Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
บทส่งท้าย คาถากันหย่า



สำหรับคนที่คิดจะแต่งงานกัน แม้ว่าจิตใจจะเต็มไปด้วยปีติสุขเนื่องด้วยการแต่งงานเป็นการต่อยอดของความรัก
แต่ความกังวลลึกๆ ของคนที่จะแต่งงานนั้นมีแน่ว่า จะทำอย่างไรรักจึงจะไม่ร้าวหลังแต่ง
ทำอย่างไรจึงจะอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่ง และทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เกิดการนอกใจกันเกิดขึ้น

ที่จริงรายละเอียดของวิธีประคับประคองชีวิตคู่มีมากมาย มีหลากอุบายเพื่อทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืน
แต่คาถาของการครองเรือนให้มีความสุขนั้นมีสั้นๆ คือ อดทนและหมั่นเติมความรักแก่กันและกันเสมอ เท่านั้นแหละ
หากคู่ไหนก็ตามใช้เงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้นมาพิจารณาเลือกคู่แต่งงาน ก็เท่ากับสามารถลดอัตราเสี่ยงของรักร้าว
หลังแต่งลงไปได้กว่าครึ่งหนึ่ง แล้วท่องแต่เพียงคาถากันหย่าเท่านั้นยังไม่เพียงพอ

1. อดทน
ในเมื่อสองคนมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน จะให้คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกันราวเป็นคนคนเดียวกันนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าคู่แต่งงานไม่มีความอดทนต่อกันก็คงไปกันไม่รอด ใครก็ตามที่แต่งงานกันไปนานๆ
สมควรที่จะต้องขอบคุณซึ่งกันและกันที่สามารถอดทนกับอีกฝ่ายหนึ่งตลอดมา
งานฉลองครบรอบแต่งงาน ก็เพื่อแสดงความยินดีที่คนสองคนอดทนต่อกันอย่างดีเยี่ยม


2. อะลุ้มอล่วยออมชอม
นอกจากจะอดทนแล้ว ทางออกที่จะไม่ทำให้คนใดคนหนึ่งต้องทนเก็บกด หรือไม่พอใจอยู่เพียงฝ่ายเดียวคือ
ต้องมีการออมชอมอะลุ่มอล่วยให้กันและกัน บางครั้งอาจจะต้องมีการต่อรอง เช่น
ถ้าฉันยอมตามใจคุณให้ซื้อเครื่องเสียงใหม่ คุณต้องซ่อมประตูที่กลอนมันปิดยากและทาสีบ้านให้ฉันนะ
อะไรทำนองนี้ ด้วยวิธีนี้ทั้งสองคนก็จะเป็นฝ่ายได้ และเกิดความชอบใจด้วยกันทั้งคู่


3. มีอะไรให้ปรับความเข้าใจกันเสมอ อย่าโกรธกันข้ามคืน
คนอยู่ด้วยกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน กระทบกระทั่งกันได้เป็นธรรมดาปัญหาแคลงใจกันเกิดขึ้นได้เสมอ
ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น ทำไมไม่รู้หรือว่าอย่างนี้ฉันไม่ชอบนะ.. อะไรทำนองนี้
การปรับความเข้าใจกันช่วยได้เสมอ เพื่อจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันเพิ่มมากขึ้น นอกจากจะปรับความเข้าใจกันแล้ว
คนสองคนต้องปรับตัวเข้าหาหันตลอดเวลาจึงจะเกิดความเข้าใจต่อกันเพิ่มมากขึ้น หากโกรธกัน ก็อย่างอนเกินไป
ว่ากันว่า การโกรธกันข้ามคืนสามารถบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ เข้าทำนองเกิดความขัดแย้งสะสม
ถ้าเรื่องเล็ก ๆไม่รีบแก้ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต จนบางครั้งยากที่จะสมานความเข้าใจอันดีต่อกันอย่างเดิมได้
ดังนั้น อย่าเข้านอนโดยที่ยังโกรธ หรือกินแหนงแคลงใจกันอยู่ เปิดอกคุยกันให้เข้าใจกันดีกว่า


4. หมั่นเติมความรักให้แก่กันและกัน
คนเราแรกแต่งงานบรรยากาศรอบตัวนั้นมีแต่สีชมพู แต่ความหวานชื่นมันจะค่อยๆ จืดจางลงเป็นธรรมดาโลก
ถ้าอยากรักษาความปีติสุขแบบในวันแรกๆของการแต่งงานเอาไว้ ก็ต้องหมั่นดูแลถนอมความรักของกันและกันไว้
ไม่ต้องถึงกับบอกรักกันละ 3 เวลาพร่ำเพรื่อแบบฝรั่ง คำหวานสัมผัส และแววตา บางครั้งได้ผลดีกว่าคำพูด
แต่ก็ต้องพูดนะต้องบอกเขาเป็นครั้งคราวนะว่า ฉันรักเธอแค่ไหน
และควรจัดระยะให้ดีระหว่างความเลี่ยนเอียนกับความจืดชืดไร้รสชาติของชีวิต


5. ทุก 7 ปีต้องทบทวนความสันพันธ์กันใหม่
เคยได้ยินวลีเก่าแก่ที่ว่า “เก่าๆก็เป็นสนิม ใหม่กว่าหน้าตาจุ๋มจิ๋ม” หรือไม่ มีคนพูดกันอย่างนี้นานมาแล้ว
และมันก็ยังคงใช้ได้มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ดังนั้น หากอยากให้คงความหวานชื่นในชีวิตแต่งงานตลอดไป
ก็จะต้องทำความสะอาดสนิมแห่งความสัมพันธ์เสมอ
ในทางทฤษฎีเขาบอกว่าจะต้องทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างกันทุกๆ 7 ปี
เพราะจากสถิติความขัดแย้งรุนแรง รักร้าว เตียงหัก หรืออะไรก็ตามแต่จะเรียก มักจะเกิดขึ้นทุกๆรอบ 7 ปี
ก็ถ้าทุกรอบ 7 ปีมารื้อฟื้นความสัมพันธ์ให้หวานชื่นเหมือนเก่าสักครั้งไปฮันนีมูนรอบสองรอบสาม
รวมทั้งหาโอกาสใกล้ชิด เปิดใจกันเหมือนกับจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการกันสองคน แล้วอย่าหอบเอางานไปทำ
อย่าเปิดโทรศัพท์มือถือให้ลูกน้องหรือเจ้านายกวนใจ ชีวิตคู่ก็จะได้รับการชาร์จแบตเตอรีให้มีพลังแห่งรักอยู่เสมอ
แล้วภูมิต้านทานป้องกันการหย่าร้างก็จะเกิดขึ้นเอง



Create Date : 07 มีนาคม 2552
Last Update : 7 มีนาคม 2552 17:16:33 น. 1 comments
Counter : 849 Pageviews.

 
ขอบคุณนะคะที่พยายามหามาให้เราอ่าน


โดย: นู๋กุ้งซ่าส์ IP: 112.142.140.160 วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:23:36:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.