|
ช่างฝีมืออาหารไทย: ได้จับตะหลิวแล้ว 4
ช่างฝีมืออาหารไทยสวนดุสิต รุ่น 73 สัปดาห์ที่ 9 เรียนปฏิบัติครั้งที่ 4
ครั้งนี้อาจารย์ผู้สอนคืออ.ดา กฤษณา อุกฤษฏ์รัตน์ อ.เพิ่งกลับมาจากไปset ร้านอาหารที่อเมริกามา 4 เดือน อ.มีร้านอาหารชื่อ บ้านวิชาดา แถวๆมีนบุรี...น่าไปชิมนะ
ด้วยความที่มีประสบการณ์เป็นผู้ประกอบการด้วยกระมังอาจารย์ดูคล่องแคล่วว่องไว เกร็ดความรู้เรื่องการเก็บรักษาอาหารได้นานวันรวมถึงเน้นความสวยงามในการตัดหันแต่งและจัดจานมากเป็นพิเศษ...ดีใจดีใจ
สัปดาห์นี้ได้คู่กับพี่พู่ พี่พู่น่ารักมาก เป็นสัปดาห์แรกที่อาจารย์ชมว่าอาหารอร่อย รสชาติดีเกือบทุกรายการ ปลื้มจริงๆ พี่พู่เป็นเทพีแห่งความสำเร็จเลยนะนี่ อิอิ
เช่นเคยวันนี้เริ่มจากการอธิบายรายละเอียดและขั้นตอนการทำอาหาร ดูอาจารย์สาธิตอาจารย์บอกว่าช่วงเช้าให้ทำ 4 อย่าง มีข้าวตังหน้าตั้ง แกงเขียวหวานไก่ ผัดเปรี้ยวหวานปลากระพง ยำหมูย่าง ช่วงบ่ายให้ดูอาจารย์สาธิตแล้วก็เย็บกระทงใบเตยทำตะโก้
ช่วงพักกลางวันหลังทำอาหารช่วงเช้าเสร็จก็แทบจะไม่อยากกินอาหารที่ทำไปเพราะหิวแต่น้ำเลยได้ห่อกลับบ้านกัน พวกเราทำกันได้รวดเร็วว่องไวสี่โมงเย็นก้ได้กลับบ้านแล้ว พร้อมอาหารให้ที่บ้านชิม
อาจารย์สาธิต

อาหารที่เราทำกันสัปดาห์นี้

~ข้าวตังหน้าตั้ง: เวลาทอดข้าวต้องน้ำมันร้อนจัดและไม่ให้เหลืองจนเกินไป ตัวหน้าข้าวตังสีต้องออกแดงเรื่อๆ รสชาติเค็ม หวานละมุน รสไม่จัด ถ้าต้องการให้เป็นมังสวิรัต ไม่ใส่หมู่หรือจะใส่ข้าวโพดแทนก็ได้ ~แกงเขียวหวานไก่: สีต้องออกเขียว กะทิแตกมันไม่มาก เวลาผัดพริกแกงต้องให้หอมจัดเสียก่อน รสชาติ เค็มกับหวานพอๆกันให้กลมกล่อม ~ปลากระพงผัดเปรี้ยวหวาน: เนื้อปลากระพงต้องหมาดและเวลาชุปแป้งไม่ต้องกดมาก ทอดในน้ำมันร้อนจัด ผักที่ผัดออกมาต้องไม่สุกมากเกินไปจนสีเปลี่ยน รสชาติ เค็ม เปรี้ยว หวาน หากไม่เปรี้ยวบีบมะนาวลงไปได้ ~ยำหมูย่าง:ใช้เนื้อสัน ย่างไฟแรงกลับหลายๆรอบ เนื้อจะต้องไม่แห้งเกินไป รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวานนิดเดียว ~ตะโก้แห้ว : ตัวขนมกับหน้าต้องไม่แยกจากกัน หากไม่มีเวลาเย็บกระทง หยอดใส่ถ้วยวุ้นพลาสติกก็ได้ เวลาหยอดให้หยอดไปในทางเดียวกันหน้าจะเรียบ รสชาติ หวานอ่อนๆ เค็มอ่อนๆ กลมกล่อม หอมใบเตยและน้ำลอยดอกมะลิ
บรรยากาศตอนพัก...ท่าทางไม่ค่อยจะเหนื่อยเลย -_-'

~MagicApple~
Create Date : 11 พฤษภาคม 2552 | | |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 19:25:42 น. |
Counter : 2533 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ช่างฝีมืออาหารไทย: ได้จับตะหลิวแล้ว 3
เรียนทำอาหารที่โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิตสัปดาห์ที่ 8 เรียนปฏิบัติครั้งที่สาม
เห็นจะชินกับอาการขี้เกียจไปเรียนเพราะมันจะเกิดอาการนี้ทุกวันศุกร์ แต่ก็ชินแล้วล่ะ ..ขี้เกียจจนชิน ;P
เสาร์นี้ออกจากสระบุรีด้วยความลิงโลดพราะมีแผนกะจะแวะแม็คตรงเซียร์รังสิต แล้วก็สมอารมณ์หมายได้มื้อเช้าอร่อยๆหลังจากอดๆอยากๆมาหลายเพลา
อาจารย์ที่สอนวันนี้ คือ อ.นวลเพ็ญ ธรรมษา อาจารย์เป็นกันเองมากๆ เธอน่ารักดี ชอบทำขนมเหมือนกัน แถมได้สูตรวอฟเฟิลมาให้ลองทำดูด้วย เดี๋ยวเอาไปลองทำดูก่อนแล้วค่อยเอามาลงบล๊อก
เหมือนเช่นกันกับทุกครั้ง อาจารย์มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องการทำอาหารมาเล่ามาบอก ดีใจที่ได้เรียนที่นี่จริงๆ เริ่มด้วยการอธิบายการทำแต่ละเมนูอย่างละเอียดและดูอาจารย์สาธิต บรรยากาศการเรียนก็ดีขึ้นๆทุกครั้งเนื่องจากมีการสนิทสนมกันมากขึ้น มีแซวมีขอชิมข้ามกลุ่ม แถมเมื่ออาจารย์สาธิตเสร็จแต่ละจานเริ่มไม่ค่อยตั้งใจดูกันละแยกมาชิมก่อน ฉันเลยไม่ได้มีรูปอาหารของอาจารย์มาโชว์..ไม่ทันแร้งลงจริงๆ >_<
ช่วงเช้าอาจารย์ให้ทำไล่จากห่อหมก แกงกะหรี่ ทับทิมกรอบและส้มตำ จากนั้นพักกลางวันชิมฝีมือตัวเอง ซึ่งกว่าจะได้ทำก็ปาเข้าไป 11โมงครึ่งแล้วนี่ล่ะเป็นสาเหตุที่อาหารที่อาจารย์สาธิตหายเข้าท้องแต่ละคนในพริบตา พอทำเสร็จบ่ายสองก็กินกลางวันได้ไม่มากนักเพราะอิ่มเหลือเกินไม่รู้อิ่มอะไร
ช่วงบ่ายได้ทำกระทงทองสนุกมากแล้วก็อร่อยมากด้วยคนที่บ้านชอบกันมาก คราวนี้ได้คู่กับคุณหมอ น่ารักดีเราสองคนเหมือนค่อยๆทำ นองนอยกันอยู่สองคน อาจารย์บอกว่ารสชาติอาหารชาววังมาก ขอรสจัดอีกนิดนะจ้ะ hahaha
วันนี้ทำเร็วดี สี่โมงครึ่งก็ได้กลับกันแล้วแถมมีกับข้าวให้ที่บ้านได้ชิมอีกเช่นเคย
อาจารย์กำลังสาธิต

อาหารที่พวกเราทำคราวนี้

ลืมถ่ายรูปทับทิมกรอบตอนทำที่โรงเรียนเสียดายมาก เลยแก้มือด้วยการทำวันนี้ อร่อยดี สีสวย น่ารัก

~ห่อหมก:ต้องคนเนื้อปลากับพริกแกงให้เนียวได้ที่ ถ้าใช้ปลากรายแท้ๆ เวลานึ่งตัวห่อหมกจะไม่เหี่ยว เนื้อปลากรายแท้ๆจะชมพูอ่อนใสๆ ผักที่รองควรบีบน้ำออกให้หมดก่อน ใบตองสำหรับทำกระทงต้องเอาไปย่างไฟหรือตากแดดก่อนจะได้ไม่แตกเวลาเย็บ ~แกงกะหรี่:ต้องใจเย็นในผัดพริกแกงกับกะทิให้มีกลิ่นหอม น้ำต้องข้นและน้ำอาจาดต้องเป็นยางมะตูม ~ทับทิมกรอบ:แช่แห้วในน้ำหวานานๆจะทำให้สีสวยมากขึ้น ทับทิมกรอบแป้งต้องไม่ร่อนออกทำได้โดยไม่แช่น้ำนาน ต้มนานเกินไป น้ำเชื่อมต้องเป็นยางมะตูม ~ส้มตำไทย:ผสมน้ำมะขามเปียกลงไปทำให้ความเปรี้ยวไม่แหลมเกินไป เส้นมะละกอจะต้องไม่เละจนเกินไป ~กระทงทอง:ผัดไส้ให้แห้งจะทำให้กระทงไม่แฉะก่อนเวลาอันควร แป้งกระทงที่ดีต้องตั้งได้ ใส่ไส้เป็นลาบหรือยำทูน่าจะอร่อยไปอีกแบบ
MagicApple
Create Date : 26 เมษายน 2552 | | |
Last Update : 26 เมษายน 2552 22:28:31 น. |
Counter : 2911 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ช่างฝีมืออาหารไทย: ได้จับตะหลิวแล้ว 2
เรียนทำอาหารสัปดาห์ที่ 7 เรียนปฏิบัติครั้งที่สอง
หยุดเรียนไปสองสัปดาห์เนื่องจากติดสงกรานต์ ก่อนถึงวันเรียนทางโรงเรียนโทรเตือนว่าเปิดเรียนตามปกตินะคะ ^^ สัปดาห์นี้ไปเรียนแบบขี้เกียจสุดๆ แต่พอลงมือทำมันก็สนุกไปหมดเหมือนเดิม
อาจารย์ที่เจอแต่ละสัปดาห์ในภาพปฏิบัติจะไม่ซ้ำคน อาจารย์แต่ละคนล้วนมีความรู้ความสามารถและสอนสนุกมาก คราวนี้คืออาจารย์ อมราภรณ์ วงษ์ฟัก อาจารย์เป็นผู้รู้ ผู้ชำนาญในด้านอาหารไทย มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาสอนมากมาย
อาจารย์เป็นคนเขียนหนังสือ"แกงไทย" ของสำนักพิมพ์แม่บ้าน ซึ่งลองอ่านดูแล้วสิ่งที่อยู่ในหนังสือก็คล้ายกับสิ่งที่สอนแตกต่างแค่รายละเอียดบางอย่างเท่านั้น ฉันคิดว่าน่าจะมีเล่มอื่นด้วยแต่เจอที่ร้านหนังสือเพียงเท่านี้ และมีเว็บไซท์เกี่ยวกับอาหารคือ //www.kow-krua.com/
เช่นเคย เริ่มจากการอ่านสูตรและอธิบายสูตร พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าครัวดูอาจารย์สาธิต ในภาคเช้าทำ สาคูเปียกลำใย ถุงทอง และต้มยำกุ้ง ดูสาธิตเสร็จก็ลงมือทำแล้วก็ทานกลางวันด้วยสิ่งที่เราทำนั่นแล ภาคบ่ายให้ทำแกงเผ็ดเป็ดย่างและหมี่กรอบ ได้เอามาฝากคนที่บ้านอีกด้วยเช่นเคย เหมือนเป็นธรรมเนียมคือมื้อเย็นวันเสาร์ที่บ้านจะได้กินทานอาหารที่ฉันทำจากโรงเรียน
อ้อลืมไป ทุกครั้งที่ทำอาหารแต่ละจานเสร็จก็นำไปส่งให้อาจารย์ชิมและประเมินผลเป็นเหมือนการสอบไปในตัว
ลงมือทำเองคราวนี้ไม่เหนื่อย เพราะอาจารย์ไม่เร่งให้เราร้อนใจเหมือนคราวที่แล้วแต่ก็น่าขอบคุณอาจารย์ที่สอนคราวที่แล้วทำให้พวกเราทำงานเร็วดี ตอนเช้าเริ่มทำตอน11โมง อาจารย์ให้เวลาถึงบ่ายสองแต่พวกเราทำเสร็จกันประมาณเที่ยงครึ่ง ..พอใช้ได้นะนี่
ช่วงบ่ายทำกันได้เร็วมากเพราะแอบเตรียมของ ช่าง ตวง หั่น ระหว่าพักเที่ยง ดูอาจารย์สาธิตเสร็จก็เริ่มทำประมาณบ่ายสองครึ่ง บ่ายสามโมงครึ่งพวกเราก็เสร็จ มีเวลาเหลวไหลก่อนกลับบ้านด้วย >__<

อาจารย์สาธิต

อาหารฝีมืออาจารย์

อาหารฝีมือกลุ่มเรา

ทุกคนกำลังง่วน
~ ต้มยำกุ้ง: รสชาติเค็มเปรี้ยว ไม่ใส่น้ำตาล แยกมันกุ้งออกมาผัดไม่ใช้น้ำมันให้แตกมันแล้วนำไปโรยใส่ในหม้อจะทำให้มีสีสวยงามมีมันลอย ~ แกงเผ็ดเป็ดย่าง: รสชาติเค็มนำหวานนิดเดียว สามารถใช้ลิ้นจี่มาแกงได้ และผลไม้เปรี้ยวๆอื่นๆก็สามารถใช้ได้ เป็ดต้องชิ้นโตหน่อยเพราะต้องเคี่ยวจะได้ไม่เละ ~ หมี่กรอบ: รสเค็ม หวาน เปรี้ยวแฝงๆ อย่าทอดหมี่ให้เหลืองมากเพราะเวลาคุลกสีจะออกมาดำ หากจะเก็บให้นานๆก็ไม่ต้องใส่เนื้อสัตว์ปล่อยให้เย็นปิดฝาเก็บได้ 15วัน ~ ถุงทอง: ทำได้ทั้งแบบคลุกไส้แล้วห่อกับแบบผัดไส้ซึ่งแบบหลังจะเก็ยแช่เย็นเอาไว้ใช้ได้นานกว่า หากจะเก็บได้นานห่อแล้วปิดฝาไม่ให้ไอน้ำเข้าแช่งช่องฟรีซเก็บได้หลายวัน ~ สาคูเปียกลำใย: สามารถใส่ตาลอ่อนหรือมะพร้าวอ่อนลงไปได้ รสชาติหวานเค็มด้วยกะทิ
~MagicApple~
Create Date : 19 เมษายน 2552 | | |
Last Update : 19 เมษายน 2552 23:58:06 น. |
Counter : 1784 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|