โคตรชอบฝันโคตรโคตร
เมื่อเช้าเพิ่งมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องฝันโคตรโคตร ที่พี่พิง ลำพระเพลิง ที่เขียนบทและกำกับเอง โดยส่วนตัว ยอมรับว่าชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากคับ เหมือนเป็นภาคจบที่สมบูรณ์แบบของโคตรรักเอ็งเลย ย้อนกลับไปตอนโคตรรักเอ็งเลยเข้าโรงใหม่ๆ ผมดีใจมากที่ได้เห็นอุดม แต้พาณิชเล่นหนัง และก็ไม่พลาดที่จะไปอุดหนุนหนังของพี่พิงด้วย ความรู้สึกที่ดูโคตรรักเอ็งเลยตอนแรกผมกล้าพูดได้เลยคับ ว่าหนังบ้าอะไรก็ไม่รู้ ทำได้เหมือนจะดี แต่ติดปัญญาอ่อนไปนิด พอได้มีโอกาสดูครั้งที่สองตอนอยู่หอพักกับเพื่อน รอบนี้ผมตั้งใจดูมากกว่าตอนที่ดูในโรงภาพยนตร์ คับ พอเราตั้งใจดูเราจะได้อะไรมากกว่าการดูเฉยๆ ดูครั้งนี้นอกจากขำพี่โน้ตแล้ว ในบางฉากของหนังก็ทำให้ใจผมรู้สึกหวิวๆเลยนะคับ ประมาณว่า เนี๊ย ถ้าเป็นเราที่อยู่ในเหตุการณ์ล่ะ ถ้าเป็นเราที่ต้องสูญเสียคนรักล่ะ เราจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าเค้าเหรอ? คงไม่ ยอมรับคับ ประทับใจพอสมควรกับโคตรรักเอ็งเลย
พี่พิงหายหน้าหายตาไปนาน ประมาณเดือนกันยา ผมได้เห็นทีเซอร์ของหนังเรื่องฝันโคตรโคตร ซึ่งตอนนั้นผมก็sadโคตรโคตรเหมือนกัน ยิ่งได้มาฟังเพลงนาฬิกาตาย เพลงที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำเอาผมแทบอยากตายตามนาฬิกาไป พอหนังเข้าโรงจริง ผมกลับไม่มีอารมณ์อยากไปดู คงเพราะตอนนั้นรู้สึกวุ่นวายกับเรื่องต่างๆในชีวิต เป็นช่วงที่ชีวิตผมกล้าบอกทุกคนได้เลยว่า เหี๊ยสุดๆ ที่กล้าพูดขนาดนี้ผมว่าตอนนั้นมันแทบจะอยากหลุดไปจากวงโคจรของโลกใบนี้เลย มันเหมือน คนเราตั้งใจจะทำอะไรดีๆซักอย่างให้ใครซักคน แต่เค้ากลับคอยระแวงเราอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายความระแวงที่เป็นปัจจัยตอนแรกก็วกเข้ามาทำร้ายคนที่ตั้งใจจะทำอะไรดีๆคนนั้น คับ แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เราไม่สามารถแก้ไขอะไรในอดีตได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตด้วยตัวเราได้ แต่ก่อนผมอาจจะเชื่อว่าคอยมีใครซักคนนั่งกำหนดชีวิตเราอยู่บนฟ้า แต่ยิ่งโตมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้ว่า คนที่สามารถกำหนดทุกอย่างได้คือตัวเรา ไม่ใช่ใครที่ไหน
ผมเคยฝันดี แล้วก็ฝันดีโคตรโคตรด้วย สุดท้ายผมก็ต้องตื่นจากความฝันมาสู่โลกแห่งความจริง ช่วงแรกที่ผมเดินออกมาจากความฝัน ผมยอมรับโลกแห่งความจริงไม่ได้ ผมว่ามันทรมานเกินไปที่จะเดินอยู่บนโลกใบนี้ ใบที่กว้างใหญ่มหาศาล ใบที่เราทำอะไรก็มีกฎมีเกณฑ์ไปซะทุกอย่าง จากการเดินออกมาครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ ผมว่าผมแข็งแรงกว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว ผมเริ่มปรับสภาพกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกแห่งความจริง เริ่มเรียนรู้การยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นของตัวเอง หรือผู้อื่น เริ่มที่จะกล้าทำในสิ่งที่หลายคนกลัว เริ่มที่จะวางแผนไล่ล่าความฝัน และตอนนี้ก็กำลังสนุกกับหลายสิ่งที่ได้เริ่มไว้
วันนึงผมคงได้ฝันดีอีกครั้ง ผมคงได้นอนอยู่ในบ้านแสนสวยที่ผมเป็นคนออกแบบเอง คิดเอง และสร้างมันด้วยตัวของผมเอง ผมคงได้เดินออกไปซื้ออะเดย์และหนังสือพิมพ์กลับมานั่งอ่านอยู่ตรงระเบียงบ้าน ตกเย็นคงสนุกสนานกับการทำอาหารกินเอง ตอนเช้าก็รีบลุกมาอัพบล็อก สายหน่อยก็หยิบกีตาร์ออกมาเล่น และคงสนุกกับการดูหนังดีวีดีที่ผมซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ตอนนี้ คับ ผมหวังว่าฝันผมคงจะเป็นจริงอย่างที่ได้พูด ทำไมจะเป็นไม่ได้ล่ะ ในเมื่อตอนนี้เรามีเวลาสร้างฝันอยู่ ความฝันไม่มีวันหมดอายุหรอกคับ (หากคุณเคยดูการ์ตูนเรื่องup) ตอนนี้ก็ขอตัวไปไล่เก็บความฝันก่อนนะคับ เดี๋ยวได้มาเท่าไหร่จะเอามาแบ่งให้คับ
เฮ๊ย
. แอบเซ็งตัวเองนิดๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ฟังซาวด์พระเทศน์เลยคับ ผมไม่อยากบอกว่าตัวเองไม่ค่อยมีเวลา ผมว่ามันเป็นข้ออ้างมากกว่า แต่เอาจริงๆผมว่าผมไม่ให้เวลากับซาวด์พระเทศน์มากกว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้วกลับไปกราบท่าน ว.วชิรเมธี งามๆซักสามครั้งดีกว่าคับ
ขอบคุณแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องฝันโคตรโคตร ขอบคุณพี่พิง ลำพระเพลิง ที่สร้างความบันเทิงผ่านแผ่นฟิลม์ให้กับพวกเราคับ ขอบคุณความฝัน ที่ทำให้อยากตื่นขึ้นมาไล่ล่าทุกเช้าคับ
Create Date : 11 มกราคม 2553 |
Last Update : 11 มกราคม 2553 11:47:51 น. |
|
3 comments
|
Counter : 950 Pageviews. |
|
|
|
โดย: pangiekosan IP: 202.12.97.100 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:22:14:20 น. |
|
|
|
โดย: พิง ลำพระเพลิง IP: 58.64.101.98 วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:21:04:05 น. |
|
|
|
โดย: see IP: 203.144.144.164 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:16:31 น. |
|
|
|
| |
|
|
ทำไมดูไม่ใช่แนวเราเลยเรื่องนี้