เลือก “ทรัมป์”แล้วบรรลัย จะบ้าประชาธิปไตยอีกไหม โดย สุนันท์ ศรีจันทรา



สุนันท์ ศรีจันทรา เขียนไว้ในคอลัมน์ ริมฝั่งเจ้าพระยา ในนสพ. ผู้จัดการรายวัน วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ถึงการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาที่เป็นแบบของประชาธิปไตยมายาวนาน แต่เมื่อนายทรัมป์ได้รับเลือกแล้วกลับเกิดการแตกแยก ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ยอมรับ ลุกฮือขึ้นประท้วง ยุยงให้ลอบสังหารและขืมขืนภรรยานายทรัมป์ ทั้งๆที่นายทรัมป์ยังไม่ได้เข้าบริหารประเทศด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในเมืองไทยกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มกปปส.ลุกฮือขึ้นมาขับไล่รัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะอะไร ดังนั้นให้รัฐบาลประยุทธ์บริหารประเทศไปก่อน หากเลือกตั้งแล้วได้นักโกงบ้านกินเมือง ได้นักเผาบ้านเผาเมืองเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เข้ามาสร้างความแตกแยก จะรีบเลือกตั้งไปทำไม ดังนี้

สหรัฐอเมริกามักถูกยกย่องเสมอมา ในฐานะประเทศที่เป็นแบบอย่างของระบบประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ กำลังจะทำให้ระบบประชาธิปไตยที่เบ่งบานมาหลายร้อยปีของประเทศมหาอำนาจแห่งนี้ต้องล่มสลาย

เพราะผลการเลือกตั้งที่ออกมา ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ยอมรับ และลุกฮือขึ้นประท้วงกันวุ่นวายทั่วประเทศ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้สมัครในนามพรรคริพับลิกัน ซึ่งชนะการเลือกตั้งอย่างพลิกความคาดหมาย ได้จุดชนวนความแตกแยกอย่างรุนแรง ระหว่างอเมริกันชนฝ่ายที่สนับสนุน นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครพรรคเดโมแครตกับอเมริกันชนที่สนับสนุนนายทรัมป์

ปฏิกิริยาต่อต้านนายทรัมป์ร้ายแรงถึงขั้น มีการโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ ยุงยงให้ลอบสังหารนายทรัมป์ และข่มขืนภรรยา

ไม่เคยมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งใดที่จะเกิดความวุ่นวาย และสร้างความแตกแยกในหมู่คนอเมริกันเท่ากับการเลือกระหว่างนายทรัมป์และนางฮิลลารี

และไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ผลการเลือกตั้งจะกลายเป็นชนวนให้ประชาชนคนอเมริกันออกเดินตามท้องถนน ประกาศก้าวไม่ยอมรับประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ที่มักจะนำมาอ้างอิง ยกเป็นแบบอย่าง จนถึงขั้นเรียกร้องรณรงค์ให้เดินตามรอย ตอนนี้ได้รู้ได้เห็นกันแล้วว่า ประชาธิปไตยสหรัฐฯ ไม่ได้วิเศษมาจากไหน คนอเมริกันก็ไม่ได้ยึดมั่นในกติกาการเลือกตั้งสักเท่าไหร่ ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ถืออัตตาเป็นที่ตั้ง ไม่ รู้แพ้รู้ชนะเหมือนกัน

การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างนายทรัมป์กับนางคลินตัน สู้กันอย่างยุติธรรม ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่มีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปข่มขู่คุกคาม กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม ไม่มีการใช้กลไกรัฐเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง ผลการเลือกจึงบริสุทธิ์ และไม่น่าจะมีใครไม่ยอมรับ

แต่คนอเมริกันครึ่งประเทศกลับไม่ยอมรับ ไม่เปิดใจให้นายทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี และไม่มีใครประเมินสถานการณ์ได้ว่า การประท้วงจะลุกลามบานปลาย จนสหรัฐฯ ต้องแตกเป็นเสี่ยง หรือยกระดับไปสู่สงครามการเมืองภาคสองหรือไม่

คนที่ติดตามดูการประท้วงผลการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมของสหรัฐฯแล้ว ไม่น่าจะหลงเหลือความประหลาดใจใดๆสำหรับประเทศไทย และไม่ควรมีคำถามติดค้างต่อไปว่า เพราะเหตุใดกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงต้องลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตรและรัฐบาลหุ่นเชิด “ทักษิณ”

และทำไมมวลมหาประชาชนแนวร่วม กปปส.จึงออกมารวมตัวกันทั้งประเทศ เพื่อไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เพราะแม้จะเป็นรัฐบาลตามระบบประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง แต่ชัยชนะที่ได้มาเกิดจากการซื้อเสียง ใช้อำนาจรัฐทุกรูปแบบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง การเลือกตั้งจึงไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม

รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศด้วยการโกงประชาธิปไตย เมื่อเข้ามาแล้วยังโกงบ้านโกงเมือง ถ้าปล่อยให้อยู่ต่อไป ประเทศคงต้องบรรลัย ประชาชนจึงยอมไม่ได้ และพร้อมใจกันลุกฮือไล่ตะเพิด

นายทักษิณ นายสมัคร สุนทรเวช(ถ้ายังมีชีวิตอยู่) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางสาวยิ่งลักษณ์ อย่าคร่ำครวญเสียเสียอกเสียใจไปเลยว่า ทำไมจึงถูก ประชาชนลุกฮือขับไล่

เพราะขนาดนายทรัมป์ซึ่งยังไม่ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี และจะนำพาสหรัฐฯ ไปทางไหนก็ยังไม่รู้ แต่เพียงเพราะความกลัวว่า นายทรัมป์จะทำให้สหรัฐพินาศ คนอเมริกันก็ไม่เปิดโอกาสให้เป็นผู้นำประเทศซะแล้ว

ส่วนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย รัฐบาล “ทักษิณ”และรัฐบาลหุ่นเชิดทั้งหลายนั้น ประชาชนอุตส่าห์เมตตากรุณา เปิดโอกาสให้เข้ามาบริหารประเทศแล้ว แต่กลับไม่รักดี จึงสมควรแล้วที่ประชาชนเกือบทั้งประเทศออกมาไล่

กระแสการต่อต้านนายทรัมป์ที่ยังไม่ได้ลดความร้อนแรงลง คงจะทำให้คนที่หัวปักหัวปรำในคำว่า “ประชาธิปไตย” เกิดอาการสำลัก “ประชาธิปไตย”กันบ้างละ

เพราะประเทศที่ประชาธิปไตยเบ่งบานมายาวนานนับร้อยๆ ปี การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความขาวสะอาด บริสุทธิ์ยุติธรรมแทบจะ100% แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาไม่ถูกใจ คนที่ยึดมั่นระบบประชาธิปไตยอย่างพลเมืองสหรัฐฯ ก็พาลก่อเรื่องล้มกฎกติกาได้เหมือนกัน

กรณีนายทรัมป์คงจะทำให้คนหายบ้าในคำว่าประชาธิปไตยไปเยอะ

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับอานิสงส์ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปเต็มๆ เพราะคงไม่มีใครโหยหาความเป็นประชาธิปไตยกันเท่าไหร่แล้ว

ถ้าเลือกตั้งแล้ววุ่นวาย ถึงขั้นต้องฆ่ากันตาย ประเทศต้องแตกแยก จะรีบเลือกตั้งไปทำไม

และถ้าเลือกตั้งแล้ว ยังใช้เงินซื้อเสียงได้ เปิดโอกาสให้คนเลวๆ กลับเข้ามามีอำนาจใหม่ ปล่อยให้นักการเมืองหน้าขี้โกงกลับเข้ามาบริหารประเทศ เปิดทางให้คนเผาบ้านเผาเมืองได้กลับมาเป็นรัฐมนตรี จะเร่งให้มีการเลือกตั้งกันอีกหรือ

อยู่กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปอีกสักพักดีกว่าไหม ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างก็ทนๆ กันไป ทนไม่ไหว เบื่อเมื่อไหร่ ค่อยคิดกันใหม่ว่า จะทำอย่างไรต่อ

ตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ติดตามดูควันหลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฆ่าเวลาไปก่อน ดูซิว่าประเทศประชาธิปไตยจ๋าอย่างสหรัฐฯ จะลงเอยอย่างไร

และดูซิว่า การลุกฮือต่อต้าน “ทรัมป์” จะดุเดือดเลือดพล่าน เหมือนช่วงที่กลุ่มพันธมิตรและกลุ่ม กปปส. ไล่ตะเพิด “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” หรือไม่

ที่มา thaitribune




Create Date : 19 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2559 17:24:01 น. 0 comments
Counter : 255 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.