กรณีเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และมีคำพิพากษายืนให้จำคุกนายอริสมันต์  พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.และพรรคพวกอีก 12 คนคนละ 4 ปีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยไม่รอการลงโทษ  ในคดีเป็นแกนนำพากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บุกปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา และล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552

นายคารม พลพรกลาง ทนายความของนายอริสมันต์เปิดเผยว่า หลังฟังคำพิพากษาได้ขอยื่นประกันตัวทั้งหมดวงเงินคนละ 1 ล้านบาท แต่ นายอริสมันต์ ยังมีคดีอื่นรวมอยู่ด้วย ต้องประกันตัวสูงกว่าเพื่อน ซึ่งอาจจะเป็น 2 ล้าน และหลังจากนี้คงจะต้องยื่นเรื่องฎีกาต่อไปเพื่อให้เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาการเมือง ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว ซึ่งต้องรอศาลอนุมัติการประกันตัวก่อน

ต่อมาเย็นวันเดียวกันศาลจังหวัดพัทยาได้คัดค้านการประกันตัว พร้อมนำตัว นายอริสมันต์ กับพวกฝากขัง เรือนจำพิเศษพัทยา

รายงานข่าวเปิดเผยว่าคดีนี้เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งได้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ อนุญาตให้ฎีกาหรืออัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก และมาตรา 221 ตามลำดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. มีรถบรรทุกผู้ต้องขังของเรือนจำพิเศษพัทยา เดินทางมาที่ศาลจังหวัดพัทยา เพื่อรับตัว นายอริสมันต์หรือกี้ร์ กับพวกอีก 12 คน พร้อมทั้งผู้ต้องขังในคดีอื่นๆ เดินทางไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษพัทยา (หนองปลาไหล) โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพด้านใน

เมื่อรถบรรทุกนักโทษเคลื่อนตัวออกมาบริเวณหน้าศาลจังหวัดพัทยา บรรดาญาติๆ และคนใกล้ชิดที่เดินทางมาให้กำลังใจ และปักหลักอยู่ที่ศาลมาตั้งแต่เช้าได้ตะโกนให้กำลังใจนายอริสมันต์ ด้วยคำว่า “อริสมันต์..สู้ๆ” และให้กำลังใจผู้ร่วมอุดมการณ์คนอื่นๆ จนเสียงดังสนั่น ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป หนึ่งในผู้ที่มาให้กำลังใจบอกต่อผู้สื่อข่าวว่า “เคารพการตัดสินของศาล แต่ถึงอย่างไรก็ยังรักอริสมันต์ เหมือนเดิม”

รายงานข่าวเปิดเผยว่าหลังจากนี้ ทนายความกลุ่มของ นายอริสมันต์ และญาติๆ จะได้ทำหนังสือยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อขอประกันตัวผู้ต้องขังทั้งหมด โดย นายอริสมันต์ ยื่นหลักทรัพย์มูลค่า 2 ล้านบาท ส่วนคนอื่นๆ ใช้หลักทรัพย์คนละ 1 ล้านบาท โดยวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคมนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาตัดสินอีกครั้งว่า จะอนุญาตให้ประกันตัวทั้งหมดหรือไม่ ทำให้ นายอริสมันต์ กับพวกชุดเดิมต้องถูกจำกัดอิสรภาพ และต้องนอนที่เรือนจำหนองปลาไหลอีกครั้งในรอบ 2 ปีเต็ม

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2558 ให้จำคุกจำเลย 13 คน ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง,นายนิสิต สินธุไพร,นายพายัพ ปั้นเกตุ ,นายวรชัย เหมะ, นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี ,นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ,นายศักดา นพสิทธิ์,พันตำรวจโทไวพจน์ อาภรณ์รัตน์,นายนพพร นามเชียงใต้ ,นายสำเริง ประจำเรือ ,นายสมยศ พรมมา ,นายแพทย์วัลลภ ยังตรง และนายสิงห์ทอง บัวชุม คนละ 4 ปี และให้ยกฟ้อง นายธงชัย ศักดิ์มังกรหรือมังกรดำและ พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์

ศาลได้สั่งพักคดีในส่วนของจำเลยที่หลบหนี 3 คนประกอบด้วย พันตำรวจโทเสงี่ยม สำราญรัตน์,นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์  ส่วนนางศิริวรรณ นิมิตรศิลป์ ให้จำหน่ายคดีชั่วคราว เนื่องจากจำเลยไม่เคยเข้าสู่กระบวนการตั้งแต่แรก

ที่มา thaitribune

Create Date : 22 มีนาคม 2560
Last Update : 22 มีนาคม 2560 18:12:28 น.		0 comments
Counter : 310 Pageviews.
Share Tweet