สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว…สิ่งนั้นดีเสมอ...
Group Blog
 
All blogs
 

วังน้ำเขียว: @เดิน ดิน ดู ดาว 12-13 มิ.ย.

ถ้ามันเล็กไปก็คลิ๊กที่รูปนะจ๊ะ



















~MagicApple~




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 10:09:29 น.
Counter : 2580 Pageviews.  

Lex's ร้านเสต็กที่มวกเหล็ก: สระบุรี

ตั้งท่าอยู่หลายเพลาผ่านมาเป็นปีเพิ่งฉลาด อยากลองเสต็กร้านใหม่บ้างได้ยินชื่อเสียงร้าน Lex's มวกเหล็กมานาน แต่ด้วยความเข้าใจผิดผ่านร้านก็นึกว่าเป็นคูหาแรกสุดเห็นผ่านทีไรปิดประตูทุกทีเราก็นึกว่าปิด ผ่านเลยไปซะงั้น หวยไปออกแถวๆทองบวกและแดรี่โฮม เพิ่งฉลาดได้ไม่นานเองว่าร้าน Lex's นั้นกระเถิบเข้าไปข้างในอีกหน่อยนั่นเอง .. แป่ว



ที่ตั้งร้านนั้นถ้าไปจากสระบุรีใช้ถนนพหลโยธิน ผ่านโรงปูน TPI ลงเขาเลี้ยวตามถนนแล้วเตรียมตัวมองทางซ้ายไว้ ร้านอยู่บริเวณโชว์รูม Toyota ก่อนถึงครูต้อ

ขอบอกไว้ก่อนว่าอาหารการกินนั้นเป็นเรื่องลางเนื้อชอบลางยา ปากลิ้นของใครของมัน ความเห็นของฉันร้าน Lex's นั้นแปลกใหม่สำหรับตัวเองและเนื้อสัตว์ที่เอามาทำดูจะเป็นเสต็กมากกว่าแดรี่โฮม เปล่าเลยไม่ได้รังเกียจรังงอนร้านแดรี่โฮมแต่อย่างใด กลับกันฉันเป็นลูกค้าร้านแดรี่โฮมมาตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ จนป่านนี้6-7 ปีเข้าไปแล้ว กินกันได้ทุกเดือน บางเดือนเบิ้ลเลยก็มี ชอบบรรยากาศร้านก่อนขยาย หลายปีก่อนเป็นร้านเล็กๆที่รสชาดอาหารไม่เป็นรองใคร เดี๋ยวนี้ไปทีไรเป็นธุรกิจมากขึ้น รสชาดอาหารเปลี่ยนไป ซอสเสต็กที่เคยอร่อยเด็ดมันเปลี่ยนไปมากจริงๆ คิดถึงแดรี่โฮมเวอร์ชั่นที่พี่ผู้หญิงคอยดูแลลูกค้า ก่อนที่จะขยายร้านใหญ่โต...เสียดาย ร้านอาหารดีๆไม่ได้เจอกันง่ายๆ ...จะมีFCแดรี่โอมตามมาด่าไหมเนี่ย



เข้าเรื่องร้านลุงเล็ก ก็มีเกร็งไปเหมือนกันเพราะอ่านสรรพคุณร้านนี้มามากประกอบกับมีข้อความชี้แจงตรงไปตรงมาตามสไตล์เจ้าของร้านในเมนู...จะทำอะไรผิดไปหรือเปล่าเนี่ย..^^ คิดไปเองค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ชอบๆ เป็นตัวของตัวเองดี เค้าชี้แจงทุกอย่างไว้ในเมนู..



สั่งน้ำส้ม พร้อมกับอาหารทุกอย่างรวดเดียว ... น้ำมาก่อน.น้ำส้มคั้นน่าจะสัก 70%



ไส้กรอกอันนี้อร่อยเด็ดมากๆ อยากซื้อกลับบ้านแต่..มันอิ่มมากกกกก กินแล้วนึกถึงของมึนเมาจริงๆ เอามาเคียงกันล่ะ...สวรรค์



จานเนื้อที่สั่งไปมีเครื่องเคียงอยู่แล้วคือ...สลัด..น้ำสลัดปราศจากครีม รสเปรี้ยวอร่อยสดชื่นแก้เลี่ยนดีแท้...แต่...เยอะมากกกก



เครื่องเคียงจานเนื้ออีกอย่างคือ บิสกิตธัญพืช...เฉยๆแหละ คนที่รักสุขภาพน่าจะชอบ




พอร์คช็อพของฉันกับ PB คนละจานอาจจะเพราะรสชาติใหม่ที่เพิ่งได้สัมผัส รสอาจจะอ่อนไปนิดสำหรับฉันแต่เนื้อหมูพอร์คชอพนั้นชิ้นใหญ่และนุ่มมากจริงๆ เสียดายที่พยายามจะเลิกกินเนื้อเลยไม่ได้ลองกัน เสิร์ฟเคียงมาด้วยข้าวโพดหวานและข้าว..



แซลม่อนซอสขิงของแม่...อร่อยดีจัง...เนื้อปลายังนุ่มและชุ่มดี ... ชอบ


กินเสร็จพี่ที่น่าจะเป็นลูกชายเจ้าของร้านมาถามว่าจะรับของหวานไหม...อิ่มมากแต่อยากลอง...ไอศกรีมซอสมังคุดกับเครปแอปเปิ้ล ...พอใช้ได้ถ้าเป็นเครปอ่อนจะอร่อยเด็ด

ค่าเสียหายนั้นไม่แน่ใจ..จำไม่ได้ว่า 1,2xx หรือ 1,4xxบาท

ถ้ามีโอกาสจะไปลองอย่างอื่น..จะไปอีกๆ

~MagicApple~




 

Create Date : 12 เมษายน 2553    
Last Update : 12 เมษายน 2553 21:50:53 น.
Counter : 1322 Pageviews.  

เที่ยวสิงค์โปร์...ภาคท้ายสุด(3/3)

วันที่ 31 มากรา 53

เริ่มวันใหม่ด้วยความสดใส โชคดีจริงๆที่น้ำร้อนฝักบัวของโรงแรมแรงพอ ใช้น้ำอุ่นจากฝักบัวนวดเท้าช่วยให้ผ่อนคลายได้เยอะเลย

ชมนกชมไม้
check out แต่ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ออกจากโรงแรมเปลี่ยนเส้นทางเดินทาง ..บรรยากาศดีจริงๆเลยนะวันนี้



ทางนี้ใกล้ดีแฮะ



MRT


Kopi Tiam

ฉันไปอ่านเจอที่น่าไปนั่งชิลเช้าๆเยี่ยงนี้ อาหารเช้าใน kopi tiam น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ใกล้กับ orchard จุดหมายในวันนี้อีกด้วย



แถว MRT Somerset และ ถนน Killiney บรรยากาศดีสุดๆ


เป็นย่านที่น่าอยู่ดี...หรือจะเป็นเพราะมันเป็นวันอาทิตย์ตอนเช้าก็ไม่ทราบได้ แต่คราวหน้าน่าจะหาที่พักแถวๆนี้ได้

เกาะ MRT สายสีเขียว ต่อสายสีแดงไปลง สถานี Somerset ที่หมายคือถนน Killinery เพื่อจะไปกินอาหารเช้า ที่ร้านต้นตำหรับ killiney kopi tiam ปรากฏว่าคนตรึม ไม่มีที่นั่ง เอาวะ ร้านข้างๆก็ได้ ร้าน Daily Toast อาหารพอกินได้ ตอนนี้คิดถึงน้ำพริกบ้านเรามากเลย -_-'





ดูรูปเหมือนกินข้าวเหนียวไก่ย่างเลยเนาะ



หมี่สยาม..มันหวานอ่ะ..-_- บ้านเค้าไม่มีแบบนี้นะตัวเอง


Orchard ..ประหนึ่งว่าช๊อปปิ้ง





สิ่งก่อสร้างน่ารักดี



น่าดู



visitor center , รถขายขนมปังห่อไอศกรีม..ไม่ได้ลอง, เฟรนไชส์ของทอด..กระจายอยู่ทั่วเมือง


กินเสร็จ เดินห้างดีกว่า เดินสำรวจ มีห้างสรรพสินค้ามากมายเลือกไม่ถูก ปกติแล้วฉันเป็นคนไม่ชอบเดินห้างเพราะฉะนั้นสำหรับฉันห้างไหนก็ครือๆกันนั่นแหละ

มื้อกลางวันที่...ห้างไหนหว่า ลืมอ่ะ ช่างมันเถอะ แต่อร่อยดี



เสร็จแล้วก็กลับไปเอากระเป๋า ...ไกลอ่ะ แล้วก็ไปสนามบิน อุตส่าห์ไปถึงก่อนเวลาแล้ว เครื่องยัง delayed อีก 1 ชั่วโมง...เซ็งจริงๆ



รูป sky train ระหว่าง terminal , รอเครื่องบิน, ไม่มืดไม่มา


มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพและ ขับรถกลับสระบุรีด้วยความอ่อนเพลีย

-ขอบอกว่าการเดินทางสะดวกมากเพียงแค่หยิบเอกสารแนะนำการเดินทาง ท่องเที่ยวที่เจ้าบ้านจัดไว้ให้ก็สามารถไปไหนต่อไหนได้ตามต้องการ

-ผลไม้แพงมาก ขนาดที่บ้านเราขายเพียง 5-10บาท ที่โน่น ขายถึง ยี่สิบกว่าบาทเลยทีเดียว..บ้านเรากินผลไม้ทีเป็นกิโล ถึงกับเซ็งเลยทีเดยว

-บ้านเมืองสะอาดน่าอยู่จริงๆ

-ที่เห็นของถูกแล้วตาวาวคือค่าตั๋วและที่พัก แต่ค่าใช้จ่ายที่มากกว่านั้นคือค่ากิน hahaha

-คราวหน้าจะไม่ไป orchard เด็ดขาด น่าเบื่อที่สุด

-ภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆใช้ได้ดี เพราะคนแถวนี้ก็พอๆกับเรานั่นแหละ ตั้งใจฟังพวกเขาให้ดีก็แล้วกัน

- ถ้าหลงถามทางเถอะ แล้วคุณจะพบว่าคนสิงค์โปร์ใจดีมากๆ

- ซีอิ๊วดำที่กินกัข้าวมันไก่อร่อยจังไม่รู้ว่าซื้อได้ที่ไหน ไม่หวานและไม่เหม็นด้วย

- หากคุณเป็นนักเดินเที่ยว เตรียมรองเท้าใส่สบายๆ ไม่ต้องสวยมากก็ได้ แล้วคุณจะพบความสุขที่แท้จริง

- ไม่เคยคิดเลยว่าจะชอบสิงค์โปร์แต่ตอนนี้อยากไปอีกครั้ง..จริงๆ

ดูข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่

//www.yoursingapore.com

หนังสือนำเที่ยวที่เวิร์คสุดๆ



~MagicApple~




 

Create Date : 31 มีนาคม 2553    
Last Update : 31 มีนาคม 2553 22:19:08 น.
Counter : 1065 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์...ภาคสอง (2/3)

วันที่ 30 มกรา 53

อาหารเช้า
ตื่นเช้านัดกันออกเดินทาง 9.00น. ได้กาแฟ 3in1 ของโรงแรม..อร่อยดีไม่ค่อยหวาน เดินมาปากซอยของโรงแรม มานั่งลองกินติ่มซำ แล้งก็โจ๊ก..รสชาติไม่ถูกปาก ถ้าเป็นที่ไทย หน้ตาอาหารไม่ตรงกับเมนูได้ขนาดนี้คงมีโดนร้องเรียนแน่ๆ แต่จะว่าไปโจ๊กใส่น้ำมันงานี่กลิ่นมันชวนกินดีเหมือนกันแฮะ



จุดหมายในวันนี้คือ ไชน่าทาวและลิเติ้ลอินเดีย ขึ้นMRT สายสีเขียว ต่อสายสีม่วงไปลง Farrer Park Station โผล่ขึ้นมาเป็นย่านอินเดียชอบจริงๆ



แถวๆสถานีMRT คู่มือท่องสิงคโปร์แบบมีทุกสิ่งที่ต้องการ ..เล่มเดียว เที่ยทั่วเกาะ


Mustafa center

เรามุ่งหน้าไป Mustafa center มีทุกอย่างที่ต้องการของฝาก ของใช้มากมาย แต่จะให้ดีควรไปเยือนในวันสุดท้าย เพราะถ้าทำแบบพวกเราจะเหนื่อยและเพลียในการแบกของเดินไปเดินมามาก



รวมมิตรอาหารรสชาติแปลกๆ

ซื้อของเสร็จเดินหาของกิน พวกเราดันเดินหลงไป เจอ foodcenter ของแปลกอาหารจีน รสชาติไม่ถูกปาก สถานที่ไม่สะอาดและเสียดายตังจริงๆ แต่ระหว่างทางถึงสถานที่นั้น ซอยเล็กซอยน้อย บ้านเมืองเขาน่ารักน่าอยู่จัง โชคดีมากที่อากาศกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป





เข้าทรงแบบแขกๆ

จากนั้นก็เดินเล่นชมเมือง บ้านเมืองน่ารัก วัฒนธรรมผสมผสานแปลกตาดี แล้วก็มาโผล่ที่ บนถนนSerangoon อีกครั้ง บนถนนSerangoon ที่วัดVeeramakaliamman กำลังมีงาน มีเข้าทรงด้วย เพิ่มสีสันและครึกครื้นดีทีเดียว



ชมเมือง..ตึกสวยมาก..ประทับใจ



บนถนน Serangoon



หวาดเสียวจริงๆ


ไชน่าทาวน์

แล้วก้เกาะMRT ไปไชน่าทาวน์ ฝนตกลงมาอีกพอชุ่มชื้น เดินๆไปนึกว่าอยู่กรุงเทพ hahaha ปวดหัวตะหงิดๆ อยากดื่มกาแฟ (ยังไม่เข็ด) แวะร้านกาแฟ Just Bake เค้กทุกเรียนอร่อยสุดๆ ถ้าคราวหน้าไปอีกจะแวะไปกินอีกล่ะ แวะซื้อหนมหน้าตาน่ากิน แล้วเดินชมเมืองต่อ



ไชน่าทาวน์



เค้กทุเรียน..อร่อย



ซื้อขนม


ชมเมือง

ดูสิบ้านเมืองเค้า มีถนนขึ้นเขาลงเขา น่ารักดี เดินไปเดินมา เลียบถนน South Bridge มุ่งหน้า Maxwell เจอโบสถ์ Buddha Tooth Relic Temple & Museum วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว สวยจัง ไม่ได้เข้าไปข้างในดอก พวกเราใส่กาเกงขาสั้น ไม่กล้าจริงๆ ชอบย่านนี้จัง ตึกรามบ้านช่องสวยแปลกตาผสมผสานกัน .. น่าดู





Red Dot Museam

เปิ้ลชวนไปดูตึกแดง...ไปก็ไป กะเหรี่ยงแวะนั่งกินขนมที่ซื้อเมื่อกี้ รสชาติ...อืม ไม่ได้คาดหวังอะไร เดินไปเจอแก๊งเด็กสาวจากเมืองไทย ใส่ leging กันทั้งแก๊ง น่ารักดี ^^



สีสดดี



นั่งพัก ดูว่าซื้ออะไรมา..และเงยหน้าขึ้น...^^





กะเหรี่ยงพวกนี้ถ่ายแต่ตึก hahaha


ไปหาท่าน Sir กัน

มาขึ้น MRT ที่สถานี Tanjong Pagar ไปลง city hall จุดมุ่งหมาย เราจะไปเยี่ยมคารวะท่าน Sir Stamford และ ช้างน้อยจากเมืองไทย จาก สถานี city hall เราเดินไปทาง St. Andrew Cathedral เลียบถนน St. Andrew ผ่าน City Hall ตรงกันข้ามกับ Singapore Cricket Club เหนื่อยมากเดินเกือบไม่ไหวแล้วเดินๆหยุดๆหลายรอบทีเดียว แต่ไม่ผิดหวังที่เลือกเดินทางนี้ มีสถานที่มากมาย แต่มิได้เข้าไปเยี่ยมเยือน เพียงแค่เดินผ่านหน้า และถ่ายรุป แค่นี้ก็อิ่มใจแล้ว



ไป National Museum of Singapore นั่นไงช้างน้อยจากเมืองไทย ของขวัญจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่หน้า The Art House at the Old Parliament เดินต่อไป Asian Civilisations Museum และแล้วเราก็พบ ท่าน Sir สมใจจริงๆ ริมแม่น้ำ เดินไปอีกนิด เจอท่าน sir อีกที่หน้า Victorai Memorial Hall มีเด็กๆ นั่งกินข้าวกันกลุ่มใหญ่ เลยนั่งพักมันตรงนั้น แล้วเราก็เดินไปถ่ายรูปเด็กๆกระโดดน้ำ




ช้างน้อย



ท่านเซอร์และหมู่ตึก



ณ ริมน้ำ


ยังไม่หายเมื่อยเลย เดินกลับไปที่ Robinson ลืมไปเลยว่าหิว แวะกินข้าวที่ Foodcenter ของ Robinson...อร่อยที่สุดตั้งแต่มาเกาะนี้ และกลับโรงแรมนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน



อะรีดอย...;P


แม่มีแอบบ่นว่าคราวหน้ามาไม่ต้องบ้าของถูกก็ได้ เอาแบบไม่ต้องเดินไกล จาก MRT อยู่ในเมืองก็ได้...แหมแม่ มันไม่เจ๋งอ่ะไม่ได้ของถูก..แต่ก็เห็นด้วยนะ hahaha

~MagicApple~




 

Create Date : 28 มีนาคม 2553    
Last Update : 29 มีนาคม 2553 6:28:17 น.
Counter : 798 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์...ภาคแรก (1/3)

ขอบันทึกย้อนหลังกับการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต..เหตุไฉนมัน delayed เป็นชาติเยี่ยงนี้หนอ -_-'

***ขอเตือนผู้ที่เข้ามาอ่านว่าอย่ามาเดินทางตามอย่างพวกเราและจะไม่ได้รายละเอียดมากนักเนื่องจากเกือบจะลืมไปหมดแล้วแถมเราไม่ได้วางแผนในการเที่ยวจะให้ถือว่าเป็นการเที่ยวที่ดี สะดวก สบายก็คงไม่ได้ แต่ทีมของเราสนุกและพอใจมากทีเดียว

Trip นี้เริ่มจากการกระตุ้นความอยากโดยเปิ้ล (ไม่ผิดหรอกชื่อเหมือนกันนี่แหละ) ได้ตั๋วราคาดีๆ โรงแรมราคาเหลือเชื่อ ด้วยความงกทั้งๆที่ไม่เคยคิดอยากจะไปสิงคโปร์เลย ก็ตกปากรับคำแต่โดยดี แต่สถานที่เที่ยวไม่มีในหัวเลยจริงๆ -_-'

ตั๋วเครื่องบิน & ห้องพัก

เดินทางด้วยสายการบิน Jet Star ค่าเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ - สิงคโปร์ - กรุงเทพ คนละ 2,768 บาท ค่าที่พักโรงแรม Fragrance Emerald Hotel 2 คืน แถว Geylang ฉันพักห้องเดียวกับแม่ตก 2 คืน 2,708.60 บาท...ถูกได้เวอร์จริงๆ

ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมถูกจองตั้งแต่เดือนตุลาคม เดินทางเอาจริงก็ 29-31 มกราคมที่ผ่านมา ..เอิงเอย

ไอ้เราก็เคยแต่จัดการทุกสิ่งอย่างเรื่องการเดินทางต่างประเทศให้พี่ๆที่ทำงานจนดูเหมือนไม่มีอะไรยาก ..แต่พอตัวเองไปเองถึงกับใบ้กินเลยทีเดียว ดีที่ไม่ต้องทำวีซ่า ส่วนสุวรรณภูมินั้นขอสารภาพว่าไม่เคยไปจริงๆ

ต้องยกความดีให้เปิ้ล ถ้าไม่มีเปิ้ลคงวุ่นวายน่าดู ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม แถมเป็นไกด์ นำการเดินทางตั้งแต่ออกจากบ้านที่กรุงเทพเลยทีเดียว

วันที่ 29 มกรา 53

ออกจากบ้านที่สามัคคี 6.00 ฉันเอารถไปจอดไว้สนามบินเนื่องจากขากลับจะดึกมากทีเดียวไม่อยากย้อนไปย้อนมา จอดไว้สามวัน ค้างคืนละ 250 บาท ได้ที่จอดอาคาร 2 ชั้น 4 จากนั้นก็ข้ามไป check in ที่ counter L ชั้น 4

แลกเงิน

เหลือเวลาตั้งมากมายเลยไปกินข้าวเช้าก่อนที่ชั้น 3 และ เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยไปกด ATM ที่สุวรรณภูมิและแลกเงินมันที่นั่นเลย ที่ TMB อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 29 มกราอยู่ที่ 23.84 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ แลกมาจำนวนหนึ่ง หรือจะไปแลกที่สิงคโปร์ก็ได้ ต่างกันไม่มาก..ถ้าไม่คิดมากนะ

Immigration
ใกล้เวลาเข้ามาอีกนิด ขึ้นไปชั้น 4 บริเวณช่อง check in เดินเข้าไปอีกเค้าเขียนว่า Passport Control ยืนรออีกหนึ่งชาติ..ไม่รู้เป็นอะไรสิ อยู่แถวไหนแถวนั้นช้าทุกที



คำเตือนเวลาตรวจพาสปอร์ตให้เลือกช่องคนตรวจยังหนุ่มแน่นหรือสาวหน่อย หากเจอคุณลุงอายุเลย 40 ไปแล้วอาจจะยืนรอจนขาชา จากนั้นเดินผ่านเข้าไปใน ส่วน duty free ก่อนออกมาส่วนนี้มีตรวจกระเป๋า ระวังของใช้ที่เป็นน้ำต่างๆจะถูกเชิญนำมาบริจาคให้สนามบินซะ

ไปรอขึ้นเครื่อง บริเวณ Gate F ขออนุญาติบันทึกใส่กระโหลกเอาไว้ว่า บริเวฯ Gate E-F มีร้านกาแฟดีๆมากมาย.. และก็จนได้ มีเรื่องน่าตื่นเต้นเพราะ Final Call แล้วยังเดินไม่ถึง gate เลยได้ วิ่งกันตับแล่บ...สะใจจริงๆ

ได้บินจริงๆแล้วทีนี้ เครื่องเป็นเครื่องบินเล็กแถมขับไม่เห็นนิ่มเลยทั้งขาไปขากลับ แต่เอาน่ะอยากได้ตั๋วถูกนี่นาใช้เวลาบินทั้งหมด 2 ชั่วโมง อากาศบนเครื่องวันนั้นแห้งมากกกกกก อุตส่าเอาหนังสือไปอ่านบนเครื่องแก้เซ็งแต่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย...




นอกหน้าต่างช่างงามเหลือ


ถึงแล้ว

มาถึงสนามบิน Changi Terminal 1 ก็เที่ยงเกือบๆบ่าย สนามบินเขาน่ารักดีนะ ไม่เห็นต้องใหญ่ และสะดวกสบายดี



เดินไปที่ตม.ก่อนผ่านตม.ได้ปั๊มวีซ่า on arrvial ..เสร็จแล้วหาป้ายไปขึ้น Skytrain ไป Terminal 2 อ้อ ก่อนขึ้นบันไดเลื่อนนี้มี Singapore Visitor Information Counter มีทุกอย่างที่เคาน์เตอร์นี้ แผนที่ เอกสารข้อมูลท่องเที่ยวทุกอย่าง เป็นประโยชน์ต่อชีวิตในสิงคโปร์ 3 นี้จริงๆ ก็ไอ้เจ้าแผนที่นี่แหละที่นำให้เดินท่องเทียวในสิงคโปร์ได้หลงน้อยที่สุด hahaha

มื้อแรก

ขึ้น sky train ไป terminal 2 เพื่อที่จะต่อ MRT เข้าเมือง แวะกินข้างมื้อแรกที่สิงคโปร์ ก็ข้าวมันไก่นี่อย่างไรส่วนพี่ลองของ กิน Laksa เหมือนกินขนมจีนเลย ...ร้าน Killiney Kopitiam อร่อยดี




Ezlink บัตรวิเศษ

จากนั้นก็ไปซื้อ ezlink บัตรวิเศษที่จะช่วยให้เราเดินทางในสิงคโปร์ได้สะดวกสบายยิ่ง ราคา 15 เหรียญ มีเงินในบัตร 10 เหรียญ เดินทางได้...เกินกว่าที่จะต้องการ



check in

เราขึ้น MRTสายสีเขียว มาลงที่สถานี Kallang เพื่อ check in ที่โรงแรม ...อ่านข้อมูลที่หลายๆคนเคยเขียนเอาไว้ในเน็ท พอเจอของจริงมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆว่า เสียแต่ว่ามันไกลMRTไปหน่อย ทีมเราไม่ได้ขึ้นรถเมล์เลยสักนิด เลยใช้วิธีเดินเอา ..อากาศดีๆพื้นที่สะอาดๆ เดินเอาก็ดีเหมือนกันนะ มาที่สิงค์โปร์นี่ขอแนะนำให้ใส่รองเท้าที่สบายที่สุดถ้ารักจะเดิน คุณจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นมากทีเดียว >__<


โรงแรม Fragrance Emerald


ไปเที่ยวกัน

พอcheck in เสร็จเราก็เริ่มผจญภัย เริ่มจากเกาะ MRT ไปลงสถานี city hall เดินไปเรื่อยๆตาม city link เจอร้านกาแฟคนนั่งกันตรึม..แหมมันต้องอร่อยสิ..แต่ขอเตือนผู้ที่รักแกแฟรสเข้มข้นแบบไทยกาแฟเย็นใส่นมข้นหวานมัน ท่านจะไม่ได้เจอสิ่งนี้...ลองมาหลายร้านแล้ว ลืมเรื่องกาแฟอร่อยๆไปได้เลย



ช๊อปปิ้ง ช๊อปปิ้ง
เดินไปไม่ทันไรเสียตังซื้อกระเป่าไปสองใบของแม่ 1 ใบของข้าพเจ้า 1 ใบ ยี่ห้อ Otop สิงคโปร์ Charles & Keith กำลังลดราคา จาก $59.90 เหลือ $53.90 เอาใบเสร็จไปขอคืนภาษีที่สนามบินขากลับได้ด้วยนะเอ้อ และยังได้ซื้อช๊อกโกแล็ตแสนอร่อย ROYCE ราคา $15 ..ของเค้าแรงจริงๆ ว่าจะไม่ซื้ออะไรนะนี่


อันริมนั้นแบบเต้าเสียบของสิงคโปร์


อ้อ ซื้อ SIM "M-Card" สำหรับโทรกลับไทยที่ 7-11 ด้วยราคา $15 มีเงินใน sim $20 โทรกลับไทยนาทีละ 3 บาทเอง โทรยังไงก็โทรไม่หมดจะบ้าตาย นี่ SIMหมดอายุเกือนก.ค. ใครต้องการบอกได้เลย



เดินไปเดินมาไปโผล่ที่ Suntech City Hall โอวบ้านเมืองเขาช่างอลังการ สะอาดเรียบร้อยอะไรเยี่ยงนี้ แผนคร่าวๆวันนี้คือไปน้ำพุ และ singapore flyer ส่วนจะไปได้อย่างไรนั้น...ไม่รู้ เดินๆไปเดี๋ยวก็จะรู้เอง Hahaha



ไม่รู้ว่ามีเวลาเปิดปิดน้ำด้วย โชคดีชะมัดได้สัมผัสน้ำด้วย



Fountain of wealth & Suntech Food Center

เดินมาถึง Fountain of wealth ได้เวลาพอดีๆ ได้เดินเอามือแตะน้ำพุเดินวนสามรอบพร้อมอธิษฐาน ... เป็นความเชื่อที่น่ารักดี เดินมากเริ่มหิวเราไปแวะกินข้าวที่ foodcenter ของ suntech มีอาหารหลากหลายดีฉันชักจะชอบอาหารดินเดียแล้วล่ะ



Singapore Flyer

ที่หมายถัดไปของวันนี้คือ Siangapore Flyer ดูจากแผนที่รู้ว่าอยู่ไหน แต่ไม่รู้จะไปอย่างไรก็เดินมันซะเลย...บอกแล้วว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่างเพราะไกลมากทีเดียว วันรุ่งขึ้นเพิ่งจะฉลาด ว่าเราสามารถขึ้นรถไปsigapore flyer ได้ที่ป้ายรถเมล์ข้างโบสถ์ St. Andrews Cathedral แต่เราก็เดิน เดิน เดิน



ระหว่างทางไป Singapore Flyer ชอบเส้นจราจรยึกยัก แปลว่าอะไรก็ไม่รู้


ราคาตั๋วปกติคือ $29.50 แต่มีดปรโมชั่น ถ้าซื้อด้วยบัตร citi bank จะได้ส่วนลด 25%แน่ะ สิ่งที่สังเกตได้คือที่สิงคโปรค์คนที่ทำงานบริการจะใช้ผู้สูงอายุ..ซึ่งก็น่าจะดี ความรู้สึกถึงการมีตัวตนมีคุณค่ามันจะได้ไม่หายไปไหน ..



ได้บัตรมาก็เดินขึ้นไปเลย เวลาที่เรามาช่างเหมาะสม เราได้เห็นสิงคโปร์ทั้งเวลาฟ้าสว่างและฟ้ามืด...สวยดีจริงๆ



สวยงามราวกับเพชรพลอย


Esplanard & Melion Park

พอครบ 1 รอบ ก็น่าจะประมาณ 45 นาที เดินมากเหนื่อยแล้ว เลยจับรถ taxi ไป เอสพลานาด...แป๊บเดียวโดนไป $6 กว่าๆ ได้ใจจริงๆ

เปิ้ลอีกน่ะแหละบอกว่าเอ๊ย เราไปดู merlion ได้เลยนะเนี่ย แค่ข้ามสะพานเอง...แล้วเราก็ไปเจอสัญญลักษณ์ของเกาะ...คุณ merlion นั่นเอง




คืนวันพระจันทร์เป็นใจจริงๆ


เป็นการปิดท้ายวันท่องเที่ยวได้ดีมากทีเดียวเพราะบรรยากาศที่สะพานเดินจาก เอสพลานาร์ดไปหา คุณmerlion นั้นดีมากๆ คืนนั้นมันร้อนจนตัวเหนียวแต่พอได้ลมเย็นๆมาปะทะ มันสบายจนบอกไม่ถูก การจัดดารด้านความสะอาดและเป็นระเบียบของที่นี่ดีมาก ถ้าเป็นที่ประเทศไทยสะพานนี่คงสกปรกมาก

จากนั้นเราก็ไปขึ้น MRT กลับที่พัก พอลงสถานีแม่อยากกินส้มตำ ได้ส้มตำปลาร้าร้านอาหารไทยตรงกันข้ามกับซอยโรงแรม อร่อยที่สุดในรอบวันนี้ทีเดียว....



จบวันแรกแบบสนุกเพลียๆ..ไม่เคยเดินเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยตอนอยู่ประเทศไทย

~MagicApple~




 

Create Date : 28 มีนาคม 2553    
Last Update : 28 มีนาคม 2553 19:04:53 น.
Counter : 2696 Pageviews.  

1  2  3  

MagicApple
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]







Blog Updated

...
Friends' blogs
[Add MagicApple's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.