ประชุมใหญ่สหประชาชาติถกหนักผู้ลี้ภัยสงครามซีเรียขอรับบริจาค 3 พันล้านดอลลาร์-พล.อ.ประยุทธ์ประธาน G77
การประชุมใหญ่ประจำปีสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ( UN General Assembly =UNGA 71) ที่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เริ่มเปิดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2016 บรรดาผู้นำประเทศต่างๆเริ่มเปิดประชุมวันที่ 19 กันยายน เป็นต้นไป การประชุมย่อยทั้งหมดมี 545 กลุ่ม สมาชิก UN มีทั้งหมด 193 ประเทศ ในการประชุมครั้งนี้มีผู้นำทั้งระดับประธานาธิบดี,นายกรัฐมนตรี 135 ประเทศเดินทางไปร่วมประชุมด้วยตัวเอง ที่เหลือส่งตัวแทนในระดับรองหรือระดับรัฐมนตรีต่างประเทศไปทำหน้าที่แทน หัวข้อใหญ่ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาประกอบด้วย สงครามในซีเรีย ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องหยิบยกขึ้นมาพูดคือปัญหาผู้อพยพ ถือเป็นการอพยพครั้งใหญ่ของประชากรหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา สงครามซีเรีย 6 ปีทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 300,000 คน สงครามในซีเรียส่งผลกระทบไปถึงการสู้รบในประเทศต่างๆในตะวันออกกลางและอัฟริกา อีกทั้งทั่วโลกก็ถูกโจมตีด้วยกลุ่มก่อการร้าย ผู้นำทั้ง 135 ประเทศและรัฐมนตรีต่างประเทศไม่น้อยกว่า 50 คนจะต้องนำปัญหานี้ขึ้นพิจารณาหาทางแก้ไข สหรัฐและรัสเซียมีข้อตกลงที่จะยุติการสู้รบในซีเรีย แต่ทว่าเมื่อวันที่ 17 กันยายน กองทัพอากาศสหรัฐนำเครื่องบินออกไปทิ้งระเบิดใส่ฐานทัพซีเรีย ทำให้ทหารซีเรียเสียชีวิต 62 คนและบาดเจ็บอีกประมาณ 300 คน สหรัฐออกมาขอโทษบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ทำให้รัสเซียต้องเรียกประชุมฉุกเฉินในสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทันที ข้อตกลงที่หยุดยิงกันคงไม่ประสบผลสำเร็จเพราะยังมีการสู้รบกันในส่วนต่างๆของซีเรีย กลุ่มไอซิสไม่ได้ร่วมตกลงว่าจะหยุดยิง มีรายงานว่าการประชุมวันที่ 20 กันยายนจะหยิบยกปัญหาสงครามซีเรียขึ้นมาพูดในหมู่ประเทศที่เกี่ยวข้อง 20 ประเทศทั้งสองฝ่ายที่เรียกว่า International Syria Support Group การประชุมเช้าวันที่ 20 กันยายน ผู้นำ 3 รายที่จะขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่เริ่มจากนายบัน คิ มูน เลขาธิการสหประชาชาติผู้จะก้าวลงจากตำแหน่งวันที่ 31 ธันวาคม ตามด้วยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้จะก้าวลงจากตำแหน่งวันที่ 19 มกราคม 2017 และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่เอี่ยมอ่องจากอังกฤษที่รับตำแหน่งยังไม่ถึง 3 เดือนจะกล่าวถึงประเด็นประเทศสหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit เมื่อนายบัน คิ มูนพ้นจากตำแหน่งตัวเก็งที่จะมาทำหน้าที่แทนมีชื่อของนายแอนโทนิโอ กูเตอร์เรส อดีตนายกรัฐมนตรีปอร์ตุเกสเป็น 1 ใน 4 ที่ได้รับการเสนอชื่อขึ้นมา แต่ทว่ารัสเซียอาจใช้สิทธิวีโต้ โดยอาจจะมีผู้เสนอชื่อรายอื่นเข้ามาให้เลือก ประเด็นต่อมาในที่ประชุมสหประชาชาติมีการพูดคุยกันนอกรอบมากในการประชุมยูเอ็นคือเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้คู่ชิงระหว่างฮิลลารี คลินตันกับดอนัลด์ ทรัมพ์ เหตุเพราะสหรัฐคือผู้บริจาครายใหญ่ให้กับสหประชาชาติและเป็นเรื่องใหญ่ที่จะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำสหรัฐ ประเด็นต่อมาจะมีการประชุมสุดยอดผู้ลี้ภัยอพยพและผู้ย้ายถิ่นฐาน ( U.N. Summit on Refugees and Migrants) จากข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ ( U.N. High Commissioner for Refugees)ระบุว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2015 มีผู้ลี้ภัยอพยพและผู้โยกย้ายถิ่นฐานรวม 65.3 ล้านรายหรือเพิ่ม 5 ล้านคนเทียบกับสิ้นปี 2014 ตัวเลขดังกล่าวแยกได้ดังนี้ 21.3 ล้านคนเป็นผู้ลี้ภัยอพยพ,3.2 ล้านคนขอลี้ภัยด้านต่างๆและ 40.8 ล้านคนมีการอพยพภายในประเทศของตน ผู้อพยพเหล่านี้มีข้อเสนอจาก Global Compacts ว่าจะต้องมีการนำผู้อพยพไปปักหลักให้เสร็จภายใน 2 ปี ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายบัน คิมูนว่า การนำผู้อพยพไปปักหลักในประเทศอื่นจะต้องทำปีละ 10 % ในการประชุมวันที่ 20 กันยายนนายโอบามาจะขอความช่วยเหลือจาก 45 ประเทศเพื่อบริจาคในนามเพื่อเพื่อนมนุษย์ 3 พันล้านดอลลาร์ ,รับผู้อพยพเพิ่มเท่าตัวและให้เข้าไปอยู่ในประเทศอย่างถูกกฎหมาย พร้อมกันนั้นก็จะให้เด็กๆประมาณ 1 ล้านคนเข้ารับการศึกษา, 1 ล้านคนจะต้องมีงานทำ ประเด็นต่อมาวันที่ 21 กันยายน นายบัน คิมูนจะกล่าวถึงปัญหาภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงหรือเรื่องโลกร้อนที่ต่อจากการประชุมปารีส โดยต้องการให้ 55 ประเทศส่วนใหญ่เป็นประเทศอุตสาหกรรมแก้ปัญหานี้ ตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้จะสามารถลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกลงได้ 55 % จากนั้นนายก๊อฟฟรีย์ ออนเยียมา รัฐมนตรีต่างประเทศไนจีเรียจะนำปัญหาการก่อการร้ายของกลุ่มอิสลามโบโก ฮารามเข้าที่ประชุมเพราะถือว่าเป็นปรากฎการณ์การก่อการร้ายระดับโลก ที่ประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่จะต้องแก้ปัญหาเร่งด่วน พร้อมกันนั้นยังตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2030 จะร่วมมือกับสหประชาชาติในเรื่องการพัฒนาเด็ก การประชุมของสภาความมั่นคงวันที่ 22 กันยายนจะมีการพูดถึงปัญหาความปลอดภัยของอุตสาหกรรมการบิน,การสนับสนุนเรื่องลดพลังงานนิวเคลียร์และแน่นอนที่จะเลี่ยงไม่พูดถึงไม่ได้คือเกาหลีเหนือที่ทดลองพลังงานนิวเคลียร์ในศตวรรษที่ 21 อยู่เพียงประเทศเดียว รวมทั้งกล่าวถึงปัญหานิวเคลียร์ของประเทศอิหร่าน การประชุม 4 กลุ่มแก้ปัญหาตะวันออกกลาง ( Quartet of Mideast )จะมีการพบปะระหว่างสหรัฐ,สหประชาชาติ,สหภาพยุโรปและรัสเซียเพื่อดึงอิสราเอลและปาเลสไตน์เข้าสู่โต๊ะเจรจายุติข้อขัดแย้ง พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมประชุมหลายคณะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2559 นี้ โดยจะร่วมกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปในหัวข้อThe Sustainable Development Goals: the Universal push to transform our world และเป็นประธานการประชุม G77 Ministerial Meeting พร้อมทั้งมีกำหนดพบหารือกับผู้นำประเทศ ภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐ และชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ด้วย การเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ของนายกรัฐมนตรีและคณะในครั้งนี้ สะท้อนเห็นว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ขณะเดียวกันประชาคมโลกเชื่อมั่นไทย ที่คงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในฐานะสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งการทำหน้าที่ประธาน G77 ในการเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนา ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ผลักดันแนวคิดภายใต้หลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SEP for SDGs) นายกรัฐมนตรียังจะใช้โอกาสนี้ ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าตามแผนโรดแมปเพื่อประเทศไทย มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน และมีประชาธิปไตยที่มีธรรมภิบาล สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรีระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 นอกจากการกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 แล้ว นายกรัฐมนตรียังจะเข้าร่วมการประชุมในกรอบสมัชชาสหประชาชาติ และกิจกรรมคู่ขนานในวาระอื่นๆ อาทิ การประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ (President Obamas Leaders Summit on Refugees) การประชุมระดับสูงเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพ (Anti-Microbial Resistance AMR) กิจกรรมระดับสูงเกี่ยวกับการใช้บังคับของความตกลงปารีส (High-level Event on the Entry into Force of the Paris Agreement) รวมทั้งเป็นประธานเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่ม 77 และร่วมงานเลี้ยงรับรองในฐานะประธานกลุ่ม 77 พร้อมทั้งหารือผู้นำประเทศ พบปะภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา และชุมชนไทยในสหรัฐ ฯ ด้วย การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะเป็นการประชุมเต็มคณะปีแรก หลังจากที่สหประชาชาติ ได้ประกาศเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2030 โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงร่วมกับประมุข ผู้นำและผู้แทนประเทศต่างๆ กว่า 195 คน ในหัวข้อ คือ The Sustainable Development Goals: the universal push to transform our world เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และหยิบยกบทบาทของไทยในภารกิจ 3 เสาสำคัญของสหประชาชาติ คือ ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา ด้านสังคม และความมั่นคง รวมทั้งย้ำหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะออกจากประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2559 เวลา 23.45 น. โดยสายการบินไทย และกลับถึงไทยในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2559 เวลา 06.25 น. ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 28 ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังสงครามซีเรีย //petmaya.com/28-before-after-syrian-war ที่มา thaitribune
Create Date : 20 กันยายน 2559 | | |
Last Update : 20 กันยายน 2559 11:38:42 น. |
Counter : 288 Pageviews. |
| |
|
|
|