สมเด็จพระสังฆราชประทานพระโอวาทให้ประชาชนยึดถือศีล สมาธิ ปัญญาและความสามัคคีเพื่อพัฒนาชาติ



ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราชที่วัดราชบพิธฯ ประทานพรผู้เข้าสักการะด้วยการยกธรรมภาษิต“สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา”ความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ นายกรัฐมนตรีนำคณะ คสช.-ครม.ถวายสักการะ 14 ก.พ.

 

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560  เป็นวันแรกหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารได้เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะแสดงมุทิตาจิตสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(อมฺพรมหาเถร หรือ อัมพร อมฺพโร) ที่พระอุโบสถวัดราชบพิธฯ โดยแบ่งเป็น 2 รอบ คือรอบเช้า 09.00-10.30 น. และรอบบ่าย 14.00-16.00 น.

วัดราชบพิธฯเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราชถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ และหลังจากนี้หากมีคณะหรือองค์กรไหนจะมาถวายสักการะก็จะจัดเวลาให้ตามสมควร โดยจะเป็นหลังเวลา 14.00

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 04.30 น.วันที่ 13 กุมภาพันธ์ บรรดาพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศได้เดินทางมาเข้าแถวรออย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บริเวณประตูด้านหน้าวัดและโดยรอบ พร้อมทั้งนำพวงมาลัยดอกไม้และผ้าไตรจีวรมารอถวายด้วยความตั้งใจเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

จนกระทั่งเวลา 09.10 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จจากตำหนักอรุณมายังพระอุโบสถ ตลอดเส้นทางพุทธศาสนิกชนที่นั่งรออยู่อย่างหนาแน่นพร้อมใจกันเปล่งเสียงสาธุดังกึกก้อง พระองค์ทรงแย้มพระโอษฐ์และยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเพื่อแสดงถึงพระเมตตาที่ทรงมีต่อพุทธศาสนิกชน สร้างความปลาบปลื้มแก่ผู้มารอรับเสด็จอย่างมาก

จัดให้ถวายสักการะรอบละ 10 คน

เมื่อสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเข้าสู่พระอุโบสถทางประตูกลาง ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ เสด็จขึ้นประทับพระอาสน์ซึ่งทอดอยู่หน้าเบญจา ผินพระพักตร์ออกหน้าพระอุโบสถพร้อมพัดยศ และเครื่องประกอบพระอิสริยยศประดิษฐานใต้เศวตฉัตร 3 ชั้น ก่อนประทานโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเข้าถวายสักการะ

เจ้าหน้าที่วัดจัดให้พุทธศาสนิกชนเข้าถวายสักการะรอบละ 10 คน ส่วนหน่วยงานราชการที่มาเป็นหมู่คณะต้องลงทะเบียนก่อนตามลำดับ

ขณะเดียวกัน ศิษยานุศิษย์ได้จัดเตรียมเหรียญตราสัญลักษณ์สมเด็จพระสังฆราช ออป.จำนวน 10,000 เหรียญ พร้อมหนังสือทิศ 6 และสังคหวัตถุ 4 ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเมื่อครั้งทรงเป็นพระมหาวาสน์และพระจุลคณิศร ที่ได้รับพระราชทานรางวัลที่ 1 ในการประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็กในพระราชพิธีวิสาขบูชา พ.ศ.2474 และ พ.ศ.2483, หนังสือสมเด็จพระสังฆราชเจ้าและสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ และหนังสือพระประวัติพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รวม 10,000 ชุดเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดระเบียบให้ทุกคนต้องปั๊มตราประทับที่หลังมือป้องกันการเวียนเทียนเข้ามาถวายสักการะ

ห้ามใช้คำหยาบคายต่อประชาชนที่มาถวายสักการะ

พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ ในฐานะเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า สมเด็จพระสังฆราชได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติต่อประชาชนที่มาถวายสักการะด้วยความสุภาพเรียบร้อย ห้ามใช้คำหยาบคายต่อประชาชนอย่างเด็ดขาด และอยากให้พุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาได้เข้ากราบสักการะทุกคน

นอกจากนี้ยังมีพระประสงค์ให้สิ่งของที่ประชาชนนำมาถวายใช้เพียงดอกไม้ พวงมาลัย ผ้าไตรเท่านั้น ส่วนอาหารให้นำมาถวายได้ก่อนเพล และพระองค์จะไม่ทรงรับปัจจัยอย่างเด็ดขาด

ให้ประชาชนงดถวายปัจจัย-ยังหลั่งไหลมาต่อเนื่อง

“สมเด็จพระสังฆราชมีรับสั่งให้ประชาชนงดถวายปัจจัย โดยขอให้ถวายเป็นดอกไม้ธูปเทียนแทน พร้อมมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความสำรวมด้วย ทั้งนี้อาจขยายเวลาเข้าถวายสักการะหากมีประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสม” พระพรหมมุนีกล่าว

ต่อมาเวลา 11.00 น.เป็นเวลาฉันเพลที่พิธีต้องระงับลงชั่วคราวจะไปเริ่มเอาช่วงบ่ายพุทธศาสนิกชน ยังคงเดินทางมาจับจองพื้นที่เพื่อรอถวายสักการะอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่วัดราชบพิธฯ ต้องนำเต็นท์มาบังแดดให้ผู้ที่ยืนต่อแถวรอถวายสักการะบริเวณด้านหน้าของวัด โดยอนุญาตให้เข้าประตูหน้าพระอุโบสถเพียงประตูเดียวเท่านั้น สำหรับผู้ที่ถวายสักการะเสร็จสิ้นแล้วจะอนุญาตให้ออกประตูด้านข้างของวัด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงประชาชนที่เดินทางมาในช่วงบ่าย โดยเปลี่ยนจากวิธีการกราบเป็นการไหว้แทนเพื่อความรวดเร็วเนื่องจากมีประชาชนเข้าแถวรอเป็นจำนวนมาก

ประชาชนที่มากันอย่างเนืองแน่น ทำให้บางส่วนตัดสินใจนั่งรอบริเวณทางเสด็จกลับตำหนักอรุณ ขณะที่สมเด็จพระสังฆราชเสด็จจากพระอุโบสถกลับมายังตำหนักอรุณ พุทธศาสนิกชนทั้งสองข้างทางพร้อมใจกันกราบลงบนพื้นและกล่าวสาธุตลอดเส้นทาง

ให้ประชาชนยึดถือศีล สมาธิ ปัญญาและความสามัคคี

พระราชมงคลดิลก (ประกอบ สุภากโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ จึงได้ออกมาประกาศต่อพุทธศาสนิกชนว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระประสงค์ที่จะออกมาประทานพระโอวาทด้านหน้าพระอุโบสถ พร้อมทั้งเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบถวายสักการะอย่างทั่วถึง  

จากนั้นเวลา 16.09 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช เสด็จประทับยังพระอาสนะด้านหน้าพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ พุทธศาสนิกชนต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงสาธุ แล้วทรงประทานพระโอวาทความว่า "ขออำนวยพรแก่สาธุชนทุกคนที่ได้มีศรัทธา และได้มาประชุมพร้อมกันด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยกุศล ท่านทั้งหลายได้มาในวันนี้เพื่อมาอำนวยพร หรือมาแสดงมุทิตาแก่อาตมาที่ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ขออนุโมทนาสาธุการ ขอบใจอุบาสก อุบาสิกา ทุกท่าน

ท่านทั้งหลายมีธรรม ความดีความงามประจำใจอยู่ และขอให้รักษาความดีความงามที่มีให้คงอยู่ตลอดไป ท่านทั้งหลายเป็นอุบาสก อุบาสิกา เพราะฉะนั้นขอให้รักษาจิตใจที่เลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยให้คงที่ไว้ หลักธรรมสำคัญ 3 ข้อที่พระพุทธองค์ทรงสอน และขอให้ยึดถือเป็นประจำ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา คือ ทำกาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ นึกถึงสภาวธรรมที่ว่างเป็นปกติ มีสมาธิ ปัญญาก็เกิดขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้น ขอให้นึกถึงหลักธรรมที่พระพุทธองค์ได้สอนเราไว้ 3 ข้อง่ายๆ ทุกคนจะมีความสุขใจ

อนึ่ง รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสร้างวัดราชบพิธฯ ในสมัยของพระองค์ มีธรรมภาษิตอยู่บทหนึ่ง คือ “สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา” ความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ ให้รักษาคำนี้ไว้ ความพร้อมเพรียงนำความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้ ขณะนี้ประเทศเรากำลังต้องการการพัฒนา ขอให้ท่านนึกถึงธรรมภาษิตนี้ รวมถึงศีลทั้ง 3 ข้อ หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ และยึดถือศีล สมาธิ ปัญญา มีความสามัคคี เท่านี้ประเทศชาติของเราก็จะเจริญรุ่งเรือง"

จากนั้นเสด็จกลับพระตำหนัก โดยมีประชาชนที่มารอรับเสด็จต่างก้มลงกราบตลอดเส้นทางพร้อมเปล่งเสียงสาธุอย่างพร้อมเพรียงกัน

บรรยากาศในวัดราชบพิธฯ พระสงฆ์ยังคงออกรับบิณฑบาตและทำวัตรเช้าตามปกติ  วัดงดรับการถวายปัจจัยและอาหารจากประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะ แต่สามารถนำดอกไม้สำหรับบูชามาถวายได้ ภายในบริเวณวัดก็มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหมุนเวียนนำอาหารและน้ำดื่มมาแจกจ่าย รวมถึงการให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชนที่เดินทางมาด้วย  

พล.อ.ประยุทธ์นำคสช.และครม.ถวายสักการะ

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะนำสมาชิก คสช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมดเข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้  

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายกฯ ได้สั่งการให้ ครม.และ คสช.เตรียมตัวให้พร้อม เพราะไม่อยากเป็นการรบกวนสมเด็จพระสังฆราช จึงต้องการให้ทั้ง ครม.และ คสช.เข้าเฝ้าถวายสักการะทั้งคณะรอบเดียวกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของนายกฯ รวมถึง ครม.และ คสช.ด้วย

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์จะนำ คสช.และ ครม.ทั้งหมดเข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช โดยให้ คสช.และ ครม.พร้อมกันที่วัดราชบพิธฯ เวลา 08.15 น. จากนั้นนายกฯ และรัฐมนตรีจะกลับมาประชุม ครม.ตามปกติ.

พระเมตตาจาก 'สมเด็จพระสังฆราช' หลังปชช.เฝ้าสักการะ

//www.bangkokbiznews.com/news/detail/740299

ที่มา thaitribune




Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2560 15:17:42 น. 0 comments
Counter : 253 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.