สูตรรักสูตรอร่อย
Group Blog
 
All blogs
 

เครปเค้ก(crepes cake)





หลังจากที่ไปสุมหัวขอเมนูอาหาร-ขนมจากเพื่อนๆในเฟสบุ้คมา
ปรากฏว่าจับสลากดูแล้ว หวยออกเป็นเครปเค้กค่ะ
เพราะว่าเครื่องปรุงต่างๆหาได้ง่ายๆ ลงมือทำไปหลายวันแล้ว
กินหมดไปแล้ว ได้รับคำยืนยันจากเชลล์ชวนชิมที่อยู่ใกล้ๆบ้าน
ว่าเค้กอร่อยมากๆ เพื่อนย้ำมาอีกว่า ยิ่งกว่าอร่อยซะอีก
เพราะเครปเค้กนี้เบา นุ่ม ไม่หวานเลี่ยน สามารถนำมาบอกต่อได้
แต่พอดีต้องหาเวลาย่อรูปเลือกรูปที่ถ่ายไว้เยอะมาก
วันนี้ได้ฤกษ์ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมให้เพื่อนๆ
ได้ชมความอร่อยผ่านจอณ.บัดนาว (สำนวนวัยรุ่นเสียด้วยนา)


เค้กทั้งก้อน แม่ปูปาดด้วยวิปครีม ปาดไม่เรียบกริบเท่าไหร่
ฝีมือเรื่องนี้มีน้อย แต่ความอร่อย ท้าให้ลอง (เอาละสิ)






ตัดเค้กออกมาชิ้นแรก วางบนจานก็ล้มไม่เป็นท่า ต้องตัดใหม่ชิ้นที่สอง







เครปเค้กสูตรนี้แม่ปูนำสูตรมาจาก นิวยอร์คไทม์ ชื่อนี้เชื่อใจได้ในระดับสูง
ยังไงถ้าเพื่อนๆสนใจอ่านรายละเอียด ตามลิงค์ไปได้เลยค่ะ
สูตรแม่ปูแปลออกมาดังที่จะทำต่อไปนี้นะคะ อาจไม่เหมือนต้นฉบับเป๊ะๆ
แต่เชื่อใจแม่ปูด้วยอีกคนก็แล้วกัน555..จริงๆสูตรครีมเค้าผสมวิปครีมลงไปด้วย
ทีนี้แม่ปูอ่านสูตรไม่หมด (ไม่ดีๆ) เลยปาดแค่ครีมใส่ไปเป็นไส้
ส่วนวิปครีมที่มีอยู่ก็เลยเป็นหมันอดเป็นไส้ทำไงดี เลยจับปาดห่อเครปเค้กไว้ซะเลยค่ะ




ให้ทำเครป เบทเทอร์ก่อนล่วงหน้าหนึ่งคืน ตอนเช้าก็เอาออกมาทอด
ไส้ในสูตรบอกให้ทำล่วงหน้าเช่นกัน แต่แม่ปูทำวันเดียวกันกับที่ทอดเครป




วานิลา เพสทรี้ครีม

นมสดจืด ๒ ถ้วยตวง
วานิลาแอ็คแทร็ค ๑ ช้อนชา
ไข่แดงของไข่ไก่ ๖ ฟอง
น้ำตาล ๑/๒ ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด ๑/๓ ถ้วยตวง
เนยจืดเย็นหั่นเล็กๆ ๓ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ







วิธีทำ


๑.ต้มนมพอร้อน ใส่วานิลาแอ๊คแทรคลงไปพักไว้ก่อน

๒.ผสมไข่แดงทั้งหมดลงในอ่างผสม พร้อมด้วย น้ำตาล และแป้งข้าวโพด
ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลวๆ
จากนั้นค่อยๆเทนมที่ยังอุ่นๆอยู่ลงไปในอ่างไข่ ใช้ตะกร้อมือรีบคนส่วนผสม
ส่วนผสมจะได้ไม่เป็นก้อน เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว เทส่วนผสมกลับลงไปในหม้อนมใบเดิม






๓.กวนส่วนผสมด้วยไฟปานกลางค่อนข้างอ่อนจนส่วนผสมสุกและข้น
พอเห็นส่วนผสมสุกและข้นดีก็ยกลงจากเตาได้เลยค่ะ อย่ากวนนาน
เพราะว่าเวลาครีมเย็นตัวจะจับตัวกันแข็งมากเกินไปทำให้ปาดเครปยาก
เมื่อยกลงจากเตาแล้วก็ใส่เนยเย็นลงไปเลยค่ะ คนให้เนยละลายเข้ากันส่วนผสม







จากนั้นเอาหม้อครีมวางลงในอ่างน้ำแข็ง กวนอีกให้ส่วผสมคลายความร้อน
ก่อนจะนำไปปาดเครป







เนื้อครีมที่ได้จะเนียนละเอียดดังนี้





ถ้ายังไม่ใช้ทันที หรือใครทำล่วงหน้าหนึ่งคืนให้ใช้พลาสติกคลุม
โดยให้พลาสติกสัมผัสกับครีม หน้าครีมจะได้ไม่แห้ง เตรียมไปปาดเป็นไส้เครป







เครปเค้ก(crepes cake)

เครปเบทเทอร์

เนย ๖ ช้อนโต๊ะ
นมสดจืด ๓ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ ๖ ฟอง
แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๒ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
เกลือหนึ่งหยิบมือ









วิธีทำเครป

๑.ละลายเนยในหม้อใบเล็กๆ จนเนยกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอม
ใครจะละลายเนยเฉยๆก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าให้เนยเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ
กลิ่นจะหอมมาก แทบละเมอเพ้อพกไปเลยขนาดนั้น ใช้ไฟกลาง ห้ามไหม้





กรองเอาเศษไหม้ออกไปหน่อย ให้เหลือเนยใสๆ แล้วพักไว้ก่อน





๒.เอานมใส่หม้อตั้งไปกลาง ให้นมพอร้อน ไม่ต้องให้เดือด แล้วพักไว้ก่อน


๓.ผสมแป้ง ไข่ น้ำตาล รวมกันในเครื่องมิกซ์เซอร์ ตีด้วยสปีดต่ำพอส่วนผสมเข้ากัน
ใครจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ค่ะ แต่บางทีต้องระวังนิดนึง เพราะเครื่องปั่นบางทีจะแรงมาก
เหมือนเครื่องปั่นแม่ปูที่ใช้อยู่ตอนนี้ เครื่องแรงมาก ปั่นแป๊บเดียวเวลาเอาเครปไปทอด
มีความรู้สึกว่าเนื้อเครปจะแน่นๆ เหนียวๆ ไม่อร่อย เป็นเพราะตีแป้งมากเกินไปนั่นเอง






ตีไปค่ะ แป๊บเดียวเท่านั้น พอให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นอันใช้ได้






จากนั้นค่อยๆเทนมใส่ลงไปจนหมด ค่อยๆนะคะ ถ้านมยังร้อนอยู่แป้งจะได้ไม่จับกันเป็นก้อน





ตามด้วยเนยที่ละลายไว้แล้ว





เสร็จแล้ว เทใส่ภาชนะที่เหมาะสมกับตู้เย็นของตัวเอง
เพราะเราจะหมักแป้งเครปไว้ในตู้เย็น ๑ คืน






ตื่นเช้าแล้ว ส่วนผสมเครปจะเห็นเป็นชั้นๆ ก็ใช้ตะกร้อคนๆให้เข้ากัน







๔.ทอดเครป โดยใช้กระทะเทฟล่อนขนาด ๘ นิ้ว
ตักส่วนผสมครั้งละ ๑/๔ ถ้วยตวง ทอดไปจนหมด
ทอดครั้งแรกอาจจะทากระทะด้วยน้ำมันหรือเนยสักเล็กน้อย
พอเคลือบกระทะ ชิ้นต่อๆไปก็ไม่ต้องทาแล้วค่ะ เพราะเครปเรามีเนยแล้ว

เวลาทอดตั้งกระทะให้ร้อน แต่ไฟไม่ต้องแรงมาก ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน
ตักส่วนผสมเทลงไปในกระทะ ให้ส่วนผสมละเลงไปทั่วกระทะขนาด ๘ นิ้ว





ทอดไปประมาณ ๑ นาที พอตรงขอบๆเริ่มเป็นสีน้ำตาลก็กลับด้าน
ทอดเวลาสั้นๆราว ๕ วินาที ก็ตักออกจากกระทะได้






แม่ปูทอดได้ทั้งหมด ๒๔ แผ่น ทอดเสร็จแต่ละแผ่นคั่นด้วยกระดาษไขจะได้ไม่ติดกัน






๕.ประกอบเครปเค้กเป็นชั้นๆ โดยปาดด้วยไส้ครีม
แต่ละชั้นใช้ครีมประมาณ ๓ ช้อนโต๊ะถึง ๑/๔ ถ้วย ทำไปจนหมด
ถ้าอยากให้เค้กเป็นชั้นสูงๆ ก็อาจจะผสมวิปครีมตามสูตรต้นฉบับได้








จะได้เครปเค้กเป็นก้อนดังนี้ ด้านข้างๆมันต่ำกว่าตรงกลาง
แม่ปูก็เลยจับยัดใส่ในพิมพ์สปริงฟอร์มเพื่อรักษาความสมดุลย์
ได้ผลค่ะ เค้กสวยมากขึ้นกว่าเดิม ขั้นตอนต่อไปให้พักเค้ก
ในตู้เย็นโดยที่แม่ปูใส่เครปเค้กไว้ในสปริงฟอร์มนะคะ ๒ ชั่วโมง







๖.เมื่อเค้กอยู่ตัวดีแล้ว เอาออกมาปาดวิปครีม และตกแต่งตามต้องการ







แม่ปูงบน้อย แต่งได้เท่านี้ค่ะ ราสเบอร์รี่สีแดงๆตัดกับสีขาวๆของวิปครีม







ยังไม่ได้ราดซ้อส







สตอร์วเบอร์รี่ซอส-strawberry sauce

แม่ปูทำง่ายๆค่ะ ไม่มีสูตรตายตัว วันนี้ไม่ได้ชั่งตวง
ใช้สตอร์วเบอร์รี่ ผสมกับน้ำส้มคั้นเล็กน้อย
(ถ้าใช้สตอรว์เบอร์รี่ ๒ ถ้วยตวง น้ำส้มก็จะประมาณ ๑/๔ ถ้วยตวง)
น้ำตาลทรายความหวานตามชอบ
ใส่แป้งมัน หรือแป้งถั่วเขียวเล็กน้อยเพื่อความข้นของซ้อส คนแป้งให้ละลาย ตั้งไฟให้เดือด
ต้มให้สตอร์วเบอร์รี่เละๆเลยค่ะ จากนั้นก็ใช้ที่บดมันบดขยี้ให้เล็กๆลงไปอีก
แล้วค่อยกรองเอาแต่น้ำใสๆ ทิ้งกากไป หรือจะหม่ำก็ยังอร่อยอยู่
เสร็จแล้วก็จะได้ซ้อสสีแดงสวยๆดังนี้ ซ้อสแม่ปูยังอุ่นๆอยู่เลยค่ะ
ราดลงไปแล้วมันไม่ค่อยเกาะเค้ก ยังไงถ้าเพื่อนๆทำล่วงหน้าไว้ได้ก็จะดียิ่ง







ลากันด้วยรูปนี้ค่ะ






ขอให้มีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูค่ะ










 

Create Date : 08 ตุลาคม 2554    
Last Update : 9 ตุลาคม 2554 18:29:48 น.
Counter : 634939 Pageviews.  

Hot Chocolate Cake






ช่วงนี้หัวสมองและสองตาเห็นแต่ลูกเทนนิสลอยไปลอยมา
นึกทำขนมอะไรก็ไม่ออก เลยนั่งเสิร์จเน็ตไปมา
ไปเจอกับเค้กช็อคโกแล็ตของเว็บนี้เข้า
ถ้าใครคลิกเข้าไปดู ให้คลิกขยายรูปภาพดูด้วยนะคะ
จะได้เห็นความน่าอร่อยอย่างชัดเจน ถูกใจแม่ปูมากๆ


ดูรูปเสร็จก็เลยตามลิงค์เข้าไปเก็บสูตร
อ่านรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มีคนเคยทำตามสูตรนี้ไปก่อนหน้าแล้ว
ได้ใจความว่าเค้กช็อคโกแล็ตนี้ จะเป็นกึ่งเค้ก กึ่งบราวนี่
ส่วนตัวก็ชอบทั้งเค้กทั้งบราวนี่อยู่แล้ว มาแบบทูอินวันแบบนี้ถูกใจยิ่งนัก
ตามลิงค์แรกที่เค้าทำไว้ออกมาสวยงามน่าทำตามกว่าต้นฉบับซะอีก
แม่ปูก็เลยปริ๊นท์สูตรออกมาทำ โดยมีลิงค์แรกเป็นกำลังใจ
แต่ว่าแม่ปูทำไม่สวยงามเท่าเค้าเลยค่ะ แต่ว่ารสชาตินี่ยอดเยี่ยมถูกใจมาก
ก็เลยต้องนำมาบอกต่อ ให้ความอร่อยขจรขจายไปทั่วถึงเพื่อนๆทุกคน







ฮ็อทช็อคโกแล็ตเค้ก

แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๓ ถ้วยตวง
เนยจืด ๓/๔ ถ้วยตวง
น้ำมันคาโนล่า ๓/๔ ถ้วยตวง
bittersweet chocolate ๔ ๑/๒ ออนซ์ (ขูดเล็กๆ)
น้ำเปล่า ๑ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๓ ถ้วยตวง
โกโก้ชนิดไม่หวาน ๓/๔ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๓ ฟอง
บัตเตอร์มิลค์ (อุณหภูมิห้อง) ๓/๔ ถ้วยตวง
เพียววานิลาแอ๊คแทร็ค ๒ ช้อนโต๊ะ
เบคกิ้งโซดา ๒ ๑/๒ ช้อนชา
เกลือป่น ๑ ช้อนชา


(แม่ปูใช้bittersweet chocolate ๔ ออนซ์
ซื้อมาแท่งนึงหนักเท่านี้เลยใช้เท่านี้
แม่ปูเพิ่มเกลือมากกว่าในสูตร
ถ้าใครต้องการสูตรเป็นออนซ์ ซึ่งชั่งแบบเป๊ะๆก็ดูตามสูตรต้นฉบับได้
สูตรต้นฉบับเค้าลืมน้ำในสูตร แต่เวลาทำมีน้ำ แม่ปูเลยเพิ่มเข้าไปค่ะ)






ช็อคโกแล็ตกัดกินเล่นเปล่าๆก็แสนจะอร่อย





โกโก้ผง




ต้นฉบับใช้พิมพ์ ๙ คูณ ๒ นิ้ว ๓ ใบ แม่ปูทำตามลิงค์ข้างบน
เค้าใช้ถาดเหมือนกับที่แม่ปูใช้อบบราวนี่ คือขนาด ๙ คูณ ๑๓ นิ้ว
ใครสะดวกใช้พิมพ์แบบไหนก็เลือกใช้ได้ตามสบาย
สูตรนี้เยอะด้วยนะคะ ใช้เสิร์ฟแขกได้ ๑๖ คน ถ้าเยอะไปก็ลดลงได้
แม่ปูไม่ได้ทำฟรอสติ้ง เพราะต้องการเสิร์ฟกับไอศกรีม
พอดีไปเจอตามร้านอาหารเค้าเสิร์ฟมาคล้ายๆแบบนี้ค่ะแม่ปูชอบ
เค้กนี้กับไอศกรีม ราดด้วยช็อคโกแล็ตไซรับชุ่มๆ
โอว์!!สวรรค์ของความอร่อย คอช็อคโกแล็ตไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง


ถาดหรือพิมพ์อบรองด้วยกระดาษพาร์ชเม้นท์ แม่ปูไม่ได้ทาน้ำมันหรือเนยก่อน




เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮน์

วิธีทำ

๑.ผสมเนย ช็อคโกแล็ตขูด น้ำเปล่า น้ำมัน ลงในหม้อ
ยกขึ้นตั้งไฟกลาง จนส่วนผสมละลายเข้ากันดี ยกลงตากเตา





ได้อย่างนี้






๒.ร่อนแป้ง โกโก้ น้ำตาลทราย เบคกิ้งโซดา เกลือป่นเข้าด้วยกัน




แม่ปูร่อนแป้งกับโกโก้แยกกัน แล้วคนให้เข้ากันอีกที ยังไงก็ได้ค่ะ




๓.ผสมบัตเตอร์มิ้ลค์ ไข่ไก่ วานิลาแอ็คแทร็ครวมกัน ตีไข่พอแตก พักไว้(ไม่มีรูป)



๔.นำส่วนผสมเนยและช็อคโกแล็ตที่ละลายไว้แล้วเทใส่ลงในอ่างผสมแป้ง
คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน






๕.จากนั้นเทส่วนผสมบัตเตอร์มิ้ลค์ ไข่ไก่ วานิลาลงไป ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ปาดขอบอ่างให้เรียบร้อยด้วยนะคะ





ส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว





๖.เทส่วนผสมใส่ถาดที่ปูรองด้วยกระดาษพาร์ชเม้นท์ไว้







๗.เคาะถาดไล่ลมสักสองสามที
นำเข้าเตาอบ อบนานประมาณ ๓๕-๓๗ นาที แม่ปูอบนานไปนิดนึง
ราวๆ ๔๐ นาที แต่ก็โอเค ใช้ได้ ยังไงก็แล้วแต่เตาอบของใครด้วยนะคะ





สุกแล้วค่ะไวยังกะโม้..




พักเค้กประมาณ ๑๐ นาทีวางบนตะแกรงก่อนเอาออกจากพิมพ์





ผิวหน้าไม่กรอบมากเหมือนลิงค์ที่เค้าทำไว้ข้างบน แต่ใช้ได้ๆ





ดูเนื้อข้างในก็ฉ่ำ ไม่แห้งผาก ผ่านฉลุย





จัดเสิร์ฟ ตัดเค้กขนาดเท่าที่ต้องการ โปะด้วยวานิลาไอศกรีม
ราดด้วยช็อคโกแล็ตไซรับ (แม่ปูซื้อเอาค่ะ) ผลไม้เล็กน้อยจะได้ไม่เลี่ยน
(รูปถ่ายยากมากค่ะ ถ่ายไปสามจาน กินจนจุก อิอิ ได้เท่านี้เลยเลิก)
แต่ว่าอร่อยมั้กๆๆๆๆ..อยากให้ได้ลองชิมกันค่ะ







ขอให้มีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูนะคะ










 

Create Date : 09 กันยายน 2554    
Last Update : 9 กันยายน 2554 2:26:36 น.
Counter : 44541 Pageviews.  

เค้กกำมะหยี่สีแดง(red velvet cupcakes)




มาแล้วจ้าเค้กกำมะหยี่ หลังจากที่ขึ้นรูปไว้จนมีเพื่อนๆเข้ามาถามไถ่
ว่าเป็นเค้กอะไร เมื่อไหร่จะโพสต์สูตรและลงรูปภาพเต็มๆสักที
พอดีครั้งนั้นมั่นใจในความสวยของเค้กค่ะ แต่ไม่มั่นใจในความนุ่ม
ก็เลยยั้งๆที่จะนำสูตรมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้นำไปลองทำชิมกันดู
คราวนี้แม่ปูทำสูตรที่ต่างจากครั้งแรก โดยสูตรนี้แม่ปูได้มาจาก
นิวยอร์คไทม์ โดยดัดแปลงสูตรจาก"The Confetti Cakes Cookbook" by Elisa Strauss
แล้วแม่ปูก็มาดัดแปลงส่วนผสมอีกเล็กน้อยตามความชอบของตัวเอง
ในสูตรใส่น้ำตาล ๒ ๑/๔ ถ้วย ซึ่งคิดว่าหวานมากสำหรับตัวเอง
ก็เลยลดสัดส่วนตรงนี้ลงเหลือ ๑ ๓/๔ ถว้ยตวง ไม่อยากลดลงมาก
ไปกว่านี้ เกรงว่าลดมากเกินไปเค้กจะไม่ออกมาชุ่มฉ่ำนุ่มดังใจหวัง
และก็ลดส่วนที่เป็นโกโก้ลงเล็กน้อย ตัดเนยในสูตรออกไป
ส่วนวิธีทำก็ทำตามแบบฉบับที่ตัวเองเคยทำแบบในความเคยชิน
ถ้าใครสนใจทำตามสูตรต้นฉบับก็คลิกตามลิงค์ข้างบนไปอ่านดูได้ค่ะ




สูตรเค้กกำมะหยี่นี้ตามปรกติเค้าใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องใส่น้ำส้มสายชูด้วย
ดูมันแปลกๆ ไม่ใส่ได้ไหม คำตอบก็คือไม่ใส่ก็ได้ ไม่บังคับ
แต่ถ้าอยากให้เค้กฟู นุ่ม ชุ่มละมุนละไม ก็ควรจะใส่ดีกว่า
ตามตำราเค้กกำมะหยี่ว่าไว้ว่า เบคกิ้งโซดา จะไปทำปฏิกิริยากับน้ำส้มสายชู
ทำให้เกิดฟองอากาศเล็กๆในส่วนผสมขณะที่เราตะล่อมส่วนผสมอยู่
จะทำให้เค้กที่ได้เบา ฟูฟ่อง นุ่ม นวลเนียนดุจดังแพรกำมะหยี่
ดังภาพคัพเค้กที่แม่ปูได้โชว์ถึงเนื้อนุ่มๆข้างในดังนี้ค่ะ พอจะกระแทก
กระทั้นหัวใจคนที่รักเค้กได้บ้างหรือเปล่าคะ^_^

จริงๆในสูตรเค้าให้ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูรวมกันก่อน
มันจะเกิดฟองฟู่ๆ แล้วเอาไปผสมกับส่วนผสมในอ่างผสม
แต่ว่าแม่ปูไม่ได้ทำแบบนั้นค่ะ แค่ผสมเบคกิ้งโซดารวมกับของแห้งอื่นๆ

เค้กชิ้นนี้แม่ปูทิ้งไว้ข้ามคืนด้วยซ้ำไปค่ะ ก่อนที่จะมาโชว์เนื้อในให้ดู
จะเห็นว่าแม้ข้ามวันข้ามคืนมาแล้ว เค้กที่ได้ยังฟู นุ่มละมุนอยู่เลยค่ะ





แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ตามความคิดของแม่ปู แค่น้ำส้มสายชูอย่างเดียว
ก็ไม่ใช่กุญแจไขความนุ่มทั้งหมด ส่วนประกอบต่างๆมันช่วยกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการตวงแป้ง จำนวนน้ำตาลที่ใช้ บัตเตอร์มิ้ลค์ การตีไข่
น้ำมันที่ใช้ในส่วนผสม การตะล่อมแป้งหรือแม้กระทั่งความร้อนในเตาอบ
ทุกๆอย่างเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เค้กนุ่มได้ค่ะ

สูตรนี้ทำคัพเค้กได้ทั้งหมด ๒๔ ถ้วย แต่วันนี้แม่ปูหยอดส่วนผสมมือหนักไปหน่อย
ได้มาทั้งหมด ๒๒ ถ้วย แบ่งไปให้สาวๆที่ทำงานพ่อบ้าน ๑๔ ถ้วย
ให้เพื่อนบ้านเอาไปกินเล่นที่ทำงาน ๒ ถ้วย ที่เหลือก็ให้เด็กๆที่บ้าน
เด็กๆที่บ้านชอบกันมากๆ สาวๆที่ทำงานพ่อบ้านฮือฮาในความอร่อยกันใหญ่
บอกว่าช่างเป็นเค้กที่อร่อยล้ำเหลือเกิน ฝากคำขอบคุณมาเต็มกระบุง
พร้อมกับมีสาวๆ ๒ คนฝากถามมาว่าถ้าหากจะขอให้แม่ปูทำขายให้จะได้ไหม
ส่วนพี่เจนนี่เธองอนแม่มาก ที่แม่แบ่งคัพเค้กไว้ให้เธอนิดเดียว
บอกแม่ว่างั้นวันเกิดหนูเดือนหน้า แม่ต้องทำให้หนูใหม่ด้วย
ก็คงจะทำตามคำบัญชา ลูกสาวสุดที่รัก...

สูตรนี้ต้นฉบับใช้พิมพ์ขนาด ๙ นิ้ว ๓ ใบ แต่แม่ปูทำเป็นคัพเค้ก
ได้ทั้งหมด ๒๔ ถ้วย อบไฟ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮน์ นาน ๒๓ นาที

*ถ้าไม่มีบัตเตอร์มิลค์ ให้ใช้นมสดจืด ๑ ๑/๓ ถ้วย ผสมน้ำมะนาว ๑ ๑/๒ ชต.
ทิ้งไว้ประมาณ ๕-๑๐ นาที ส่วนผสมจะข้นขึ้น
*หรือใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ขนาด ๔-๖ ออนซ์ ผสมกับนมให้ได้ปริมาณเท่าบัตเตอร์มิลค์ตามสูตร
*ใช้น้ำมันคาโนลา หรือน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน จะได้ไม่มีกลิ่นน้ำมันติดขนม



เค้กกำมะหยี่สีแดง(red velvet cupcakes)


แป้งสาลีเอนกประสงค์ร่อนแล้วตวง ๓ ๑/๒ ถ้วยตวง
เบคกิ้งโซดา ๒ ช้อนชา
เกลือป่น ๑ ๑/๒ ช้อนชา
ผงโกโก้ ๑/๔ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๓ ฟอง
น้ำตาลทราย ๑ ๓/๔ ถ้วยตวง
น้ำมันคาโนล่า ๒ ถ้วยตวง
วานิลาแอ๊คแทรค ๑ ๑/๒ ช้อนชา
บัตเตอร์มิลค์ ๑ ๑/๓ ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชู ๒ ช้อนชา
สีผสมอาหารสีแดง ๑ ออนซ์

สีผสมอาหารสีแดงในสูตรต้นฉบับใช้ ๓ ออนซ์
แม่ปูใช้ออนซ์เดียวสีก็แดงอย่างสุดขีดแล้วค่ะ
หรือจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ก็อาจเป็นไปได้





วิธีทำ

เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮน์


๑.ร่อนแป้ง เกลือ เบคกิ้งโซดารวมกัน พักไว้ก่อน







๒.ตอกไข่ใส่ในอ่างผสมขนาดใหญ่ ตีไข่ให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อไฟฟ้าสปีดกลาง





ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไปทีละน้อยจนหมด ตีจนส่วนผสมข้นเป็นครีม
ยกตะกร้อขึ้นส่วนผสมไหลลงเห็นเป็นรอยพับได้ ใช้เวลาประมาณ ๕ นาที





๓.ค่อยๆเทน้ำมันใส่ในอ่างผสมไข่ตีส่วนผสมให้เข้ากัน
ขั้นตอนนี้ใส่วานิลาลงไปได้เลย





ส่วนผสมจะข้นๆดังนี้






๔.ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไปทั้งหมด ตีส่วนผสมให้เข้ากันดี
ใส่น้ำส้มสายชูลงไปได้เลยค่ะ






๕.ใส่แป้งครึ่งหนึ่งลงในอ่างผสมไข่ ตะล่อมส่วนผสมพอเข้ากัน





แล้วจึงใส่บัตเตอร์มิลค์ลงไป ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
จึงใส่แป้งที่เหลือลงไปจนหมด ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน
การละล่อมแป้งตะล่อมเบาๆแต่ให้ทำไวๆค่ะ






ค่อยๆตักส่วนผสมใส่ในพิมพ์กระดาษ จริงๆต้องได้ทั้งหมด ๒๔ ถ้วย
แต่วันนี้แม่ปูมือหนักไปหน่อย ทำได้ ๒๒ ถ้วยค่ะ เอาเข้าเตาอบ
อบนานประมาณ ๒๓-๒๕ นาที หรือจนเค้กสุก โดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มดู
จิ้มไม้ลงไปตรงกลางเค้ก ถ้าไมมีเศษแป้งติดไม้ก็แสดงว่าเค้กสุกแล้ว
นำออกจากเตาอบ พักบนตตะแกรงให้เค้กคลายความร้อนก่อนประมาณ ๑๐ นาที
จึงเอาออกจากถาด วางพักให้เค้กเย็นบนตะแกรง





เค้กกำลังฟูอยู่ในเตาอบ เกือบสุกแล้วค่ะ





พอครบกำหนดถึงเวลาเค้กสุก เอาออกมาได้เลยจ้า





อีกรูปนะ พักให้เย็นก่อน ระหว่างนี้ก็ไปทำครีมชีสฟรอสติ้งกันค่ะ






ครีมชีสฟรอสติ้ง


ครีมชีส ๒๒๗ กรัม (เย็นไม่เป็นไร)
เนยนุ่มๆ ๑๑๓ กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง ๔๐๐ กรัม

วิธีทำ

๑.ตีครีมชีสให้เนียน




๒.ใส่เนยลงไปตีให้เข้ากันจนส่วนผสมข้นฟู




หน้าตาดังนี้




๓.ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไป หาผ้าคลุมอ่างไว้ด้วยก็ดีค่ะ
น้ำตาลจะได้ไม่กระจายเต็มห้อง





ตีไปเรื่อยๆจนน้ำตาลหมด (ใช้เวลาไม่นานมากค่ะ)







๔.จะได้ส่วนผสมครีมฟรอสติ้งข้นๆเนียนๆดังนี้ นำไปปาดเค้กได้เลยค่ะ
ถ้าปาดหรือบีบครีมไม่หนามาก ก็จะปาดคัพเค้กได้พอดีตามสูตรนี้ค่ะ
ของแม่ปูบีบใส่ บางอันหนา บางอันบาง แต่ก็พอดีค่ะ




แบบนี้โปะอย่างหนา สำหรับคนที่ชื่นชอบครีมหวานๆ





ลักษณะการบีบครีมบนหน้าคัพเค้กคล้ายๆอะไรหว่า..แหะๆ
คล้ายๆเจดีย์เนอะ..อืมม์..สวย อิอิ เอาเข้าไป...





ซูมๆๆ





อีกครั้งกับเนื้อในที่ว่านุ่มนักนุ่มหนา





ซักคำไหมคะ ภาพนี้แม่ปูปรับพื้นหลังให้เป็นสีดำเองค่ะ






ส่วนรูปต่อไปนี้เป็นสูตรที่แม่ปูทำแล้วไม่ค่อยนุ่มค่ะ
จะเห็นว่าหน้าเค้กจะแห้งๆด้านๆ จริงๆว่าจะทำฉลองวาเลนไทน์
แต่ว่าไมทัน ยังไงก็แล้วแต่ ความรักใช่ว่าจะมีเฉพาะวันวาเลนไทน์วันเดียวซะเมื่อไหร่เนอะ..






จับหันซ้าย หันขวา








สูตรนี้แม่ปูใช้วิปครีมโปะเอาค่ะ จืดไปหน่อย สูตรข้างบนสะใจกว่า







ขอให้มีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูนะคะ






 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2554 20:59:35 น.
Counter : 311966 Pageviews.  

รัมฟรุ้ตเค้ก(Rum Fruit Cake)




ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กอดคอเมาฟรุ้ตเค้กแสนอร่อยกับแม่ปูค่ะ







เนื้อนุ่มหนักพองาม ฉ่ำเล็กน้อย อร่อยโพดดดดดด






มาแล้วจ้าฟรุ้ตเค้กแสนอร่อย ช่วงนี้แม่ปูมาอัพบล็อกช้าหน่อย
เพราะมัวแต่ยุ่งช่วยเด็กๆเปิดกล่องของขวัญจากซานต้า
ได้ของขวัญหลายอย่าง ในที่สุดพี่เจนนี่ก็ได้ไอพอดทัชมาครอง
ปีนี้ซานต้าใจดีสุดๆ ให้ลูกไม่พอ ให้ไอพอดทัชแม่ด้วยอีกเครื่องหนึ่ง โอ้หลั่นล้า..

พอเชยชมของขวัญจากซานต้าอย่างหนำใจแล้วก็รีบวิ่งเข้าครัว
ปีนี้ยังไม่ไม่ได้ทำขนมมาฝากเพื่อนๆเป็นของขวัญปีใหม่เลย
ทำอะไรดีๆ..ที่ง่ายๆแต่อร่อย..ตู๊ดๆๆๆติ๊งๆๆๆ...มาลงเอยที่ฟรุ้ตเค้ก

ปรกติแม่ปูไม่ชอบซื้อฟรุ้ตเค้กตามร้านรับประทานเลยค่ะ
มีความรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลย หลายๆเจ้าชอบใส่เชอร์รี่สีเขียวๆแดงๆ
โอว์.มันช่างไม่อร่อยเลยอ่ะ ความไม่ชอบส่วนตัวค่ะ บางคนอาจว่าอร่อยก็ได้
ทำเองนี่ดีที่สุด เลือกผลไม้ได้ตามความชอบของตัวเอง
หลายๆคนใส่พวกถั่วต่างๆด้วยค่ะ แต่แม่ปูไม่ชอบนัตหรือถั่วในฟรุ้ตเค้ก
ใครชอบจะโหมประโคมใส่ก็ไม่ว่ากันค่ะ

ฟรุ้ตเค้กมีอยู่สองแบบ คือแบบสีอ่อน และสีเข้ม
light fruitcake คือเค้กสีอ่อนอย่างที่แม่ปูทำวันนี้
และdark fruitcake แบบที่สีเข้มๆคล้ำๆ
ทั้งสองอย่างอร่อยเหมือนๆกันค่ะ แต่ต่างกันแค่ผลไม้ที่ใช้
แบบเข้มก็จะใช้ผลไม้ที่สีเข้มๆ ใช้น้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลโมลาสผสม
เค้กสีอ่อนๆก็ผลไม้ที่สีไม่เข้มมาก แต่อร่อยทั้งนั้นค่ะ
ฟรุ้ตเค้กดั้งเดิมปรกติจะไม่มีส่วนผสมของผงฟูหรือเบคกิ้งโซดา
เค้กจะฟูด้วยไข่ค่ะ ด้วยประดาผลไม้อันมากมายที่ประโคมใส่
เนื้อเค้กจะแน่น แต่ว่านุ่ม หอมอร่อย ทำเสร็จวันแรกจะไม่รับประทานทันที
แต่จะห่อหุ้มด้วยพลาสติก และกระดาษฟรอยด์หมักไว้สองสามวันก่อนรับประทาน
เนื้อเค้กจะนุ่มชุ่มฉ่ำ กลิ่นหอมผลไม้นานาชนิดแทรกด้วยเหล้ารัมเย้ายวนใจนัก

แต่มันช่างหักห้ามใจได้ยากยิ่งนัก เพราะขณะที่อบนั้น
กลิ่นเค้กหอมชวนเชิญเหลือเกิน พอเอาออกจากเตาอบได้
แม่ปูก็หั่นเค้กป้อนเข้าปากตัวเองไป ๑ ชิ้นโตๆ แหะๆ ขออภัยที่ไม่ทำตามกฏ


ฟรุ้ตเค้ก ส่วนใหญ่ใช้ผลไม้แห้งหมักกับเหล้าข้ามวันข้ามคืน
เพื่อให้ผลไม้นุ่มชุ่มฉ่ำ เวลาผสมทำเค้กจะได้ไม่แห้งๆแข็งๆ
ใครที่ไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอลเลยแม่ปูไม่แน่ใจว่าจะชอบเค้กนี้ไหมนะ
ปรกติแม่ปูไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล แต่ชอบใช้ปรุงอาหาร ทำขนม
และฟรุ้ตเค้กนี้ก็อร่อยถูกใจยิ่งนัก แต่อย่างไรก็ตาม....
เพื่อๆที่ไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล สามารถลดปริมาณเหล้ารัมลงได้
แล้วผสมกับน้ำผลไม้อย่างอื่นให้เท่ากับปริมาณในสูตรนะคะ
สำหรับคนที่อะไรก็ได้ไม่ขัดข้อง ก็ตามแม่ปูเข้าครัวไปทำฟรุ้ตเค้กกันเลยค่ะ


อ้อ..ฟรุ้ตเค้กที่มีแอลกอฮอลผสมนี้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานเป็นชาติค่ะ ฮ่าๆๆ
ยิ่งนานยิ่งอร่อย เค้า(เค้าไหน?..)ถึงทำแล้วส่งข้ามประเทศ ข้ามทวีป
ข้ามโลก ให้ญาติๆไปรับประทานกันได้โดยไม่กังวลว่าเค้กจะเสีย

คุณพ่อบ้านเคยเล่าให้ฟังว่า มีโจ้กขำๆนานมาแล้วเล่าต่อๆกันมาว่า คุณแม่บ้านท่านหนึ่ง
ทำฟรุ้ตเค้กนี้มอบให้เพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านก็นำไปมอบให้เพื่อนบ้านอีกต่อ
วนไปวนมาจนในที่สุดฟรุ้ตเค้กก้อนนั้นก็ได้กลับคืนมาอยู่ในมือแม่บ้านท่านนั้นอีก
ก็หวังว่าเวลาเพื่อนๆนำฟรุ้ตเค้กนี้ไปให้ญาติสนิทมิตรที่รักแล้ว
ฟรุ้ตเค้กนี้จะไม่กลับคืนมายังเพื่อนๆอีกนะคะ อิอิอิ



รัมฟรุ้ตเค้ก


แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๑ ๑/๔ ถ้วยตวง
เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา
goumd all spice ๑/๒ ช้อนชา(ถ้าไม่มีใส่ลูกจันทร์ป่นแทน)
อบเชยป่น ๑/๒ ช้อนชา
เนยจืดนุ่มๆ ๑๗๐ กรัม
น้ำตาลทรายขาว ๓/๔ ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายแดง ๑/๔ ถ้วยตวง
วานิลาแอ้คแทรค ๑ ช้อนชา
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๓ ฟอง





ส่วนผลไม้หมัก

แครนเบอร์รี่แห้ง ๖๐ กรัม
อินทผาลัมแห้ง ๖๐ กรัม
แอ้ปเปิ้ลอบแห้ง ๖๐ กรัม
แอ้พปริคอตแห้ง ๑๐๐ กรัม
สับปะรดอบแห้ง ๑๐๐ กรัม
เหล้ารัม ๑ ถ้วยตวง


ตอนแรกว่าจะใส่ลูกเกดด้วย แต่ตรวจดูอีกทีเก่าเกินเก็บเลยไม่ใส่






หน้าตาผลไม้แห้งที่แม่ปูหาซื้อได้ในซุปเปอร์แถวบ้าน






หั่นเรียบร้อยแล้ว





เทผลไม้แห้งที่หั่นแล้วใส่หม้อพร้อมเทเหล้ารัมลงไป
ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง พอให้ส่วนผสมร้อนก็ยกลงทันที
เหล้าจะได้ซึมเข้าเนื้อผลไม้ง่ายๆ หมักใส่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย ๒๔ ชั่วโมง
หมักเช้าวันนี้ ก็ทำเค้กได้ในเช้าวันต่อไปค่ะ แต่ให้เอาออกมาวางไว้
ในอุณหภูมิห้องลดความเย็นลงก่อนนะคะ กรองน้ำที่เหลือออกไปด้วย




หมักเรียบร้อยผลไม้ดูดเหล้ารัมเข้าไปเกือบหมด
น้ำหมักที่เหลืออยู่ประมาณ ๓ ช้อนโต๊ะ ห้ามทิ้งนะคะ
เก็บไว้ทาหน้าเค้กตอนที่อบเสร็จแล้วด้วย






วิธีทำ



๑.ร่อนแป้ง เกลือ goumd all spice อบเชยป่นรวมกันพักไว้






ร่อนแล้ว






๒.ผสมเนย น้ำตาลรวมกัน ตีด้วยตะกร้อไฟฟ้าสปีดกลาง





ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี ประมาณ ๒-๓ นาที




๓.ใส่ไข่ลงไปตีทีละฟอง ตีไปประมาณ ๒๐ วินาทีจึงใส่อีกฟองลงไปจนหมด
จากนั้นใส่วานิลาลงไปตีให้เข้ากัน






๔.ใส่ส่วนผสมแป้งลงไปตีด้วยสปีดต่ำแค่พอเข้ากันก็พอค่ะ
แล้วใช้พายยางช่วยปาดด้านข้างอ่างผสมด้วย






ได้ออกมาหน้าตาดังนี้





๕.ใส่ผลไม้ที่หมักกับเหล้ารัมลลงไป ใช้พายยางตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน






๖.เทส่วนผสมใส่พิมพ์ขนาด ๘ นิ้ว คูณ ๔ นิ้ว (แต่พิมพ์แม่ปูใหญ่กว่านิดนึงค่ะ)
พิมพ์ไม่ต้องทาอะไรค่ะ แต่ปูด้วยกระดาษพาร์ชเม้นท์ด้วย
ใครมีพิมพ์ทรงกลมก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ
นำเข้าเตาอบ อบด้วยอุณหภูมิ ๓๒๕ องศาฟาเรนไฮน์ ๑๕ นาที
แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮน์ อบต่ออีก ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที





เค้กที่กำลังอบอยู่ในเตาอบ กำลังฟูขึ้น ตอนใกล้จะสุกกลิ่นหอมมากๆๆๆ







๗.ผ่านไปจนถึงเวลาที่กำหนดไว้ เอาไม้ปลายแหลมจิ้มดู
ไม่มีเศษแป้งติดขึ้นมา หรือถ้ามีเศษติดมาแค่นิดๆก็ไม่เป็นไรค่ะ ใช้ได้
เพราะเค้กนี้มันจะชื้นหน่อย เอาเค้กออกมาวางบนตะแกรง
พักเค้กไว้ในพิมพ์ประมาณ ๒๐ นาที ก่อนนำเค้กออกจากพิมพ์






หันก้นให้ดูสวยน่ากิน หง่ำๆ







พอเค้กเย็นลงแล้ว ก็ให้ทาหน้าเค้กด้วยน้ำหมักที่เหลือทาให้ชุ่มเลยค่ะ
หรือถ้าใครมีไม่พอจะทาด้วยเหล้ารัมก็ได้ หรือแยมผสมน้ำอุ่นเล็กน้อยก็ใช้ได้ค่ะ






ใช้แปรงจุ่มน้ำหมักแล้วทาๆๆให้ทั่ว





ทาเรียบร้อย





พอเค้กเย็นสนิทให้ห่อด้วยพลาสติกใส แล้วก็ห่อด้วยอลูมินั่มฟรอยด์อีกชั้น
หมักไว้อีกประมาณ ๒-๓ วันก่อนตัดเสิร์ฟ จริงๆถ้าทำฟรุ้ตเค้กช่วงคริสต์มาส
เค้าให้ทำไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นอาทิตย์เลยค่ะ เค้กจะได้อร่อยๆมากยิ่งขึ้น
แต่กลิ่นหอมชวนน้ำลายหกจริงๆค่ะ อดใจไม่ไหวเลย ต้องตัดชิมทันที
กินไปชิ้นโตๆ โอว์มายก็อดดด..อาหย่อยที่ซู้ดดดดดดดดด...
แต่ยังไงแล้ว หมักไว้ก่อนจะยิ่งอร่อยค่ะ








จับยืนโชว์ความอร่อย






ดูตรงไหนก็น่ากินไปหมด






ถ้าเพื่อนๆจะนำไปมอบให้เป็นของฝากวันปีใหม่
ก็ตกแต่งด้วยผลไม้แห้งให้ตูมๆตู้มๆไปเลยค่ะ
พอดีแม่ปูทำกินเอง เลยไม่แต่ง ผลไม้แห้งที่เหลือก็กินเล่นจนหมด แหะๆ
ตัดแบ่งให้เพื่อนบ้านชาวไอริสไปชิมสองชิ้น
ไม่กล้าให้ทั้งก้อน กลัวเค้กวนกลับคืนมาหาตัวเองอีก ฮ่าๆๆๆๆ

((พอเขียนบันทัดข้างบนเสร็จแล้ว เมื่อกี้เพื่อนบ้านแวะมาหาพอดีค่ะ
บอกว่าฟรุ้ตเค้กอร่อยมากๆๆๆ แม่ปูก็เลยบอกว่าที่ไม่กล้าให้เยอะ
เพราะกลัวว่าจะไม่ชอบ เพราะรู้ว่าหลายๆคนไม่ค่อยชอบฟรุ้ตเค้ก
แต่เธอว่าเธอชอบมาก อร่อยกว่าที่ซื้อในร้าน
แม่ปูก็เลยแบ่งให้ไปอีก ตอนนี้เหลืออยู่ชิ้นเดียวก็จะหมดแล้วค่ะ ยัมมม...
ยังไม่ทันมีเวลาได้หมักเค้กไว้ตามตำราเลย ฮ่าๆๆ......))


สุขสันต์วันปีใหม่ขอให้มีความสุขกายสบายใจทุกที่ทุกเวลาและนาทีค่ะ


ขอให้มีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูนะคะ






 

Create Date : 30 ธันวาคม 2553    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2556 5:04:42 น.
Counter : 166657 Pageviews.  

ช็อคโกแล็ตหน้านิ่มแบบแท่ง(Chocolate Cake)






วันก่อนนึกครึ้มอกครึ้มใจ ทำเค้กช็อคหน้านิ่ม
สูตรคุณแพรเจ้าเก่าให้เด็กๆที่บ้านกินกัน
ก็อบเค้กใส่พิมพ์กลมๆธรรมดาปรกติ
ทำเป็นแบล็คฟอเรสต์เค้ก เด็กๆกินกันเอร็ดอร่อย
ทำแต่กลมๆก็เบื่อนะ ทีนี้นึกอยากทำทรงอื่นบ้าง
คิดไปคิดมา ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่น่าจะง่ายสุด
ก็เลยจัดการอบเค้กใส่ถาด ยาว๑๖ นิ้ว กว้าง๑๑ นิ้ว สูง๑ นิ้ว
จัดการตกแต่งปั๊บๆๆ..วันรุ่งขึ้นให้พ่อบ้านถือไปฝากสาวๆที่ทำงาน
หมดเกลี้ยงภายในวันเดียว ไม่เหลือแม้แต่เศษ..
เพราะว่าพ่อบ้านล้างถาดก่อนเอากลับมาบ้าน ฮ่าๆ
แต่ว่าหมดเกลี้ยงค่ะ เค้กคุณแพรสูตรนี้ขายดิบขายดีตลอดกาล
กลับมาบ้านพ่อบ้านก็ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ไม่รู้สนุกอะไรนักหนา
บอกว่า ขนาดคนกินวีแกน ยังมาตัดเค้กกินเลย ฮ่าๆ
ก็ล้อว่า..เราไปทำให้คนกินวีแกนตะบะแตก..เอาละสิ..ฮ่าๆ

รูปสำเร็จที่มีเชอร์รี่ประดับแม่ปูถ่ายภาพตอนเช้าๆก่อนพ่อบ้านไปทำงาน
ส่วนรูปอื่นๆถ่ายตอนเย็นๆแล้ว สีของเค้กเลยแตกต่างกันไปด้วยค่ะ






มีหลายๆคนเข้ามาถามแม่ปูว่าไม่มีเอสพีใช้ ทำยังไงดี ซื้อที่ไหน
บอกตามตรงว่านอกจากที่เมืองไทยแล้วแม่ปูก็ไม่รู้แหล่งซื้อค่ะ
ว่าจะไปถามที่แผนกเบเกอรี่แถวบ้านดู ก็ไม่สบโอกาสเหมาะสักที
แต่ว่าในเมื่อเราอบเค้กได้ฟู นุ่ม อร่อยอย่างนี้โดยที่ไม่ใช้สารเอสพี
แม่ปูก็ไม่เดือดร้อนอะไร ชิฟฟ่อนเค้กก็อร่อยฟูนุ่ม แค่ตีไข่ขาว
ให้ขึ้นฟูผสม เราก็จะได้เค้กนุ่มๆอร่อยกิน ติดใจกันไปทั้งบาง..








เค้กก้อนนี้พอทำเสร็จ แม่ปูไม่ได้ตัดเป็นชิ้นๆนะคะ
ใจหนึ่งอยากจะตัด แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้เป็นก้อนเดียวสวยๆ
ให้เพื่อนๆที่ทำงานพ่อบ้านเห็นสวย ไม่ดูแหว่งดูเว้า ไม่น่าดู
อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ถ้าเราตัดแล้วเราซ่อมใหม่ให้ดูสวยเหมือนเดิมก็คงได้
แต่ไปๆมาๆ เวลาไม่อำนวยด้วย ก็เลยตัดใจไม่ตัดเป็นชิ้นๆมาโชว์ค่ะ
แต่ว่าเค้กสูตรนี้ การันตีความอร่อยอยู่แล้วรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง







ช็อคโกแล็ตหน้านิ่มสูตรคุณแพรที่แม่ปูเคยทำไว้แล้วค่ะ


ก่อนอบเค้กก็ทำหน้าเค้กไว้ก่อนค่ะ ทำเสร็จแล้วใส่ตู้เย็นไว้
ให้ส่วนผสมข้น จะได้นำมาปาดเค้กได้ง่ายๆ
ทั้งครีมปาดหน้าเค้ก ทั้งตัวเค้ก เป็นสูตรจากช็อคโกแล็ตหน้านิ่มล้วนๆค่ะ







ส่วนตัวเค้ก..หลังจากที่จัดการทำทุกอย่างตามขั้นตอนทั้งหมด
แต่คราวนี้แทนที่เราจะเทใส่พิมพ์กลม แม่ปูก็เทใส่ถาดแทนค่ะ
ถาดขนาด ยาว๑๖ นิ้ว กว้าง๑๑ นิ้ว สูง๑ นิ้ว


อบด้วยอุณหภูมิ ๔๐๐ องศาฟาเรนไฮน์ ประมาณ ๑๓-๑๕ นาที
เตาอบแม่ปูเลอะไปหน่อย วันขอบคุณพระเจ้าโยนมันหวานเข้าไปอบ
ไม่ได้รองด้วยถาด น้ำหวานจากมันหยดใส่ในเตา ยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย









จะสุกแล้วค่ะ กลิ่นเริ่มหอมชวนน้ำลายหกแล้วค่ะ ใช้ไม้ปลายแหลม
จิ้มลงไปในเนื้อเค้กเพื่อเช็คดูว่าสุกหรือยัง ถ้าไม่มีเศษเค้กติดไม้ขึ้นมาก็สุกแล้วค่ะ







พอเค้กสุกแล้ว เอาออกจากเตาอบ พักเค้กไว้สักประมาณ ๕-๑๐ นาที
ก่อนที่จะคว่ำเค้กวางลงบนตะแกรง พักเค้กให้คลายความร้อนก่อน

ถ้าใครยังไม่แต่งหน้าเค้กทันที พอเค้กเย็นแล้ว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ
คลุมเค้กไว้ก่อนได้ค่ะ เค้กจะได้ไม่แห้ง แต่ผ้าต้องแห้งหมาดๆนะคะ





เมื่อเค้กเย็นแล้ว จัดการแบ่งเค้กออกเป็นสามส่วนเท่าๆกัน
แม่ปูไม่ได้ตัดขอบออกเลยค่ะ กลัวว่ายิ่งตัดยิ่งจะเบี้ยวเลยไม่ตัด
แต่ตัดขอบด้านกว้างออกไปข้างละหน่อยนึงค่ะ
ตอนเทส่วนผสมใส่ถาด แม่ปูเกลี่ยส่วนผสมไม่ค่อยเท่ากันเค้กเลยเอียงไปบ้าง









ค่อยๆยกเค้กที่ตัดไว้แล้วมา ๑ ชิ้น ปาดด้วยครีมที่เตรียมไว้แล้ว
แม่ปูวางเค้กบนถาดค่ะ ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไม่ได้ซื้อแผ่นรองเค้กมา
ร่ำๆจะออกไปซื้อ จะได้วางเค้กให้ดูสวยๆ แต่ก็ขี้เกียจไปแล้วจะมีขายหรือเปล่าก็ไม่รู้อีก
ก็เลยเอาวางบนถาดนี่เลยค่ะง่ายดี ไม่เปลืองด้วย อิอิ กินเค้กหมดก็แล้วกัน









ปาดๆไปค่ะ ใส่ครีมไม่มากไม่น้อยจนเกินไป โปะล้นมากเดี๋ยวครีมไม่พอด้วย
จากนั้นก็เอาตัวเค้กชิ้นที่สองวางซ้อนทับลงไป แล้วปาดครีมอีกชั้นหนึ่ง
แล้วจึงเอาตัวเค้กชิ้นที่สามวางทับลงไปอีก จากนั้นก็โปะๆปาดๆครีมให้ทั่ว






ไม่ต้องปาดเนียนกริ๊บนักก็ได้ ยังไงก็จะโรยช็อคโกแล็ตขูดทับอีกที
เอาว่าปาดให้เรียบเสมอกันก็ใช้ได้ค่ะ






จากนั้นก็เอาช็อคโกแล็ตขูดโปะลงไปให้ทั่ว
ช็อคโกแล็ตแม่ปูใช้ช็อคโกแล็ตบาร์ ๘๕ เปอร์เซ็นต์ Dark
สีจะสวยเข้มหน่อยค่ะ ไม่หวาน เพราะครีมกับเค้กก็หวานอยู่แล้ว







ด้านข้างก็ตะแคงถาดซะหน่อย แล้วค่อยโรยช็อคโกแล็ตขูดลงไป
ส่วนที่ร่วงๆหล่นๆก็เก็บๆขึ้นมาโรยต่อ เวลาที่ขูดช็อคโกแล็ต..
แม่ปูขูดใส่แผ่นพลาสติกแข็งที่สามารถม้วนได้บ้างนะคะ
คือสามารถทำเป็นกรวยได้ เราจะได้ค่อยๆโรยช็อคโกแล็ตลงมา
โดยที่เราไม่ต้องหยิบจับช็อคโกแล็ตขูดโดยตรง เผื่อละลายในมือ..






เรียบร้อย






จากนั้นก็ประดับด้วยเชอร์รี่ หรืออื่นๆอะไรก็ว่าไป
เชอร์รี่แบบนี้สำหรับแม่ปูมันดูน่ารักดีค่ะ แต่ว่ารสชาติไม่ได้เรื่อง..








เคาท์เตอร์ที่ยืนทำเค้ก ฮีๆ ที่ขูดชีสก็เอามาขูดช็อคโกแล็ต











ขอให้มีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูนะคะ












 

Create Date : 03 ธันวาคม 2553    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2556 5:05:36 น.
Counter : 107952 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ปูขาเก เซมารู
Location :
Florida United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3028 คน [?]




สไลด์โชว์..JUST EAT IT!!!!
เชฟนิคชวนทำบานาน่าป๊อบ

Tiramusu-Small


My Facebookpookhakae saemaroo
My Name is Nicky
THIS BLOG IS BEST VIEWED
AT 1280 X 1024 DISPLAY SETTING
My Home Page
Interview แม่ปูได้รับเกียรติ
ให้สัมภาษณ์นิตยสารสกุลไทย

....ขออภัยเพื่อนๆอย่างสูง แม่ปูไม่รับTagจ้า....
กล้องที่แม่ปูใช้ถ่ายภาพอาหารในบล็อก






>
pot-roast Fettuccine-Carbonara-1
New Comments
Friends' blogs
[Add ปูขาเก เซมารู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.