Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
พึ่งพาก็เพียงพอ ขออย่าถึงพึ่งพิงเลย



ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งคือ
" ถ้ารักกันแล้ว เราขาดกันไม่ได้ "

ยกตัวอย่างกรณีที่เราจะพบเสมอ

ทันทีที่รู้ว่าคน (ที่เรา) รักจากไปสู่ " ที่ชอบๆ "…คือไปอยู่กับคนที่เขาชอบมากกว่าเรา
และที่ชอบของเขาเป็นที่ไม่ชอบของเรา ไม่ว่าหญิงหรือชายจะเกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเป็นจะตาย
หลายรายถึงกับสำเร็จความตายด้วยตนเอง…คิดว่าเป็นการบูชาความรัก

ตัวอย่าง คนไข้สาวรายหนึ่ง แฟนหนุ่มมีอันต้องจำพรากจากไป…อยู่กับสาวอื่นแทน
เธอพรอดพร่ำรำพันต่อหน้าจิตแพทย์

" หนูไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว หนูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา " …เธอลืมไปว่าก่อนที่จะมีเขา เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ได้

" หนูรักเขามากค่ะ…คุณหมอขา คุณหมอคงเข้าใจใช่ไหมคะว่าหนูรักเขามากแค่ไหน"
…ถ้อยคำมากมายพรั่งพรูจากปากของเธอ ขณะที่กระแสน้ำตาที่คลอเบ้าหลั่งล้นท้นท่วม
จนกระดาษทิชชูที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จิตแพทย์เริ่มคิดถึงวัสดุผ้าที่มีคุณสมบัติ ในการซึมซับของเหลวได้มากกว่า…

" คุณเข้าใจผิดเสียแล้วล่ะครับ คุณไม่ได้รักแฟนคุณหรอก " …จิตแพทย์พูดบ้าง หลังจากฟังมานาน
" คุณหมอหมายความว่ายังไง ก็หนูเพิ่งพูดไปแหมบๆ ว่าถ้าขาดเขาเสียแล้ว ชีวิตของหนูก็อยู่ไม่ได้ "
น้ำเสียงเธอแสดงความไม่พอใจ

จิตแพทย์พยายามอธิบาย
" สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกครับ เขาเรียกว่า ภาวะกาฝาก
ตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณ คุณก็ทำตัวเหมือนพยาธิ ในลำไส้ของเขา
…มันทำให้ชีวิตคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสรภาพ มันกลายเป็นภาวะจำเป็นมากกว่าความรัก "

คนไข้สาวช็อคไปชั่วขณะ นึกว่าจะได้รับคำปลอบใจที่มีคุณภาพสูงกว่าที่เคยได้จากเพื่อนๆ …
แต่หมอยังพูดต่อทั้งๆ ที่คนไข้กำลังนั่งนิ่งตะลึงด้วยความมึนงง เหมือนจงใจ " ซ้ำเติม " ปัญญาสู่จิตอันขลาดเขลา

" ความรักที่แท้ต้องมีอิสรภาพ
…คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้งสอง สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่างไม่เป็นทุกข์
แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อความสุขที่มากขึ้น "

ฉับพลันทันใดในดวงใจของหญิงสาว…พุทธิปัญญาก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างพวยพุ่ง ดวงตาเห็นธรรม
เป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตให้หลุดพ้นจากหุบเหวห้วงอารมณ์อันมืดมิด… เธอใช้เวลาตั้งสติพักหนึ่ง
สีหน้าเริ่มสงบ คิ้วผ่อนคลายขมวด รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏที่มุมปาก ก่อนเปล่งวาจา

" คำพูดของคุณหมอเปรียบเสมือนแสงตะวัน ที่สาดส่องทะลุทำลายกำแพงเมฆหมอก แห่งมิจฉาทิฐิของดิฉัน
บัดนี้ดิฉันได้เห็นแล้วซึ่งสัจธรรม ต่อแต่นี้ไปจะขอดำเนินชีวิตที่เหลือ ตามรอยแห่งพุทธะ…สาธุ "

จิตแพทย์ที่กล้าพูดเตือนสติแทนการพูดประคองใจท่านนี้ คือ Dr. Scott Peck ซึ่งได้เขียนบรรยายเหตุการณ์เรื่องนี้
ในหนังสือขายดิบขายดีชื่อ The Road Less Travelled ซึ่งท่านได้ให้แนวคิดเรื่อง "ภาวะพึ่งพิง " (Dependency)
ไว้ด้วยความหมายว่า เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิต โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่น

ในภาวะปกติเราอาจต้องพึ่งพิงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ในกรณีที่เราได้รับบาดเจ็บ หรือกำลังป่วย
แต่หากเรามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วยังต้องพึ่งพิงผู้อื่นทางจิตใจ เพื่อช่วยให้เราเป็นสุข
แสดงว่าสุขภาพทางจิตของเรากำลังย่ำแย่ เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ

เวลาที่ผ่านไปจะช่วยเยียวยาบาดแผลให้สมานจนหายสนิท พร้อมภูมิต้านทาน ทางใจที่มากขึ้น

คนที่มีสุขภาพจิตดีจะให้ความรักแก่ตัวเองเป็น และดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร
แต่อาจพึ่งพาในบางกรณี เพราะคนเราไม่ได้เก่งหรือทำเป็นหมดทุกอย่าง

แต่ถ้าคุณถึงขั้น " ขาดเขาไม่ได้ " …จงอย่าเอาคำว่า " รักเขามากเหลือเกิน " มาลวงหลอกใจตัวเอง
ยิ่งต้องถึงคิดฆ่าตัวตาย…ยิ่งแสดงว่า " แม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่รัก "

หลายคนคิดว่าถ้าฉันฆ่าตัวตาย จะทำให้เขารู้สึกผิดกับการกระทำของเขาที่ทิ้งเราไป
ตั้งวัตถุประสงค์ของกิจกรรมว่า " เขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต "…คิดอย่างนี้ ส่วนใหญ่มักตายฟรี

ปัจจุบันผู้หญิงไทยมีการศึกษา มีการงานและความสามารถไม่แพ้เพศชาย
ไม่จำเป็นต้องอาศัยเพศชายเป็นผู้นำของชีวิตเหมือนหญิงไทยสมัยโบราณ
…การอยู่เป็นโสด เป็นหม้ายหรือหย่าร้าง ไม่มีผลถึงกับทำให้วิญญาณต้องหลุดออกจากร่าง

ผู้หญิงทั้งหลายจึงสามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้อย่างมีความสุข และภาคภูมิใจ ในเกียรติของผู้หญิง
และหากได้พบชายใดที่เราเห็นว่า ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นและดีขึ้น กว่าการอยู่คนเดียว
คุณก็อยู่ในฐานะที่มีโอกาสเลือก…ไม่ใช่จำเป็นต้องเลือก หรือจำใจเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต

ขอกล่าวทวนประโยคเดิมที่จิตแพทย์ Dr. Scott Peck พูดกับคนไข้ ด้วยภาษาต้นฉบับ
" Love is the free exercise of choice.
Two people love each other only when they are quite capable of living without each other
but choose to live with each other "

แต่หากคุณรู้สึกว่าจำยาก อาจท่องจำเป็นคำกลอน ร้อยกรองต่อไปนี้ก็ทำให้ง่ายขึ้น
" แม้ต่างคนต่างอยู่ก็อยู่ได้ ถึงห่างไกลใจยังสุขทุกวสันต์
จะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลไม่สำคัญ แต่ขอเลือกอยู่ด้วยกันฉันและเธอ "



โดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล
ที่มา ://www.elib-online.com/doctors3/mental_dependency01.html
ภาพจาก ://www.zidogang.com/webboard/index.php?topic=42979.msg278230



Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 6:49:30 น. 0 comments
Counter : 660 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.