ไทยคว้าเหรียญทองแรกโอลิมปิก 2016 ยกน้ำหนัก 48 ก.ก.โดย โสภิตา ธนสาร จอมพลังสาววัย 22 ปีจากชุมพร



จอมพลังสาวจากชุมพรวัย 22 ปี โสภิตา ธนสาร คว้าเหรียญทองยกน้ำหนักให้กับทีมโอลิมปิกชาติไทย ธงไตรรงค์ถูกชักขึ้นเสียงเพลงชาติไทยกระหึ่มในพิธีมอบ-เวียดนามก็ได้เหรียญทองปืนสั้นอัดลมชาย

 

โสภิตา ธนสาร หรือน้องแนน วัย 22 ปี จอมพลังสาวจากชุมพรคว้าเหรียญทองยกน้ำหนัก 48 กิโลกรัมในกิฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เมืองริโอ เดอจาเนโร ขณะที่เวียดนามก็สร้างประวัติศาสตร์เหรียญทองเหรียญแรกในกีฬายิงปืนสั้นอัดลมชาย 

ภายหลังจากพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล วันที่ 5 สิงหาคม  นักกีฬาก็แยกย้ายกันไปแข่งขันตามกำหนด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม(เวลาท้องถิ่น)ตรงกับเมืองไทยเช้าวันที่ 7 สิงหาคม  ไฮไลท์ทัพนักกีฬาไทยอยู่ที่การลุ้นเหรียญแรกจากกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 48 กก.หญิง ที่ริโอ เซนทรัว พาวิลเลียน 2

ทีมไทยได้ส่ง โสภิตา ธนสาร หรือน้องแนน สาววัย 22 ปี จาก จ.ชุมพร  แข่งขันเป็นคนแรก รุ่นนี้มีจอมพลังสาวลงชิงชัย12 ชาติ โดยสาวไทยอายุน้อยที่สุด

เปิดฉากท่าสแนชท์ โสภิตา ออกมายกเป็นคนสุดท้ายของกลุ่ม ครั้งแรก เรียกน้ำหนักที่  88 กก.ยกผ่านอย่างสบาย และเรียกน้ำหนัก ครั้งที่ 2 ต่อเนื่อยกผ่านอีกครั้งที่ 90 กก.ตามด้วยครั้งที่ 3 ที่ 92 กก.โสภิตาไม่ทำให้ผิดหวัง จบท่าสแนชท์ที่ 92 กก.อยู่อันดับที่ 1 ตามมาด้วย สรี วาห์ยูนี ออกุสติอานี จากอินโดนีเซีย 85 กก.เบียทริตซ์ อลิซาเบธ แคนเดลาริโอ จากโดมินิกัน 85 กก.

ท่าคลีนแอนด์เจร์ก โสภิตา ทำน้ำหนักครั้งแรก 106 กก.ยกผ่านแบบไม่ยาก ตามด้วยครั้งที่ 2 น้ำหนัก 108 กก.ก่อนที่ครั้งสุดท้าย เรียก 110 กก.แต่ยกไม่ผ่าน ทำให้ โสภิตาทำสถิติได้ 108 กก.รวมกับ ท่าสแนชท์ เป็น 200 กก.คว้าเหรียญทอง ให้แก่ประเทศไทยได้สำเร็จ เป็นเหรียญแรกในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ของทัพนักกีฬาไทย

ขณะที่เหรียญเงิน เป็นของ สรี วาห์ยูนี ออกุสติอานี จากอินโดนีเซีย 192 กก. และเหรียญทองแดง มิยาเกะ ฮิโรมิ จากญี่ปุ่น 188 กก.

การคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ของโสภิตา ธนสาร ทำให้เธอเป็นจอมพลังหญิงคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย ที่ได้เหรียญทองจากกีฬายกน้ำหนักต่อจาก อุดมพร พลศักดิ์, ปวีณา ทองสุก และ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล นอกจากนี้ ในทำเนียบจอมพลังสาวไทยยังเคยทำได้อีก 1 เหรียญเงินจาก พิมศิริ ศิริแก้ว, 3 เหรียญทองแดง จาก เกษราภรณ์ สุตา,อารีย์ วิรัฐถาวรและวันดี คำเอี่ยม

ประวัติโสภิตา ธนสาร

โสภิตา ธนสาร มีผลงานโดดเด่นตั้งแต่ลงแข่งขันรุ่น 53 กก. หญิง โดยคว้า 3 เหรียญทอง ศึกชิงเเชมป์เอเชียที่พม่า เมื่อปี 2012 คว้า 1 ทอง 2 ทองเเดง ศึกยกเหล็กเยาวชนโลกที่เปรู เมื่อปี 2013 ต่อด้วย 2 เงิน ยกเหล็กชิงเเชมป์โลก ที่โปเเลนด์ เมื่อปี 2013 ,คว้า 3 ทอง ยกน้ำหนักเยาวชนเอเชีย ที่ไทย เมื่อปี 2014 , 3 เงิน เยาวชนโลกที่รัสเซีย เมื่อปี2014 เเละล่าสุด จบอันดับ 4 ในศึกยกน้ำหนักชิงเเชมป์โลกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2015

โสภิตา ธนสาร เกิดวันที่ 23  ธ.ค.2537 ปัจจุบันอายุ 22 ปี เป็นชาว จ.ชุมพร บิดาชื่อ นายสุรศักดิ์ ธนสาร (ถึงแก่กรรม) มารดาชื่อ นางสรารัตน์ ธนสาร น้องแนนเริ่มเล่นยกน้ำหนักเมื่อปี พ.ศ.2549 ติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2553 ผลงานที่น่าสนใจเคยคว้า 3 เหรียญทองเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย พ.ศ.2557 และ 3 เหรียญเงินในการแข่งขันเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก เมื่อปี พ.ศ.2557

ดร.สิริลักษณ์ ทัดมั่น ผู้ฝึกสอนคนแรกของ โสภิตา ธนสาร เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ 2549 ญาติของ "น้องแนน" เรียนอยู่ที่ รร.กีฬากรุงเทพมหานคร ตอนแรกเล่นกีฬาชกมวย แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาเล่นกีฬายกน้ำหนัก หลังจากฝึกซ้อมไปสักระยะเห็นว่ากีฬายกน้ำหนักเป็นกีฬาที่มีอนาคต จึงขอชวนให้น้องสาวมาร่วมทีมฝึกซ้อมด้วย

น้องสาวซึ่งเป็นญาติของน้องแนนตอนที่เดินทางมากรุงเทพฯ น้องแนน ก็ได้เดินทางมาด้วย ตนจึงชวนให้"น้องแนน" อยู่ร่วมฝึกซ้อมด้วย เพื่อเป็นเพื่อนเล่นกัน  "น้องแนน"ก็ตกลง ตอนนั้น"น้องแนน"ตัวเล็กมาก และไม่มีแววจะเป็นนักยกน้ำหนักมากนัก แต่มีจิตใจที่มุ่งมั่น เชื่อฟังผู้ฝึกสอน รวมทั้งมีระเบียบวินัย มีมารยาท เป็นเด็กดี

“แนนเป็นเด็กฉลาดรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ มีจิตใจที่เข้มแข็งตั้งใจฝึกซ้อม เชื่อฟังผู้ฝึกสอนเป็นอย่างดี ให้ทำอะไรก็ทำตามโดยไม่บ่นหรือเกี่ยงงอน" ดร.สิริลักษณ์ กล่าว

วียดนามได้เหรียญทองประวัติศาสตร์

มีรายงานว่าเวียดนาม ได้เหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์โอลิมปิกเกมส์ จากกีฬายิงปืน ประเภทปืนสั้นอัดลมบุคคลชาย เมื่อ ฮอง ซวน วินห์ ยิงได้ 202.5 แต้ม เป็นสถิติใหม่โอลิมปิก ส่วนเหรียญเงิน เฟลิเป อัลเมดา จากบราซิล ชาติเจ้าภาพ 202.1 แต้ม และเหรียญทองแดง ปัง เว่ย จากจีน 180.4 แต้ม

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 07 สิงหาคม 2559    
Last Update : 7 สิงหาคม 2559 13:54:28 น.
Counter : 265 Pageviews.  

อันตราย..อุปกรณ์รักษาสิวฝ้า (Re-Skin Derma Stamp) อย.เตือนผิดกฏหมาย โฆษณาลวงโลก



อย.ย้ำไม่อนุญาตให้นำเข้า (Re-Skin Derma Stamp) อ้างรักษาสิว หลุมสิว ฝ้า ชี้ไม่มีผลการวิจัยรองรับ ผู้บริโภคควรใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาลวงโลก อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ และ หวิดเสียโฉมได้

 

วันที่ 6 สิงหาคม 2559 ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาและโฆษก อย. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า จากการที่มีการโฆษณาบนโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษา หลุมสิว รอยแผลเป็น และ ฝ้า โดยการใช้อุปกรณ์รักษาสิวด้วยตนเอง (Re-Skin Derma Stamp) ซึ่งมีการโฆษณาในลักษณะอวดอ้างว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถรักษาหลุมสิว รอยแผลเป็น รวมถึงสามารถรักษาฝ้าได้ ซึ่งลักษณะของอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเข็มเล็กๆ เรียงกันคล้ำยๆ กับใบมีดโกนหนวด เมื่อนำไปใช้ จะสามารถทำลายพังผืดตามหลุมสิว ทำให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่ช่วยรักษาหลุมสิวและสามารถทำด้วยตัวเองที่บ้านได้อีกด้วย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้นจัดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ชนิดหนึ่ง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่เคยอนุญำตให้นำเข้า ผลิต และ ขาย อุปกรณ์รักษาสิวด้วยตนเอง (Re-Skin Derma Stamp) ดังกล่าวมาจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับงานวิจัยรองรับที่จะสนับสนุนว่ำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพียงพอ ขอย้ำเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชักชวนให้ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวหากไม่สะอาด อำจติดเชื้อ เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และบริเวณที่น้ำไปใช้โดยเฉพาะหากนำไปใช้บริเวณใกล้ดวงตา อาจเกิดอันตรายต่อดวงตา เปลือกตา เกิดการติดเชื้อ ผื่นคันแดง แสบคันตา และ ที่สำคัญคืออันตรายที่ถึงขั้นทำให้เสียโฉมได้


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2559    
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 17:59:24 น.
Counter : 693 Pageviews.  

นายกรัฐมนตรีรับร่างรัฐธรรมนูญชี้หากผ่านคงกลับบ้านอยู่ไหนก็เป็นคนไทยไม่ทำลายประเทศไทยพูดให้เสียหาย-อย



นายกรัฐมนตรีเปิดใจรับร่างรัฐธรรมนูญพร้อมคำถามพ่วงในฐานะส่วนตัว หากร่างผ่านคงกลับบ้านอยู่ที่ไหนก็เป็นคนไทยเหมือนเดิมไม่ทำลายประเทศไทยด้วยการพูดให้เสียหาย ติงอย่าเอาสายตาของต่างประเทศมาโจมตีเราขอบคุณมิตรประเทศที่ห่วงใย

 

เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 5 สิงหาคม 2559  ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (ร.ร.นายร้อยจปร.) จ.นครนายก พล.อ.หญิงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีวันคล้ายวันพระราชกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าครบ 129 ปี พร้อมทรงวางพานพุ่มและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระบรมรูป ร.5 ณ ศาลาวงกลม ก่อนจะเสด็จเข้าหอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นประธานในพิธีถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ 10 รูป

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่เฝ้ารับเสด็จก่อนรับเสด็จ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยที่เป็นแหล่งกำเนิดของนายทหารทุกคน ตนก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่ และเคยเป็นทหาร อีกทั้งก็ใส่เครื่องแบบทหารนอกราชการมา วันนี้ตนมาในสองสถานะคือ ตำแหน่งนายกฯ ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลมาร่วมพิธีเพื่อเป็นเกียรติ และมาในฐานะศิษย์เก่า ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองปกติ เนื่องจากความมีเสถียรภาพทางการเมือง และการรักษาความมั่นคง รวมถึงการรักษาสภาพให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าได้

ทั้งนี้ตนอยากพูดในฐานะหัวหน้าคสช. ว่าเราเข้ามาเพื่อทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น จนมีความเป็นเสถียรภาพ เพื่อเดินหน้าประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล ประเทศมีบทเรียนที่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนและมีรัฐธรรมนูญ รัฐบาลที่เหมาะสมในการเปลี่ยนผ่านประเทศให้ได้อย่างที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ ตั้งแต่ 22 พ.ค. 2557 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ประเทศมีบทเรียนที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนมีรัฐธรรมนูญและรัฐบาลที่เหมาะสม เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศให้ได้อย่างที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมามีทั้งดี ดีมาก และดีน้อย แต่ไม่มีรัฐธรรมนูนฉบับไหนถูกใจคนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลายประเทศก็เป็นแบบบ้านเรา ที่ผ่านมา เราพยายามเดินหน้าปฏิรูปให้ได้เพื่อให้เป็นไปตามพื้นฐานของประเทศ โดยตนคำนึงถึงว่าจะอยู่ต่อไปอย่างไรในวันหน้าโดยไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก เราทำตามหลักการที่มีอยู่ รวมถึงแม่น้ำ 5 สาย ซึ่งทุกคนต้องนำไปเป็นบรรทัดฐาน

รัฐบาลไม่สืบทอดอำนาจ-เลือกตั้งปี 2560

“รัฐบาลไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ ผมพูดเสมอว่าเราจะต้องเลือกตั้งปี 2560 เพราะเป็นสัญญาที่ให้ไว้ทั้งในและต่างประเทศ และเราต้องมองว่าสิ่งใดจะเข้าไปสู่กระบวนการเหล่านั้นได้คือการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นมาอีก ผมอยากให้เข้าใจว่าเราต้องการเดินหน้าประเทศ และทำอย่างไรให้ประเทศมีเสถียรภาพมีอีกอย่างน้อย 5 ปี มองในแง่อายุของรัฐบาลการเลือกตั้งและแผนการปฏิรูป ซึ่งสิ่งเหล่านี้แต่อยู่ในวงรอบ 5 ปี และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี โดยมุ่งหวังว่าใครผมหรือใคร แต่เป็นเรื่องของกลไกต่างๆ ตามวิถีทางประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลังการลงประชามติ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่และทั่วถึง ประชาชนที่พยายามลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ไม่อยากให้มองว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการร่างโดยทหาร แต่เป็นการร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ทหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดกระบวนการให้จัดทำรัฐธรรมนูญ โดยมีการนำเอาพื้นฐานของเดิม ปัจจุบัน และอนาคตมาใส่ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ ทุกอย่างจะเป็นแบบเดิม จึงต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาให้ได้ เพื่อให้ทันตามโรดแม็ปที่ประกาศไว้

ส่วนที่วิจารณ์ว่าทำไมไม่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมนั้น ตนยืนยันว่าประชาชนมีส่วนร่วมตามขั้นตอนอยู่แล้ว มีเพียงบางพวกที่ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งตนบังคับไม่ได้

สำหรับการทำประชามติ ถ้าคิดว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ ตนก็ไม่ต้องไปประกาศไว้แบบนั้นทั้งการให้มีการเลือกตั้งและการทำประชามติ เพราะรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 กำหนดไว้ชัดเจน ตนไม่ได้วาดภาพความน่ากลัว แต่ต้องการสร้างความรับรู้ว่าเราจะอยู่ต่อไปอย่างไรในอนาคต ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้น 2 วันข้างหน้านี้ถือเป็นอนาคตของประเทศ อย่าให้ใครมาบิดเบือนหรือชี้นำในทางที่ไม่ถูกต้อง ถ้าไม่อยากให้ปัญหาเดิมสร้างความขัดแย้งอีก เพราะวันนี้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอดทนสักระยะหนึ่ง อย่าขัดแย้งกันด้วยเรื่องการลงประชามติ

รับร่างรัฐธรรมพร้อมคำถามพ่วง

“ผมขอตอบในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ขอให้แยกให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี ผมจะลงเห็นชอบรับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงประชามติ เพราะถ้าเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไปไม่ได้ ทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม ผมยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการชี้นำ ผมก็น่าจะพูดได้เพราะได้ปรึกษาฝ่ายกฏหมายแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติเองได้ แต่สิ่งที่ได้คือเพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน แต่กฎหมายลูกจะเป็นกฏหมายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จโดยรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน โดยยังมีอีกหลายขั้นด้วยกัน ทั้งการออกพระราชบัญญัติ กฏกระทรวง ระเบียบอื่นๆที่เกี่ยวโยงที่จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปสู่การปฏิบัติได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า “เราอย่ามาทะเลาะเรื่องรัฐธรรมนูญ ขอให้ดูและพิจารณาให้ดี ผมเปิดทุกอย่างให้แล้ว ถ้าผมจะเป็นเผด็จการ ก็ไม่ต้องให้มีการลงประชามติ และไม่ต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 “

เมื่อถามว่าประเทศไทยพร้อมที่จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเเล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้ง 67 ล้านคน ไม่ใช่ต่างประเทศ สิ่งที่ตนขอร้องคืออยากให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง เพราะเรื่องเศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม และกฏหมายต่างๆ ส่วนการตัดสินคดีถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และตนจะไม่ไปละเมิดศาล จึงอย่ามองแค่แง่บวกหรือแง่ลบ แต่ต้องดูว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างไร

ส่วนการที่ตนระบุว่าไม่ให้กลัวผีที่มองไม่เห็นนั้น เป็นเพราะหลายคนไปวาดภาพไว้ ซึ่งเป็นเพียงคำเปรียบเทียบในส่วนที่มองไม่เห็นในเรื่องที่คสช.จะสืบทอดอำนาจ ส่วนอดีตก็มีผีอยู่เช่นกัน ต้องทำอย่างไรให้มีคาถาป้องกันผี ซึ่งคล้ายกับการลงประชามติจะต้องมีรัฐธรรมนูญให้ได้

ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเปรียบเสมือนยันต์กันผี และทำอย่างไรให้คนดีอยู่ได้โดยไม่ต้องหวาดกลัว แต่ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ประเทศไทยมีร่างรัฐธรรมนูญกี่ฉบับ ผ่านเหตุการณ์นี้มากี่ครั้ง เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เป็นการกระทำครั้งสุดท้ายและวางพื้นฐานของประเทศและเราก็เปิดให้ทุกคนเเสดงความคิดเห็นได้ และต้องยอมรับความคิดเห็นของส่วนใหญ่ ซึ่งทุกอย่าง ตนไม่ได้เปิดในทุกเรื่อง เพราะต้องผ่านกลไกต่างๆและทำอย่างไรให้สงบเรียบร้อยภายใน 5 ปี โดยทุกอย่างจะเริ่มต้นได้ก็ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับประเทศไทย ในช่วงเวลาเหล่านี้

ขอบคุณต่างประเทศที่ห่วงใยไทย

“ขอบคุณต่างประเทศที่ห่วงใยในฐานะที่เราเป็นมิตรประเทศร่วมกัน ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร จึงต้องทำให้หลายประเทศมีความมั่นใจในประเทศไทย เรากำลังเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยตามที่ทุกคนและโลกต้องการ ซึ่ง คสช.และรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ดีขึ้น จึงอยากให้ประชาชนตั้งใจและร่วมมือกันทำให้ประเทศไม่กลับไปเป็นเหมือนเก่า ตนไม่ได้วาดภาพความหวาดกลัวให้ใคร เพียงแต่จะทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้หันกลับไปถามผู้บัญชาการเหล่าทัพและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ยืนเข้าเเถวต้อนรับว่า ทหารเข้าใจใช่หรือไม่ โดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ได้ตอบรับด้วยการโค้งคำนับ และพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ต้องเข้าใจอยู่แล้ว เพราะอยู่กับตนมานาน วันนี้ตนเป็นนายทหารนอกราชการ แต่ความเป็นทหารก็อยู่ในตัวตลอด เพราะถูกปลูกฝังมาตลอดชีวิต ตายไปก็เป็นผีทหาร

ไม่ทำลายประเทศไทยไม่พูดให้ไทยเสียหาย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคนสงสัยว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะไปไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน คงจะกลับบ้าน ไม่อยากให้ไปคิดตรงนั้น คืออย่าไปกลัวผีที่มองไม่เห็นตนก็ยังอยู่ แต่ในเรื่องนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการต่อไป ความเป็นประชาธิปไตยก็ไปว่ากันตรงโน้น อย่ามากังวลกับตน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนตนก็เป็นคนไทยและไม่ทำลายประเทศไทยรวมถึงพูดให้เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนที่มาต่อจากตน ตนก็จะไม่ว่าเขา เพราะเคารพในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ และการบริหารราชการแผ่นดินของทุกรัฐบาล

แต่เมื่อไหร่ที่ชาติมีความเสียหาย นั้นคือสิ่งที่ตนตัดสินใจว่า จะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ในหลายประเทศก็เป็นเหมือนเราเพราะฉะนั้นอย่าเอาสายตาของต่างประเทศมาโจมตีเรา เพราะเราคือเรา คนที่พูดอยู่ข้างนอกไม่ได้เดือนร้อนเหมือนเรา ไม่ได้รับรู้สถานการณ์ภายในประเทศ ทั้งความคิด มุมมองและพื้นฐานที่ต่างกัน เราจะต้องทำให้คนไทยเดินไปพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากทุกคนจะร่วมมือกันกับเราที่จะทำงานในช่วงนี้ อย่างน้อยต้องดีกว่าเดิม และสิ่งสำคัญก็คือต้องมีความศรัทธา ซึ่งตนก็มีความศัทธาว่าจะต้องทำให้สำเร็จ ประชาชนทุกคนก็ต้องมีศรัทธา เพราะต่างก็ช่วยเหลือ คสช.และรัฐบาลมา 2 ปีแล้ว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2559    
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 11:30:58 น.
Counter : 356 Pageviews.  

ปลัด ICT มั่นใจ-ชื่นชม SiPA กับภารกิจที่ใหญ่ขึ้นภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพร้อมก้าวสู



ปลัดกระทรวงไอซีทียืนยันว่าไม่มีการทอดทิ้งพนักงานในสังกัดกระทรวงไอซีทีทุกระดับ พร้อมชื่นชมการทำงานของซิป้าที่ผ่านมา พร้อมรองรับการปรับเปลี่ยนสำนักงานใหม่ เห็นจากผลงานที่เพิ่มขึ้น ประธานซิป้าบอกพนักงานอย่าเสียขวัญทำงานก้าวหน้าทุกด้านตามนโยบาย

 

รายงานข่าวเปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ICT) ไปสู่โครงสร้างใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ED) หลังจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลฯตอบรับกับนโยบายของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวง ICT กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีทีหลายหน่วยงาน มีความพร้อมในบทบาทใหม่กับภารกิจที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า ซึ่งก่อตั้งมาพร้อมกับกระทรวงไอซีทีมานานกว่า 12 ปีแล้ว การดำเนินการที่ผ่านมาซิป้ามีผลงานเป็นที่โดดเด่นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และมีผลงาน  ในระดับประเทศอย่างมากมายโดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาแอปพลิเคชันและแอนิเมชันต่างๆ

ปัจจุบันเราจะก้าวสู่การพัฒนาประเทศไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 กระทรวงไอซีที มีความจำเป็นต้องปรับบทบาทและภารกิจที่สามารถรองรับการขยายตัวในอุตสาหกรรมดิจิทัลในเรื่องใหม่ๆ มากขึ้น  ดังนั้น อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจใหม่ ขณะนี้เราจะมีหน่วยงานรัฐแห่งใหม่ คือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หน่วยงานแห่งนี้มีภารกิจที่เพิ่มมากขึ้น กระทรวงต้องการบุคลากรที่มีความพร้อมในการดำเนินภารกิจ

ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาซิป้าได้รับมอบหมายภารกิจจากกระทรวงไอซีที ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสำนักงานแห่งใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น ประกอบกับผลงานสำคัญต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เช่น โครงการพัฒนากำลังคนทางด้านดิจิทัลเพื่อสร้างธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Tech startup และโครงการส่งเสริมพื้นที่พิเศษสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Smart city

“เป็นที่น่าชื่นชมว่าซิป้ามีผลงานที่ออกมา ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมแล้ว และขณะนี้ประเทศไทยก็ได้รับการจัดอันดับในเรื่องการพัฒนา e-Government สูงขึ้นจากเดิม หมายความว่าภาพลักษณ์การพัฒนาประเทศไทยเริ่มเห็นผลจากนานาอารยะประเทศ ดังนั้น บุคลากรที่มีศักยภาพจะเป็นกำลังสำคัญสำหรับองค์กรใหม่ที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้”นางทรงพรกล่าว

อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงไอซีที มีหน่วยงานที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ 2 หน่วยงาน ทั้งที่เป็นหน่วยงานราชการ และที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ราชการ ซึ่งกระทรวงฯ ต้องการบุคลากรที่มีความพร้อมในการดำเนินภารกิจใหม่ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของซิป้าและการเปลี่ยนภารกิจกระทรวงฯ เอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการปฏิรูปเพื่อก้าวไปสู่หน่วยงานใหม่

ขณะนี้ทางกระทรวงฯ อยู่ระหว่างระดมบุคคลากรของหน่วยงานในสังกัดส่วนที่เป็นทั้งราชการ องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ เพื่อการสรรหาบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานร่วมกันในองค์กรใหม่ และกระทรวงฯ ยืนยันจะไม่ทอดทิ้งบุคคลากรที่มีคุณภาพ ทุกระดับทุกองค์กรของทางกระทรวงฯ อย่างแน่นอน

ประธานซิป้าเผยพนักงานสั่งสมประสบการณ์มานาน

ทางด้านนางจีราวรรณ บุญเพิ่ม  ประธานกรรมการซิป้ากล่าวว่าการยุบหรือไม่ยุบ Sipa คงไม่ใช่ประเด็น เพราะต้องเป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์อยู่แล้ว ที่สำคัญคือเรื่องงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ยังต้องทำต่อไปและภายใต้นโยบาย DE งานนี้ก็จะยิ่งมีความสำคัญและมีขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ แ

นางจีราวรรณกล่าวว่าพนักงานของ Sipa  ได้สั่งสมประสบการณ์ เครือข่ายกับสมาคมและผู้ประกอบการมานานพอสมควร นับเป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ควรมองข้าม  “ดิฉันก็อยากขอให้ผู้มีอำนาจในการพิจารณา ประเด็นนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กระทรวงไอซีที สนช. และกรรมาธิการ และสุดท้ายก็ขอเป็นกำลังใจให้พนักงาน Sipa ในการทุ่มเททำงานต่อไป อย่าเสียขวัญ”นางจีราวรรณกล่าว

ผู้ช่วยรัฐมนตรีไอซีทีบอกยุบซิป้า

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 ทั้งนสพ.แนวหน้าและนสพ. ASTV ผู้จัดการ รายงานว่านายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีความเห็นว่า เมื่อกฎหมายได้ระบุให้มีการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงควรยุบสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน ) หรือ ซิป้า เพื่อให้สำนักงานใหม่ทำหน้าที่แทน เนื่องจากคณะกรรมาธิการเกรงว่า หากซิป้ายังอยู่ตามที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เคยให้สัมภาษณ์ ปัญหาต่างๆ ที่สั่งสมมานานในซิป้า ก็จะยังคงอยู่ และอาจต้องปวดหัวในการแก้ปัญหาต่อไปมากกว่าจะเดินหน้าทำงานตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงเห็นว่า ควรจะเริ่มต้นใหม่กับสำนักงานใหม่น่าจะทำงานเดินหน้าตามนโยบายใหม่ได้ดีกว่า

รักษาการผอ.ซิป้ายันแก้ปัญหาไปมากแล้ว

ทางด้านนายศุภชัย จงศิริ รักษาการผู้อำนวยการซิป้า กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องการยุบซิป้า ดังนั้นต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการซิป้าอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากบางเรื่องได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การสรรหาผู้อำนวยการใหม่ ซึ่งอาจจะเดินหน้าหาต่อ เพื่อไปดำรงตำแหน่งในสำนักงานใหม่หรือต้องชะลอไปก่อน ก็ต้องขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมที่แน่ชัด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ปัญหาของซิป้า ตนเอง และคณะกรรมการก็เร่งสะสางปัญหาได้มากแล้ว บุคลากรที่มีอยู่ 120 คน มีความพร้อมในการยกไปทำงานกับสำนักงานใหม่ได้ทันที หากกระทรวงไอซีทีเห็นว่าคุณสมบัติเหมาะสม ส่วนแผนงานต่างๆ ที่วางไว้ ซิป้าจะยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป เนื่องจากล้วนเป็นงานที่รัฐบาลต้องการให้ทำและตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการสมาร์ท ซิตี้, การส่งเสริมผู้ประกอบการตามคลัสเตอร์ธุรกิจต่างๆ เป็นต้น

นายศุภชัยกล่าวว่าต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในซิป้านั้น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความไม่รู้ ไม่ตั้งใจ เพราะคนของซิป้าส่วนใหญ่มาจากเอกชน จึงไม่รู้ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างในแบบราชการ จึงเผลอทำงานในรูปแบบเอกชน ซึ่งตนก็ได้แก้ปัญหาด้วยการนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมบัญชีกลาง มาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการทำเอกสารแบบราชการให้แล้ว

ดังนั้นเชื่อมั่นว่าบุคลากรที่มีของซิป้า จะสามารถยกระดับไปนั่งทำงานในสำนักงานที่จะตั้งขึ้นใหม่ได้ทันที ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า สำนักงานใหม่ต้องการพนักงานจำนวนมากน้อยเพียงใด นี่จะเป็นโอกาสให้พนักงานเหล่านี้พัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อให้เหมาะกับการทำงานในสำนักงานดังกล่าว

โอนซิป้าเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

ต่อมานสพ.กรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 2 สิงหาคม รายงานว่ากรณีกระแสข่าวเกี่ยวกับสถานะของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า นั้นมีแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ตามร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งคณะกรรมาธิการฯพิจารณาผ่านร่างแล้ว ระบุชัดเจน ไม่มีการยุบซิป้า แต่เป็นการปรับโอนไปเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล โดยให้งบประมาณ ทรัพย์สิน สิทธิ พนักงาน ลูกจ้างของซิป้า โอนไปเป็นของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นการชั่วคราว และให้สำนักงานแห่งใหม่ทำการคัดเลือกพนักงานลูกจ้างภายใน 270 วัน พนักงานลูกจ้างจากซิป้าที่ได้รับการคัดเลือกสามารถทำงานโดยให้นับอายุงานต่อจากที่เคยทำงานที่ซิป้า

สำหรับพนักงานลูกจ้างที่ไม่ประสงค์จะทำงานต่อที่สำนักงานแห่งใหม่ หรือไม่ผ่านการคัดเลือก ให้ถือว่าเลิกจ้าง และได้รับเงินชดเชย โดยผู้ที่ไม่ต้องการจะทำงานต่อจะต้องแจ้งความประสงค์ภายใน 30 วันหลัง พ.ร.บ.ส่งเสริมดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมผ่าน ทั้งนี้แหล่งข่าวยังกล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะนำเสนอ พ.ร.บ.นี้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ภายในเดือนสิงหาคมนี้

พันธมิตรภาครัฐ-เอกชนซิป้าเป็นห่วง

กรณีข่าวดังกล่าว หน่วยงานพันธมิตรของซิป้าทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้แสดงความห่วงใย สอบถามเกี่ยวกับสถานะขององค์กรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งซิป้าได้แจ้งยืนยันแก่พันธมิตรทุกภาคส่วนให้เชื่อมั่น ซิป้ายังคงดำเนินงานตามภารกิจ โดยเฉพาะโครงการสำคัญ ๆ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เช่น โครงการ Tech Startup และ โครงการ SmartCity

ทางด้านนายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทียืนยันว่า ไม่เคยพูดถึงการยุบซิป้า เพียงแต่พูดถึงการปรับโอนองค์กรสู่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งถือเป็นเรื่องดีของซิป้าด้วยซ้ำ

นอกจากนี้แหล่งข่าวซิป้ายังกล่าวว่า ปัญหาต่าง ๆ ในซิป้าเป็นปัญหาเก่า ซึ่งได้รับการแก้ไขไปได้มากแล้ว ขั้นตอนการแก้ไขต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ปัจจุบันซิป้าเน้นการทำงานตามภารกิจเป็นหลักเพื่อร่วมส่งเสริมอุตสาหกรรมและขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม ผู้บริหารและพนักงานพร้อมทำงานกับสำนักงานใหม่หากมีการปรับโอนสู่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2559    
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 7:39:05 น.
Counter : 278 Pageviews.  

เอ๊กซ์คลูซีฟ Apple Music ซิวสัญญาเปิดตัวอัลบั้มใหม่จาก Britney Spears



เป็นการช่วงชิงจังหวะในตลาดที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมบริการสตรีมมิ่งเพลงที่น่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง โดยล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาว่าทาง Apple Music นั้นได้บรรลุสัญญาข้อตกลงที่จะเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ได้รับเอกสิทธิ์สัญญาในการเปิดตัว Glory อัลบั้มเพลงใหม่ของราชินีเพลงป๊อป Britney Spears ซึ่งจะเป็นอัลบั้มอย่างเป็นทางการของเธอในลำดับที่ 9 นับตั้งแต่เดบิ้วต์เข้าสู่วงการเพลงตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งทางตัวศิลปินเองนั้นก็ได้ประกาศผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์บนบัญชีทวิตเตอร์เป็นการยืนยันด้วยอีกช่องทางหนึ่ง

Apple นั้นขยับตัวเองเข้าสู่อุตสาหกรรมบริการสตรีมมิ่งเพลงค่อนข้างที่จะช้ากว่าผู้เล่นรายอื่นอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็เดินเกมส์เร่งเครื่องอย่างแข็งขัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและตัวบริการอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงความพยายามเซ็นสัญญาเอกสิทธิ์ต่างๆ ในการเปิดตัวเพลงและอัลบั้มของศิลปินชื่อดังให้นำผลงานมาเปิดตัวบน Apple Music ก่อนเป็นที่แรก ซึ่งทำให้ตัวบริการมีสีสันและความสดใหม่ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นเองยังมีแผนการทำตลาดในความร่วมมือกับบรรดาศิลปินมีชื่ออย่าง Drake, Eminem หรือ Pharrell เป็นต้น ในการผลิตสื่อและเนื้อหาให้กับบริการออนไลน์ความบันเทิงครบวงจรตัวใหม่ของบริษัทครับ

ที่มา macstroke




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2559    
Last Update : 5 สิงหาคม 2559 12:37:12 น.
Counter : 376 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.