บ้านแตกเพราะ…พูดทุกคำที่คิดแต่ไม่คิดทุกคำที่พูด
เคยบ้างไหมที่คำพูดใครบางคนทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจ ปลาบปลื้ม ปิติ
เคยบ้างไหมที่คำพูดบางประโยคทำให้คุณต้องหลั่งน้ำตา
เคยบ้างไหม ที่บางครั้งคำพูดของใครคนใดคนหนึ่งทำให้คุณรู้สึกโกรธเกรี้ยว เจ็บใจ
ในเมื่อคำพูดเป็นได้ทั้งนำผึ้งและยาพิษ คำพูดที่ดีเพียงไม่กี่คำ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกพอใจมีความสุข และคำพูดไม่ดีเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้คนฟังหมางเมิน เป็นทุกข์ แล้วทำไมจึงไม่เลือกสรรคำพูดที่ดีให้แก่กันเล่า
มีหลายคู่ที่เมื่อแรกรักมักจะรักษาขอบเขตในการพูดจา ระมัดระวังที่จะไม่พูดให้อีกฝ่ายสะเทือนใจ แต่พอแต่งงานกันไปกลับพูดจาแบบปล่อยอารมณ์ พูดโดยไม่ยั้งคิดเข้าทำนอง “พูดทุกคำที่คิด แต่ไม่คิดทุกคำที่พูด”
ปัญหาที่เกิดจากการพูดกันไม่รู้เรื่องบ้าง พูดอย่างไรก็ไม่ยอมเข้าใจบ้าง ฉะนั้น ถ้าจะหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ก็ต้องมีวิธีจัดการบางอย่างคือ
★ ยึดคติ “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” จะให้รักยืนยาวก็ต้อง รู้จักสงบปากสงบคำบ้าง เสมือนรักยาวให้บั่น แต่ถ้าปากต่อคำไปเรื่อยๆ ต่อความยาวสาวความยืด ก็จะกลายเป็นการตัดสัมพันธ์ตัดเยื่อใยให้สั้น เสมือนรักสั้นให้ต่อนั่นเอง
★ มีหลักยึดไว้ในใจเกี่ยวกับ คำต้องห้ามสำหรับคนรักกัน เช่น จะไม่พูดดูหมิ่นบุพการีอีกฝ่าย ไม่พูดถึงความผิดพลาดในอดีตหรือปมด้อย อย่าง “คุณก็ได้แต่พูดไ ม่เคยทำอะไรสำเร็จสักที” หรือ “คุณก็ดีแต่ใช้เงินไม่เห็นทำอะไรเอง เป็นเลย”
ไม่พูดตำหนิเปรียบเทียบทำนอง “รุ่นเดียวกันกับคุณเป็นใหญ่เป็นโตไปหมดแล้ว มีแต่คุณนี่แหละที่ย้ำต๊อกอยู่แค่นี้”
ไม่พูดลำเลิกบุญคุณ “ถ้าไม่ได้ฉันช่วยไว้บริษัทคุณก็ไปไม่รอด”
คำต้องห้ามเหล่านี้ล้วนเป็นคำพูดที่ลดคุณค่าของผู้พูด และทำลายความรักความศรัทธาของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง
แต่แค่วิธีป้องกันปัญหายังไม่พอ ถ้าใช้เทคนิคพูดด้วยรัก ทักด้วยใจ อีกสักนิด ก็จะทำให้ความสุขในชีวิตคู่เพิ่มพูนขึ้น
ใช้สายตาสื่อภาษาใจ * สื่อความรู้สึกที่ดีทางสายตา * สบตาเมื่อพูด แสดงถึงความจริงใจ ไม่โกหก * สบตาเมื่ออีกฝ่ายพูด แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจ ให้ความสำคัญ * ส่งสายตา แสดงความชื่นชม * ส่งสายตา แสดงความขอบคุณ * ส่งสายตาแสดงความรัก
ใช้สัมผัสสื่อภาษาใจ โอบบ่า จับมือ บ่งบอกได้หลายความรู้สึกและใช้ได้หลายสถานการณ์ เช่น แสดงความรัก ความเอ็นดู ความเห็นใจใคร่จะปลอบประโลม
ใช้คำพูดเพื่อสื่อความคิดและความรู้สึก * พูดชื่นชมยกย่อง “คุณนี่ยอดจริงๆ ฉันเองยังคิดไม่ออกเลยว่า จะทำยังไง” หรือ “ผมโชคดีจัง ที่ได้แต่งงานกับคุณ” * บอกขอบคุณเมื่ออีกฝ่ายทำอะไรให้ * ขอโทษเมื่อทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ * แย้งด้วยเหตุผลนุ่มนวล ไม่ใช้คำพูดดูถูกเย้ยหยัน ยียวน ชวนทะเลาะเมื่อไม่เห็นด้วย * พูดอย่างเข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกัน “ผมเข้าใจว่าคุณกำลังโกรธ” * พูดถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองเป็น “ผมเป็นห่วงคุณมากนะ” * พูดปลอบใจให้คลายกังวล “อย่าไปคิดหมกมุ่นเลยเดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไปเอง” * พูดแบบถนอมน้ำใจ “เอาน่า คุณทำได้ดีแล้วล่ะ”
เรื่องราวของชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อยู่ที่ว่าวันนี้คุณปรับตัวเข้าหากันดีหรือยัง ถ้ายังลองทำสิ่งเหล่านี้ดู
….นี่ไม่ใช่เรื่องตลกขบขันนะคะ ….คนที่มองว่าคือเรื่องตลกบ้านแตกมานักต่อนักแล้วค่ะ
ข้อมูลจาก บันทึกคุณแม่ ที่มา : //www.elib-online.com/doctors50/family_talk001.html ภาพจาก : //www.veer.com/products/detail.aspx?image=BLP0028481
Create Date : 31 ธันวาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 31 ธันวาคม 2552 14:49:47 น. |
Counter : 1198 Pageviews. |
|
|
|