เสียความบริสุทธิ์ซะแล้วสิเรา

Photobucket

“หล่อนอย่าร้อง ร้องทำไม ไม่เห็นเจ็บซักนิดเลย”
“ดุ๊ง เค้าหมดแรงแล้ว เค้าคงทำอย่างอื่นไม่ไหวแล้ว”
“ไม่เอาน่า เจ็บแป๊ปๆเดี๋ยวหล่อนก็หาย”
“ดุ๊ง หล่อนเจ็บมากมั๊ย?”
“สุดๆเลย เป็นความเจ็บที่ชั้นไม่เคยเจ็บมาก่อนในชีวิต”

ตุลาคมปีก่อนผมนอนที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เหตุเพราะ ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดเอ็นหัวเข่าเพราะมันขาด จริงคับ เอ็นไขวหน้าผมขาด หมอต้องทำการผ่าตัดเพื่อดึงเอ็นจากหน้าขามาทดแทนเอ็นไข้วหน้าที่ลาจากไป
“หมอคับ มันอันตรายมั๊ยคับ แล้วผ่าตัดเสร็จจะกลับไปเล่นฟุตบอลได้เหมือนเดิมมั๊ยคับ”
“คุณไม่ต้องกลัว เชื่อผม หายทุกราย หายแน่นอน แต่เล่นฟุตบอลคุณต้องทำกายภาพบำบัดก่อน โอเคมั๊ย? เลิฟยูนะ”
“เทคแคร์หมอเหมือนกันคับ”
“จุ๊บุ๊ๆตัวเอง”

เข้าห้องผ่าตัดกัดฝันแป๊ปเดียว แล้วก็เสร็จ
พยาบาลเข็นรถออกมาจากห้องผ่าตัด ขาของผมถูกพันด้วยผ้ากอท หนาประมาณขาช้าง อันนี้ไม่ได้โม้ เท่ากับขาช้างจริงๆ ใหญ่มาก เลือดสีแดงซึมซิบๆผ่านผ้าสีขาวน่ากลัวยิ่งนัก ผมพึ่งประจักษ์ก็วันนี้แหละว่ายาชาไม่ได้ช่วยอะไรในยามที่มันไม่เหลือฤทธิ์ ระหว่างรถผู้ป่วยเลื่อนไป แค่กระแทกอะไรนิดเดียวเสียวจนใจจะขาด โคตรเจ็บคับ เจ็บแบบที่ไม่รู้จะหาคำอะไรมาบรรยาย เอาแค่ว่าหายใจก็ยังเจ็บเลย เจ็บจนน้ำตานอง จะร้องก็อายพยาบาลกับบแม่
“แม่ เล่เจ็บ เจ็บมากเลย”
“อย่ามองตาได้มั๊ย ถ้าเธอไม่แคร์ …….” เสียงริงโทนแม่ผม
“ฮัลโหล โอเล่เหรอ สบายดี นี่งัย นอนยิ้มอยู่นี่งัย”พ่อโทรมาถามแม่
ถึงเตียงนอน พยาบาลก็ต้องเปลี่ยนชุดให้ผม นี่คือฉากวัดใจระหว่างผมกับพยาบาล คับ เรามิอาจขัดขืน
พยาบาลยิ้มๆ
แต่ผมภูมิใจ

ขนาดตอนนอนนี่ต้องหายใจค่อยๆคับเพราะมันเจ็บมาก เจ็บลึกลงไปในแผลผ่าตัด อันนี้ไม่ได้โม้คับ ไม่เชื่อลองไปผ่าตัดดู แล้วจะรู้ว่า เล่ไม่ได้โม้
นอนๆไปไม่คุยกับใครซักชั่วโมง
“ห้องข้างๆมีชายหญิงอยู่ด้วยกัน เป็นนักศึกษา มหาลัยเดียวกัน ห้องข้างๆมีเสียงครางทุกวัน เสียงเค้าเฮกัน ฟังแล้วรันจวนใจ ….”ริงโทนผม หน้าจอแสดงชื่อที่คุ้นเคย
“ดุ๊งเค้าสอบไม่ติดอ่ะ เค้าติดที่สำรอง เค้าจะติดมั๊ยอ่ะ?”
“ติดอยู่แล้วหล่ะ”พูดไปน้ำตาก็ไหลออกจากตา โคตรเจ็บ
“แต่เค้ากลัวมันไม่ติดหนิดุ๊ง”
“อืม เอาน่า”คำตอบเริ่มสั้นลง
“เค้าไม่ไหวแล้ว ทำไมเค้าไม่ติดอ่ะ?”
หลังจากนั้นก็เป็นบทสนทนาข้างบนโน่น ย้อนกลับไปอ่านสิคับ

ทั้งเจ็บแผลผ่าตัด ทั้งยังต้องมาปลอบคน ชีวิตกูนี่มันรันทดจริงๆ กัดฟันปลอบไปเรื้อยๆ

จากวันนั้นถึงวันนี้ปีกว่าๆ คำถามที่ผมถามหมอ
“หมอคับ มันอันตรายมั๊ยคับ แล้วผ่าตัดเสร็จจะกลับไปเล่นฟุตบอลได้เหมือนเดิมมั๊ยคับ”
ผมได้คำตอบ ของคำถามที่สองแล้ว
กลับมาเล่นได้แล้ว โอเล่
วันนี้ร้องเท่าผ้าใบคู่ใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสบอลมาก่อน ต้องร้องจ๊าก และพูดว่า “เสียความบริสุทธิ์ซะแล้วสิเรา”
ผมวิ่งลงไปในสนานด้วยความรู้สึกกลัวๆ เสียวๆ เสียวที่หัวเข่า แต่เราก็เล่นได้ ดีใจจังที่ได้เล่นฟุตบอลอีกครั้ง
ผมไม่ได้เตะบอลมาเกือบจะสองปีเต็ม วันนี้ดีใจมากคับ ที่ได้ลงไปเกะกะคนอื่นเค้า

สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับโอเล่
จ่าย 100 ผ่าน 2
ยิง 1 ไม่ตรงกรอบ
พรุ่งนี้มันต้องดีกว่านี้ เชื่อเราสิ เราจะไปพร้อมรองเท้าผ้าใบคู่ไม่ใหม่ที่ใช้เตะบอลแล้ว
ปีนี้ไม่มีคนให้ปลอบ แต่ก็ได้เตะบอลแทน ไม่เป็นไร
เย้ เย้ เราจะผอมแล้ว เราได้วิ่ง ได้หัวเราะ ได้เยาะๆ ได้เตะบอล

ขอบใจเพื่อนๆในสนามที่เข้าใจ(หรือเปล่า)ว่าไม่ควรเล่นแรงกับโอเล่
ขอบคุณคุณหมอที่ดึงเอ็นหน้าขามาแปะแทนเอ็นไข้วหน้า
ขอบใจผ้าใบ ที่ให้สวมใส่เพื่อเสียความบริสุทธิ์

ปล.อย่างแรง! รูปที่เอามาลงเป็นรูปปลาโลมานะคับ อย่าคิดเป็นอื่นใด
แต่เค้าบอกว่า ถ้าใครที่ไม่เห็นเป็นรูปปลาโลมาแสดงว่า ไม่บริสุทธิ์ คับ ก็ว่ากันไป
เค้ารู้นะตัวเองเห็นเป็นรูปอะไร
กิ๊วๆ




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2552 20:02:26 น.
Counter : 1055 Pageviews.  

ทำได้เพียง

Photobucket

รู้จักวง 25 hours มั๊ยคับ เป็นวงที่ผมสนใจผลงานของพวกพี่ๆเค้ามาก ล่าสุดผมเจอวงนี้เล่นอยู่บนเวทีรามซิงค์งานแฟตเฟส เพลงช้าก็ซึ้งเพลงเร็วก็มันส์ เป็นกลิ่นอายดนตรีแบบเก่าๆที่มีมนต์ขลังของความคลาสสิกแฝงอยู่
ผมอย่างร้องเพลงให้เพราะเหมือนพี่แหลมนักร้องนำจัง แต่ก็ทำได้เพียงคิด และก็พยายามฝึกซ้อมเท่านั้นแหละ

เมื่อวานผมแนะนำวงนี้ให้ใครอีกคนรู้จัก แต่ดูท่าทางแล้ว เค้าน่าจะรู้จักมาก่อนที่ผมจะแนะนำ
ผมส่งเพลง ถามจันทร์ ไปถามเค้าว่า เคยฟังมั๊ย แต่ดวงจันทร์ยังไม่ทันได้ถาม เค้าคนนั้นก็ต้องไป แล้วงัย?
ผมก็คงทำได้เพียง หวังว่าวันนึงเค้าจะพบดวงจันทร์โดยบังเอิญ และดวงจันทร์ก็คงถามเค้าแทนผม
“เคยฟังมั๊ย?”

เมื่อวานในคลาสเรียนวิชา basic engineering practice อาจารย์เปิดวีดีทัศน์เกี่ยวกับกระบวนการทำงานขั้นพื้นฐานของวิศวกรรมให้ดู
ตาไม่ดู แต่หูฟัง ปากก็พูดกับเพื่อน
“จบไปมึงจะไปทำอะไรต่อ ไปเป็นวิศวกร นอนอยู่บ้าน หรือขายของตามตลาดนัดคลองถมวะ?” ผมถามด้วยท่าทีที่สงสัย+ไม่เข้าใจมัน เพราะตั้งแต่อาจารย์เริ่มเปิดมันก็บ่นอยู่แค่ประโยคเดียว
“ให้กูทำอย่างนี้ กูทำไม่ได้หรอก”
สิ้นสุดคำถามของผม มันก้มหน้า แล้วพูดว่า
“กูคิดว่ากูจะเรียนโทบัญชีว่ะ”
“ทำไมมึงไม่ออกไปเรียนบัญชีตอนนี้เลยวะ ในเมื่อวิศวะกรมันทำงานหนัก มึงไม่ชอบไม่ใช่เหรอ”ผมไม่เข้าใจความคิดมัน และเสนอความคิดผมให้มันฟัง
เพื่อนเงียบ
ผมทำได้เพียง พูดว่า
“ถ้าอะไรมันไม่ใช่ ฝืนไปมึงก็ไม่มีความสุขกับมัน มึงทนเรียนอีกสองปีมึงก็จบพร้อมพวกกู แต่จบไปจะมีความหมายอะไรในเมื่อมึง คิดว่ามึงไม่มีความสุขในสิ่งที่มึงจะไปทำต่อ เหมือนมีแฟนแหละ แรกๆแม่งก็มองเห็นแต่ข้อดีกัน นานวันเข้าความสุขที่เคยมีแม่งกลับหาย มันมีสองอย่างเว้ย ทนอยู่ กับ อยู่ทน ถามตัวเองเหอะ สิ่งที่มึงเรียนคือสิ่งที่จะอยู่กับมึงตลอดชีวิตนะเว้ย”

ผมอยากให้วันนึงมี 25 hours
คงดีถ้าคนเรามีเวลาทำนั่นทำนี่เพิ่มขึ้นอีกชั่วโมงนึง คนที่นอนก็จะได้นอนเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมง คนที่ฟังเพลงก็ฟังได้ฟังนานขึ้น คนที่อยู่กับแฟนก็จะได้อยู่นานขึ้น คนที่คุยกับพ่อแม่ก็คงมีเวลามากขึ้น หนึ่งชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามามันคงมีค่าน่าดู ถ้ารู้จักมองโลกในแง่ดี

ไม่แน่ บางทีในหนึ่งชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามา รวมกันหลายๆวันเข้า ผมอาจจะฝึกร้องเพลงเพราะเหมือนพี่แหลม
ไม่แน่ บางทีในหนึ่งชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามา ดวงจันทร์อาจเดินทางไปถามเค้าคนนั้นและได้คำตอบกลับมาว่า “เคยฟังแล้ว”
ไม่แน่ บางทีในหนึ่งชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามา เพื่อนที่กำลังสับสนคงมีเวลาให้คิดเพิ่ม ว่าควรทำงัยกับชีวิตต่อไป

ขอบคุณพี่ๆวง 25 hours ที่ทำเพลงเพราะๆออกมาให้ฟัง
ขอบใจ ‘เค้า’ ที่แวะมาเยี่ยมบ้านหลังนี้บ่อยๆทำให้เจ้าของบ้านไม่กร่อยจนเกินไป
ขอบใจ ‘มึง’ ที่ทำให้กูได้คิดอะไรดีๆอย่างนี้เว้ย




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2552 6:08:13 น.
Counter : 904 Pageviews.  

ฟ้าสวยมาก

fha

เมื่อวานฟ้าตอนเย็นสวยมากครับ เป็นฟ้าครื้มๆดูแล้วสบายตา
ผมนั่งมองฟ้าอยู่บนชั้น ห้า หอพักนักศึกษา อยากร้องตะโกนถามฟ้าว่า
“ เมื่อไหร่จะมีใคร ใครซักคนที่เคียงข้างเรา เมื่อไหร่จะมีใคร ใครซักคน นะ ที่รักเรา แค่นี้ที่ต้องการ ขอมากเกินไปมั๊ย” ฮ่าๆๆ ได้อารมณ์หอยๆไปอีกแบบ แต่ก็แอบเหงาจริงๆนะ

‘รักแท้รักคืออะไร ตับ ไต ใส้ พุง หรือรักกางเกงที่นุ่งก็ดูสวยดี’
รักแท้ คือ รักที่ได้จากพ่อแม่ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น
สมัยเด็กๆตอนเรามีแฟน แรกๆ เรามักจะพูดกับแฟนตลอดว่า
“เฮ้ย ชั้นโชคดีจังเลยที่ได้เจอรักแท้”
แต่พอโตมาก็ทำให้ได้รู้ว่ารักแท้ มันไม่ได้หาง่ายเหมือนปอกกล้วยด้วยมือเลย
ทำไมผมต้องบอกว่า รักแท้สำหรับผมคือ พ่อแม่ ก็เพราะต่อให้เรา แย่ งอแง ท่านก็ยังแยแส ไม่เคยทิ้งเราไปไหน ความรักที่ท่านมอบให้ก็บริสุทธิ์ ดุจ น้ำกลั่นเติมรถยนต์ จะทำผิดซักร้อยซักพันหน คนที่อยู่กับเราก็มีแค่ พ่อกับแม่ ไม่ให้เรียกว่ารักแท้ แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะคับพี่น้องคับ

ท้องฟ้าสวย แต่ไม่มีคนมาช่วยดู ยกหู
“แม่เหรอ! กินข้างยัง วันนี้เหนื่อยอ่ะแม่ เรียนหนักทั้งวันเลย พ่ออยู่แถวๆนั้นมั๊ย?.................................คับ คับ คับ คงได้กลับตอนปีใหม่แหละ ฮ่าๆๆสบายกายคับ แต่ไม่สบายใจ คิดถึงบ้านอยู่ อืม บ้านเราหนาวยังแม่ รักษาสุขภาพดีๆด้วย คับ แม่ สวัสดีคับ”
เราไกลกัน แต่เราก็อยู่ใต้ฟ้าแผ่นเดียวกัน เราคิดกันทุกวัน รักแท้ที่ไม่เคยห่างจากเราเลย
รักพ่อกับแม่เด้อ

ตกเย็นทำการบ้านภาษาอังกฤษ(ด้วยตัวเอง)อยู่ดีๆ ไอ้ฟ้าน้องโรงเรียนก็ทักเข้ามา
เราทำได้เพียงพูดว่า สุดท้ายแล้ว โลกที่เค้าคิดว่ามันดี จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ พี่ก็มีความสุขดี สุขที่ได้มองท้องฟ้าตอนเย็นๆ เห็นเมฆลอยเอื่อยๆ นั่งปล่อยความคิดไปเรื่อยๆ ไม่เมื่อยๆ แถมสุขอารมณ์อีกตะหาก

หากมีคนที่เค้ารู้จักเรามานานกว่า สี่ ปี เค้าจะรู้จักเราดี ว่าเราเป็นคนยังงัย แล้วเค้าก็จะไม่ทิ้งเราไปไหน เชื่อสิ
ตอนนี้คนเหล่านั้น ผมก็เจอพวกเค้าอยู่ทุกวัน ฝันบ้าง เพลงบ้าง หนังสือบ้าง ในอินเตอร์เนตบ้าง
ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องวิ่งหารักแท้ให้มันเหนื่อยหรอกคับ ลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดว่า
“แม่-พ่อ รักหนูมั๊ย?” เชื่อเหอะ จะได้ยินเสียงหัวเราะยกใหญ่ๆแล้วตามมาด้วย
“รักสิ”

ขอบคุณท้องฟ้าที่ทำให้รู้ว่าเราไม่เคยห่างกัน
ขอบคุณดวงจันทร์ กระต่ายน้อย และนิทานมากมายหลายเรื่องที่สร้างเรามาจนทุกวันนี้
ขอบคุณความรู้สึกคิดถึง ที่ บึ่ง จากสายโทรออก ไปบอกอีกคนว่ามีสายโทรเข้า




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 9:42:05 น.
Counter : 919 Pageviews.  

อุ่นหัวใจ

Photobucket

อุ่นหัวใจครับ รู้สึกอุ่นหัวใจมากๆ
เพิ่งได้ดูหนังเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอครับ ยอมรับเป็นหนังที่ทำได้น่ารักมาก ยิ่งดูก็ยิ่งอิน ยิ่งอินก็ยิ่งชอบ ยิ่งชอบก็ยิ่งย้อนกลับมามองที่ตัวเอง

ผมชอบเหมยลี่ เพราะ ผมว่าผมคล้ายเหมยลี่ สนุกแต่แอบเหงา มั่นใจแต่ก็แอบกลัว หลายอย่างเราคล้ายกัน
ผมเรียนวิศวะเหมือนลุง
หนังเรื่องนี้ตีแผ่ชีวิตวิศกรได้อย่างดีเยี่ยมครับ เหล่าวิศกรอย่างเราๆส่วนมากจะใช้เวลาหมดไปกับความเหงา และเรื่องเหล้าๆที่แวะเวียนเข้ามาตลอด ยิ่งเหงาก็ยิ่งเมา แต่ในเรื่องลุงไม่เมาเพราะเค้าเป็นคนดี ผมก็เป็นคนดีครับ ทุกวันนี้ไม่ค่อยได้ดื่มเท่าไหร่แล้ว ฮ่าๆๆ

เชื่อเรื่องเนื้อคู่มั๊ยครับ?
ผมเชื่อนะ ผมว่าเรื่องเนื้อคู่เป็นอะไรที่ยากแก่การหาเหตุผลมาอธิบาย บางคนคิดว่าเป็นเนื้อคู่กันแล้ว ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดจอดป้ายหน้า อย่างนี้ก็มีให้เห็นถมไป
บางคนกว่าจะได้มาเจอกันผ่านเรื่องราวร้อยพัน ร้องไห้ใจขาดสะบั้น แต่ก็จบลงตรงที่รักกัน

ผมว่าในโลกกว้างๆใบนี้ ต้องมี ใครซักคนเกิดมาเพื่อเรา เพียงแต่เราจะใช้เวลานานแค่ไหนในการค้นหา ใคร คนนั้น หลายคนคิดว่าเดี๋ยวรอคนๆคงเดินมาหาเราเอง อย่าคิดอย่างนั้นเลยครับ ลองออกเดินทางหาเค้าดู

“เป็นแฟนกันแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วจะมีแฟนไปทำไมวะ?” เหมยลี่ถามเป็ด
“แฟนน่ะ เค้ามีไว้ให้เรายังรู้ว่ามีใครอีกคนที่เป็นห่วงเรา รักเราอยู่” เป็ดตอบ ทำเอาผมอึ้ง!

ลุงทำงานกลางคืน เหมยลี่ทำงานกลางวัน ยากแท้แก่การที่พวกเค้าได้มาเจอกัน แต่ผมบอกแล้วงัย เนื้อคู่ สุดท้ายยังงัยเรื่องราวแปลกๆจะทำให้เขาและเธอได้เจอกัน
ดูแล้วอุ่นหัวใจครับ

ตอนหนังใกล้จบ เหมยลี่มองดาวหางแมกไบต์จากดาดฟ้าบนบ้าน ลุงมองดาวหางแมกไบต์จากหน้าต่างเครื่องบิน
ความรู้สึกตอนนั้นผมต้องบอกว่าหนังสื่อออกมาได้ดีมากครับ
เราห่างกันแต่เราก็ยังอยู่ใต้ฟ้าแผ่นเดียวกัน

“สงกรานต์ปีนี้ว่างมั๊ยครับ?”
ถ้าใครว่างก็ไปเจอผมได้ที่ขอนแก่นนะครับ ฮ่าๆๆ
ผมไปเล่นสงกรานต์ที่ขอนแก่นทุกปี ปีนี้ก็คงเป็นอีกปีนึงที่จะผึ่งเสื้อเปียกๆสาดน้ำเปาะแปะ เดินเหยาะแหยะ แถวๆถนนหน้าเมือง เรื่องมันเยอะคับถนนหน้าเมือง

อีกฉากที่ชอบคือ ฉากที่ลุงส่งของมาให้เหมยลี่ ของข้างในนั้นต่างเป็นความทรงจำที่เกิดขึ้นและเป็นเหตุเป็นผลกันว่าทำไมเรื่องราวต่างๆมันเดินทางมาอย่างนี้ หลายอย่างยิ่งกว่าความบังเอิญ

ห่างกันไปนานแต่สุดท้ายก็ได้กลับมาเจอกัน อิจฉาเหมยลี่กับลุงจัง สองปีที่หายไป สองปีที่ใช้ชีวิตใต้ฟ้าแผ่นเดียวกัน สองปีที่ไม่มีอะไรแน่นอน
เฮ้ย ชอบครับชอบ

ที่จริงตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องโปสการ์ด แต่พอดีรู้สึกว่าวันนี้อุ่นหัวใจกับหนังเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอมากกว่าเลยหยิบเอามาเขียนเบียดเบียนกันไป
พรุ่งนี้เจอกันใหม่ครับ

ขอบคุณหนังเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ที่ทำให้ได้เจอความรู้สึกที่อุ่นหัวใจ
ขอบใจแว่นใหม่ที่ทำให้มองอะไรชัดขึ้นกว่าเดิม
ขอบคุณแม่ที่โทรมาหาลูกชายเมื่อคืน




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2552 8:09:59 น.
Counter : 762 Pageviews.  

เครียด

Photobucket

เครียด

ขี้เกียจ + คิดมาก = เคลียด
ทำไมช่วงนี้เครียดจังวะ
ที่จริงไม่อยากเคลียดอย่างนี้เลย
เชื่อว่าก็คงไม่มีใครอยากเครียดหรอก แต่ในเมื่อมันเครียดแล้วเราก็มาระบายความเครียดกันดีกว่า
วิธีระบายความเครียดของผมคือการพิมพ์ พิมพ์ไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง

จะต้องคิดอะไรมากมายวะ อยากทำอะไรรีบทำสิวะ เดี๋ยวก็ไม่ได้ทำกันพอดี มัวรอนั่นรอนี่ พูดแต่ ‘เดี๋ยวก่อน’ นอนเป็นนกฮูกไปได้
ช่วงนี้นอนเยอะ ทำตัวเลอะเทอะน่าผิดหวัง ทั้งที่ตั้งใจจะปรับ + เปลี่ยน ตัวเอง ก็ทำได้ในระดับนึงแต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่
เศร้าใจ คิดแต่เรื่องเดิมๆ คิดแล้วก็หมกหมุ่นอยู่กับมัน ฝันถึงแต่มัน วันๆก็จมอยู่กับที่ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยชีวิต คิดแล้วก็เศร้าใจ ทำงัยดีล่ะทีนี้

คิดว่าเราเปิดเทอมใหม่ทุกวันสิ คิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต คิดว่าเราจะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ คิดอะไรมากมายหลากหลาย สุดท้ายก็กลายเป็นคนคิดมากโดยไม่มีความจำเป็นจะต้องไปคิดอะไรเยอะขนาดนั้น รู้ตัวแล้วก็คิดให้มันน้อยลงหน่อยโอเล่ เรื่องเดิมๆที่ผ่านมาวันๆนึงก็ทิ้งมันไป อย่าเก็บเอามาใส่ใจ ทำอะไรหากทำแล้วสบายใจก็ทำมันเข้าไป อย่าไปคิดแทนคนอื่นเลย คนอื่นเค้าไม่คิดเหมือนเราหรอก
บอกตัวเอง ก็ได้แค่บอกตัวเอง

ดีขึ้นนิดนึงแล้วนะผมว่า สงสัยคงต้องกลับมาฟังพระเทศน์เหมือนเดิมแล้วมั้ง ห่างหายไปสาม สี่วัน ชีวิตวุ่นวายเลย
คนเรานี่ก็แปลกนะ ถ้าไม่ทุกข์ก็มองไม่เห็นธรรม เดินย่ำอยู่ที่เดิม ซ้ำเติมแต่ตัวเอง

ผมกำลังจะส่งโปสการ์ดไปให้พี่ เพื่อน และน้อง เป็นโปสการ์ดที่ได้จากงานแฟตเฟส ความหมายดีๆทั้งนั้นเลย

พูดถึงงานแฟตเฟส ผมว่ามันเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อคนสมองซีกขวานะผมว่า เป็นซีกของการจินตนาการและสร้างสรรค์ ซึ่งในงานหากใครจะหาไอเดียร์อะไรในงานเชื่อเหอะ!บานเลย
แรงบันดาลใจที่ใครๆต่างมองหา ถ้ามางานแฟตแล้วอาจจะต้องแบกกลับไปก็ได้ ผมก็เป็นคนนึงที่เก็บแรงบันดาลใจได้หลายนิวตันจากที่นั่น(ของใช่หน่วยเป็นนิวตันแล้วกันเพราะมันเป็น แรง) แต่เก็บมาแล้วไฟที่จะทำมันกลับริบหรี่ ที่ริบหรี่ที่มาก็คงเพราะเครียด
เครียดก็เพราะ คิดมาก และขี้เกียจ
เลิกเครียด เลิกคิดมาก เลิกขี้เกียจ แล้วลงมือทำตามแรงบันดาลใจ ใครจะว่ายังงัยอย่าไปสนใจ สุดท้ายแล้วผลมันจะออกมาที่เราคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสายตาใครที่มอง

อยากอ่านหนังสือ
อย่าอยากสิ อ่านเลย

ขอบคุณความคิดดีๆที่วิ่งพล่านอยู่ในหัว
ขอบคุณแม่ที่โทรมาหาตอนเย็นแล้วก็เตือนสติเรื่องต่างๆ
ขอบคุณความเครียดที่ทำให้เกลียดความเคลียด




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2552 5:31:19 น.
Counter : 1122 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

เบิกทวารแมน
Location :
นครนายก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เบิกทวารแมน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.