ร้านบ้านเฮา: สระบุรี
ตั้งใจ๊ตั้งใจ ตั้งมาหลายเพลาจนมันล่วงเลยมาเป็นเดือน ตั้งใจว่าจะรวบรวมร้านอร่อย ร้านบรรยากาศดีๆที่สระบุรี แล้วเอามาลงทีเดียว...แต่เอาเหอะเนอะได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้นไปก่อน
ลาบเป็ดอุดร: สระบุรี
กินลม ชมพายุ : อ่าวเทียน เกาะเสม็ด 2-3 ก.พ.
รวบรวมคณะก่อการไปเดินทางไปเกาะเสม็ดเมื่อ 2-3 ก.พ.ที่ผ่านมาไปเสม็ดคราวนี้ มันชื่น.น..ใจ ดีจริงเชียว หลังจากห่างหายจากการเที่ยวทะเลมาร่วมๆ 3 ปี แถมทริปนี้หรือออกจะสุดพิเศษ...ไปกับสาวๆที่ทำงาน ไปเสม็ด เลยไม่เสร็จทุกรายด้วยประการฉะนี้ ...เริ่มด้วยการออกจากสระบุรี ประมาณ 7 โมง ไปถึงท่าเรือเพตรงข้ามเซเว่นก็ 10โมงกว่าๆแต่ไม่ทันเรือเพราะมัวไปหาที่จอด เฮ๊อเวรกรรม เปิดวันแรกได้ดี ท้องฟ้าต้อนรับคณะเราด้วยน้ำฝนปรอยๆเย็นฉ่ำกับคลื่นทะเลหลายขนาด ทำเอาเพื่อนๆหน้าซีดเงียบกริบไม่กล้ากรี๊ดยามอยู่บนเรือโคลงเคลงคุณเอ๋ย จะว่าตลกก็ตลก จะว่าสนุกก็ไม่ใช่ย่อย จะว่ากร่อยก็มีนิดนึง เนื่องจากไม่ทันเรือที่จะไปจอดหน้าหาดแสงเทียน เราเลยต้องลงที่ท่าเรือแล้วต่อรถกระบะเข้าไปหาดวงเดือน ...ดีนะที่ลงแค่หาดวงเดือน ถ้าหากนั่งๆเขย่าๆไปอีกถึงหาดแสงเทียนคงจะเอาชีวิตไม่รอด ก็คุณพี่คนขับรถเล่นขับไม่บันยะบันยัง เห็นหลุมเป็นวิ่งเข้าใส่ทำเอาผู้โดยสารหัวสั่นหัวคลอนกันไป พอถึงหาดวงเดือนเราต้องลงแล้วพากกันเดินเลาะหาดไปถึงอ่าวเทียน มองเห็นภุเขาที่เพื่อนบอกว่าต้องข้ามไปไกลลิบๆ โอเคไปไหนไปกันแต่...ฝนเจ้ากรรมร่วมใจตกลงมาเป็นใหญ่ๆ เอาน่ะเดี๋ยวเราหาร้านนั่นกินข้าวกลางวันหลบฝนก่อนดีกว่า แต่ไม่ว่าจะร้านไหนๆก็ไม่มีที่นั่นแถมทำท่าไม่อยากจะต้อนรับกระเหรี่ยงสาวห้านาง หน้าตามอมแมม เปียกมะล่อกมะแล่ก เออ ไม่ง้อก็ได้ ไหนๆก็เปียกแล้วเดินให้มันถึงที่พักเลยเป็นไร พอข้ามเขามาถึงอ่าวเทียนเข้าที่พักที่ แสงเทียนบีช รีสอร์ท อารมณ์เหนื่อยๆขำๆหายเป็นปลิดทั้ง เหลือทิ้งไว้แต่ความรู้สึกเปียกปอนแต่สดชื่นและเบิกบาน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าไปพี้กัญชามาจากไหน ไหง๋อารมณ์ดีได้ขนาดนี้ เพราะถ้าเป็นที่ผ่านๆมาคงอารมณ์เสียไปแล้ว
ทริบเลยเถิด (นครนายก - ปากช่อง)
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาวางแผนไปดูทางหนีทีไล่แถวๆนครนายก เนื่อจากทางบริษัทมีประชุมนอกสถานที่สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ รีสอร์ทก็พร้อม ทุกอย่างเตรียมไว้หมด เหลือเพียง ที่แวะเที่ยวก่อนกลับบ้าน ... เอาค่ะจัดให้ ออกจากสระบุรีขับรถแบบชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆไปแวะที่แรกคือ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน วัดพระพุทธฉาย กิจกรรมมากมายไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว กอล์ฟ ยิงปืน จักรยาน ปีนผา โดดหอและอีกมากมาย สนนราคาไม่แพงเลย แถมถ้าหากใครจะมาก็ไม่ต้องจองไว้ก่อนเพราะมีเจ้าหน้าทีบริการอยู่ตลอด ฉันขับรถไปรอบๆโรงเรียน ชื่นชมทิวทัศน์ในสถานที่แห่งนี้ไปต้องตาต้องใจเอาเจ้าต้นฝ้ายคำ น่ารักน่าชัง ดอกสีเหลืองช่างตัดกับสีท้องฟ้าดีจริงๆ สถานที่ต่อมาเป็นน้ำตกนางรอง ไม่ค่อยประทับใจเท่าไรเนื่องจากเป็นฤดูแล้งน้ำน้อยมากแต่ไปต้องใจเอาดอกไม้(อีกแล้ว)หน้าตาดอกใบต้น คล้ายๆดอกคูน น่ารักจัง เสียค่าผ่านประตูไป 140บาท...เสียดายตังเหมือนกันนะเนี่ย เขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นเขื่อนคอนกรีตอัดขนาดใหญ่ มาก... เด็กสระบุรีอย่างฉันแถวบ้านมีแต่เขื่อนดินถึงจะใหญ่ไม่แพ้กันแต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เสียดายที่ตอนไปแดดจัดแต่ลมแรงดีจัง อยู่กันสงบๆได้ไม่นาน มีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งกะอายุก็ไม่น้อยแล้วมีรถมาสองคัน จอดรถไว้แล้วเปิดเพลงดังลั่น...ไอ้พวกนี้โตแต่ตัวจริงๆ เวรกรรม สักพักคงทนสายตากดดันจากรอบข้างไม่ไหวจึงปิดในที่สุด จบทริปดูทางหนีทีไล่เพียงเท่านี้ แม่เปรยๆว่าอยากลองขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีนบุรีดูบ้างเคยแต่ผ่านเมื่อครั้งคราวที่พ่อรักษาตัวอยู่ที่ปราจีนบุรี...ได้เลยสารถีจัดให้ ปกติเวลาครอบครัวไปเที่ยวเขาใหญ่ก็มักจะขึ้นทางปากช่อง ซึ่งในความคิดของฉันจัดว่าชันกว่ามาก ด้วยความที่เคยมาทางนี้กับคนเคยคุ้นเมือหลายปีก่อน ความทรงจำสวยๆก็หลังไหลมาขณะไมล์จับกิโลเมตรหมุนไป ...นิทาน ดวงดาว หมอกลอยเอื่อย มืออุ่นๆ...อืม พลันพี่ชายกระชากให้ตื่นจากฝันกลางวันชวนให้ดูเส้นทางน่าปั่นจักรยานที่สองพี่น้องได้ตั้งเป้าหมายว่าจะปั่นจักรยานขึ้นเขาใหญ่ให้ได้ในปีนี้...คอยดู พาแม่ขึ้นมาถึงยอดเขาเขียวส่วนที่สูงที่สุดของเขาใหญ่ อากาศสดชื่นหมุนวนเข้าปอดทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตา นึกถึงเขาใหญ่ฤดูปลายฝนต้นหนาว อากาศเย็นสดชื่นกว่านี้หลายเท่านัก อะไรๆก็ดูเขียวสดชื่นไปหมด บนยอดเขาเขียวอากาศเย็นมีหมอกลอยเอื่อยชวนฝัน ในฤดูนี้สวยแตกต่างไปอีกแบบ ใบไม้ต่างๆมีสีสันสดใส สีท้องฟ้าท่ามกลางแดดแรงนี้สวยบาดใจ ลงจากเขาใหญ่ใช้เส้นทางปากช่องที่แสนจะคุ้นเคยเลยเปรียบเทียบกันได้ว่ายังไงๆฝั่งปราจีนบุรีก็คว้าใจฉันไปได้แบบใสๆ ขากลับบ้านเราใช้เส้นทางลัดไปมวกเหล็ก ทางลัดนี่เองฉันไปพบเจอร้านกาแฟสุดแสนน่ารัก คุณป้าใจดีเจ้าของร้านทำให้เราคุ้นเคยด้วยได้ไม่ยาก คุยกันไปกันมาเรื่องดอกไม้ถูดคอ ป้าติ๋มเจ้าของร้านมีของกำนัลแถมกาแฟเป็นต้นพวงครามกำลังผลิดดอกสีครามสดสวย ด้วยความเกรงใจฉันจึงขอซื้อเพราะไม่อยากรับมาเฉยๆ...ป้าบอกแบบแมนๆ"เราไม่ได้มีบุญคุณต่อกันนะ ให้แล้วไม่ติดค้างกัน เห็นว่ารักต้นไม้เราเลยให้" ดีใจและซึ้งใจ..ฉันกับพี่วางแผนกันว่าคราวหน้าเรามาปั่นจักรยานเส้นนี้กัน จะได้มาอุดหนุนป้าติ๋มมิตรใหม่ด้วย ... ทริปนี้เรียกได้ว่าเป็นทริปเลยเถิดคือเกินความตั้งใจ แต่อิ่มใจกับสิ่งที่ได้รับมา ทั้งตาเห็น เสียงที่ได้ยินและใจสัมผัส... MagicMoment
เล่นใกล้ๆธรรมชาติ: โฮมพุเตย
เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปสูดอากาศสดชื่นๆแถวกาญจนบุรี ในใจก็กระดี๊กระด๊า ...จะถ่ายรูปให้ชุ่มใจเลยคอยดู๊..^O^จุดหมายปลายทางของทริปนี้คือการไปพักผ่อนที่โฮมพุเตย รีสอร์ท ที่เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ความคาดหวัง...ในความรู้สึกแว๊บแรกที่เข้าไปถึง ตอนช่วงกลางวัน ทำไม๊ทำไมมันเก่าจังแฮะ ที่คิดไว้มันไม่เป็นแบบนี้นี่นา ทำให้หวนนึกถึงเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมีมากมายหลายครั้งที่สิ่งที่พบและสิ่งที่คาดหวังช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในทางกลับกัน ในสิ่งที่เราไม่เคยคาดหวังกลับทำให้เราเต็มอิ่มได้ ... ไม่คาดหวังจึงไม่ผิดหวัง ...แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ ...-_-'ถึงฉันจะบ่นไปเรื่อยเป็นหมู เอ๊ยหมีกินผึ้ง แต่ ... ยังไงเสียฉันก็หาความความสุขเล็กๆน้อยๆ ได้ตามรายทางเดินนี่ล่ะอมเมี่ยง ...เลี้ยงหลาน...น่าเสียดายที่สองวันกับธรรมชาติหมดไปกับการเล่นกับลิง เอ๊ย หลานสองคน ที่คิดไว้ว่าจะถ่ายรูปเก็บไว้มากๆก็ไม่สามารถทำได้ตามใจหวัง ... แหะแหะฉันเคยได้ยินคนเก่าแก่พูดเสมอๆว่าเอาลูกเขามาเลี้ยงเหมือนเอาเมี่ยงเขามาอม...คำคนโบราณนี่เชื่อได้ถึง 99.9999%จริงๆ คราวนี้ฉันได้อมเมี่ยงสองคำโตๆ เล่นเอาอิ่มจนจุก ... ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆแค่สองวันหนึ่งคืนก็เถอะ "น้าเปิ้ลไปว่ายน้ำกัน" "น้าเปิ้ลไปขี่จักรยานกัน" "น้าเปิ้ลไปลงเรือกัน" "น้าเปิ้ลไปโน่น"... "น้าเปิ้ลไปนี่" ....โอย...น้าจะตายแล้วไอ้เจ้าลิงสองตัวเอ๋ย จะรู้ไหมนะว่าทำเอาน้าระบมไปทั้งตัวเลยเนี่ย สุขแบบระบมๆ ถึงอย่างนั้นความสุขกับการเล่นแบบเด็กๆท่ามกลางธรรมชาติก็ทำให้รสชาติของบรรยากาศจัดขึ้น ทำให้นึกๆไปได้ว่า เราห่างหายรสชาติเหล่านี้มานานแค่ไหนกันแล้วนะ ... ขอบใจเจ้าลิงสองตัว..น้ารักเอ็ง ภาพรวม ดูรวมๆแล้วรีสอร์ทนี้หากดูแลดีๆก็น่าสวยงามประทับใจได้อย่างที่เคยเป็นฉากในละครอุ้มรักเชียวล่ะ ฉันสุขกับการได้ค้นพบต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยที่ทางรีสอร์ทปลูกไว้ตามทางเดิน หลืบมุมต่างๆ เหมือนสวนป่าที่อุดมไปด้วยอาหารตาบำรุงความสุข...ถ้าสังเกตดีๆ ดูเหมือนที่นี่จะเน้นให้คนที่มาพักเดินออกกำลังกาย เพราะแต่ละจุดที่ทำไว้ให้เข้าชม ห่างกันระยะหอบย่อมๆ จนเจ้าลิงสองตัวบ่นอุบ(แต่เต็มใจจะเดิน)ตอนกลางคืนที่ที่นี่ยังมีโชว์จำลองมาจากแสงสีเสียงการแสดงประวัติของสะพานข้ามแม่น้ำแควก่อนอาหารมื้อค่ำ...ก็พอเป็นสีสันของค่ำคืนเงียบเชียบยามเช้าที่นี่มีหมอกแต่อากาศไม่เย็นเลย โชคดีที่ฉันตื่นเช้าไปเดินรอบๆรีสอร์ท ไปเจอจุดสวยๆริมบึงมีไอหมอกเลยเรี่ยๆน้ำ ทำเอาฉันยอมนั่งลงชมบรรยากาศแบบฝันๆไปพักใหญ่..แหมถ้าได้ไออุ่น มีไหล่ให้ซบ..บรรยากาศคงหวานขึ้นเป็นกอง ^___^มีจุดหนึ่งรอบๆสระว่ายน้ำได้ทราบจากพนักงานว่าเป็นบ้านพักที่ออกจะส่วนเป็นตัวสักหน่อย รอบๆนั้นมีกลิ่นดอกไม้หอมฟุ้ง ..แหมอยากให้ที่บ้านเป็นอย่างนี้บ้างจังคิดไปคิดมาได้แต่ปลง...เจ้าต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยที่บ้าน ฉันยังฝากเทวดาเลี้ยงให้เลย..ถ้าปลูกเพิ่มอีกเทวดาท่านคงเหนื่อยแย่ hahaha ฉันได้ความสุขจากทริปนี้มาแบบเล็กๆน้อยๆอย่างละนิดหน่อย ถึงไม่มากมายและคนละรสชาติกับที่คาดไว้..แต่รสชาติที่ได้มาก็พอแทนที่กันได้แบบ...พอดีๆ ^___^ MagicMoment วิวแม่น้ำแคว บ้านพัก