ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
“มอง”อเมริกา เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพา



ดูภาพด้านบนนี้แล้ว Smart Growth เทรนด์เมืองนอก เค้ามาทางนี้ (แนวทางใหม่)


เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย



บทความดีๆเกี่ยวกับการวางผังเมือง ของ นักวิชาการผังเมือง อ.ฐาปนา บุณยประวิตร ซึ่งผมรู้จักผ่านทาง Facebook //www.facebook.com/profile.php?id=100001871354660 ที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องการวางผังเมืองพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนตามแนวทางการเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ซึ่งผมนำมาตั้งชื่อ Blog ผมอีกบล็อกหนึ่งครับ เพราะตั้งใจจะนำข้อคิด ข้อเขียนของอาจารย์ทั้งจากใน Facebook ของอาจารย์ และในเว็บไซต์ของอาจารย์ //asiamuseum.co.th/ มานำเสนอเท่าที่จะเป็นไปได้ ความจริงหลายเรื่องที่อาจารย์เขียน โดยนำข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ หลาย Case Study ครับ (เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวที่ดีๆ เกี่ยวกับผังเมืองในอนาคต ที่ก่อประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมหาศาล และแน่นอนทีเดียวหลายอย่าง ก็สามารถประยุกต์มาใช้ในประเทศไทยได้แน่นอน

Copy// Thapana Bunyapravitra ( 28 มกราคม 2555)
ประเด็นการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและเขตที่อยู่อาศัย กับประเด็นการใช้พื้นที่ในเขตเมือง

เป็นเรื่องที่ผมมีความเห็นต่างจากหลายๆ ท่าน ทุกเวทีที่ผมยกเรื่องนี้มาพูดคุยจะได้รับการโต้แย้งอย่างรุนแรงเสมอ คนท้่วไปยังเชื่อว่าถนนมีไว้ให้รถวิ่ง คนจะมาเดินได้อย่างไร และควรอนุญาตให้รถยนต์ใช้ความเร็วได้ตามความเหมาะสมด้วย (ดังที่บางสถาบันจัดอันดับเคยใช้ค่าเฉลี่ยความเร็วรถยนต์ในเขตเมืองหรือความคล่องตัวในการจราจรเป็นเครื่องชี้วัดความขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ) หรือแม้แต่ประเด็นการใช้พื้นที่ทางเท้าเพื่อวางแผงขายของซึ่งผู้คนโดยทั่วไปคิดว่าไม่มีความเหมาะสมเนื่องจาก “ทางเท้าก็คือทางที่มีไว้ให้เดิน ไม่งั้นจะเรียกทางเท้าไปทำไม” (ประโยคนี้เป็นประโยคทองของนักผังเมืองอาวุโสท่านหนึ่งซึ่งเรียกเสียงปรบมือได้ทุกครั้งที่พูด) หากมองแบบผิวเผิน ผมว่าใครๆ ก็เห็นด้วยกับท่าน

ตาม vdo เรือง Traffic Calming //www.streetfilms.org/moving-beyond-the-automobile/



ประเทศอเมริกา เขาใช้ระบบของถนนในการลดความเร็วรถยนต์อย่างไร (ตาม vdo เรือง Traffic Calming ครับ)


แต่ถ้าลองพิจารณาในรายละเอียดลงลึกถึงบริบทของพื้นที่ ผมว่าพวกเราน่าจะมองเห็นอีกมิติหนึ่งที่คนทั่วไปลืมนึกถึง มิติแรกที่อยากให้พิจารณาคือหลักการจัดการพื้นที่ของการเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ซึ่งกำหนดว่า พื้นที่บริเวณเขตเมือง คือพื้นที่อยู่อาศัย ประกอบกิจการพาณิชยกรรม กิจกรรมสังคม และวัฒนธรรม แม้บทบาทการสัญจรจะมีความสำคัญแต่ก็ไม่มากไปกว่าบทบาทด้านการอยู่อาศัยและการพาณิชยกรรม

ถนนในเขตเมืองไม่ได้มีบทบาทเช่นเดียวกับทางด่วน ถนนสายประธานและสายหลักซึ่งทำหน้าที่ในการระบายการจราจร แต่ถนนในเขตเมืองคือโครงข่ายการสัญจรที่ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกันเพื่อให้เกิดความสะดวกในกิจกรรมการค้าขายและกิจกรรมทางสังคม ที่สำคัญ ถนนได้ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโครงข่ายทางเท้าและทางจักรยานซึ่งแปลความได้ว่า ระดับความสำคัญของถนนในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยถูกจัดให้ใช้เพื่อเป็นทางสัญจรด้วยการเดิน จักรยาน ระบบการขนส่งมวลชน โดยรถยนต์ถูกจัดให้มีความสำคัญอยู่ในอันดับท้ายสุดนั่นเอง นี่คือแนวทางที่เป็นสากลครับ

มิติต่อมา อยากให้พิจารณาบทบาทของพื้นที่ด้านเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน พื้นที่พาณิชยกรรมร้อยทั้งร้อยต้องการตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมในการค้าขาย และทำเลที่เหมาะสมในการค้าขายก็คือทำเลที่มีมวลของคนเดิน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ทำเลที่ดีที่สุดของการพาณิชยกรรมจึงได้แก่พื้นที่ซึ่งมีมวลของคนเดินเป็นจำนวนมากที่สุดนั่นเอง ไม่ใช่ทำเลที่มีรถวิ่งผ่านมากที่สุด ซึ่งก็ตรงที่กับคำกล่าวที่ผมใช้อยู่เป็นประจำคือ “คนเดินคือคนซื้อของ คนขับรถไม่ได้ซื้อของแต่เป็นผู้ปล่อยควันพิษและสร้างอุบัติเหตุ”

อีกมิติครับ

การแบ่งปันการใช้พื้นที่หรือการบริหารจัดการพื้นที่เมือง หากพิจารณาจากมิติแรกแล้ว ท่านจะพบว่า แม้ยังมีความจำเป็นต้องคงทางเท้าไว้ให้คนเดินตามวัตถุประสงค์เดิม แต่เราไม่อาจปฎิเสธความสำคัญกิจกรรมการค้าขายในพื้นที่สองข้างทางเท้าได้ ต้องอย่าลืมนะครับว่า กิจกรรมการค้าขายในพื้นที่บริเวณนั้นๆ เป็นส่วนประกอบหนึ่งของเมืองที่ถูกสร้างให้มีความสมดุลในเชิงเศรษฐกิจ กล่าวคือ หากไม่มีผู้ซื้อก็ไม่มีผู้ขาย การผสมส่วนของทั้งสองปัจจัยลงบนพื้นที่ (Space) และการอยู่ผ่านช่วงเวลามาอย่างยาวนานได้ ถือเป็นความสมดุลในทางเศรษฐศาสตร์ และเป็นภารกิจสำคัญของเมืองที่ต้องบริหารจัดการทางกายภาพให้เกิดความสมบูรณ์ซึ่งหมายถึงเกิดการแบ่งปันการใช้ประโยชน์จากทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้น ในการจัดการพื้นที่จึงต้องถามผู้ที่เกี่ยวข้องว่า หากการสัญจรด้วยรถยนต์มีความสำคัญเป็นอันดับรองเมื่อเทียบกับจากทางเท้าซึ่งได้กลายเป็นความสำคัญอันดับหลัก ดังนั้นด้วยเหตุใดจึงไม่ปรับบทบาทของถนนให้แปรสภาพเป็นทางเท้าผสมผสานกับการใช้รถยนต์ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ได้มากขึ้น


ประเด็นนี้ผมอยากให้พิจารณาจาก 2 กรณีตัวอย่างๆ แรก กิจกรรมทางเศรษฐกิจสองข้างถนนมหาราชช่วงระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กับมหาวิทยาลัยศิลปากร หรือระหว่างท่าพระจันทร์กับท่าข้างวังหลัง ท่านจะเห็นว่า บทบาทของพื้นที่เมื่อ 20 ปีที่แล้วเมื่อเทียบกับปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เฉพาะท่าพระจันทร์ในแต่ละวันจะมีมวลของประชาชนใช้พื้นที่ไม่น้อยกว่า 30,000 คน ผู้คนตามจำนวนดังกล่าวได้สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมการค้าขายทุกประเภทรวมกันมากกว่า 120 กิจการและรองรับตำแหน่งงานมากกว่า 450 คน นี่คือบทบาทของพื้นที่เพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งตารางกิโลเมตร ประเด็นต่อมา อยากให้ลองพิจารณารูปแบบการสัญจรภายของพื้นที่ซึ่งจะพบว่า ลักษณะการใช้พื้นที่ถนนสำหรับยวดยานไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมซึ่งแตกต่างจากการใช้ทางเท้าที่มีอัตราการใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า พื้นที่ในบริเวณนี้หากตั้งอยู่ในเขตเมืองที่วางผังพัฒนาด้วย Smart Growth แน่นอนที่สุดครับ บริเวณนี้จะถูกออกแบบปรับปรุงให้มีสภาพเป็นพื้นที่พาณิยชกรรมที่สมบูรณ์ (Market Places) โดยให้ถนนและทางเท้าจะถูกปรับปรุงให้เป็น Pedestrian Mall หรือถนนคนเดินซื้อของที่งดงาม

ตัวอย่างที่สอง ผมแนบข่าวเชิงวิเคราะห์การใช้พื้นที่ในย่านชาวจีน (Chinatown) ช่วงวันตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่ง Congress for the New Urbanism-CNU และ Streetblog.org (เครือข่ายของ CNU) ได้จัดทำขึ้น น่าสนใจครับ ลองอ่านเพื่อหาความหมายว่าเขามองการบริหารจัดการพื้นที่ในย่านนั้นอย่างไร และลักษณะการใช้พื้นที่ในช่วงเวลานั้นได้ทำให้ CNU ในฐานะที่เป็นองค์กรเจ้าตำรับหนึ่งในการออกแบบชุมชนเมืองของโลกมีข้อสรุปประการใดบ้าง และสุดท้าย ท่านเองมองประเด็นดังกล่าวนี้อย่างไร //sf.streetsblog.org/2012/01/24/chinatown-businesses-thrive-during-a-week-without-car-parking/



ดูภาพด้านบนนี้แล้ว Smart Growth เทรนด์เมืองนอก เค้ามาทางนี้ (แนวทางใหม่)

เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย




ดูภาพด้านบนนี้แล้ว Smart Growth เทรนด์เมืองนอก เค้ามาทางนี้ (แนวทางใหม่)

เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย




ดูภาพด้านบนนี้แล้ว Smart Growth เทรนด์เมืองนอก เค้ามาทางนี้ (แนวทางใหม่)

เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย




ดูภาพด้านบนนี้แล้ว Smart Growth เทรนด์เมืองนอก เค้ามาทางนี้ (แนวทางใหม่)

เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย




ดูภาพด้านบนนี้แล้ว Smart Growth เทรนด์เมืองนอก เค้ามาทางนี้ (แนวทางใหม่)

เทรนด์การพัฒนา “ถนนคนเดินอย่างมีชีวิตชีวา” พร้อมกับเรื่องการใช้ความเร็วของรถยนต์ในเขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย


มีคลิป vdo เป็น Pedestrian Mall ของเมือง charlotte น่าสนใจครับ ความหมายว่าเขามองการบริหารจัดการพื้นที่ในย่านนั้นอย่างไร



สำหรับของไทย ลองนึกภาพตาม ถึงความจำเป็นในการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมในตลาดเก่าๆ ของไทย ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพและหัวเมือง ตจว.ให้เป็น Pedestrian Mall หรือถนนคนเดินที่มีความคึกคักมีชีวิตชีวา แต่เป็นแบบประจำทุกวัน เช่น ถนนมหาราชที่ผมนำมาเป็นตัวอย่าง ขอให้ใช้คำว่า "เป็นประจำทุกวัน" นะครับ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เทศกาลหรือเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์

ท่านใดสนใจแนวความคิด Smart Growth (การวางผังเมืองพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนตามแนวทางการเติบโตอย่างชาญฉลาด) เข้าไป like fanpage friend กับอาจารย์ได้ตามลิ้งก์ Facebook นี้ครับ //www.facebook.com/pages/Smart-Growth-ASIA/355237181167341?sk=wall




Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2555 11:54:41 น. 1 comments
Counter : 1716 Pageviews.

 
Wow, incredible blog structure! How long have you ever been running a blog for? you made running a blog glance easy. The total look of your web site is great, let alone the content!
Discount Louis Vuitton mens wallet //www.led-ropelights.org/


โดย: Discount Louis Vuitton mens wallet IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:9:39:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.