนิ่งไม่ไหวติง คือ เฟซบุคกับซีรีย์เกาหลี ก็ในเมื่อชีวิตจริงมันโหดร้ายนักก็ต้องมีพักมีหลบจากโลกความจริงกันบ้าง แต่ความฝันที่เกิดขึ้นนั้นมันกวนใจเธอเกิน หรือบางทีอาจถึงเวลาที่ต้องเข้าวัดจริงๆ แล้วก็เป็นได้

ภาพของพระหนุ่มยังไม่จางหายไป แม้จะเลือนลางเหมือนมีหมอกจางๆ ปกคลุมเอาไว้ แต่ก็พอจะเห็นจีวรไหวๆ น่าสนใจไม่น้อย, ว่าแล้วก็เริ่มกางแผนที่ หลับตาจิ้มหาจังหวัดในเป้าหมายก่อนที่จะออกเดินทางไปเพื่อซื้อชุดถวายสังฆทาน และ หลอดไฟนีออนเหมือนในความฝัน ถึงบิ๊กซีซื้อของเสร็จกำลังจะจ่ายเงิน เงยหน้าขึ้นสบตากับพนักงานหนุ่ม

“เฮ้ย หลวงพี่” ชายหนุ่มผงะ ถอยไปสองก้าวด้วยกลัวว่าหญิงสาวจะใช้มีดจี้ เพราะเสียงเธอดังราวกับเจอผี

“นี่มันอะไรกัน” หญิงสาวไม่เชื่อสายตาตัวเอง นึกว่าฝันไปจึงตบหน้าตาเองเข้าฉาดใหญ่ - -


ตุ้บบบบบบบบบบ

เธอตกเตียง – ( อ้วน เสียงตกจึงดังตุ้บ )

ฝันซ้อนฝัน - - เดจาวู
บ้าไปแล้ว.................











Create Date : 14 สิงหาคม 2556
Last Update : 11 ธันวาคม 2557 23:47:27 น.
Counter : 808 Pageviews.

5 comments
  
โดย: ชมรมคนซักรีด วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:19:58:27 น.
  
ตกเตียงตื่นขึ้นมา เจอบุรษพยาบาลหนุ่มหน้าเหมือนหลวงพี่อีกรอบ ... ก่อนที่เค้าจะบอกให้กลับเข้าเรือนพัก เพราะกะลังจะออกเวรเลิกงาน ...แน่นอนที่ๆ เค้าทำงานอยู่นี้คือศรีธัญญา อิอิอิอิ

ปล.เพิ่ล... นอนกะพื้นจิ จะได้ไม่ตกเสียงดัง 5555+
โดย: กาป๋อง IP: 115.67.133.253 วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:20:27:34 น.
  
สนุกดีครับ
โดย: คนขับช้า วันที่: 20 สิงหาคม 2556 เวลา:21:53:26 น.
  
ตอนเริ่มเรื่องทำท่าเหมือนจะเป็นนิยายย้อนอดีต ข้ามภพ เลยรู้สึกว่า นี่แหละที่ชอบ แป๊บเดียวหักมุม ตื่นเลย :)
โดย: รายารีย์ IP: 14.207.114.31 วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:15:36:03 น.
  
เพิ่งมีโอกาศได้เข้ามาอ่าน ชอบจังค่ะ ขอสมัครเป็นแฟนเพจด้วยคนน่ะค่ะ
โดย: Othello เจ้าหญิง IP: 183.89.150.214 วันที่: 29 ตุลาคม 2556 เวลา:16:23:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ