เสริมใยเหล็กให้รัก

การที่ชายหญิงสองคนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน
สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้ทั้งคู่ รับรู้ว่าต้องเป็นคู่กันคือ "ความรัก"

จากความรักก็มักจะเป็นความเข้าใจ ความผูกพันตามกันมาเพิ่มเติมความรักให้หนักแน่นมั่นคงมากขึ้น
หรือบางกรณีอาจจะเริ่มที่ความผูกพันจนกลายมาเป็นความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน
ในที่สุดก็พลิกผันมาเป็นความรักได้ ไม่ว่าจะเริ่มจากอะไรก็ตาม เมื่อความรักมาเยือนในชีวิต
ทุกคนมักจะคิดถึงการรักษาความรักให้ปักแน่น ยากที่จะคลอนแคลนกันแทบทั้งนั้น

วันนี้ จึงขอเสนอ 9 กลวิธีที่จะ เสริมใยเหล็กให้รัก เพื่อความรักของทุกคู่จะได้อยู่คู่ครอบครัวตลอดไป

★ กลวิธีที่ 1 มองข้อดี
คนเราย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เมื่อมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ต้องฟันธงไปเลยว่าจะมามัวมองหาข้อเสียอยู่ทำไม
เพราะการที่เราตัดสินใจใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน นั่นแสดงว่าเราย่อมรู้ถึงข้อดีข้อเสียอยู่แล้ว

ไม่ใช่รู้ธรรมดาแต่น่าจะยอมรับ ได้ด้วย
เมื่อยอมรับได้ในข้อเสียแล้วก็อย่าไปมองข้อเสีย ที่เรารับรู้อยู่แล้ว หรืออย่าไปแสวงหาข้อเสียใหม่ๆ มาให้เพิ่มขึ้น
ควรมองข้อดีอยู่ตลอดเวลาเพื่อทำให้จิตใจแจ่มใส เป็นการเสริมใยเหล็กให้รักอย่างหนักแน่น


★ กลวิธีที่ 2 มีคำชม
คนรักกันควรพูดจากันด้วยถ้อยคำไพเราะเสนาะหู เพราะช่วยทำให้ชีวิตมีจิตเบิกบาน
เพราะจะทำการงานเพื่อสานปณิธานครอบครัวให้ไปสู่จุดหมายให้ได้

มีอะไรที่ชมเชยกันได้ก็ควรชม แต่ควรเป็นคำชมที่ออกมาจากใจจริง
จะทำให้สิ่งที่เศร้าหมองในใจมลายหายไปได้ไม่มากก็น้อย แถมยังคอยช่วยเสริมให้หัวใจชุ่มชื่นขึ้นเป็นกอง


★ กลวิธีที่ 3 อย่าจมกับความหลัง
คนเราทุกคนย่อมมีความหลังฝังใจที่อาจไม่อยากให้ใครพูดถึง
อาจจะเป็นความหลังที่เกิดก่อนมาอยู่เป็นคู่กัน หรือเป็นความหลังที่เกิดมาหลังจากมีคู่แล้วก็ตาม
ไม่ควรให้ตามมาหลอกหลอนยามกินยามนอนในปัจจุบัน ควรจะหันเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

ในเมื่อเราไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องความหลังที่ไม่ค่อยดีของเรา
เราก็ไม่ควรเอามาจมอยู่ในห้วงความคิดของเราอยู่เรื่อยๆ ควรจะ ลืม และ เลือน ให้ได้ในที่สุด


★ กลวิธีที่ 4 ระวังคำตำหนิ
คนสองคนรักกันอยู่ด้วยกัน อาจมีเรื่องต้องตำหนิติเตียนกันบ้างในบางเรื่อง
แต่ควรระวัง อย่าตำหนิด้วยอารมณ์ ควรตำหนิด้วยเหตุผล
และที่ทุกคนทุกคู่ควรระวังก็คือ ไม่ควรตำหนิคู่ของเราต่อหน้าผู้อื่น
หรือตำหนิลับหลังคู่ของเรา ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
เพราะจะทำให้คำตำหนิของเราไปสร้างรอยตำหนิขึ้นในใจ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น


★ กลวิธีที่ 5 ติเพื่อก่อ
ถ้าจะติติงคู่ชีวิตของเราเมื่อไหร่ ต้องจำใส่ใจไว้เลยว่าจะติเพื่อก่อเท่านั้น ไม่ใช่ติเพื่อติ
การติเพื่อติก็จะได้แค่ได้ติ แต่จะไม่มีอะไรดีขึ้น อาจจะมีแต่เรื่องเลวร้ายมากขึ้นก็ได้

เมื่อจะติแต่ละครั้งพึงระวังไว้เสมอว่าจะติเพื่อก่อเท่านั้น ชีวิตรักจะสุขสันต์เพิ่มขึ้นแน่นอน


★ กลวิธีที่ 6 ขอเวลาพักผ่อนร่วมกัน
คนบางคนถึงจะเป็นคู่อยู่ด้วยกัน แต่หาโอกาสพักผ่อนร่วมกันไม่ค่อยมี
ซึ่งเป็นเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับคนเป็นคู่อยู่ด้วยกัน

อาจจะเป็นเพราะงานยุ่งหรืออะไรก็ตามที ก็ควรมีเวลาพักผ่อนร่วมกันบ้าง
เพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้ชีวิตรักมากกว่าจะทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำอย่างเดียว


★ กลวิธีที่ 7 ฝันถึงความสุขของครอบครัว
โดยทั่วไปคนเราเมื่ออยู่เป็นคู่กันแล้ว ก็มักจะฝันถึงความสำเร็จในชีวิต คิดถึงเรื่องมีเงินทองมากมาย
มีการงานใหญ่โต เพื่อต้องการโชว์ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของเรา

โดยลืมความสุขที่แท้จริงของครอบครัว ซึ่งอาจไม่ได้หมายถึงแค่มีเงินทองมากมายแต่เพียงอย่างเดียว
แต่หมายถึงอีกหลายส่วนเสี้ยวของชีวิต ที่สามารถเนรมิตให้เป็นความสุขขึ้นมาได้
เป็นความสุขที่อยู่บนพื้นฐานของความรัก ที่สามารถเพิ่มรักให้หนักแน่นยิ่งขึ้น


★ กลวิธีที่ 8 ไม่กลัวปัญหา
เมื่อมีปัญหาเข้ามาในชีวิตคู่ที่จะทำให้ความรักดูเศร้าหมองลงไป อย่าปล่อยให้ปัญหาลุกลามใหญ่โต
ควรรีบแก้ปัญหานั้นโดยไว จะช่วยเสริมใยเหล็กให้รักมากยิ่งขึ้น


★ กลวิธีที่ 9 แบ่งเวลารำลึกถึงความหลัง
ความหลังในที่นี้ย่อมหมายถึงความหลังดีๆ ที่ทั้งคู่มีอยู่ในความทรงจำของหัวใจตลอดเวลา

การรำลึกถึงความหลังดีๆ โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มรักกันใหม่ๆ จะช่วยทำให้ความรักสดใสไม่เสื่อมคลายได้ง่าย ๆ


ทั้ง 9 วิธีที่จะช่วยทำให้ความรักเป็นปึกแผ่นมั่นคงอยู่คู่ชีวิตเราตลอดไป ย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะปฏิบัติ
แต่ที่บางคนยังติดขัดไม่ได้ปฏิบัติซะที เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่รู้ ๆ อยู่แล้ว

มาถึงวันนี้ ควรเป็นวันที่เราน่าจะทบทวนดูซะทีว่าเราปฏิบัติตาม 9 กลวิธีนี้หรือยัง
ถ้ายังก็อย่ามัวละล้าละลัง รีบปฏิบัติการเสริมใยเหล็กให้รักเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อความรักที่ยั่งยืนชั่วกาลนาน!



โดย มัลลิกา
ที่มา : //www.elib-online.com
ภาพจาก : //www.fotosearch.com

Create Date : 26 มกราคม 2553		1 comments
Last Update : 26 มกราคม 2553 15:52:42 น.
Counter : 609 Pageviews.
Share Tweet