|
ช่างฝีมืออาหารไทย 90 ช.ม.สวนดุสิตวันสุดท้าย
ช่างฝีมืออาหารไทยสวนดุสิต รุ่น 73 สัปดาห์ที่ 12 เรียนปฏิบัติครั้งที่ 7

ป้ายหน้าห้องปฏิบัติการ
จะว่าไปก็น่าใจหายเรียนมาตั้งหลายสัปดาห์ ทุกวันเสาร์ต้องขับรถเข้ากรุงเทพ ไปเรียนทำอาหาร ตอนแรกไม่ค่อยรู้สึกอะไรพอรับใบประกาศพร้อมร่ำลาเพื่อนๆ มันรู้สึกว่างเปล่าแฮะ ..T-T
เรียนจบคอร์สนี้ไปเมื่อวันที่ 30 พ.ค. บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ทำอาหารได้รสชาติดีขึ้นแบบปราศจากผงชูรส..ถามได้จากคนรอบข้าง จากคนที่ทำอร่อยแต่ขนม ทำยำไม่ได้เรื่อง ต้มยำยิ่งไปกันใหญ่ พอเรียนๆไปรู้ทิศ จับทางได้ รู้ว่าควรปรุงอย่างไรให้ได้รสตามที่อยากได้ ถึงแม้จะไม่ได้เก่งและเชี่ยวชาญแต่ก็ถือว่าเรียนไปไม่เสียดายเงินจริงๆ
พอจบคอร์สแล้วทางโรงเรียนจะถามความต้องการการฝึกงานซึ่งถ้าต้องการก็ฝึก 300 ชั่วโมงที่โรงแรมของมหาวิทยาลัย เลือกวันได้ตามตกลงกับทางโรงแรม หรือต้องการไปฝึกงานที่ร้านอาหารหรือโรงแรมอื่นๆทางโรงเรียนก็ยินดีจะทำเอกสารเดินเรื่องให้ หากผ่านการฝึกงานก็สามารถไปทำงานต่างประเทศได้....ดีจังเลยแต่ฉันไม่ได้ลงฝึกงานไว้
คอร์สสุดท้ายนี้ผู้สอนคือผศ.ดร.นฤมล นันทรักษ์ อ.ท่านใจดีมากสอนสไตล์คนทำอาหารไทย..เรียนคอร์สนี้ทำให้รู้ว่าการทำอาหารต้องใจเย็น และอดทน เหมือนเขาว่าจะกินของอร่อยต้องใจเย็นนั่นแล
เริ่มจากทางโรงเรียนให้ไปถึงเช้าเป็นพิเศษหน่อยเพื่อถ่ายรูปทำหนังสือรุ่น และเลือกกลุ่มเพื่อจะทำอาหาร คราวนี้เปลี่ยนที่เรียนจากครัวไทยมาที่ครัวยุโรปเพื่อให้ได้เห็นได้ลองใช้อุปกรณ์ที่ต้องเจอจริงหากไปทำงานเมืองนอก พออาจารย์มาถึงก็เริ่มอธิบายสูตรและวิธีทำอาหารวันนี้มี 5 อย่างเหมือนเดิมแต่ที่เปลี่ยนไปคือวันนี้เราจะได้ทำคนละอย่างเพราะจะต้องทำปริมาณมากเพื่อจัดบุฟเฟ่ เพราะฉะนั้นหนึ่งสูตรต้องคูณ 4 เข้าไป เวลาเลือกกลุ่มก็เลือกอาหารที่เราอยากทำ แต่ละกลุ่มจำนวนคนจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขั้นตอนการปรุงอาหารกลุ่มไหนเสร็จก่อนไปช่วยเพื่อนได้เลยไม่ต้องเกรงใจ อาหารวันนี้ได้แก่ ปอเปี๊ยะทอด ปลาราดพริก ข้าวอบสัปปะรด แกงมัสมั่นไก่ บัวลอยเผือก ...ฉันเลือกปอเปี๊ยะทอด..กะว่าง่ายไง..แต่มันก็ไม่ง่ายเลยนะ


นั่งฟังอาจารย์อธิบาย
ต่อมาดูอาจารย์สาธิต วันนี้กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงแล้ว อาจารย์บอกว่าทุกอย่างต้องเสร็จ บ่ายสาม..

อาจารย์และผู้ช่วย

ตั้งใจฟัง

หัดห่อปอเปี๊ยะ

สถานที่
น้องที่มาเป็นผู้ช่วยอ. เป็นนักศึกษาที่เรียนอาหารอยู่สวนดุสิตและชนะเลิศฟูดสไตลิสมาแล้วน้องต้อมเป็นคนจัดอาหารตัวอย่างนี้ เสียดายลืมเอากล้องไป..มือถือพอกล้อมแกล้มเนาะ
อาหารที่อ.สาธิต

ปอเปี๊ยะ

แกงมัสมั่น

ปลาราดพริก

ข้าวอบสัปปะรด


บัวลอยเผือก 2 เวอร์ชั่น
การทำอาหารจำนวนมากหากวางแผนดีทุกอย่างจะราบรื่นและเร็ว โชคดีที่เพื่อนๆในกลุ่มน่ารักและไม่เกี่ยงงานกัน มีเพื่อนจากกลุ่มอื่นๆมาช่วยห่อบ้างพอครื้นเครง ส่วนกลุ่มบัวลอยนั้นมีทั้งเพื่อนและผู้ช่วยอาจารย์ไปช่วย เฮฮาสนุกสนาน กลุ่มที่ไปช่วยชาวบ้านก็จะเป็นกลุ่มมัสมั่นเพราะรอแกงเคี่ยวให้ได้ที่ และกลุ่มข้าวอบสัปปะรดเพราะต้องรอให้เพื่อนๆทำใกล้เสร็จจึงจะผัดข้าวได้

ลงมือทำ

เตรียมทำน้ำจิ้มและตั้งน้ำมันทอดปอเปี๊ยะ

คนทอด ..ตั้งใจเนาะ

พี่ณีจัดผักแกล้มปอเปี๊ยะ

น้ำจิ้ม

เสร็จแล้วเตรียมจัดเสริฟ

อันนี้กลุ่มบัวลอย..น่ารักมากๆ มีเผือกกับมะพร้าวอ่อนกดเป็นรูปดอกไม้ลอยกะทิไว้ด้วย

ปลาราดพริกเสร็จแล้ว
พอเสร็จแล้วก็นำอาหารขึ้นไลน์เรียงลำดับจาก appetizer ปอเปี๊ยะ ปลาราดพริก ข้าวอบ(ผัด)สัปปะรด แกงมัสมั่น บัวลอย และผลไม้กับพั้นช์ที่ทางรร.เตรียมมาเสริม
อาจารย์ให้โอวาทและมอบประกาศนียบัตร ถ่ายรูปหมู่ มีแจกหนังสือรุ่น(ขาว-ดำ) และเจ้าหน้าที่มาแจ้งเรื่องการฝึกงาน และก็รับประทานอาหารกัน

ภาพรวม

ปอเปี๊ยะ..กลุ่มฉันเอง การทำไส้ต้องเอาส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าเบาๆมือก่อนผัด เสร็จแล้วพักไส้ให้เย็น..ไส้ต้องแห้ง แล้วนำไปห่อให้แน่นและเท่าๆกัน ทอดไฟอ่อนๆจะได้กรอบทั้งหมด น้ำจิ้มต้องข้นเหนียวให้เวลาจิ้มติดน้ำจิ้มขึ้นมาด้วย ผักที่กินกับป่อเปี๊ยะก็มีใบโหรพาและผัดกาดหอม

ปลาราดพริก ต้องเอาแป้งคลุกปลาที่ล้างทำความสะอาดแล่ตัดแต่งซับให้แห้ง แล้วทอดไฟกลาง พักไว้จึงมาทำน้ำราดให้มีรส 3 รส

ข้าวอบสัปปะรด ผักที่ใส่ต้องมีขนาดชิ้นเท่าๆกันเพื่อจะได้สุกทั่วถึงหาทำแค่ที่เดียวให้เสริฟไปในสัปปรดคว้านเนื้อซับให้ภายในแห้งนำข้าวที่ผัดแล้วมาใส่ในลูกสัปปะรด นำไปอบ5-10นาทีให้มีกลิ่นสัปประหอมขึ้นมา ทำจำนวนมากจึงไม่ได้ใส่ไปในลูกสัปปะรด สูตรที่นี่ไม่ใส่ผงกะหรี่

แกงมัสมั่น ให้คั่วลูกกระวานและใบกระวานให้หอมก่อนนำมาผัดกับพริกแกง พริกแกงสุกแล้วเวลาผัดพริกแกงจึงไม่ต้องรอกะทิแตกมัน ใช้ส่วนของไก่ที่เป็นเนื้อแดงจะทำให้แกงรสชาติดีและเนื้อนุ่มไม่แข็ง..ใช้เวลาเคี่ยวค่อนข้างนาน

บัวลอยเผือก นวดแป้งกับเผือกบดให้เข้ากันลองดูว่าเวลาปั้นกลมแล้วแป้งแตกหรือไม่ถ้าแตกแสดงว่ายังไม่ได้ที่ เวลาปั้นให้คลึงเป็นเส้นยาวแล้วตัดหรือเด็ดให้เท่าๆกันค่อยเอามาปั้น หากชิมดูน้ำมะพร้าวอ่อนที่นำมาใช้รสหวานก็ใส่ลงไปในน้ำกะทิได้ สูตรที่ได้มาตัวแป้งจะไม่เหนียวเพราะมีปริมาเนื้อเผือกมากเวลากินจะละลายในปาก ตัวน้ำกะทิจะเป็นนมๆไม่ข้นเหมือนที่ขายทั่วไป กินได้มากไม่เลี่ยน..สูตรนี้อร่อยมากจริงๆ ต้องลองทำดูเสียแล้ว

พั้นช์ที่ทางโรงเรียนเตรียมมาให้

ผลไม้ที่ทางโรงเรียนเตรียมมาอีกเช่นกัน..งดงาม

เรียนจบแล้ว..คิดว่าคุ้มค่าที่ทุ่มเทเวลาและสตางค์เนื่องจากนำมาใช้ได้เยอะและต่อยอดอาหารไปได้อีกหลายจานจากที่เรียนไปทั้งหมด 34 รายการรวมขนม ได้เรียนรู้การวางแผนในการทำงาน การทำงานเป็นทีม และการวางตัวการเข้ากับกับคนที่พบเจอใหม่ๆ สุนกมากและประทับใจ
ไม่เสียแรงที่ทุ่มเท
Create Date : 08 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 18:28:05 น. |
|
14 comments
|
Counter : 9009 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: nu-an วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:19:14:57 น. |
|
|
|
โดย: romanticpanda IP: 58.8.110.69 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:21:30:59 น. |
|
|
|
โดย: MagicApple วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:20:31:18 น. |
|
|
|
โดย: MagicApple วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:20:44:14 น. |
|
|
|
โดย: Auporz IP: 58.9.142.114 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:23:09:26 น. |
|
|
|
โดย: booklovers IP: 124.120.252.204 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:11:11:38 น. |
|
|
|
โดย: oath in saraburi IP: 202.149.25.193 วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:22:06:47 น. |
|
|
|
โดย: อยากรู้ IP: 125.26.200.99 วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:18:43:49 น. |
|
|
|
โดย: จ๋า IP: 58.11.28.45 วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:13:17:09 น. |
|
|
|
โดย: ฝน IP: 192.168.1.117, 115.87.146.252 วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:19:31:35 น. |
|
|
|
โดย: คะน้า (KaNa-IRC ) วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:13:52:40 น. |
|
|
|
โดย: ขอให้เจอคนมาทำเธอบ้าง ให้เจ็บหนักหนากว่าที่ทำเขาไว้ มุจรินทร์ ฆะระบุตร IP: 134.196.149.27 วันที่: 30 กรกฎาคม 2559 เวลา:19:08:58 น. |
|
|
|
| |
|
|
ที่คุณเปิลทำสำเร็จดังใจนึก
และนึกอะไรต่อไปอีกรึเปล่าคะ....เช่นนึกถึงร้านเล็กๆ
บรรยากาศ น่านั่ง กินข้าว อร่อย สะอาด ...และสวยงาม