เข้าสู่บทความกันเลยครับ
บทความ : แนวทางและความเป็นไปได้ในการใช้ Streetcar ในประเทศไทย
โดย ฐาปนา บุณยประวิตร
เนื่องจาก Smart Growth Thailand (SGT) ได้นำเสนอข้อเขียนความเหมาะสมในการนำรถไฟฟ้า Streetcar สำหรับประเทศไทยออกเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากการเผยแพร่เพื่อนๆสมาชิกได้มีคำถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการรายละเอียดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวทางและความเป็นไปได้ในการนำรถไฟฟ้า Streetcar มาใช้ในประเทศไทย ดังนั้น ในวันนี้ SGT จึงขอตอบบางสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1. ความรับผิดชอบด้านวิชาชีพในการศึกษาความเป็นไปได้ ในการนำ LRTหรือ Streetcar ไปใช้นั้น การศึกษาทั้งหมดควรเป็นความร่วมมือกันระหว่างนักผังเมือง สถาปนิกชุมชนเมืองวิศวกรโยธา วิศวกรคมนาคมขนส่งและจราจร นักเศรษฐศาสตร์ ฯลฯ โดยมีนักผังเมืองคมนาคมขนส่ง (Transportation Planner) เป็นผู้ประสานโครงการ (Transportation Planner เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมืองสาขาคมนาคมขนส่ง ซึ่งจำแนกโดย AICP สหรัฐอเมริกา ประเทศที่จดทะเบียนนักผังเมืองในสาขานี้เป็นวิชาชีพเฉพาะได้แก่ สหรัฐฯอังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้แบ่งวิชาชีพการผังเมืองออกเป็น2 สาขารับอนุญาตได้แก่ Environmental Planner และ Transportation Planner) เหตุที่ต้องใช้นักผังเมืองคมนาคมขนส่งเป็นผู้ประสานงานนั้น เนื่องจากจะสามารถนำองค์ความรู้ด้านการผังเมืองผสมผสานเข้ากับแนวทางการศึกษาด้านวิศวกรรมขนส่งและจราจรนอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดกรอบการวางผังและพัฒนาพื้นที่โครงการทั้งพื้นที่รอบสถานีขนส่งและพื้นที่ตามแนวรางรถไฟฟ้า ซึ่งจะให้การศึกษาความเป็นไปได้หรือการศึกษาออกแบบมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
2. การศึกษาความเป็นไปได้ เนื่องจากถนนในประเทศไม่ได้ออกแบบตามแนวทางของถนนแบบสมบูรณ์(Complete Street) ดังนั้น จึงไม่อาจนำรถไฟฟ้า Streetcar ลงใช้ได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานใดมีความต้องการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า Streetcar ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
2.1 การศึกษาความเป็นไปได้ทางกายภาพ โดยการสำรวจศึกษาข้อมูลด้านกายภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่อย่างครบถ้วนและให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษกับการศึกษา การใช้ประโยชน์ที่ดินและอาคาร โครงสร้างการสัญจร ระบบการระบายน้ำและระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ
2.2 การศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ ได้แก่ การศึกษาและออกแบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจรอบสถานีขนส่งและตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมจากการลงทุนของโครงการ
2.3 การให้ข้อมูลรายละเอียดโครงการและการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของพื้นที่ ทั้งนี้ จะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติและความเข้าใจของประชาชนที่มีต่อโครงการว่า การลงทุนโครงการ Streetcarนั้นมีเป้าหมายในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจภายในพื้นที่รอบสถานีขนส่งและตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากันกับการขนมวลคน การบรรเทาปัญหาการคับคั่งการจราจร โดยรถไฟฟ้าที่ไม่ใช้ความเร็ว
3. ความเหมาะสมของประเภทรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าแต่ละประเภทไมว่าจะเป็นCommuter Rail, Rapid Rail, LRT Monorail หรือ Streetcar มีความเหมาะสมกับพื้นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะความต้องการและความเหมาะสมด้านกายภาพ ซึ่ง Streetcar นั้นเป็นรถรางไฟฟ้าที่เล็กที่สุดในบรรดารถไฟฟ้าด้วยกัน ใช้เชื่อมต่อระหว่างย่านในเส้นทางที่มีระยะไม่มาก ขนคนได้ไม่เกิน 80 คนทั้งนั่งและยืน เดินรถในระดับความลาดชันสูงสุดไม่เกินร้อยละ35 ดังนั้น จึงไม่เหมาะกับการใช้สัญจรระหว่างเมืองและระหว่างภาค และไม่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกสถานที่
4. ความเหมาะสมของ Streetcar กับการพัฒนาเมือง ระบบขนส่งมวลชนทางรางมีอิทธิพลโดยตรงต่อการสร้างรูปทรงของเมือง และต่อการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของเมืองและภาค ในขณะที่มีค่าการลงทุนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ดังนั้น นักผังเมืองส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้า Streetcar เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อเป้าหมายในการพัฒนารูปทรงของเมืองและเศรษฐกิจเมืองได้ด้วยปัจจัยที่โดดเด่นดังนี้
4.1 ศักยภาพในการลดความจำเป็นการครอบครองและใช้รถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชน
4.2 สามารถใช้พื้นผิวจราจรร่วมกับยวดยานอื่นๆ โดยที่เมืองไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนเวนคืนที่ดินในการสร้างสถานีและสาธารณูปโภคสนับสนุน เช่นเดียวกับรถไฟฟ้ายกระดับและรถไฟฟ้าใต้ดิน
4.3 ใช้โอกาสในการออกแบบก่อสร้างระบบรางเพื่อปรับปรุงกายภาพถนนให้เป็นแบบสมบูรณ์ ซึ่งเมืองจะได้รับทั้งทางเดิน ทางจักรยาน และทางรถขนส่งมวลชน พร้อมสถานีรถไฟฟ้าตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้เมืองยังจะได้รับพื้นที่ภูมิทัศน์ที่มีความงดงามอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองและย่านการค้าสำคัญที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านอีกด้วย
4.4 ลดค่าใช้การเดินทางให้กับประชาชนเมื่อเทียบกับการสัญจรด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล
4.5 สร้างระบบการสัญจรและโครงข่ายที่สามารถคาดการณ์ปริมาณการเดินทางทิศทาง และค่าใช้จ่ายของประชาชนและของเมืองได้
4.6 ใช้ผลการศึกษาออกแบบเพื่อการวางแผนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความหนาแน่นรอบสถานีขนส่งเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน เช่น การกำหนดแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบสถานีขนส่งและตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเป็นต้น
สำหรับความห่วงใยในประเด็นปลีกย่อย เช่น ประเด็นปัญหาน้ำท่วมขังและความเหมาะสมด้านกายภาพนั้น สามารถสรุปได้ดังนี้
1. การขนส่งมวลชนทางรางทุกชนิด (ยกเว้นระบบรถไฟของบางประเทศ) มีระบบควบคุมการเดินรถซึ่งมีศักยภาพในการประเมินความเสี่ยงการเดินรถในแต่ละสภาพการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะอุทกภัย (ไม่รวมกรณีภัยพิบัติบางชนิดเช่น ซึนามิและแผนดินไหว)
2. ระบบควบคุมไฟฟ้าของ Streetcar ได้รับการออกแบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับรถไฟฟ้าประเภทอื่น ส่วนระบบส่งกำลังไฟฟ้านั้น โดยทั่วไปวางพาดตามแนวรางสูงจากผิวถนนมากกว่า 20 ฟุต (ยกเว้นระบบรางบางรุ่นของจีนซึ่งฝังท่อร้อยสายส่งกำลังตามแนวราง)
3. ในภาวะน้ำท่วมขังช่วงฤดูฝน สามารถเดินรถ Streetcar ได้ตามปกติเช่นเดียวกับยวดยานทั่วไป