’ จารย์ รัฐ กัดซะเละเลย

Photobucket

สมัยมัธยมผมมีอาจารย์ที่สนิทสองคน
นึงคนคือ อาจารย์แหม่ม ตอนนี้นอนหลับอยู่
อีกนึงคนคือ อาจารย์รัฐ อาจารย์บรรณารักษ์ที่รักและดูแลผมเหมือนลูกเหมือนหลาน เพราะฉะนั้นหากมีคนเข้าใจว่าผมเป็นลูกบุญธรรมของอาจารย์ก็คงไม่ผิดซักเท่าไหร่หรอกคับ

คิดถึงอาจารย์แหม่มจัง
คิดถึงตอนที่อาจารย์แหม่มพา the มารูโก๊ะแก๊งไปกินส้มตำร้านต้นมะขาม เป็นการกินส้มตำที่สนุกและอร่อยมาก ลูกค้านักเรียนมัธยมที่นิยมอะไรกวนๆอย่างพวกเรา ก็ชอบสั่งอะไรแปลกๆ ส้มตำใส่ใบกระเพรา ไก่ย่างไม่ต้องสุกมากแบบที่ยังมีเลือดติดอยู่ อีกมากมายที่สรรหามาสั่ง เจ๊เจ้าของร้านแกก็ทำมาให้เรากินจนได้นะคับ
อาจารย์แหม่มเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ และเป็นอาจารย์ภาษาอังกฤษคนเดียวในโรงเรียนมั้ง ที่สนิทกับกลุ่มของพวกผม คับ กลุ่มของพวกผมไม่ใช่เด็กวิชาการ แต่เราเป็นเด็บูรณาการคับ

ครั้งนึงจารย์แหม่มเคยบ่นให้ผมเพราะผมทำตัวขี้เกียจมาก จารย์แหม่บอกว่า
“โอเล่ นี่แกจะนอนไปถึงไหน อยู่หอแกก็นอน ในห้องเรียนแกก็นอน กลับไปบ้านแกก็นอน ลุกขึ้นมาทำอะไรหน่อย ไม่ใช่เอาแต่นอนๆๆๆๆอย่างเดียว เชื่อครู ยังมีเวลาให้นอนอีกเยอะในหลุม”
ผมไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของอาจารย์แม้แต่น้อย จารย์บ่นเสร็จ ผมก็นอนต่อ รอแค่เวลาเลิกเรียน
เมื่อตอนผมอยู่ปีหนึ่ง ผมจะโทรกลับไปเล่าเรื่องการใช้ชีวิตในมหาลัยของผม ให้จารย์แหม่มฟังบ่อยๆ ทุกครั้งที่โทรกลับไปอาจารย์จะแสดงออกถึงความห่วงใยทุกครั้ง
“โอเล่กินข้าวยังนี่?, เมื่อไหร่จะกลับมาเยี่ยมครู?,เป็นงัยบ้างล่ะกับน้องคนนั้น?,เมื่อวานครูไปกินพิชซ่าแล้วคิดถึงเ อมาก หน้าเด็กเสริซเหมือนเธอมากๆๆ…. อยากไปดูหนังเรื่องนั้นกับโอเล่ว่ะคงตลกกว่าไปดูกับคนอื่น..”
วันนึงมีคนโทรมาบอกผม
“จารย์แหม่มสบายแล้วเล่”
ผมใช้เวลาทำใจกับเรื่องนี้นานมาก ผมแทบไม่อยากเชื่อ ผมสับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เชื่อว่าวันนึงอาจารย์ที่ผมสนิทมากๆจะลาไปพักร้อนเร็วขนาดนี้
ตอนนี้เวลานี้ เบอร์โทรจารย์แหม่มผมก็ยังไม่ลบออกจากมือถือของผมเลย หลายครั้งที่กดผ่านเบอร์อาจารย์ ผมก็อยากกดโทรออก อยากแวะไปเล่าเรื่องสนุกๆเหมือนเดิม
แน่นอน ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงจารย์เหมือนเดิมคับ หลับฝันหวานนะคับจารย์

“ทำใจได้ยัง?”
จารย์รัฐก็เป็นอีกคนที่เอ่อคำถามนี้กับผม
ผมในฐานะลูกบุญธรรมของอาจารย์ก็อยากประกาศในคราวเดียวให้เสร็จสิ้นไปเลย
“ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว”
จารย์รัฐแวะมาทักเล่นๆถามว่าตอนนี้ผมเป็นงัยบ้างแล้ว สบายขึ้นหรือยัง หรือยังคงอารมณ์ค้างอยู่ แต่ก็ดูเหมือนการสนทนาระหว่างผมกับจารย์รัฐจะเป็นอะไรที่สนุกสนานซะมากกว่า
จารย์รัฐจึงสรุปสั้นๆว่า ผมใกล้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่จารย์ก็แอบงงเล็กๆว่าทำไมมันทำใจได้เร็วเกินคาด
ผมจึงสรุปให้อาจารย์รัฐฟังง่ายๆว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ อยู่ที่เราเลือกจะมอง หากเรายังมัวไปติดอยู่กับจุดๆนั้นเป็นเวลานานๆแล้วมันไม่มีอะไรดีขึ้น เราก็แค่ก้าวเท้าข้ามมันก็เท่านั้น
บางอย่างมันไม่จำเป็นมีบทสรุปที่สวยงามเสมอหรอก เรื่องบางเรื่องที่ใครบางคนเข้าใจผิด บางทีเราก็คงต้องปล่อยให้เค้าเข้าใจผิดไปตลอดชีวิตนั่นแหละ หากเค้าเลือกที่จะเดินหนีไปเรื่อยๆ หรือเชื่อคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ตอนนี้ผมไม่ได้ปลง แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจชีวิตมากขึ้น สายตามันเปิดกว้างกว่าแต่ก่อน
แต่ก่อนผมอาจจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่ยอมอะไรใครง่ายๆ แต่ตอนนี้หากเรามองกลับกัน ยิ่งเราคิดแย่กับเค้าเท่าไหร่ เกลียดเค้าเท่าไหร่ คนที่สุขภาพจิตเสียไม่ใช่เค้าแต่เป็นเราตะหาก ทุกอย่างถ้ามองให้เป็นด้านบวก ชีวิตจะพบแต่ความสุขคับ
จารย์รัฐถามว่า แม่ว่างัยบ้างกับเรื่องนี้ (จารย์รัฐกับแม่ผมรู้จักกันดี)
คับ แม่บอกว่ามันเป็นช่วงๆนึงของชีวิต หากเราผ่านจุดๆนี้ไปได้ ในอนาคตเรื่องที่มันหนักกว่านี้รอเราอยู่

การคุยกับอาจารย์รัฐ แม้ดูเหมือนเป็นการคุยกันฮาๆแต่ว่าจารย์ก็ได้มาเปิดแผลหลายแผลที่กำลังจะหายให้กำเริบอีกครั้ง แต่ไม่เป็นไรคับ ผมขอเวลาแค่2-3 ชั่วโมง มันก็กลับมาเหมือนเดิมแล้วคับ
แม้จะโดนกัดซะเละ แต่ผมก็ได้แง่คิดดีๆหลายเรื่องจากการสนทนาครั้งนี้คับ

ขอบคุณทั้งแม่และแม่บุญธรรมที่สั่งสอนให้ลูกชายคนนี้เป็นคนดี
ขอบใจเครือข่ายไร้สายที่ทำให้การติดต่อสือสารสะดวกสบาย
ขอบคุณอาจารย์แหม่มที่ทำให้รู้ว่า เวลาที่เราเดินอยู่บนโลกนี้มันมีค่ามากมายในการสร้างความดี



Create Date : 27 ธันวาคม 2552
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 15:25:46 น. 5 comments
Counter : 707 Pageviews.

 
เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
แผลจะแห้งแล้วหายแม้จะเป็นแผลเป็นแต่แผลจะหาย


โดย: veevie IP: 124.121.40.57 วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:17:50:33 น.  

 
อื้มม
พูดถึงอ.หนูแหม่มแล้วคิดถึงเผิ่น
น้องของเค้าเคยฝันถึงอาจารย์ตั้ง2ครั้ง

จำได้ว่าครั้งหนึ่งมาบอกเลขด้วย
"65"นี้แหละ


ปล.แผลตกสะเก็ดแล้ว อย่าไปเกามันล่ะ?
เดี๋ยวมันเป็นแผลเป็น เหอะๆๆ


โดย: THITIKORN IP: 125.26.142.186 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:0:14:01 น.  

 
อาทิตย์ที่แล้วฝันเห็นแม่แหม่มของโอเล่ด้วย...ทำบุญให้แล้ว
.....และไอ้ที่สกิดแผลเธอ...บางทีครูก็อยากให้เราคิดแยะ...เผื่อแม่..พ่อ...และที่สำคัญเผื่อตัวเธอเอง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี...แต่ตอนนั้นบอกตรงๆกลัวเธอคิดสั่นอะ


โดย: ของจริงอยู่นี่จ้า rachy land IP: 202.28.35.2 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:17:11:46 น.  

 
คิดซ้งคิดสั้นอะไรอาจารย์ ชีวิตเราสั้นนิดเดียวเองจะไปคิดให้มันยุ่งยากทำไม
คับสบายตัวเเล้ว


โดย: ดุ๊งดูด IP: 202.28.62.245 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:17:20:35 น.  

 
นี่ออยตอนแรกชั้นกะจะเล่นมุกนี้แล้ว มุกจานแหม่มแวะมาให้เลข แต่คิดๆไปแล้ว มันไม่ฮาว่ะ เพราะจานไม่เคยแวะมาหาชั้นเลย เอาจริงๆก็อยากเจอแกอยู่นะ
จานๆ จานแหม่มได้ยินมั๊ย ว่างๆแวะมาหาผมหน่อยนะมีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง


โดย: ดุ๊งดูด IP: 202.28.62.245 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:18:33:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เบิกทวารแมน
Location :
นครนายก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เบิกทวารแมน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.