เรื่องสนุก-ทุกสัปดาห์ “เที่ยวกับทัวร์”



"นี่ ถามจริง ๆ นายเซ็งไหมกับสูตร 6. 7. 8 "

  "สูตรไม้ดอก หรือไม้ผล เราเพิ่งลงส้มโอ สูตรอย่างนี้ไม่เคยรู้จัก"  เพื่อนอีกคนหัวเราะไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

  "นี่มันสูตรทำระเบิดขวดหรือเปล่า"  อีกคนพูดบ้าง

  "ฮ่า ฮ่า ฮ่า" คนแรกหัวเราะชอบใจก่อนจะตอบว่า

  "นี่มันสูตรที่ไกด์ใช้บอกลูกทัวร์  ว่าตื่น 6 โมง กิน 7 โมง แล้วก็ล้อหมุน 8 โมง ฮ่ะ ฮ่ะ"

   "มันน่าเบื่อมากที่จะต้องทำตาม. เราอยู่บ้านไม่เห็นมีใครสั่ง" เพื่อนที่ไม่เเห็นด้วยยังพูดต่อ

   "นี่ฟังหน่อยนะเพือน เมื่อปีกลายไปเที่ยวซิดนี่ย์กับทัวร์ เขาใช้สูตรอย่างนี้ล่ะ น่าเบื่อมาก บางทีก็บอกว่า พรุ่งนี้ ห้า หก เจ็ด ยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก"

 "มีอยู่วันหนึ่ง..."  หยุดไปนิด เมื่อเห็นว่าเพื่อน 2 คน ตั้งใจฟังจึงพูดต่อ

    "มีอยู่เข้าวันหนึ่ง เขาใช้สูตร ห้า หก เจ็ด  โฮ๊ย ใครจะตื่นไหว ก่อนหน้าวันนั้นก็กินหวน์กันจนดึก นายรู้ไหมว่าเราตื่นกี่โมง"

    "ก็ต้องตื่นตามเขา" เพื่อนคนแรกตอบ

"เปล่า ไม่ตื่นอะไรทั้งนั้น นอนสบาย พอตื่นขึ้นมา ลงไปที่ล๊อบบี้ ตายชัก ใกล้เที่ยงพอดี"   คนเล่าท่าทางตื่นเต้นอีกครั้ง

    "ฮ่า ฮ่า ฮ่า. ลูกทัวร์ก็ไปไหนกันหมดแล้ว"

    "ใช่ ไปกันหมดแล้ว เราก็เซ็ง เดินไปเดินมา ไม่เป็นไร เพราะคำนี้ กลุ่มทัวร์ก็ต้องกล้บมานอนโรงแรมนี้อีก   ก็เลยตุหรัดตุเหร่เดินออกไปข้างนอกหาร้านอาหาร เดินไปสักพัก เจอหลายร้าน. เลือกร้านที่มีคนเยอะ ๆ  เข้าไปด้านใน ฮ่า.ฮ่า ฮ่า" เล่าจบก็หัวเราะร่วน

    "คนมาก เลยสั่งไม่ได้"  เพื่อนต่อให้

    "คนเยอะจริง แน่นไปหมด แต่กลุ่มทัวร์ของเรานี่แหละ ไกด์พามากินที่นี่"

     "จะว่าเราเลยก็ตาม เวลาไปทัวร์เราไม่กล้านอนโรงแรมชั้นสูง ๆ กลัวว่าตึกมันจะถล่ม จะเกิดพายุ เกิดมีเครื่องบินมาชนตึก กลัวไปหมด คิดไปคิดมาบางทีใกล้สว่างถึงจะได้หลับ"

      "แล้วนายก็ขึ้นรถไม่ทัน"    เพื่อนต่อให้อีกแล้วหัวเราะ

"แต่เราอยากนอนใกล้ประตูหนีไฟ เกิดเหตุก็เผ่นก่อน แต่ถ้าจำเป็นไปนอนห้องไกล ๆ ประตูหนีไฟ พอเข้าห้องปั๊บ ต้องตรวจกันก่อนว่าออกจากห้องแล้วเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวากี่ก้าวจึงจะถึงประตูหนีไฟ จดแล้ววางไว้บนหัวเตียง เกิดเหตุก็ใช้ได้ทันที. ฮ่า ฮ่า

       มีอยู่ครั้งหนึ่ง ก็ทำแบบนี่ล่ะ  นอนหลับไปแล้วที่ชั่น 15 เสียงหวอดังลั่นมาจากทางถนน ลุกปั๊บนุ่งกางเกงก็เปิดประตูเผ่นทันที เรียกว่ารวดเร็วมาก เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกประการ" หันมามองหน้าเพื่อนสองคนแล้วยิ้ม.ๆ

      "ตามที่นายจดไว้ทุกประการ"  เพื่อนซัก

      "ไม่ใช่.  นายรู้ไหมว่าเวลาตกใจ มันก็ลืมไปหมดในทันที ที่จดไว้ก็ไม่ได้หยิบมาอ่าน เปิดประตูแทนที่จะลงทางบ้นไดหนีไฟ กลับไปใช้ลิฟต์ลงไปที่ลอบบี้"

      "อ้าว เกิดเหตุไฟไหม้ในโรงแรม เขาก็ไม่ให้ใช่ลิฟต์ไม่ใช่หรือ"  เพื่อนซัก

      "ใช่ เขาไม่ให้ใช้หรอก แต่นี่ไม่ได้มีไฟไหม้อะไรหรอกนะ"    คนเล่าทำเสียงละห้อย

      "อ้าว ก็เห็นบอกว่ามีหวอดังไง"

      "ใช่มันดังที่ถนน แล้วในโรงแรมมันเกี่ยวอะไรล่ะเพื่อน"

      "เวลานายไปนอนตามโรงแรมเคยตรวจสอบทุกซอกทุกมุมในห้องไหมว่ามันมีอะไรบ้าง"

"ไม่รู้จะไปตรวจทำไม โรงแรมก็ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อยู่แล้ว มีเตียง มีหมอน มีผ้าห่ม

และมีแอร์เย็น ๆ ก็สบายอยู่แล้ว "  พูดจบเพื่อนก็หัวเราะ เพื่อนในวงสนทนาก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย

       "ไม่ได้ ๆ ต้องตรวจ" ท่าทางคนปุจฉาขึงขัง "เล็งให้ดี ๆ ตามฝ้า ตามเพดานบริเวณหลอดไฟ บริเวณตะเข็บ บริเวณวงกบ หรือขอบ. ๆ ของเพดาน  อาจซ่อนกล้องวงจรปิดไว้ก็ได้

บริเวณแนวกระจกส่องก็อย่าไว้ใจ เดี๋ยวนี้กล้องแอบถ่ายซุกตามขอบ ๆ วัสดุได้อย่างแนบเนียน

มองเผิน ๆ ไม่มีทางรู้หรอกจะบอกให้"  เขาหยุดพูดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ

         "นี่เพื่อนรักทั้งสองจะบอกให้ อย่าได้ไว้วางใจอย่างเด็ดขาด ชอบกันนักไอ้ห้องกระจกแผ่นใหญ่เต็มผนังห้อง  บางห้องบนเพดานก็ติดกระจกบานใหญ่อีก. แหมบอกว่ามันโรแมนติค รู้ไหมว่ามันอันตรายที่สุด"

         "นี่..ไปกันใหญ่แล้วเพื่อน..."   เพื่อนอีกคนขัดจังหวะ

        "เดี๋ยวให้เราพูดให้จบก่อน มันอันตราย เพราะกระจกพวกนี่ติดกล้องไว้ตามขอบ และที่แน่ ๆ  เป็นกระจกวันเวย์ คืออีกด้านก็จะมีคนชุมนุมดูเรานอนแก้ผ้ากันอย่างสนุกสนาน"

        "เฮ๊ย แต่นั่นมันโรงแรมม่านรูดนะ" เพื่อนท้วง

       "ผมไปทัวร์ทีไรกลัวเรื่องประตู มีอยู่คราวหนึ่งเกิดเรื่อง" เพื่อนอีกคนบอก

        "วันนั้น กำลังเพลิดเพลินอยู่ในอ่างอาบน้ำ เสียงดังโครมด้านนอก รีบปิดก๊อก นุ่งผ้าเช็ดตัวเปิดประตูออกไปดูทันทึ"

        "แล้วนายพบโมราที่ออกมาจากผะอบหรือไง". เพื่อนที่ฟังอยู่แหย่

       "เฮ๊ย ข้าวของกระจายอยู่หน้าห้องน้ำ กาแฟ,ข้าวผัด ผสมกันอยู่ที่พื้นที่สำคัญประตูโรงแรมล่มลงไปด้วย"

       "ล้มไปได้ยังไง"

        "พนักงานก้มไหว้ขอโทษ เขาบอกว่าเคาะห้องเรียกอยู่นานแล้ว  เราก็ไม่เปิด พอผลักแรง ๆ ประตูก็พังตามไปด้วย"

 "นายรู้ใช่ไหมว่าเดี๋ยวนี้ โรงแรมหลาย ๆ ดาว ใช้การ์ดทั้งนั้น บางทีก็เอาการ์ดไปเสียบรูบางทีก็เอาการ์ดไปทาบ แต่ก็ต้องระวังให้ดี ไมใช่เสียบมั่ว ๆ แล้วจะเข้าห้องได้" เพื่อนอาวุโสอธิบาย

  "เมื่อไม่นานมานี้.  ไปนอนแถวเชียงราย วันที่จะกลับกรุงเทพ ฯ ทั้งกินทั้งซื้อของเพลิน กล้บไปถึงห้องก็ต้องรีบ เพื่อเก็บเสื้อผ้าไปขึ้นเครื่อง นายรู้ไหมว่าเข้าห้องไม่ได้"  เพื่อนที่ฟังพูดบ้าง

         "นายเสียบผิดด้านล่ะซี  เขาต้องเสียบด้านมีเครื่องหมายปลายแหลมหรือลูกศร"

         "ถูกทุกอย่าง. แต่เกินเวลาไปแล้ว เขาก็เลยต้องให้ติดต่อพนักงาน"

         "ของเราก็แบบเดียวกันเลย กลับมาถึงห้องก็บ่าย 2   โมงกว่าแล้ว พลิกซ้ายพลิกขวาก็

ไม่ได้ทั้งนั้น"

          "ก็เกินเวลาอีก" เพื่อนอีกคนเปรย

          "ไม่ใช่ ไปหยิบบัตรเอทีเอ็มเสียบ"     

 "แต่ก่อนไปนอนโรงแรมจังหวัดไหน เขาให้กุญแจห้องที่เอาไว้ไขประตู คงมีแขกที่เข้าพัก ทำกุญแจหายบ่อย เขาก็เลยเปลี่ยนเป็นดอกกุญแจใหญ่ ๆ เพื่อให้เห็นชัด ๆ จะได้ไม่หล่นหาย บางทีก็ไปใส่พวงกุญแจที่เป็นโลหะหนัก ๆ เพื่อให้ยากกว่าเดิมอีก  แต่ก็ยังมีหายบ่อย ๆ ลูกน้องเล่าให้ฟังว่า กุญแจที่โรงแรมเล็ก ๆ ที่แม่สอด ติดไว้กับโลหะปั๊มลายสวยงามจาก เมียนม่าร์ พอคืนห้องลูกน้องบอกว่ากุญแจหาย ถูกปรับ 200 บาท อยู่หลายครั้ง"

          "อ้าวแล้วไปให้โรงแรมปรับทำไม"  เพื่อนถาม

          "นายนี่ช่างไม่รู้อะไร" เพื่อนบอก  "ลูกน้องมันบอกว่าแสนจะคุ้ม. เพราะทองเหลืองที่เอามาห้อยกุญแจขายที่ตลาดรืมเมยอันละ 300 บาท. ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

         "ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะเล่าให้ฟังนะเพื่อน" . เพื่อนอีกคนหัวเราะก่อนจะเล่าเสียอีก

"เมื่อคราวเดินทางไปทัวร์ที่ญี่ปุ่น สมาชิกคนหนึ่งคงอึดอัดเต็มทนที่นั่งอยู่ในรถทั้งวัน ขอกุญแจไขห้องพักไปอาบน้ำก่อนคนอื่นที่รออยู่ข้างล่าง  และขอเปลียนเสื้อผ้าก่อนที่จะออกไปรับประทานอาหาร พออาบเสร็จ นุ่งผ้าเช็ดตัวย่องออกมา เปิดประตู เห็นกระเป๋าเดินทางวางอยู่หน้าลิฟต์. เหลียวซ้ายแลขวาไม่มีผู้คนที่จะอุจาดตายามนุ่งผ้าเตี่ยว. ก็ค่อย ๆ ย่องออกไปทันทีจนถึงหน้าลิฟต์.  ฮ่า ฮ่า. ฮ่า สนุกจริง ๆ". เสียงหัวเราะลั่น

 "ก็แปลว่าเจอคนที่ออกมาจากลิฟต์พอดีล่ะซี. ฮ่า ฮ่า"  เพื่อนไข

       "เราว่า ผ้าเตียวหลุดลุ่ยอยู่หน้าลิฟต์. ฮ่า ฮ่า"  เพื่อนอีกคนออกความเห็น

       "ไม่ใช่ทั้งนั้น เขาแหวกกระเป๋าใบโน้นใบนี่ที่มีนับสิบใบต่างหาก"

       "อ๋อ. หากระเป๋าไม่เจอ"เพื่อนคนเดิมไข

       "เราว่า. หาเจอแต่กูญแจอยู่ในห้อง"

       "ไม่ใช่ทั้งนั้น. เจอกระเป๋าแล้วก็รีบลากไปเข้าห้องทันที. ฮ่า ฮ่า".   เพื่อนเล่า

       "แต่นายรู้ไหม พอเดินออกจากห้องพัก ประตูมันล๊อกอัตโนมัติไปแล้ว"

ที่มา thaitribune




Create Date : 11 กันยายน 2559
Last Update : 11 กันยายน 2559 9:33:07 น. 0 comments
Counter : 255 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.